มาค่ะ จะเล่าให้ฟัง จากคนที่ โค-ตะ-ระ เกลียดการออกกำลังกายมากกกกก เกลียดความเหนื่อย เกลียดการที่มีเหงื่อออกเวลาออกกำลังกาย กลายมาเป็นคนที่บ้าการออกกำลังกายมาก แถมทุกวันนี้สุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้นเยอะมากกกกกก
เริ่มแรกจากความป่วย ทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร ทำให้น้ำหนักลดไป 2-3 kg เราเลยมองเห็นข้อดีว่า ไหนๆ เราก็เบื่ออาหารละ แถมน้ำหนักก็ลดอีก จึงเริ่มคิดว่าจะทำยังไงให้น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นไปเหมือนเดิม พร้อมกับถือโอกาสลดน้ำหนักไปในตัวด้วย ถึงจะเกลียดการออกกำลังกาย แต่ก็ชอบอ่านกระทู้การลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย บทความสุขภาพการกินอาหาร และเป็นคนที่ชอบทานผักสดมาก ทำให้คุมอาหารได้ดี
มาเริ่มที่การเริ่มออกกำลังกาย ช่วงแรกเราออกกำลังกายเบาๆ แต่เริ่มด้วย T25 เลยจ้า เราเต้นตามโปรแกรมแรกของ T25 คือโปรแกรม alpha เต้นเบาๆ ไป 1 เดือน เป็นการทำใจก่อนและเตรียมร่างกาย เพราะอย่างที่บอกว่าเกลียดการออกกำลังกายมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญเลย คือ
“ใจ” ของเรา ต้องเอาชนะความเกลียด + ขี้เกียจให้ได้ ช่วงแรกที่เริ่มออกกำลังกาย เราเต้น 7 วัน ไม่มีวันพักเลย วันศุกร์ ก็เต้น 2 เท่า ตามตาราง T25 เพราะกลัวว่าถ้าวันไหนหยุด วันถัดไปเราจะขี้เกียจ พอผ่านช่วงนี้ไปได้ เรารู้สึกว่าเราสามารถออกกำลังกายได้มากขึ้น ความเกลียดการออกกำลังกายเริ่มลดลง และรู้สึกว่าตัวเบาขึ้น กระฉับกระเฉงมากขึ้น และน้ำหนักลดจ้า อันนี้ดีมาก แต่!!! เพราะเราป่วย + เบื่ออาหารด้วย ทำให้เราสามารถคุมอาหารไปได้ในตัว คล้ายกับทำ IF ไปด้วยเลย เพราะไม่กินอาหารก็ไม่หิว แต่ก็พยายามกิน บางทีกินเที่ยงมื้อเดียว เย็นไม่กิน บางวันกินครบ 3 มื้อ แต่ปริมาณอาหารลดลงจากเดิม
ครบโปรแกรม Alpha ใช้เวลา 1 เดือนกว่า เราก็วนกลับมาเริ่มต้นใหม่ โดยยังใช้โปรแกรมเดิม แต่คราวนี้เต้นแบบจัดเต็มค่ะ เต้นหนักขึ้น และยังเต้นครบ 7 วันเหมือนเดิม จากนั้นก็เต้นตามโปรแกรม T25 ไปเรื่อย จนครบโปรแกรม (Alpha, Beta, Gamma และ Gamma Hybrid) ใช้เวลา 4 เดือนครึ่ง อาการเบื่ออาหารก็ยังเป็นอยู่ แต่หมอให้วิตามินมากินเพื่อให้มีความอยากกินอาหารมากขึ้น แต่เราไม่กิน เราใช้วิธีหาข้อมูลว่ากินอะไรถึงจะมีประโยชน์ และนอนให้พอ เพื่อให้ร่างกายไม่พัง และ
สำคัญมาก!!! เราลดการกินน้ำหวานหลังอาหารเที่ยง/ช่วงบ่าย ลงไปด้วย ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำหนกลดลงมากกกกก แต่ไม่ได้สังเกตว่าเดือนนึงลดลงกี่โลนะ แต่สิ่งที่กรี๊ดมากคือ น้ำหนักลงมาต่ำกว่า 50 kg แล้ววววววววววววว ดีใจมากเว่อ (เหลือราวๆ 47-48 kg)
พอเต้นครบโปรแกรม T25 เราก็หาโปรแกรมออกกำลังกายใหม่ โดยหาจากใน YouTube / เพจต่างๆ ใน FB และเรียกว่าช่วงนี้คือออกกำลังกายตามใจฉันมาก แต่ยังออกกำลังกายหนักเหมือนเดิมนะ อย่างต่ำวันละ 1.30 ชม. โดยเราออกทั้ง HIIT, Pilates, cardio, weight วันนึงเล่นเกือบครบอ่ะ และช่วงนี้เริ่มมีการพัก เหลือออกกำลังกาย 5-6 วัน และก็มีสลับกลับไปเต้น T25 ด้วย สำหรับบางวันที่เวลาน้อย
ผ่านมาปีกว่าแล้วที่เราทำแบบนี้ สิ่งที่เราได้กลับมาจากความพยายามเอาชนะใจตัวเอง คือ
- น้ำหนักลดลงจาก 58 kg เหลือ 45 kg ทั้งที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าน้ำหนักจะสามารถกลับมาเหลือเท่านี้ได้อีกแล้ว
- สัดส่วนลดลง จากเอว 32 นิ้ว ตอนนี้เหลือ 26 นิ้ว เสื้อผ้าเปลี่ยนจากไซต์ L – XL ตอนนี้เหลือแค่ S เท่านั้น!!!!
- ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น เราสามารถวิ่งได้ 7-8 km โดยไม่พัก ในเวลาไม่เกิน 1 ชม.
- อาการป่วยภูมิแพ้อากาศ จามตลอดเวลา ต้องกินยาแก้แพ้ทุกเช้า ตอนนี้ ไม่จำเป็นแล้ว
- เลือดกำเดาไหลเวลาอากาศเย็น/ร้อนเกินไป --- หายไปแล้ว
- ที่สำคัญ!!!! อาการปวดจี๊ดๆ ระหว่างหัวคิ้ว ระหว่างนั่งเครื่องบิน หายไปเลย (ใครเป็นอาการนี้จะรู้เลยว่าทรมานมาก) จากแต่ก่อนเราจะต้องพ่นยาทั้งก่อนจะขึ้นเครื่องและก่อนที่เครื่องจะแลนด์ดิ้ง ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว คือดีมาก ความทรมานหายไปเลย
- ที่สำคัญอีกอย่างคือการไปติ่งนักร้อง เราสามารถนั่งรอได้นานมากขึ้น โดยไม่มีอาการปวดขาหรืออาการเมื่อยใดๆมารบกวน ใครเป็น FC นักร้อง/ดารา จะเข้าใจว่าต้องรอนานแค่ไหนกว่าจะได้เจอ ---- อันนี้ไม่ดราม่านะคะ
- เสพติดการออกกำลังกาย และรู้จักการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น / ควบคุมการกินอาหารได้มาก เราสามารถลดความอยากกินขนมหวาน เค้ก น้ำหวาน น้ำอัดลม ทุกวันนี้ไม่มีความอยากกินอาหารเหล่านี้เลย
- แต่!!อาการป่วยหลักที่เป็นสาเหตุของการเบื่ออาหาร ก็ยังไม่หายนะคะ ยังต้องไปหาหมอและรับยามาทานตลอด แต่ว่าทุกวันนี้อาการเบื่ออาหารเราหายไปแล้ว สามารถทานได้ปกติล่ะ
ปัจจุบันนี้ น้ำหนักและสัดส่วนคงที่ เราสามารถทานอาหารที่ชอบได้และทานได้ปกติ ไม่อยากทานขนมหวาน/น้ำหวาน ออกกำลังกาย 5-6 วัน แต่ลดความหนักลง และพบว่าการจะทำอะไรนั้น "ใจ" เราสำคัญที่สุด
**** ขอบคุณความป่วยที่เข้ามานะ อย่างน้อยมันก็มีข้อดีที่ทำให้เรามีความสุขกับตัวเองมากขึ้น (มั้ย) ****
แนบภาพประกอบ แบบอายตัวเองมาก 5555555
เพราะ “ใจ” เราสำคัญที่สุด วันนี้เราจึงผอมและแข็งแรง
เริ่มแรกจากความป่วย ทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร ทำให้น้ำหนักลดไป 2-3 kg เราเลยมองเห็นข้อดีว่า ไหนๆ เราก็เบื่ออาหารละ แถมน้ำหนักก็ลดอีก จึงเริ่มคิดว่าจะทำยังไงให้น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นไปเหมือนเดิม พร้อมกับถือโอกาสลดน้ำหนักไปในตัวด้วย ถึงจะเกลียดการออกกำลังกาย แต่ก็ชอบอ่านกระทู้การลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย บทความสุขภาพการกินอาหาร และเป็นคนที่ชอบทานผักสดมาก ทำให้คุมอาหารได้ดี
มาเริ่มที่การเริ่มออกกำลังกาย ช่วงแรกเราออกกำลังกายเบาๆ แต่เริ่มด้วย T25 เลยจ้า เราเต้นตามโปรแกรมแรกของ T25 คือโปรแกรม alpha เต้นเบาๆ ไป 1 เดือน เป็นการทำใจก่อนและเตรียมร่างกาย เพราะอย่างที่บอกว่าเกลียดการออกกำลังกายมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญเลย คือ “ใจ” ของเรา ต้องเอาชนะความเกลียด + ขี้เกียจให้ได้ ช่วงแรกที่เริ่มออกกำลังกาย เราเต้น 7 วัน ไม่มีวันพักเลย วันศุกร์ ก็เต้น 2 เท่า ตามตาราง T25 เพราะกลัวว่าถ้าวันไหนหยุด วันถัดไปเราจะขี้เกียจ พอผ่านช่วงนี้ไปได้ เรารู้สึกว่าเราสามารถออกกำลังกายได้มากขึ้น ความเกลียดการออกกำลังกายเริ่มลดลง และรู้สึกว่าตัวเบาขึ้น กระฉับกระเฉงมากขึ้น และน้ำหนักลดจ้า อันนี้ดีมาก แต่!!! เพราะเราป่วย + เบื่ออาหารด้วย ทำให้เราสามารถคุมอาหารไปได้ในตัว คล้ายกับทำ IF ไปด้วยเลย เพราะไม่กินอาหารก็ไม่หิว แต่ก็พยายามกิน บางทีกินเที่ยงมื้อเดียว เย็นไม่กิน บางวันกินครบ 3 มื้อ แต่ปริมาณอาหารลดลงจากเดิม
ครบโปรแกรม Alpha ใช้เวลา 1 เดือนกว่า เราก็วนกลับมาเริ่มต้นใหม่ โดยยังใช้โปรแกรมเดิม แต่คราวนี้เต้นแบบจัดเต็มค่ะ เต้นหนักขึ้น และยังเต้นครบ 7 วันเหมือนเดิม จากนั้นก็เต้นตามโปรแกรม T25 ไปเรื่อย จนครบโปรแกรม (Alpha, Beta, Gamma และ Gamma Hybrid) ใช้เวลา 4 เดือนครึ่ง อาการเบื่ออาหารก็ยังเป็นอยู่ แต่หมอให้วิตามินมากินเพื่อให้มีความอยากกินอาหารมากขึ้น แต่เราไม่กิน เราใช้วิธีหาข้อมูลว่ากินอะไรถึงจะมีประโยชน์ และนอนให้พอ เพื่อให้ร่างกายไม่พัง และสำคัญมาก!!! เราลดการกินน้ำหวานหลังอาหารเที่ยง/ช่วงบ่าย ลงไปด้วย ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำหนกลดลงมากกกกก แต่ไม่ได้สังเกตว่าเดือนนึงลดลงกี่โลนะ แต่สิ่งที่กรี๊ดมากคือ น้ำหนักลงมาต่ำกว่า 50 kg แล้ววววววววววววว ดีใจมากเว่อ (เหลือราวๆ 47-48 kg)
พอเต้นครบโปรแกรม T25 เราก็หาโปรแกรมออกกำลังกายใหม่ โดยหาจากใน YouTube / เพจต่างๆ ใน FB และเรียกว่าช่วงนี้คือออกกำลังกายตามใจฉันมาก แต่ยังออกกำลังกายหนักเหมือนเดิมนะ อย่างต่ำวันละ 1.30 ชม. โดยเราออกทั้ง HIIT, Pilates, cardio, weight วันนึงเล่นเกือบครบอ่ะ และช่วงนี้เริ่มมีการพัก เหลือออกกำลังกาย 5-6 วัน และก็มีสลับกลับไปเต้น T25 ด้วย สำหรับบางวันที่เวลาน้อย
ผ่านมาปีกว่าแล้วที่เราทำแบบนี้ สิ่งที่เราได้กลับมาจากความพยายามเอาชนะใจตัวเอง คือ
- น้ำหนักลดลงจาก 58 kg เหลือ 45 kg ทั้งที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าน้ำหนักจะสามารถกลับมาเหลือเท่านี้ได้อีกแล้ว
- สัดส่วนลดลง จากเอว 32 นิ้ว ตอนนี้เหลือ 26 นิ้ว เสื้อผ้าเปลี่ยนจากไซต์ L – XL ตอนนี้เหลือแค่ S เท่านั้น!!!!
- ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น เราสามารถวิ่งได้ 7-8 km โดยไม่พัก ในเวลาไม่เกิน 1 ชม.
- อาการป่วยภูมิแพ้อากาศ จามตลอดเวลา ต้องกินยาแก้แพ้ทุกเช้า ตอนนี้ ไม่จำเป็นแล้ว
- เลือดกำเดาไหลเวลาอากาศเย็น/ร้อนเกินไป --- หายไปแล้ว
- ที่สำคัญ!!!! อาการปวดจี๊ดๆ ระหว่างหัวคิ้ว ระหว่างนั่งเครื่องบิน หายไปเลย (ใครเป็นอาการนี้จะรู้เลยว่าทรมานมาก) จากแต่ก่อนเราจะต้องพ่นยาทั้งก่อนจะขึ้นเครื่องและก่อนที่เครื่องจะแลนด์ดิ้ง ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว คือดีมาก ความทรมานหายไปเลย
- ที่สำคัญอีกอย่างคือการไปติ่งนักร้อง เราสามารถนั่งรอได้นานมากขึ้น โดยไม่มีอาการปวดขาหรืออาการเมื่อยใดๆมารบกวน ใครเป็น FC นักร้อง/ดารา จะเข้าใจว่าต้องรอนานแค่ไหนกว่าจะได้เจอ ---- อันนี้ไม่ดราม่านะคะ
- เสพติดการออกกำลังกาย และรู้จักการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น / ควบคุมการกินอาหารได้มาก เราสามารถลดความอยากกินขนมหวาน เค้ก น้ำหวาน น้ำอัดลม ทุกวันนี้ไม่มีความอยากกินอาหารเหล่านี้เลย
- แต่!!อาการป่วยหลักที่เป็นสาเหตุของการเบื่ออาหาร ก็ยังไม่หายนะคะ ยังต้องไปหาหมอและรับยามาทานตลอด แต่ว่าทุกวันนี้อาการเบื่ออาหารเราหายไปแล้ว สามารถทานได้ปกติล่ะ
ปัจจุบันนี้ น้ำหนักและสัดส่วนคงที่ เราสามารถทานอาหารที่ชอบได้และทานได้ปกติ ไม่อยากทานขนมหวาน/น้ำหวาน ออกกำลังกาย 5-6 วัน แต่ลดความหนักลง และพบว่าการจะทำอะไรนั้น "ใจ" เราสำคัญที่สุด
**** ขอบคุณความป่วยที่เข้ามานะ อย่างน้อยมันก็มีข้อดีที่ทำให้เรามีความสุขกับตัวเองมากขึ้น (มั้ย) ****
แนบภาพประกอบ แบบอายตัวเองมาก 5555555