ผมขับอัลติส 2004 1.6 E AT เกียร์ออโต้ รหัสเครื่อง 3zz-fe ตอนหลังได้เปลี่ยนเครื่องใหม่เป็นเครื่อง 2zz-ge 1.8 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ก่อนนี้อัพเกรดเบรคเป็น 1 pot ใหญ่ตรงรุ่น และได้อัพอีกรอบมาเป็นเบรคของ Caldina ST215 2 pot เบรคหลังยังใช้ของอัลติสเดิมอยู่ ตอนแรกผมลองใช้ผ้าเบรคหน้า-หลัง เป็น Advics (OEM - หมายถึงโรงงานที่ผลิตผ้าเบรคส่งให้ศูนย์ แต่ผ้าเบรคตัวที่ผมใช้ ไม่ใช่ผ้าเบรคแท้ศูนย์นะ เป็นตัวผ้าเบรคที่โรงงานผลิตขายในแบรนด์ตัวเอง aftermarket ครับ แต่ก็ถือว่าเป็นผ้าเบรคที่มาตรฐานดีที่สุด ไกล้เคียงของศูนย์ที่สุดตัวนึงครับ) ขอออกตัวก่อนว่าผมเป็นเพียงผู้ใช้งานทั่วไป และรีวิวนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวนะครับ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยครับ
ข้อมูลรถ
ยี่ห้อ/รุ่น : Toyota Altis หน้าหมู 1.6E AT ปี 2004
เครื่องยนต์ : 2zz-ge (ตามสเปค ประมาณ 190 แรงม้า) 6MT
ล้อ : Advanti ขอบ 15 หนักวงละ 5.1 กก.
ยาง : Bridgestone Ecopia EP300 ไซส์สแตนดาร์ด 195/60-R15
ช่วงล่าง : สตรัทปรับเกลียว RSR Best-i สปริง Swift 5K/5K
เบรค : หน้าปั๊มเบรค Caldina 2 พอท หลังเบรคเดิมอัลติส
ผ้าเบรค : หน้า Advics, หลัง Advics <-------- เปลี่ยนหน้าหลังเป็น Rokbul ID
อื่นๆ : ค้ำโช๊ค XRS
รูป - ผ้าเบรค Rokbul Identity (ชมพู) สำหรับรถ Honda City (ภาพจากในเน็ตครับ)
ผ้าเบรค Rokbul
เท่าที่ผมหาข้อมูลได้ (ไม่มั่นใจว่าถูกต้อง 100% นะครับ) ผ้าเบรค Rokbul เป็นของสัญชาติญี่ปุ่น มีทั้งหมด 3 รุ่นคือ
1. Rokbul Advance (เขียว) - เกรดทดแทนผ้าเบรคสแตนดาร์ด ราคาประหยัด ทนทาน
2. Rokbul Identity (ชมพู) - เป็น Street package หรืออัพเกรดให้ดีขึ้นจากสแตนดาร์ดระดับนึง เหมาะกับใช้งานทั่วไปซิ่งได้เล็กน้อย
3. Rokbul Blue Speed Racing (น้ำเงิน) - เป็นเกรดซิ่งจ๋า ทนความร้อน 0-800 องศา
ตัวที่ผมจะรีวิวคือหมายเลข 2 ตามตำแหน่งทางการตลาดแล้วจะอยู่ในกลุ่มผ้าเบรคอัพเกรดสเต็ป 1 ก็คือกลุ่มเดียวกับ Nexzter Mu Spec ซึ่งจะอยู่ระดับสูงกว่าผ้าเบรคเกรดทดแทนพวก Advics ฟ้า, Compact Primo, Bendix General CT พวกนี้นะครับ ซึ่งผ้าเบรคอัพเกรดหรือผ้าเบรคเกรดซิ่งสเต็ป 1 นี้ มักจะมีข้อดีคือเบรคดีกว่า แต่ข้อเสียคือฝุ่นเยอะกว่า เสียงดังกว่า กินจานกว่า และใช้หมดไวกว่า ของสแตนดาร์ดครับ และบอกก่อนว่าผมได้ใช้ผ้าเบรคหน้า Rokbul ชมพูนี้มาชุดที่ 3 แล้ว โดยที่ข้างหลังยังไม่หมดเลย ก็ใช้งานมานานพอที่จะเขียนรีวิวแบ่งปันได้บ้างแล้วครับ
รีวิวประสิทธิภาพหลังใช้งาน
1.
Initial Bite - ฟีลลิ่งหลังจากแตะเบรค Rokbul สัมผัสเบรคนุ่มคล้าย Advics เลยครับ ไม่ได้คมแตะแล้วดูดปื๊ดแบบ Nexzter แต่จะนุ่มค่อยๆไล่แรงเบรคเพิ่ม เรื่องฟีลนุ่มหรือคมผมว่าแล้วแต่คนชอบครับ ตัวผมเองได้ทั้งคู่ ขอแค่ไม่ทื่อจนเกินไปก็พอครับ
2.
Friction Level - การลดความเร็วโดยรวม ถึงแม้ Rokbul ชมพูจะเป้นผ้าเบรคเกรดซิ่ง หรืออัพเกรดมา 1 สเต็ป แต่ผมรู้สึกว่าเบรคดีไม่ต่างจากผ้าเบรค Advics เลยครับ คือถ้าวัดกันให้ละเอียดอาจจะต่างกันนิดหน่อยก็ได้ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าน้อยมากจนผมไม่ได้รู้สึกว่าต่าง ซึ่งจะไม่เหมือนกับ Nexzter ที่รู้สึกได้ชัดเจนว่ามันคือผ้าเบรคซิ่ง ที่เบรคดีดูดติดเท้ากว่า Advics ค่อนข้างชัดเจน
3.
Fade Resistance - ถึงแม้เรื่องประสิทธิภาพการหยุดรถจะแทบไม่ต่างจาก Advics เลย แต่ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าพอใช้เบรคเยอะๆ เบรคนานๆ เบรคลากยาว Rokbul ชมพูนี้เฟดช้ากว่า Advics ประมาณ 2-3 เท่าได้ครับ โค้งเดิมๆที่ชอบซัดทางตรงมาไวๆแล้วชะลอเบรคยาวๆก่อนเข้าโค้ง รู้สึกได้ว่าตอน Advics เบรคแล้วแล้วจะเริ่มเฟดหน่อยๆตั้งแต่ยังไม่ถึงโค้ง แต่พอใช้ Rokbul ชมพู ชะลอเบรคต่อไปยันพ้นโค้ง เพิ่งจะเริ่มเฟดครับ
4.
Lower Noise - ด้วยความรู้สึกส่วนตัว ผมรู้สึกว่าเสียงเงียบดีไม่ได้แตกต่างจาก Advics เลยครับ หรือจริงๆมันอาจจะต่างเล็กน้อยก็ได้แต่ผมแทบจะไม่รู้สึกเลยว่ามันดังกว่ากัน จะมีแค่เสียงดังที่เริ่มมาตอนผ้าเบรคเหลือบางกว่า 4 มิล ตอนที่เบรคแรงๆเท่านั้น แต่ถ้าผ้าเบรคเหลือเยอะ เบรคแรงก็ไม่ดังครับ
5.
Lower Dust - อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมรู้สึกไปเองไหมนะครับ ผมรู้สึกว่า Rokbul ยังมีฝุ่นน้อยกว่า Advics หน่อยๆด้วย ด้วยความที่ผ้าเบรคผมเป็น 2 พอต ฝุ่นมันเยอะกว่า 1 พอตอยู่แล้ว ตอนใช้ Advics อาทิตย์เดียว (ขับทุกวัน) ก็ล้อดำแล้ว แต่ Rokbul 2 อาทิตย์ยังดำไม่เท่าเลย หรือไม่รู้ฝุ่น Rokbul มันสีอ่อนกว่าหรือเปล่า ทำให้ดูไม่ดำก็ไม่รู้นะครับ
6.
Long Life - ผมใช้ Advics ได้ประมาณ 16000 กม. ยังเหลือเยอะเกิน 4 มิล แต่มันเริ่มแข็งและประสิทธิภาพเบรรคดรอบลงเยอะก็เลยตัดสินใจเปลี่ยน ส่วน Rokbul ได้ 15000 กม. เหลือประมาณ 4 มิล เริ่มมีอาการประสิทธิภาพเบรคดรอบลงแค่เล็กน้อย และเริ่มมีเสียงดังเวลาเบรคแรงๆ เลยรีบเปลี่ยนเส่วนนึงเพราะกลัวมันกินจานครับ ถ้านึดระยะเปลี่ยนตามนี้ถือว่าระยะใช้งานได้ไกล้เคียงกันครับ แต่ถ้ายึดระยะที่ทนใช้ต่อ Advics จะใช้ได้นานกว่า เรื่องที่ผ้าผมหมดไว คิดว่าเพราะผมใช้เบรคแรง เบรคเยอะ รวมถึงเบรคหน้ามันประสิทธิภาพดีกว่าเบรคหลัง พอกดเบรคแล้วข้างหน้าเลยถูกใช้มากกว่า ข้างหลังใช้เบรคน้อย ผ้าข้างหน้าเลยหมดไวครับ อันนี้เดานะครับ
สรุปผลการใช้งาน
จากการทดลองใช้งานมาประมาณ ชุดที่ 3 ระยะทางน่าจะเกือบๆ 4 หมื่นโล โดยรวมรู้สึกพอใจกับผ้าเบรค Rokbul มากครับ ประสิทธิภาพเบรคดีเพียงพอ ไม่มีเสียง ฝุ่นน้อย ไม่กินจานเลย และราคาแพงกว่า Advics นิดเดียวไม่กี่ร้อย ถ้าผมไม่ได้ทำรถให้แรงกว่านี้ ผมคิดว่าตัวนี้กับเบรคชุดนี้น่าจะพอแล้วครับ ถ้าเทียบกับ Advics ถึงแม้ Rokbul เป็นผ้าเบรคที่เกรดซิ่งกว่า แต่ถึงแม้ประสิทธิภาพในการเบรคจะแทบไม่ได้ต่างจาก Advics เลย แต่หลังจากกดเบรคต่อเนื่องแล้ว Rokbul เฟดยากกว่า Advics ค่อนข้างมาก ส่วนเรื่องฝุ่นน้อย กินจาน เบรคเงียบ แทบจะเท่าๆกันเลยครับ
สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ของผมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจไม่มากก็น้อย ถ้ามีคำไม่สุภาพ ข้อความหรือข้อมูลผิด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สรุปความพึงพอใจ ผ้าเบรค Rokbul vs Advics:
ฟีลลิ่งเบรค: 6.5 | 6.5
เบรคจังหวะแรก: 6.5 | 6.5
เบรคแช่/จานร้อน:
7.5 | 6.5
ถนอมจาน: 7.5 | 7.5
ผงฝุ่นน้อย:
8.0 | 7.5
เสียงเงียบ: 8.0 | 8.0
คงคุณภาพ:
7.5 | 7.0
อายุการใช้งาน: 7.0 |
8.0
ความคุ้มราคา: 7.5 | 7.5
ฝากกดไลค์และติดตามผลงานที่เพจ "Need For Slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน" ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิวสามัญชน: ผ้าเบรค Rokbul Identity (ชมพู) VS ผ้าเบรค Advics (OEM)
ข้อมูลรถ
ยี่ห้อ/รุ่น : Toyota Altis หน้าหมู 1.6E AT ปี 2004
เครื่องยนต์ : 2zz-ge (ตามสเปค ประมาณ 190 แรงม้า) 6MT
ล้อ : Advanti ขอบ 15 หนักวงละ 5.1 กก.
ยาง : Bridgestone Ecopia EP300 ไซส์สแตนดาร์ด 195/60-R15
ช่วงล่าง : สตรัทปรับเกลียว RSR Best-i สปริง Swift 5K/5K
เบรค : หน้าปั๊มเบรค Caldina 2 พอท หลังเบรคเดิมอัลติส
ผ้าเบรค : หน้า Advics, หลัง Advics <-------- เปลี่ยนหน้าหลังเป็น Rokbul ID
อื่นๆ : ค้ำโช๊ค XRS
รูป - ผ้าเบรค Rokbul Identity (ชมพู) สำหรับรถ Honda City (ภาพจากในเน็ตครับ)
ผ้าเบรค Rokbul
เท่าที่ผมหาข้อมูลได้ (ไม่มั่นใจว่าถูกต้อง 100% นะครับ) ผ้าเบรค Rokbul เป็นของสัญชาติญี่ปุ่น มีทั้งหมด 3 รุ่นคือ
1. Rokbul Advance (เขียว) - เกรดทดแทนผ้าเบรคสแตนดาร์ด ราคาประหยัด ทนทาน
2. Rokbul Identity (ชมพู) - เป็น Street package หรืออัพเกรดให้ดีขึ้นจากสแตนดาร์ดระดับนึง เหมาะกับใช้งานทั่วไปซิ่งได้เล็กน้อย
3. Rokbul Blue Speed Racing (น้ำเงิน) - เป็นเกรดซิ่งจ๋า ทนความร้อน 0-800 องศา
ตัวที่ผมจะรีวิวคือหมายเลข 2 ตามตำแหน่งทางการตลาดแล้วจะอยู่ในกลุ่มผ้าเบรคอัพเกรดสเต็ป 1 ก็คือกลุ่มเดียวกับ Nexzter Mu Spec ซึ่งจะอยู่ระดับสูงกว่าผ้าเบรคเกรดทดแทนพวก Advics ฟ้า, Compact Primo, Bendix General CT พวกนี้นะครับ ซึ่งผ้าเบรคอัพเกรดหรือผ้าเบรคเกรดซิ่งสเต็ป 1 นี้ มักจะมีข้อดีคือเบรคดีกว่า แต่ข้อเสียคือฝุ่นเยอะกว่า เสียงดังกว่า กินจานกว่า และใช้หมดไวกว่า ของสแตนดาร์ดครับ และบอกก่อนว่าผมได้ใช้ผ้าเบรคหน้า Rokbul ชมพูนี้มาชุดที่ 3 แล้ว โดยที่ข้างหลังยังไม่หมดเลย ก็ใช้งานมานานพอที่จะเขียนรีวิวแบ่งปันได้บ้างแล้วครับ
รีวิวประสิทธิภาพหลังใช้งาน
1. Initial Bite - ฟีลลิ่งหลังจากแตะเบรค Rokbul สัมผัสเบรคนุ่มคล้าย Advics เลยครับ ไม่ได้คมแตะแล้วดูดปื๊ดแบบ Nexzter แต่จะนุ่มค่อยๆไล่แรงเบรคเพิ่ม เรื่องฟีลนุ่มหรือคมผมว่าแล้วแต่คนชอบครับ ตัวผมเองได้ทั้งคู่ ขอแค่ไม่ทื่อจนเกินไปก็พอครับ
2. Friction Level - การลดความเร็วโดยรวม ถึงแม้ Rokbul ชมพูจะเป้นผ้าเบรคเกรดซิ่ง หรืออัพเกรดมา 1 สเต็ป แต่ผมรู้สึกว่าเบรคดีไม่ต่างจากผ้าเบรค Advics เลยครับ คือถ้าวัดกันให้ละเอียดอาจจะต่างกันนิดหน่อยก็ได้ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าน้อยมากจนผมไม่ได้รู้สึกว่าต่าง ซึ่งจะไม่เหมือนกับ Nexzter ที่รู้สึกได้ชัดเจนว่ามันคือผ้าเบรคซิ่ง ที่เบรคดีดูดติดเท้ากว่า Advics ค่อนข้างชัดเจน
3. Fade Resistance - ถึงแม้เรื่องประสิทธิภาพการหยุดรถจะแทบไม่ต่างจาก Advics เลย แต่ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าพอใช้เบรคเยอะๆ เบรคนานๆ เบรคลากยาว Rokbul ชมพูนี้เฟดช้ากว่า Advics ประมาณ 2-3 เท่าได้ครับ โค้งเดิมๆที่ชอบซัดทางตรงมาไวๆแล้วชะลอเบรคยาวๆก่อนเข้าโค้ง รู้สึกได้ว่าตอน Advics เบรคแล้วแล้วจะเริ่มเฟดหน่อยๆตั้งแต่ยังไม่ถึงโค้ง แต่พอใช้ Rokbul ชมพู ชะลอเบรคต่อไปยันพ้นโค้ง เพิ่งจะเริ่มเฟดครับ
4. Lower Noise - ด้วยความรู้สึกส่วนตัว ผมรู้สึกว่าเสียงเงียบดีไม่ได้แตกต่างจาก Advics เลยครับ หรือจริงๆมันอาจจะต่างเล็กน้อยก็ได้แต่ผมแทบจะไม่รู้สึกเลยว่ามันดังกว่ากัน จะมีแค่เสียงดังที่เริ่มมาตอนผ้าเบรคเหลือบางกว่า 4 มิล ตอนที่เบรคแรงๆเท่านั้น แต่ถ้าผ้าเบรคเหลือเยอะ เบรคแรงก็ไม่ดังครับ
5. Lower Dust - อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมรู้สึกไปเองไหมนะครับ ผมรู้สึกว่า Rokbul ยังมีฝุ่นน้อยกว่า Advics หน่อยๆด้วย ด้วยความที่ผ้าเบรคผมเป็น 2 พอต ฝุ่นมันเยอะกว่า 1 พอตอยู่แล้ว ตอนใช้ Advics อาทิตย์เดียว (ขับทุกวัน) ก็ล้อดำแล้ว แต่ Rokbul 2 อาทิตย์ยังดำไม่เท่าเลย หรือไม่รู้ฝุ่น Rokbul มันสีอ่อนกว่าหรือเปล่า ทำให้ดูไม่ดำก็ไม่รู้นะครับ
6. Long Life - ผมใช้ Advics ได้ประมาณ 16000 กม. ยังเหลือเยอะเกิน 4 มิล แต่มันเริ่มแข็งและประสิทธิภาพเบรรคดรอบลงเยอะก็เลยตัดสินใจเปลี่ยน ส่วน Rokbul ได้ 15000 กม. เหลือประมาณ 4 มิล เริ่มมีอาการประสิทธิภาพเบรคดรอบลงแค่เล็กน้อย และเริ่มมีเสียงดังเวลาเบรคแรงๆ เลยรีบเปลี่ยนเส่วนนึงเพราะกลัวมันกินจานครับ ถ้านึดระยะเปลี่ยนตามนี้ถือว่าระยะใช้งานได้ไกล้เคียงกันครับ แต่ถ้ายึดระยะที่ทนใช้ต่อ Advics จะใช้ได้นานกว่า เรื่องที่ผ้าผมหมดไว คิดว่าเพราะผมใช้เบรคแรง เบรคเยอะ รวมถึงเบรคหน้ามันประสิทธิภาพดีกว่าเบรคหลัง พอกดเบรคแล้วข้างหน้าเลยถูกใช้มากกว่า ข้างหลังใช้เบรคน้อย ผ้าข้างหน้าเลยหมดไวครับ อันนี้เดานะครับ
สรุปผลการใช้งาน
จากการทดลองใช้งานมาประมาณ ชุดที่ 3 ระยะทางน่าจะเกือบๆ 4 หมื่นโล โดยรวมรู้สึกพอใจกับผ้าเบรค Rokbul มากครับ ประสิทธิภาพเบรคดีเพียงพอ ไม่มีเสียง ฝุ่นน้อย ไม่กินจานเลย และราคาแพงกว่า Advics นิดเดียวไม่กี่ร้อย ถ้าผมไม่ได้ทำรถให้แรงกว่านี้ ผมคิดว่าตัวนี้กับเบรคชุดนี้น่าจะพอแล้วครับ ถ้าเทียบกับ Advics ถึงแม้ Rokbul เป็นผ้าเบรคที่เกรดซิ่งกว่า แต่ถึงแม้ประสิทธิภาพในการเบรคจะแทบไม่ได้ต่างจาก Advics เลย แต่หลังจากกดเบรคต่อเนื่องแล้ว Rokbul เฟดยากกว่า Advics ค่อนข้างมาก ส่วนเรื่องฝุ่นน้อย กินจาน เบรคเงียบ แทบจะเท่าๆกันเลยครับ
สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ของผมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจไม่มากก็น้อย ถ้ามีคำไม่สุภาพ ข้อความหรือข้อมูลผิด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สรุปความพึงพอใจ ผ้าเบรค Rokbul vs Advics:
ฟีลลิ่งเบรค: 6.5 | 6.5
เบรคจังหวะแรก: 6.5 | 6.5
เบรคแช่/จานร้อน: 7.5 | 6.5
ถนอมจาน: 7.5 | 7.5
ผงฝุ่นน้อย: 8.0 | 7.5
เสียงเงียบ: 8.0 | 8.0
คงคุณภาพ: 7.5 | 7.0
อายุการใช้งาน: 7.0 | 8.0
ความคุ้มราคา: 7.5 | 7.5
ฝากกดไลค์และติดตามผลงานที่เพจ "Need For Slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน" ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้