สวัสดีค่ะพอดีดิฉันมีเรื่องทุกข์ใจอยากจะขอคำปรึกษาจากทุกคนค่ะ ขอเล่าตั้งแต่เริ่มเลยนะคะ ดิฉันได้ซื้อที่ดินไว้หนึ่งผืนค่ะเป็นเวลาเกือบสิบปีแล้ว และได้ทำการถมที่และปลูกบ้านไว้หนึ่งหลัง ตอนนั้นที่ด้านซ้ายด้านขวาด้านหลังเป็นพื้นที่เปล่าซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร ดิฉันทำงานในเมืองการใช้ชีวิตประจำวันจึงอยู่ที่บ้านในเมืองเป็นหลักค่ะ มีเข้าไปพักผ่อนบ้าง แล้วเมื่อไม่กี่ปีผ่านมาก็มีโรงงานหลอมเหล็กเข้ามาก่อตั้งในที่ดินด้านหลังค่ะและได้สร้างความเดือนร้อนกับชาวบ้านเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับบ้านของดิฉัน เพราะโรงงานอยู่ติดที่ของดิฉันเลยค่ะ เราใช้กำแพงแผ่นเดียวกันเลย สิ่งที่สร้างความเดือนร้อนให้ชาวบ้านคือเรื่องเสียง กลิ่น ฝุ่นละอง และน้ำเสียค่ะ
เรื่องของเสียงคือเสียงดังมาก มากจริงๆค่ะไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไรดี บางทีถ้าเปิดเครื่องจักรพร้อมกันทุกตัวคนที่บ้านแทบคุยกันไม่รู้เรื่องค่ะ วันๆต้องอยู่แต่ในบ้าน ตัวเครื่องจักรของโรงงานก็หันมาทางหลังบ้านของดิฉันเอง โรงงานเริ่มเดินเครื่องจักรตั้งแต่หกโมงเช้ายันหกโมงเย็น บางวันแย่หน่อยทำงานยันดึกเลยค่ะ
เรื่องของกลิ่นก็เหม็นจนแสบจมูกแสบคอไปหมดเลย รู้สึกหิวน้ำอยู่ตลอดเวลาเพราะมีอาการคอแห้งมาก ถ้าบ้านใครอยู่ใกล้ร้านทำเหล็กจะเข้าใจดีเลยค่ะ พอกลับมาบ้านในเมืองก็ไม่มีอาการแบบนี้เลย คนเฒ่าคนแก่แถวนั้นมีอาการไอไม่หาย กลิ่นเหม็นแสบจมูกมากๆเลยค่ะ ทุกวันนี้ที่หายใจเข้าไปยังไม่รู้เลยว่าเอาสารพิษอะไรเข้าปอดไปบ้าง กลิ่นจะโชยมาเป็นบางเวลาแต่มาทุกวันค่ะ
เรื่องของฝุ่นละอองก็มาเต็มค่ะทางโรงงานได้ปล่อยควันฟุ้งออกมาเวลาเดินเครื่อง มีการขนกากตะกรัน(เป็นผงสีดำ ละเอียดเหมือนแป้ง คนแถวนั้นเขาเรียกว่ากากตะกรันกันค่ะ)มาไถกลบที่ดินด้านหลังของโรงงานจนกลายเป็นที่สูง(ก่อนหน้านี้ที่บริเวณนั้นเป็นที่ต่ำค่ะโรงงานไม่ได้ถม)ซึ่งมันติดกับหลังบ้านดิฉัน พอวันไหนลมแรงก็พัดปลิวมาที่บ้านดิฉันเอง (รูปมือสีดำนั่นคือผ่านไปหนึ่งวันเท่านั้นนะคะ)
เรื่องของน้ำเสียดิฉันเห็นโรงงานมีสระน้ำอยู่ลูกเดียวและเป็นบ่อที่โรงงานสูบน้ำขึ้นมาใช้ เหมือนจะไม่มีบ่อบำบัดน้ำด้วยซ้ำ ที่เห็นคือมีท่อPVCเจาะกำแพงยื่นออกมาปล่อยน้ำทิ้งที่ล่องน้ำด้านหน้าซึ่งดิฉันก็ไม่รู้ว่าน้ำดีหรือเปล่า แต่น้ำเสียที่เกิดจากโรงงานคือเวลาฝนตกน้ำที่โดนกากตะกรันจะไหลเข้ามาให้พื้นที่ดินฉัน และในตอนที่ไม่มีคนอยู่บ้านโรงงานได้ทำการขุดดินให้น้ำไหลเข้ามาในที่ดิฉันจนน้ำท่วมต้นไม้ตาย และน้ำก็มีสีแดงคล้ายสีด่างทับทิบ ดิฉันจึงตัดปัญหาโดยการถมที่ขึ้นมาให้สูงเท่าของโรงงาน น้ำก็ไหลไปเข้าที่คนอื่นอยู่ดีค่ะเพราะด้านหลังโรงงานไม่ได้เป็นกำแพงปูนเป็นแค่แผ่นสังกะสีปิดเท่านั้น
โรงงานหลอมเหล็กที่นี่ไม่มีชื่อโรงงานหรือชื่อบริษัทติดด้านหน้าด้วยนะคะ ดิฉันเคยไปค้นข้อมูลมาจากในเน็ตเห็นว่าได้รับรางวัลโรงงานดีเด่น และอีกหลายรางวัลมากมาย โรงงานนี้ทำงานหกวันหยุดวันอาทิตย์ วันดีคืนดีวันอาทิตย์ก็ยังเดินเครื่องแต่อาจจะไม่ดังเท่าวันปกติ บางวันก็ทำงานกันจนดึกดื่น แรงงานต่างด้าวก็เยอะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีคนต่างด้าวเมาเหล้าเดินถือมีดเข้าไปในบ้านคนแถวนั้น ยังดีที่เมา ชาวบ้านต้องอยู่กันด้วยความหวาดระแวงทั้งที่เมื่อก่อนสงบมากเย็นมาก็บ้านใครบ้านคนนั้น แต่ตั้งแต่มีโรงงานทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด
มีคนเคยไปร้องเรียน อบต.ก็มีคนเอาเครื่องมือมาวัดเสียงเขาก็บอกว่าเสียงเกิน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบ มีคนบอกว่าเห็นนายกเดินเข้าเดินออกที่โรงงานนี้ทุกเดือนคงไม่ต้องเดาเลยว่าเข้าไปทำอะไร ขนาดโรงงานเล็กๆอีกโรงงานนึงยังเคยเล่าให้ดิฉันฟังเลยว่าเวลาขออนุญาตก่อสร้างอะไรก็ต้องใต้โต๊ะไปครั้งละแสน แล้วก็ต้องใช้ช่างที่เขาจัดหาให้ด้วย เจ้าของโรงงานบอกว่าเอาเอกสารไปให้เซ็นก็บอกหนังสือตัวเล็กมองไม่เห็น พอยื่นเงินให้ก็ไม่ต้องอ่านเลยเซ็นได้ทันที
ดิฉันไม่รู้ว่า อบต.อนุญาตให้สร้างได้ยังไง เพราะมันติดกับบ้านคน และในตอนนั้นก็ไม่มีการทำประชาคมด้วย ที่ดินของดิฉันกับที่ดินของโรงงานเป็นคนละเขตอำเภอกันแต่ฝั่งของดิฉันคือพื้นที่สีเขียวค่ะ ชาวบ้นแถวนั้นยังทำไร่ปลูกข้าวปลูกอ้อยกันอยู่เลยค่ะ
เรื่องที่ดิฉันอย่างปรึกษาคือดิฉันทำการร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เมื่อวันที่16มกราคม2562 มีการรับเรื่องเมื่อวันที่18มกราคม2562 แล้วเรื่องก็เงียบไป จนดิฉันทักเข้าไปถามในเพจศูนย์ดำรงธรรมเมื่อวันที่18มกราคม2562 มีเจ้าหน้าตอบว่ามีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบแล้วค่ะเมื่อวันที่7มกราคม2562แต่ก็ไม่มีการแจ้งกลับมา ดิฉันต้องตามเรื่องเองแต่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรค่ะ ปัญหาคือเนื้อความในเอกสารที่ทางศูนย์ดำรงธรรมส่งให้ดูค่ะ ในเอกสารบอกว่ากลิ่นที่เกิดจากกระบวนการผลิตอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ดิฉันก็งงค่ะ จึงถามไปว่าเจ้าหน้าที่ใช้อะไรวัดถึงได้บอกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ซึ่งดิฉันและชาวบ้านยอมรับไม่ได้ค่ะ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเป็นวิธีทางวิทยาศาตร์ แล้วดิฉันต้องทำยังไงต่อหรอค่ะ ต้องทนต่อไปหรอ ดิฉันไม่รู้จะหันหน้าปทางไหนแล้ว เครียดมากมีบ้านก็อยู่ไม่ได้ ถ้าจะบอกให้ขายทิ้งดิฉันคงทำไม่ได้หรอกค่ะ เพราะดิฉันไม่ได้มีความผิดอะไร แต่เรื่องของฝุ่น กากตะกรันและน้ำเสียคงต้องรอการตรวจสอบต่อไป ปัญหาหนักๆเลยคือเรื่องของกลิ่น ทางโรงงานยังไม่มีความผิดเลยค่ะ แค่นี้ดิฉันก็แพ้ไปหนึ่งคะแนนแล้ว ศูนย์ดำรงธรรมจะดำรงธรรมจริงๆไหมค่ะ ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันไม่ได้รับความยุติธรรมเลย เจ้าหน้าที่บอกไม่เหม็นชาวบ้านก็ต้องไม่เหม็นไปด้วยอย่างนี้หรอคะ
ดิฉันถามเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมว่า
"ถ้าเจ้าหน้าที่บอกกลิ่นอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เราก็ต้องทนอยู่แบบนี้ต่อไปหรอคะ"
เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมตอบว่า
"ทางอุตสาหกรรมจังหวัดคงจะกำชับและกำหนดมาตราการให้แก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ"
เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมใช้คำว่า "คงจะ" แสดงว่าศูนย์ดำรงธรรมก็ยังไม่แน่ใจเลย ไม่ได้ทำงานแบบจริงจังหรือเปล่าคะ ประชาชนเดือนร้อนแต่ก็เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเลย หรือมีหน่วยงานไหนที่เขาทำงานกันจริงๆไหมคะ หน่วยงานที่ดิฉันสามารถร้องเรียนได้จริงและทำงานจริง เราได้รับความเดือดร้อนจริงๆค่ะ ดิฉันแทบอยากเชิญเขาให้มาพักที่บ้านแบบฟรีๆแถมด้วยข้าวอีก3มื้อ ถ้าอยู่ได้โดยที่ไม่เหม็นดิฉันยกให้อยู่เลยค่ะ ดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้างนอกจากนั่งรออยู่เฉยๆแบบนี้ค่ะ รอด้วยความทรมานทั้งกายและใจ รอทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ปรึกษาเรื่องร้องทุกข์โรงงาน
เรื่องของเสียงคือเสียงดังมาก มากจริงๆค่ะไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไรดี บางทีถ้าเปิดเครื่องจักรพร้อมกันทุกตัวคนที่บ้านแทบคุยกันไม่รู้เรื่องค่ะ วันๆต้องอยู่แต่ในบ้าน ตัวเครื่องจักรของโรงงานก็หันมาทางหลังบ้านของดิฉันเอง โรงงานเริ่มเดินเครื่องจักรตั้งแต่หกโมงเช้ายันหกโมงเย็น บางวันแย่หน่อยทำงานยันดึกเลยค่ะ
เรื่องของกลิ่นก็เหม็นจนแสบจมูกแสบคอไปหมดเลย รู้สึกหิวน้ำอยู่ตลอดเวลาเพราะมีอาการคอแห้งมาก ถ้าบ้านใครอยู่ใกล้ร้านทำเหล็กจะเข้าใจดีเลยค่ะ พอกลับมาบ้านในเมืองก็ไม่มีอาการแบบนี้เลย คนเฒ่าคนแก่แถวนั้นมีอาการไอไม่หาย กลิ่นเหม็นแสบจมูกมากๆเลยค่ะ ทุกวันนี้ที่หายใจเข้าไปยังไม่รู้เลยว่าเอาสารพิษอะไรเข้าปอดไปบ้าง กลิ่นจะโชยมาเป็นบางเวลาแต่มาทุกวันค่ะ
เรื่องของฝุ่นละอองก็มาเต็มค่ะทางโรงงานได้ปล่อยควันฟุ้งออกมาเวลาเดินเครื่อง มีการขนกากตะกรัน(เป็นผงสีดำ ละเอียดเหมือนแป้ง คนแถวนั้นเขาเรียกว่ากากตะกรันกันค่ะ)มาไถกลบที่ดินด้านหลังของโรงงานจนกลายเป็นที่สูง(ก่อนหน้านี้ที่บริเวณนั้นเป็นที่ต่ำค่ะโรงงานไม่ได้ถม)ซึ่งมันติดกับหลังบ้านดิฉัน พอวันไหนลมแรงก็พัดปลิวมาที่บ้านดิฉันเอง (รูปมือสีดำนั่นคือผ่านไปหนึ่งวันเท่านั้นนะคะ)
เรื่องของน้ำเสียดิฉันเห็นโรงงานมีสระน้ำอยู่ลูกเดียวและเป็นบ่อที่โรงงานสูบน้ำขึ้นมาใช้ เหมือนจะไม่มีบ่อบำบัดน้ำด้วยซ้ำ ที่เห็นคือมีท่อPVCเจาะกำแพงยื่นออกมาปล่อยน้ำทิ้งที่ล่องน้ำด้านหน้าซึ่งดิฉันก็ไม่รู้ว่าน้ำดีหรือเปล่า แต่น้ำเสียที่เกิดจากโรงงานคือเวลาฝนตกน้ำที่โดนกากตะกรันจะไหลเข้ามาให้พื้นที่ดินฉัน และในตอนที่ไม่มีคนอยู่บ้านโรงงานได้ทำการขุดดินให้น้ำไหลเข้ามาในที่ดิฉันจนน้ำท่วมต้นไม้ตาย และน้ำก็มีสีแดงคล้ายสีด่างทับทิบ ดิฉันจึงตัดปัญหาโดยการถมที่ขึ้นมาให้สูงเท่าของโรงงาน น้ำก็ไหลไปเข้าที่คนอื่นอยู่ดีค่ะเพราะด้านหลังโรงงานไม่ได้เป็นกำแพงปูนเป็นแค่แผ่นสังกะสีปิดเท่านั้น
โรงงานหลอมเหล็กที่นี่ไม่มีชื่อโรงงานหรือชื่อบริษัทติดด้านหน้าด้วยนะคะ ดิฉันเคยไปค้นข้อมูลมาจากในเน็ตเห็นว่าได้รับรางวัลโรงงานดีเด่น และอีกหลายรางวัลมากมาย โรงงานนี้ทำงานหกวันหยุดวันอาทิตย์ วันดีคืนดีวันอาทิตย์ก็ยังเดินเครื่องแต่อาจจะไม่ดังเท่าวันปกติ บางวันก็ทำงานกันจนดึกดื่น แรงงานต่างด้าวก็เยอะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีคนต่างด้าวเมาเหล้าเดินถือมีดเข้าไปในบ้านคนแถวนั้น ยังดีที่เมา ชาวบ้านต้องอยู่กันด้วยความหวาดระแวงทั้งที่เมื่อก่อนสงบมากเย็นมาก็บ้านใครบ้านคนนั้น แต่ตั้งแต่มีโรงงานทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด
มีคนเคยไปร้องเรียน อบต.ก็มีคนเอาเครื่องมือมาวัดเสียงเขาก็บอกว่าเสียงเกิน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบ มีคนบอกว่าเห็นนายกเดินเข้าเดินออกที่โรงงานนี้ทุกเดือนคงไม่ต้องเดาเลยว่าเข้าไปทำอะไร ขนาดโรงงานเล็กๆอีกโรงงานนึงยังเคยเล่าให้ดิฉันฟังเลยว่าเวลาขออนุญาตก่อสร้างอะไรก็ต้องใต้โต๊ะไปครั้งละแสน แล้วก็ต้องใช้ช่างที่เขาจัดหาให้ด้วย เจ้าของโรงงานบอกว่าเอาเอกสารไปให้เซ็นก็บอกหนังสือตัวเล็กมองไม่เห็น พอยื่นเงินให้ก็ไม่ต้องอ่านเลยเซ็นได้ทันที
ดิฉันไม่รู้ว่า อบต.อนุญาตให้สร้างได้ยังไง เพราะมันติดกับบ้านคน และในตอนนั้นก็ไม่มีการทำประชาคมด้วย ที่ดินของดิฉันกับที่ดินของโรงงานเป็นคนละเขตอำเภอกันแต่ฝั่งของดิฉันคือพื้นที่สีเขียวค่ะ ชาวบ้นแถวนั้นยังทำไร่ปลูกข้าวปลูกอ้อยกันอยู่เลยค่ะ
เรื่องที่ดิฉันอย่างปรึกษาคือดิฉันทำการร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เมื่อวันที่16มกราคม2562 มีการรับเรื่องเมื่อวันที่18มกราคม2562 แล้วเรื่องก็เงียบไป จนดิฉันทักเข้าไปถามในเพจศูนย์ดำรงธรรมเมื่อวันที่18มกราคม2562 มีเจ้าหน้าตอบว่ามีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบแล้วค่ะเมื่อวันที่7มกราคม2562แต่ก็ไม่มีการแจ้งกลับมา ดิฉันต้องตามเรื่องเองแต่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรค่ะ ปัญหาคือเนื้อความในเอกสารที่ทางศูนย์ดำรงธรรมส่งให้ดูค่ะ ในเอกสารบอกว่ากลิ่นที่เกิดจากกระบวนการผลิตอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ดิฉันก็งงค่ะ จึงถามไปว่าเจ้าหน้าที่ใช้อะไรวัดถึงได้บอกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ซึ่งดิฉันและชาวบ้านยอมรับไม่ได้ค่ะ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเป็นวิธีทางวิทยาศาตร์ แล้วดิฉันต้องทำยังไงต่อหรอค่ะ ต้องทนต่อไปหรอ ดิฉันไม่รู้จะหันหน้าปทางไหนแล้ว เครียดมากมีบ้านก็อยู่ไม่ได้ ถ้าจะบอกให้ขายทิ้งดิฉันคงทำไม่ได้หรอกค่ะ เพราะดิฉันไม่ได้มีความผิดอะไร แต่เรื่องของฝุ่น กากตะกรันและน้ำเสียคงต้องรอการตรวจสอบต่อไป ปัญหาหนักๆเลยคือเรื่องของกลิ่น ทางโรงงานยังไม่มีความผิดเลยค่ะ แค่นี้ดิฉันก็แพ้ไปหนึ่งคะแนนแล้ว ศูนย์ดำรงธรรมจะดำรงธรรมจริงๆไหมค่ะ ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันไม่ได้รับความยุติธรรมเลย เจ้าหน้าที่บอกไม่เหม็นชาวบ้านก็ต้องไม่เหม็นไปด้วยอย่างนี้หรอคะ
ดิฉันถามเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมว่า
"ถ้าเจ้าหน้าที่บอกกลิ่นอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เราก็ต้องทนอยู่แบบนี้ต่อไปหรอคะ"
เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมตอบว่า
"ทางอุตสาหกรรมจังหวัดคงจะกำชับและกำหนดมาตราการให้แก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ"
เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมใช้คำว่า "คงจะ" แสดงว่าศูนย์ดำรงธรรมก็ยังไม่แน่ใจเลย ไม่ได้ทำงานแบบจริงจังหรือเปล่าคะ ประชาชนเดือนร้อนแต่ก็เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเลย หรือมีหน่วยงานไหนที่เขาทำงานกันจริงๆไหมคะ หน่วยงานที่ดิฉันสามารถร้องเรียนได้จริงและทำงานจริง เราได้รับความเดือดร้อนจริงๆค่ะ ดิฉันแทบอยากเชิญเขาให้มาพักที่บ้านแบบฟรีๆแถมด้วยข้าวอีก3มื้อ ถ้าอยู่ได้โดยที่ไม่เหม็นดิฉันยกให้อยู่เลยค่ะ ดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้างนอกจากนั่งรออยู่เฉยๆแบบนี้ค่ะ รอด้วยความทรมานทั้งกายและใจ รอทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ