นี่พูดถึงนโยบายกันล้วนๆ เลยนะไม่ต้องพูดว่าฝ่ายไหนจะเสนอหรือสนองอะไรหรอก แค่อยากจะแชร์มุมมองจากที่ผมศึกษาเรื่องนี้ด้วยตัวเองมาสักพัก
ผมสนับสนุนนโยบายที่ให้อิสระกับท้องถิ่นในการบริหารจัดการตัวเองอย่างมาก ทุกวันนี้แม้ว่าเราจะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบต่างๆ อยู่ก็ตาม แต่รายได้ส่วนใหญ่ที่ท้องถิ่น นำมาใช้ 90% มาจากการอุดหนุนของรัฐบาล โดยท้องถิ่นเองสามารถจัดเก็บรายได้โดยตรงได้เพียง 10% ของงบประมาณในท้องถิ่น
ต้องเข้าใจก่อนที่เป็นอย่างนี้ไม่ใช่เพราะว่าท้องถิ่นไร้ความสามารถต้องพึ่งพารัฐบาลตลอดเวลาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะประเทศเรามีการบริหารจัดการการคลังและภาษีแบบรวมศูนย์ คือภาษีที่ท้องถิ่นจัดเก็บได้โดยตรงจะมีสัดส่วนน้อยมาก ภาษีส่วนใหญ่จะถูกจัดเก็บและนำส่งเข้าสู่ส่วนกลางแล้วจึงค่อยนำมาจัดสรรปันส่วนออกไปยังท้องถิ่น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมงบประมาณส่วนท้องถิ่นจึงต้องพึ่งพาเงินจากส่วนกลางมากขนาดนั้น
ข้อดีของการมีอิสระในการจัดเก็บรายได้และบริหารงบประมาณของท้องถิ่นคืออะไร - แน่นอนเงินท้องถิ่นใคร คนนั้นก็บริหารเอง รู้ความต้องการของคนในท้องถิ่นว่าอยากได้อะไร อะไรสำคัญเร่งด่วนไม่ใช่รอความเมตตาฟ้าประทานจากรัฐบาลส่วนกลางซึ่งไม่ได้สัมผัสกับผู้คนและสังคมในท้องถิ่นนั้นๆ โดยตรง อยากจะบอกว่า Model แบบนี้แหละที่ส่งให้เศรษฐกิจจีนพุ่งทะยานหลังจากยุคของเติ้งเสี่ยวผิงเป็นต้นมา เพราะแต่ละมณฑลต้องแข่งกันพัฒนา ไม่ใช่รอการจัดการจากรัฐบาลกลาง จริงๆ ไม่ใช่เฉพาะจีนหรอกที่ทำแบบนี้ หลายๆ ประเทศที่เจริญแล้วไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ออสเตรเลีย เยอรมัน เขาก็ให้อิสระทางการคลังและภาษีกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป ผมยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างตอนที่รัฐบาลกลางของอเมริกาประสบปัญหาที่เรียกว่า Shutdown (เพราะ สส.ไม่ยอมพิจารณางบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการ) ทำไมประเทศไม่เป็นอัมพาต นั่นก็เพราะแต่ละรัฐเขามีการบริหารจัดการงบประมาณเขาได้เอง ข้าราชการที่ได้รับผลกระทบนั้นเป็นเฉพาะข้าราชการที่สังกัดรัฐบาลกลางไงครับ
และถ้าถามว่าแล้วบริการส่วนกลางเช่นเรื่องการทหาร ความมั่นคง หรือเรื่องอื่นๆ ที่ไม่สามารถบริหารจัดการโดยท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นได้จะทำอย่างไร เรื่องนี้ก็ตอบง่ายๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็มีหน้าที่นำส่งรายได้เข้าสู่ส่วนกลางเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเก็บได้เท่าไรเก็บเข้ากระเป๋าบ้านตัวเองคนเดียว ยกตัวอย่างในอเมริกามันจะมีภาษีการค้าขาย (Sales Tax) มั้งถ้าจำไม่ผิดที่เรียกว่า State Tax กับ Federal Tax โดย State Tax แต่ละรัฐจะจัดเก็บเท่าไรก็แล้วแต่นโยบายภาษีของแต่ละรัฐ แต่ Federal Tax ที่จะต้องนำส่งเข้าสู่รัฐบาลกลางทุกรัฐจะจัดเก็บในอัตราเท่ากัน โดยสัดส่วนของ Federal Tax จะน้อยกว่า State Tax
ผมไม่รู้นะว่าในชั่วชีวิตของตัวเองจะเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้หรือเปล่า แต่ถ้าอยากให้ท้องถิ่นแข็งแรง ต้องให้อำนาจเขาบริหารจัดการตัวเอง ไม่ใช่ให้เขารอการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐแบบที่ทุกวันนี้เป็นอยู่ แน่นอน เรื่องแบบนี้มันไม่ง่ายเพราะถ้าทำแบบนี้จริง ผลประโยชน์มหาศาลจากการบริหารจัดการงบประมาณและทรัพยากรโดยรัฐบาลกลางจะหายไป บทบาทของท้องถิ่นจะมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทุกวันนี้เงินและทรัพยากรส่วนใหญ่ถูกดึงมาที่ส่วนกลางก่อนที่จะถูกจัดสรรกลับไปท้องถิ่นโดยอำนาจรัฐ ความเจริญกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพ แต่ประเทศไทยมันไม่ใช่แค่กรุงเทพนะครับ เงินเขา เขาควรจัดการเองหรือเปล่า ถ้าที่ไหนจะมีโรงไฟฟ้าไปตั้งชุมชนก็ตัดสินใจเองว่าผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เขาได้รับ แลกกับรายได้จากภาษีที่เขาจัดเก็บเองเขาจะเลือกอะไร
สำนึกรักบ้านเกิด จะเป็นคำพูดที่มีพลังก็ต่อเมื่อพลเมืองในบ้านในเมืองเหล่านั้นมีส่วนร่วมในทุกมิตินะครับ
การกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจ การกระจายอำนาจการคลัง
ผมสนับสนุนนโยบายที่ให้อิสระกับท้องถิ่นในการบริหารจัดการตัวเองอย่างมาก ทุกวันนี้แม้ว่าเราจะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบต่างๆ อยู่ก็ตาม แต่รายได้ส่วนใหญ่ที่ท้องถิ่น นำมาใช้ 90% มาจากการอุดหนุนของรัฐบาล โดยท้องถิ่นเองสามารถจัดเก็บรายได้โดยตรงได้เพียง 10% ของงบประมาณในท้องถิ่น
ต้องเข้าใจก่อนที่เป็นอย่างนี้ไม่ใช่เพราะว่าท้องถิ่นไร้ความสามารถต้องพึ่งพารัฐบาลตลอดเวลาหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะประเทศเรามีการบริหารจัดการการคลังและภาษีแบบรวมศูนย์ คือภาษีที่ท้องถิ่นจัดเก็บได้โดยตรงจะมีสัดส่วนน้อยมาก ภาษีส่วนใหญ่จะถูกจัดเก็บและนำส่งเข้าสู่ส่วนกลางแล้วจึงค่อยนำมาจัดสรรปันส่วนออกไปยังท้องถิ่น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมงบประมาณส่วนท้องถิ่นจึงต้องพึ่งพาเงินจากส่วนกลางมากขนาดนั้น
ข้อดีของการมีอิสระในการจัดเก็บรายได้และบริหารงบประมาณของท้องถิ่นคืออะไร - แน่นอนเงินท้องถิ่นใคร คนนั้นก็บริหารเอง รู้ความต้องการของคนในท้องถิ่นว่าอยากได้อะไร อะไรสำคัญเร่งด่วนไม่ใช่รอความเมตตาฟ้าประทานจากรัฐบาลส่วนกลางซึ่งไม่ได้สัมผัสกับผู้คนและสังคมในท้องถิ่นนั้นๆ โดยตรง อยากจะบอกว่า Model แบบนี้แหละที่ส่งให้เศรษฐกิจจีนพุ่งทะยานหลังจากยุคของเติ้งเสี่ยวผิงเป็นต้นมา เพราะแต่ละมณฑลต้องแข่งกันพัฒนา ไม่ใช่รอการจัดการจากรัฐบาลกลาง จริงๆ ไม่ใช่เฉพาะจีนหรอกที่ทำแบบนี้ หลายๆ ประเทศที่เจริญแล้วไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ออสเตรเลีย เยอรมัน เขาก็ให้อิสระทางการคลังและภาษีกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป ผมยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างตอนที่รัฐบาลกลางของอเมริกาประสบปัญหาที่เรียกว่า Shutdown (เพราะ สส.ไม่ยอมพิจารณางบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการ) ทำไมประเทศไม่เป็นอัมพาต นั่นก็เพราะแต่ละรัฐเขามีการบริหารจัดการงบประมาณเขาได้เอง ข้าราชการที่ได้รับผลกระทบนั้นเป็นเฉพาะข้าราชการที่สังกัดรัฐบาลกลางไงครับ
และถ้าถามว่าแล้วบริการส่วนกลางเช่นเรื่องการทหาร ความมั่นคง หรือเรื่องอื่นๆ ที่ไม่สามารถบริหารจัดการโดยท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นได้จะทำอย่างไร เรื่องนี้ก็ตอบง่ายๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็มีหน้าที่นำส่งรายได้เข้าสู่ส่วนกลางเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเก็บได้เท่าไรเก็บเข้ากระเป๋าบ้านตัวเองคนเดียว ยกตัวอย่างในอเมริกามันจะมีภาษีการค้าขาย (Sales Tax) มั้งถ้าจำไม่ผิดที่เรียกว่า State Tax กับ Federal Tax โดย State Tax แต่ละรัฐจะจัดเก็บเท่าไรก็แล้วแต่นโยบายภาษีของแต่ละรัฐ แต่ Federal Tax ที่จะต้องนำส่งเข้าสู่รัฐบาลกลางทุกรัฐจะจัดเก็บในอัตราเท่ากัน โดยสัดส่วนของ Federal Tax จะน้อยกว่า State Tax
ผมไม่รู้นะว่าในชั่วชีวิตของตัวเองจะเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้หรือเปล่า แต่ถ้าอยากให้ท้องถิ่นแข็งแรง ต้องให้อำนาจเขาบริหารจัดการตัวเอง ไม่ใช่ให้เขารอการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐแบบที่ทุกวันนี้เป็นอยู่ แน่นอน เรื่องแบบนี้มันไม่ง่ายเพราะถ้าทำแบบนี้จริง ผลประโยชน์มหาศาลจากการบริหารจัดการงบประมาณและทรัพยากรโดยรัฐบาลกลางจะหายไป บทบาทของท้องถิ่นจะมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ทุกวันนี้เงินและทรัพยากรส่วนใหญ่ถูกดึงมาที่ส่วนกลางก่อนที่จะถูกจัดสรรกลับไปท้องถิ่นโดยอำนาจรัฐ ความเจริญกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพ แต่ประเทศไทยมันไม่ใช่แค่กรุงเทพนะครับ เงินเขา เขาควรจัดการเองหรือเปล่า ถ้าที่ไหนจะมีโรงไฟฟ้าไปตั้งชุมชนก็ตัดสินใจเองว่าผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เขาได้รับ แลกกับรายได้จากภาษีที่เขาจัดเก็บเองเขาจะเลือกอะไร
สำนึกรักบ้านเกิด จะเป็นคำพูดที่มีพลังก็ต่อเมื่อพลเมืองในบ้านในเมืองเหล่านั้นมีส่วนร่วมในทุกมิตินะครับ