ความเป็นมา
ระบบเบรคเป็นระบบที่สำคัญมากที่สุดของรถก็ว่าได้ครับ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ระบบเบรคที่ดี สามารถช่วยเปลึ่ยนจากการชนหนักเป็นชนเบา หรือจากการชนเบากลายเป็นปลอดภัยก็ยังได้
ผมขับรถอัลติสหน้าหมู วางเครื่องใหม่เป็น 2zz-ge และได้อัพเบรคเป็นของ Celica ซึ่งทั้งเครื่องและเบรคเป็นของตรงรุ่น ยกใส่ได้เลยแทบไม่ต้องมีการดัดแปลงอะไร ตอนทำมาใหม่ๆรู้สึกเบรคดีขึ้นกว่าเบรคเดิมอัลติสประมาณ 20% แล้วครับ (เพื่อนที่ขับอัลติสรุ่นใหม่มานั่งรถผมหลายครั้งก็ยอมรับว่าเบรคดีกว่ารถเขาจริงๆ) หลังจากที่ผมทนใช้ผ้าเบรคที่ติดเบรคมาได้สักพักจนได้เปลี่ยนผ้าเบรคที่สดใหม่ ก็ทำให้เบรคดีขึ้นอีกประมาณ 10% ครับ อาจเป็นเพราะผ้าเบรคที่ติดเบรคมาอยู่นานจนแข็งแล้วเลยประสิทธิภาพลดลงครับ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ โดยภาพรวมการอัพเบรค+เปลี่ยนผ้าเบรคของผม ทำให้เบรคดีกว่าเบรคเดิมๆของอัลติส ประมาณ 30% โดยประมาณ ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเบรคน่าจะดีพอแล้ว แต่ก็ไม่วายเจอเหตุการณ์เฉียดตายอยู่ครั้งหนึ่ง ทำให้ผมรู้ตัวว่าเบรคที่ใช้อยู่ยังไม่ดีพอ จนเป็นที่มาของกระทู้นี้นั่นเองครับ
ข้อมูลรถ
ยี่ห้อ/รุ่น : Toyota Altis หน้าหมู 1.6E AT ปี 2004
เครื่องยนต์ : 2zz-ge (ตามสเปค ประมาณ 190 แรงม้า) 6MT
ล้อ : Advanti ขอบ 15 หนักวงละ 5.1 กก.
ยาง : หน้า Michelin Primacy 3ST, หลัง Yokohama A.Drive ไซส์สแตนดาร์ด 195/60-15
ช่วงล่าง : สตรัทปรับเกลียว Monroe Reflex
เบรค : หน้าปั๊มเบรค Celica/Supra 1 พอร์ทใหญ่, หลังเบรคเดิมอัลติส
ผ้าเบรค : หน้า Advics (Toyota OEM), หลัง OEM
อื่นๆ : ค้ำโช๊ค XRS และติดเสริม Rigid Collar
ผ้าเบรค Advics มี 3 ชนิด คือ
1. เกรดของแท้ติดรถมาเลยจะเป็นเกรดยุ่น
2. เกรดของแท้เบิกศูนย์
3. เกรดของแท้เทียบ ซื้อได้ตามร้านอะไหล่ทั่วไปครับ
ของผมไม่แน่ใจว่าเป็น Advics ตัวไหนนะครับเพราะอู่คุณเล้งเป้นคนจัดหาและติดตั้งให้
หลังจากมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนผ้าเบรคก็ได้พยายามค้นหาข้อมูลครับ ได้สอบถามคนรู้จักหลายๆคนเท่าที่พอจะหาได้รวมถึงถามพี่เด็กบูรพาด้วย หลังจากคุยกันผมก็พยายามไปหาข้อมูลต่อแต่ไม่ว่าจะ search ทั้งพันทิปและเวบนอก คนที่ตอบเรื่องผ้าเบรคได้ละเอียดและชัดเจนที่สุดคนนึงก็ไม่พ้นพี่เด็กบูรพาอีกนั่นแหละครับ หาข้อมูลจนผมเริ่มจะจับทางได้ว่าแต่ละยี่ห้อมักจะทำผ้าเบรคออกมาใน 3 ระดับหลักๆคือ (ชื่อหัวข้อผมขอตั้งขึ้นเองเพื่อความเข้าใจง่ายนะครับ)
1. Street package - ผ้าเบรคอัพเกรดจากของเดิมติดรถ เบรคดีขึ้นกว่าเดิม เบรคดีตั้งแต่ความร้อนต่ำๆ ทนความร้อนๆได้สูงกว่าผ้าเบรคเดิมติดรถ เบรคเงียบ ไม่ค่อยกินจานเบรค และฝุ่นค่อนข้างน้อย
2. Sport/Pro package - ผ้าเบรคระดับกลาง เหมาะสำหรับคนที่ใช้ความเร็วสูงบ่อยๆ ทนความร้อนได้สูงขึ้นอีกขั้น เบรคดัง กินจานมากขึ้น ฝุ่นเยอะ
3. Race package - ผ้าเบรคสมรรถนะสูงสุด เหมาะสำหรับรถแข่งในสนาม เบรคแย่ในความเร็วต่ำ แต่ยิ่งเร็วยิ่งร้อยยิ่งดูดดี กินจานสุดๆ เสียงดังสุดๆ ฝุ่นเยอะสุดๆ ไม่เหมาะกับรถบ้านด้วยประการทั้งปวงครับ
ผ้าเบรคยี่ห้อยอดนิยมก็จะมี Project Mu (ญี่ปุ่น), Dixcel (ญี่ปุ่น แพงมาก), Bendix (ออสเตรเลีย), และ Nexzter (ชื่อใหม่ของ N-sport เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น), N-Brake (ชื่อใหม่ของ National brake เทคโนโลยีจากออสเตเรีย) **ขอบคุณข้อมูลจากคุณ NicE_ZaD ครับ** ผมได้หาข้อมูลคร่าวๆ + กับที่พี่เด็กบูรพาแนะนำว่าขับแบบผมควรจะใช้รุ่นกลาง คือ Nexzter รุ่น Pro spec จะเหมาะกว่า แต่ผมมีความอยากลองอัพไต่ทีละเลเวล จะได้ลองใช้ให้มันครบๆ จึงตัดสินใจที่จะลองเป็นรุ่นเริ่มต้นคือ Mu spec ครับ โทรเช็คราคาหลายๆร้านเบรคหน้า Celica ราคาประมาณ 2200-2400 ส่วนเบรคหลัง Altis ราคาประมาณ 1200-1400 ไกล้เคียงกันทุกร้าน
ผมเข้าร้านสงวนชัยผ้าเบรคแถววงษ์สว่าง เพราะ search ในเน็ตหลายที่แล้ว feed back ดีมาก นำรถเข้าไปร้านบอกว่ามีแต่เบรคหลังครับ หน้าไม่มี (เพราะเบรคผมเป้นเบรค Celica เลยหาผ้าเบรคยาก) ไหนๆก็มาแล้วก็เลยเปลี่ยนไปก่อน และโทรถามอีก ร้านคือหนุ่มเตาปูนก็ไม่มีของ เลยมาที่ร้านประจำคือติวานนท์ยางยนต์ก็ไม่มีของเช่นกัน ก็เลยสั่งของไว้ก่อน ระหว่างนั้นก็ใช้ทดลองใช้ผ้าเบรคหลังที่เป้นตัวใหม่ครับ ได้ลองขับออก ตจว. ไปสุพรรณ ซึ่งแค่เปลี่ยนผ้าเบรคหลังที่โดยปกติมันทำหน้าที่เพียงชะลอเบรคเท่านั้นก็รู้สึกได้แล้วว่ามันเบรคดีขึ้นครับ เวลา่ขับเร็วๆแล้วต้องแตะเบรคเบาๆเพื่อลดความเร็ว แตะบุ๊ปชลอทันที ไม่ลื่น ไม่ไหลยาว แต่จังหวะการเบรคหนักๆลึกๆต่างจากเดิมน้อยครับ น่าจะพึ่งเบรคหน้ามากกว่า
รอเพียงวันเดียวผ้าเบรคหน้า Nexster Mu Spec สำหรับเบรค Celica ของผมก็มาครับ นำรถเข้าไปติดตั้งที่ติวานนท์ พร้อมกับซื้อน้ำมันเบรคยี่ห้อ Mobil DOT4 (ทนความร้อนได้ดีขึ้นกว่าน้ำมันเบรคสแตนดาร์ดที่เป็น DOT3) จำนวน 1 ลิตร ให้ร้านไล่น้ำมันเบรคใหม่ทั้งระบบครับ พร้อมกับเจียจานเบรคครับ หลังจากที่ใช้ขับไปทำงานวันสองวัน ผมก็ได้มีโอกาสเดินทางไกลไปแม่สาย จริงๆไม่ได้มีธุระอะไร แค่จะไปวิ่งกับพี่ตูนในรายการก้าวคนละก้าวแค่นั้นครับ แต่ก็ทำให้ผมได้โอกาสลองใช้ผ้าเบรคใหม่แบบเต็มสมรรถนะของมันจริงๆ ในหัวข้อถัดไปจะขอกล่าวถึงสมรรถนะและความปลอดภัยที่ได้รับหลังจากเปลี่ยนผ้าเบรคนะครับ เป็นความรู้สึกล้วนๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
ผ้าเบรค Nexster รุ่น Mu Spec
- ทนความร้อนสูง 500 องศาเซลเซียส
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.35-0.45
น้ำมันเบรค Mobil DOT4[
สมรรถนะโดยรวมที่เปลี่ยนไป
ในช่วงความเร็วต่ำประมาณ 0-80 รู้สึกเบรคดีขึ้นมากครับ แค่แตะผิวๆความเร็วก็ชลอลงได้ เทียบกับเมื่อก่อนคือถ้าแตะจะยังไหลๆลื่นๆต่อไปต้องกดความเร็วถึงจะลดลง ทำให้รู้สึกปลอดภัยในการขับตามคันหน้ามากขึ้น เวลาคันหน้าเบรคแล้วเราเบรคตาม รู้สึกเบรคอยู่กึ๊ก ใช้เวลาเบรคสั้นกว่าเดิม และเหลือระยะห่างมากขึ้นกว่าเดิมชัดเจนครับ ในความเร็วช่วงกลางๆ 80-120 ก็ไม่ต่างกัน ในช่วงความเร็วระดับนี้เบรคเดิมจะเริ่มรู้สึกว่าอาการเบรคอยู่ดีมันเริ่มดรอบลงหน่อยแล้ว แต่กับผ้าเบรคใหม่นี้ยังเบรคได้ดีเช่นเดิมแทบไม่ต่างจากความเร็วต่ำๆเลยครับ
ในช่วงความเร็วสูงกับเบรคเดิมจะเริ่มเบรคลื่นๆ ความเร็วลดลงได้น้อยและช้า ยิ่งช่วงที่เร็วกว่า 120 ขึ้นไปนี่ลื่นขึ้นมาก กดเบรคแล้วชลอลงช้ามาก ระยะเบรคยาว ซึ่งผมมักจะใช้ Engine break เข้าช่วย ซึ่งเมื่อก่อนก็ไม่รู้ตัวเพราะทำแบบนั้นจนชิน แต่พอมาใช้ผ้าเบรคใหม่นี้มันมีความรู้สึกใหม่ที่ผมไม่เคยเจอคือ กดเบรคมันก็หยุด ปล่อยเบรคมันก็ไหลต่อครับ ผมยังคลำหาจุดลื่นของผ้าเบรคตัวนี้ไม่เจอ ว่ามันจะเริ่มลื่นหรือชลอเบรคได้ช้าลงตอนความเร็วเท่าไรนะครับ
มีบางจังหวะที่ต้องเบรคกระทันหันภาพเก่าๆที่เคยใช้เบรคเดิมมันย้อนกลับมาครับ ถ้าเป้นเบรคเดิมหลังจากกระทืบเบรคเต็มที่รถจะยังไหลต่อไป ทำให้เกิดความรู้สึกขนลุก เสียววูบวาบ แต่กับเบรคใหม่นี้กับระยะเผื่อเดิมๆ ความเร็วเดิมๆ จังหวะเดิมๆ หลังจากกดเบรคแล้วมันอยู่เลย สามารถเบรคได้กระชับขึ้นกว่าเดิมมาก เหลือระยะเบรคอีกตั้งมาก รู้สึกปลอดภัยขึ้นครับ
มีอีกจังหวะที่ผมค่อนข้างว้าว นั่นคือ จังหวะเบรคแก้อาการในโค้งครับ การแตะเบรคก่อนเข้าโค้งกระชับขึ้นและชลอได้ดีขึ้น หลังจากเข้าโค้งไปแล้วบางครั้งมีรถจากเลนอื่นเข้าโค้งบานมากินเข้ามาในเลนผม ซึ่งเป็งจังหวะค่อนข้างอันตราย (อยู่ที่ว่าระยะห่างมากน้อยแค่ไหน) เบรคเดิมถ้าแตะเบรคเพื่อแก้อาการในโค้งแบบนี้มันจะวูบวาบ เหมือนกดเบาก็ไม่ชลอ กดแรงก็ส่าย มีความยากในการทรงตัวมากพอสมควร แต่กับผ้าเบรคนี้ผมมีโอกาสได้แก้อาการแบบนี้ 2-3 ครั้ง กดเบรคแล้วมันกระชับอยู่เลย ไม่มีอาการส่าย ไม่มีอาการเหมือนจะหลุดใดๆ พร้อมกับระยะห่างจากคันอื่นที่ห่างกว่าเดิม รู้สึกปลอดภัยขึ้นมากครับ
สรุปผลการใช้งาน
เป็นผ้าเบรคที่ดี เบรคดีตั้งแต่ความเร็วต่ำ จนถึงความเร็วสูงก็ยังเบรคได้ดี กดเบรคแล้วเริ่มหยุดทันที เบรคได้กระชับขึ้น ใช้เวลาเบรคน้อยลง ระยะเบรคสั้นลง โดยรวมมีความพึงพอใจมากครับ และคิดว่ารองรับการใช้งานได้น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้าไม่ได้แต่งเครื่องเพิ่มจนแรงม้าแตะๆ 200 ตัวก็คงจะจบที่ตัวนี้ครับ (ตอนนี้แรงม้าลงล้อประมาณ 170+ ครับ) โดยรวมแล้วคิดว่าเบรคดีขึ้นโดยเฉลี่ย ประมาณ 30-35% จากเดิม เพียงพอสำหรับรถยนต์ 4 ที่นั่ง 99% ที่ใช้งานบนถนนครับ
ทั้งหมดนี้อย่าลืมว่าไม่ใช่แค่เปลี่ยนผ้าเบรคอย่างเดียว แต่มีการไล่น้ำมันเบรคใหม่ อัพเกรดน้ำมันเบรคจากเดิมเป็น Mobil DOT4 และเจียจานใหม่ด้วยครับ สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ของผมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจไม่มากก็น้อย ถ้ามีคำไม่สุภาพ ข้อความหรือข้อมูลผิด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปล. ตลอดเส้นทาง นอกเมืองถนนค่อนข้างโล่งครับ ถึงแม้จะขับเร็วอยู่หลายช่วง แต่ถ้าเจอเพือนร่วมทางก็จะลดความเร็วลง กระพริบไฟบอกก่อนทุกครั้ง
และลค่อยๆแซงด้วยความระมัดระวังครับ..
ฝากกดไลค์และติดตามผลงานที่เพจ "Need For Slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน" ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
ขอขอบคุณรูปภาพจาก
- Thai rural community road safe
[CR] รีวิว ผ้าเบรค Nexster Mu spec VS ผ้าเบรคเดิม Advics (OEM)
ระบบเบรคเป็นระบบที่สำคัญมากที่สุดของรถก็ว่าได้ครับ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ระบบเบรคที่ดี สามารถช่วยเปลึ่ยนจากการชนหนักเป็นชนเบา หรือจากการชนเบากลายเป็นปลอดภัยก็ยังได้
ผมขับรถอัลติสหน้าหมู วางเครื่องใหม่เป็น 2zz-ge และได้อัพเบรคเป็นของ Celica ซึ่งทั้งเครื่องและเบรคเป็นของตรงรุ่น ยกใส่ได้เลยแทบไม่ต้องมีการดัดแปลงอะไร ตอนทำมาใหม่ๆรู้สึกเบรคดีขึ้นกว่าเบรคเดิมอัลติสประมาณ 20% แล้วครับ (เพื่อนที่ขับอัลติสรุ่นใหม่มานั่งรถผมหลายครั้งก็ยอมรับว่าเบรคดีกว่ารถเขาจริงๆ) หลังจากที่ผมทนใช้ผ้าเบรคที่ติดเบรคมาได้สักพักจนได้เปลี่ยนผ้าเบรคที่สดใหม่ ก็ทำให้เบรคดีขึ้นอีกประมาณ 10% ครับ อาจเป็นเพราะผ้าเบรคที่ติดเบรคมาอยู่นานจนแข็งแล้วเลยประสิทธิภาพลดลงครับ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ โดยภาพรวมการอัพเบรค+เปลี่ยนผ้าเบรคของผม ทำให้เบรคดีกว่าเบรคเดิมๆของอัลติส ประมาณ 30% โดยประมาณ ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเบรคน่าจะดีพอแล้ว แต่ก็ไม่วายเจอเหตุการณ์เฉียดตายอยู่ครั้งหนึ่ง ทำให้ผมรู้ตัวว่าเบรคที่ใช้อยู่ยังไม่ดีพอ จนเป็นที่มาของกระทู้นี้นั่นเองครับ
ข้อมูลรถ
ยี่ห้อ/รุ่น : Toyota Altis หน้าหมู 1.6E AT ปี 2004
เครื่องยนต์ : 2zz-ge (ตามสเปค ประมาณ 190 แรงม้า) 6MT
ล้อ : Advanti ขอบ 15 หนักวงละ 5.1 กก.
ยาง : หน้า Michelin Primacy 3ST, หลัง Yokohama A.Drive ไซส์สแตนดาร์ด 195/60-15
ช่วงล่าง : สตรัทปรับเกลียว Monroe Reflex
เบรค : หน้าปั๊มเบรค Celica/Supra 1 พอร์ทใหญ่, หลังเบรคเดิมอัลติส
ผ้าเบรค : หน้า Advics (Toyota OEM), หลัง OEM
อื่นๆ : ค้ำโช๊ค XRS และติดเสริม Rigid Collar
ผ้าเบรค Advics มี 3 ชนิด คือ
1. เกรดของแท้ติดรถมาเลยจะเป็นเกรดยุ่น
2. เกรดของแท้เบิกศูนย์
3. เกรดของแท้เทียบ ซื้อได้ตามร้านอะไหล่ทั่วไปครับ
ของผมไม่แน่ใจว่าเป็น Advics ตัวไหนนะครับเพราะอู่คุณเล้งเป้นคนจัดหาและติดตั้งให้
หลังจากมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนผ้าเบรคก็ได้พยายามค้นหาข้อมูลครับ ได้สอบถามคนรู้จักหลายๆคนเท่าที่พอจะหาได้รวมถึงถามพี่เด็กบูรพาด้วย หลังจากคุยกันผมก็พยายามไปหาข้อมูลต่อแต่ไม่ว่าจะ search ทั้งพันทิปและเวบนอก คนที่ตอบเรื่องผ้าเบรคได้ละเอียดและชัดเจนที่สุดคนนึงก็ไม่พ้นพี่เด็กบูรพาอีกนั่นแหละครับ หาข้อมูลจนผมเริ่มจะจับทางได้ว่าแต่ละยี่ห้อมักจะทำผ้าเบรคออกมาใน 3 ระดับหลักๆคือ (ชื่อหัวข้อผมขอตั้งขึ้นเองเพื่อความเข้าใจง่ายนะครับ)
1. Street package - ผ้าเบรคอัพเกรดจากของเดิมติดรถ เบรคดีขึ้นกว่าเดิม เบรคดีตั้งแต่ความร้อนต่ำๆ ทนความร้อนๆได้สูงกว่าผ้าเบรคเดิมติดรถ เบรคเงียบ ไม่ค่อยกินจานเบรค และฝุ่นค่อนข้างน้อย
2. Sport/Pro package - ผ้าเบรคระดับกลาง เหมาะสำหรับคนที่ใช้ความเร็วสูงบ่อยๆ ทนความร้อนได้สูงขึ้นอีกขั้น เบรคดัง กินจานมากขึ้น ฝุ่นเยอะ
3. Race package - ผ้าเบรคสมรรถนะสูงสุด เหมาะสำหรับรถแข่งในสนาม เบรคแย่ในความเร็วต่ำ แต่ยิ่งเร็วยิ่งร้อยยิ่งดูดดี กินจานสุดๆ เสียงดังสุดๆ ฝุ่นเยอะสุดๆ ไม่เหมาะกับรถบ้านด้วยประการทั้งปวงครับ
ผ้าเบรคยี่ห้อยอดนิยมก็จะมี Project Mu (ญี่ปุ่น), Dixcel (ญี่ปุ่น แพงมาก), Bendix (ออสเตรเลีย), และ Nexzter (ชื่อใหม่ของ N-sport เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น), N-Brake (ชื่อใหม่ของ National brake เทคโนโลยีจากออสเตเรีย) **ขอบคุณข้อมูลจากคุณ NicE_ZaD ครับ** ผมได้หาข้อมูลคร่าวๆ + กับที่พี่เด็กบูรพาแนะนำว่าขับแบบผมควรจะใช้รุ่นกลาง คือ Nexzter รุ่น Pro spec จะเหมาะกว่า แต่ผมมีความอยากลองอัพไต่ทีละเลเวล จะได้ลองใช้ให้มันครบๆ จึงตัดสินใจที่จะลองเป็นรุ่นเริ่มต้นคือ Mu spec ครับ โทรเช็คราคาหลายๆร้านเบรคหน้า Celica ราคาประมาณ 2200-2400 ส่วนเบรคหลัง Altis ราคาประมาณ 1200-1400 ไกล้เคียงกันทุกร้าน
ผมเข้าร้านสงวนชัยผ้าเบรคแถววงษ์สว่าง เพราะ search ในเน็ตหลายที่แล้ว feed back ดีมาก นำรถเข้าไปร้านบอกว่ามีแต่เบรคหลังครับ หน้าไม่มี (เพราะเบรคผมเป้นเบรค Celica เลยหาผ้าเบรคยาก) ไหนๆก็มาแล้วก็เลยเปลี่ยนไปก่อน และโทรถามอีก ร้านคือหนุ่มเตาปูนก็ไม่มีของ เลยมาที่ร้านประจำคือติวานนท์ยางยนต์ก็ไม่มีของเช่นกัน ก็เลยสั่งของไว้ก่อน ระหว่างนั้นก็ใช้ทดลองใช้ผ้าเบรคหลังที่เป้นตัวใหม่ครับ ได้ลองขับออก ตจว. ไปสุพรรณ ซึ่งแค่เปลี่ยนผ้าเบรคหลังที่โดยปกติมันทำหน้าที่เพียงชะลอเบรคเท่านั้นก็รู้สึกได้แล้วว่ามันเบรคดีขึ้นครับ เวลา่ขับเร็วๆแล้วต้องแตะเบรคเบาๆเพื่อลดความเร็ว แตะบุ๊ปชลอทันที ไม่ลื่น ไม่ไหลยาว แต่จังหวะการเบรคหนักๆลึกๆต่างจากเดิมน้อยครับ น่าจะพึ่งเบรคหน้ามากกว่า
รอเพียงวันเดียวผ้าเบรคหน้า Nexster Mu Spec สำหรับเบรค Celica ของผมก็มาครับ นำรถเข้าไปติดตั้งที่ติวานนท์ พร้อมกับซื้อน้ำมันเบรคยี่ห้อ Mobil DOT4 (ทนความร้อนได้ดีขึ้นกว่าน้ำมันเบรคสแตนดาร์ดที่เป็น DOT3) จำนวน 1 ลิตร ให้ร้านไล่น้ำมันเบรคใหม่ทั้งระบบครับ พร้อมกับเจียจานเบรคครับ หลังจากที่ใช้ขับไปทำงานวันสองวัน ผมก็ได้มีโอกาสเดินทางไกลไปแม่สาย จริงๆไม่ได้มีธุระอะไร แค่จะไปวิ่งกับพี่ตูนในรายการก้าวคนละก้าวแค่นั้นครับ แต่ก็ทำให้ผมได้โอกาสลองใช้ผ้าเบรคใหม่แบบเต็มสมรรถนะของมันจริงๆ ในหัวข้อถัดไปจะขอกล่าวถึงสมรรถนะและความปลอดภัยที่ได้รับหลังจากเปลี่ยนผ้าเบรคนะครับ เป็นความรู้สึกล้วนๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
ผ้าเบรค Nexster รุ่น Mu Spec
- ทนความร้อนสูง 500 องศาเซลเซียส
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.35-0.45
น้ำมันเบรค Mobil DOT4[
สมรรถนะโดยรวมที่เปลี่ยนไป
ในช่วงความเร็วต่ำประมาณ 0-80 รู้สึกเบรคดีขึ้นมากครับ แค่แตะผิวๆความเร็วก็ชลอลงได้ เทียบกับเมื่อก่อนคือถ้าแตะจะยังไหลๆลื่นๆต่อไปต้องกดความเร็วถึงจะลดลง ทำให้รู้สึกปลอดภัยในการขับตามคันหน้ามากขึ้น เวลาคันหน้าเบรคแล้วเราเบรคตาม รู้สึกเบรคอยู่กึ๊ก ใช้เวลาเบรคสั้นกว่าเดิม และเหลือระยะห่างมากขึ้นกว่าเดิมชัดเจนครับ ในความเร็วช่วงกลางๆ 80-120 ก็ไม่ต่างกัน ในช่วงความเร็วระดับนี้เบรคเดิมจะเริ่มรู้สึกว่าอาการเบรคอยู่ดีมันเริ่มดรอบลงหน่อยแล้ว แต่กับผ้าเบรคใหม่นี้ยังเบรคได้ดีเช่นเดิมแทบไม่ต่างจากความเร็วต่ำๆเลยครับ
ในช่วงความเร็วสูงกับเบรคเดิมจะเริ่มเบรคลื่นๆ ความเร็วลดลงได้น้อยและช้า ยิ่งช่วงที่เร็วกว่า 120 ขึ้นไปนี่ลื่นขึ้นมาก กดเบรคแล้วชลอลงช้ามาก ระยะเบรคยาว ซึ่งผมมักจะใช้ Engine break เข้าช่วย ซึ่งเมื่อก่อนก็ไม่รู้ตัวเพราะทำแบบนั้นจนชิน แต่พอมาใช้ผ้าเบรคใหม่นี้มันมีความรู้สึกใหม่ที่ผมไม่เคยเจอคือ กดเบรคมันก็หยุด ปล่อยเบรคมันก็ไหลต่อครับ ผมยังคลำหาจุดลื่นของผ้าเบรคตัวนี้ไม่เจอ ว่ามันจะเริ่มลื่นหรือชลอเบรคได้ช้าลงตอนความเร็วเท่าไรนะครับ
มีบางจังหวะที่ต้องเบรคกระทันหันภาพเก่าๆที่เคยใช้เบรคเดิมมันย้อนกลับมาครับ ถ้าเป้นเบรคเดิมหลังจากกระทืบเบรคเต็มที่รถจะยังไหลต่อไป ทำให้เกิดความรู้สึกขนลุก เสียววูบวาบ แต่กับเบรคใหม่นี้กับระยะเผื่อเดิมๆ ความเร็วเดิมๆ จังหวะเดิมๆ หลังจากกดเบรคแล้วมันอยู่เลย สามารถเบรคได้กระชับขึ้นกว่าเดิมมาก เหลือระยะเบรคอีกตั้งมาก รู้สึกปลอดภัยขึ้นครับ
มีอีกจังหวะที่ผมค่อนข้างว้าว นั่นคือ จังหวะเบรคแก้อาการในโค้งครับ การแตะเบรคก่อนเข้าโค้งกระชับขึ้นและชลอได้ดีขึ้น หลังจากเข้าโค้งไปแล้วบางครั้งมีรถจากเลนอื่นเข้าโค้งบานมากินเข้ามาในเลนผม ซึ่งเป็งจังหวะค่อนข้างอันตราย (อยู่ที่ว่าระยะห่างมากน้อยแค่ไหน) เบรคเดิมถ้าแตะเบรคเพื่อแก้อาการในโค้งแบบนี้มันจะวูบวาบ เหมือนกดเบาก็ไม่ชลอ กดแรงก็ส่าย มีความยากในการทรงตัวมากพอสมควร แต่กับผ้าเบรคนี้ผมมีโอกาสได้แก้อาการแบบนี้ 2-3 ครั้ง กดเบรคแล้วมันกระชับอยู่เลย ไม่มีอาการส่าย ไม่มีอาการเหมือนจะหลุดใดๆ พร้อมกับระยะห่างจากคันอื่นที่ห่างกว่าเดิม รู้สึกปลอดภัยขึ้นมากครับ
สรุปผลการใช้งาน
เป็นผ้าเบรคที่ดี เบรคดีตั้งแต่ความเร็วต่ำ จนถึงความเร็วสูงก็ยังเบรคได้ดี กดเบรคแล้วเริ่มหยุดทันที เบรคได้กระชับขึ้น ใช้เวลาเบรคน้อยลง ระยะเบรคสั้นลง โดยรวมมีความพึงพอใจมากครับ และคิดว่ารองรับการใช้งานได้น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้าไม่ได้แต่งเครื่องเพิ่มจนแรงม้าแตะๆ 200 ตัวก็คงจะจบที่ตัวนี้ครับ (ตอนนี้แรงม้าลงล้อประมาณ 170+ ครับ) โดยรวมแล้วคิดว่าเบรคดีขึ้นโดยเฉลี่ย ประมาณ 30-35% จากเดิม เพียงพอสำหรับรถยนต์ 4 ที่นั่ง 99% ที่ใช้งานบนถนนครับ
ทั้งหมดนี้อย่าลืมว่าไม่ใช่แค่เปลี่ยนผ้าเบรคอย่างเดียว แต่มีการไล่น้ำมันเบรคใหม่ อัพเกรดน้ำมันเบรคจากเดิมเป็น Mobil DOT4 และเจียจานใหม่ด้วยครับ สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ของผมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจไม่มากก็น้อย ถ้ามีคำไม่สุภาพ ข้อความหรือข้อมูลผิด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปล. ตลอดเส้นทาง นอกเมืองถนนค่อนข้างโล่งครับ ถึงแม้จะขับเร็วอยู่หลายช่วง แต่ถ้าเจอเพือนร่วมทางก็จะลดความเร็วลง กระพริบไฟบอกก่อนทุกครั้ง
และลค่อยๆแซงด้วยความระมัดระวังครับ..
ฝากกดไลค์และติดตามผลงานที่เพจ "Need For Slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน" ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
ขอขอบคุณรูปภาพจาก
- Thai rural community road safe