พระอรหันต์ไม่ถูกอัตตาครอบงำ
อัตตาจะมีการแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ "แปรรูป" ทำไมถึงต้องแปรรูป เพราะว่า "รูป" เป็นอนิจจัง เพราะว่าเปลี่ยนไปตามปัจจัยแห่งเหตุ ทำไมถึงต้องอนิจจัง เพราะว่าเหตุมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อัตตาจะสลายไม่ได้ มีแต่แปรรูป
อัตตาของพระอรหันต์ไม่สลาย เพียงแต่พระอรหันต์ไม่ถูกอัตตาครอบงำ ของท่านก็แปรเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย คือ อัตตาไม่สามารถควบคุมจิตพระอรหันต์ได้ แต่อัตตาแปรเปลี่ยนไปตามธรรม เป็นวาระเหตุแห่งธรรม ตายก็ตาย เกิดก็คือเกิด พระอรหันต์ไม่ได้เดือดร้อนเหมือนกับเขาตรงที่แปรเปลี่ยน
"อนิจจัง" ไม่ได้แปลว่า "สลาย" แต่แปลว่า "ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้ เมื่อเหตุเปลี่ยน ผลก็ต้องแปรเปลี่ยนตาม" เหมือนกับน้ำแข็ง อากาศร้อน น้ำแข็งก็จะละลาย
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
พระอรหันต์ไม่ถูกอัตตาครอบงำ
อัตตาจะมีการแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ "แปรรูป" ทำไมถึงต้องแปรรูป เพราะว่า "รูป" เป็นอนิจจัง เพราะว่าเปลี่ยนไปตามปัจจัยแห่งเหตุ ทำไมถึงต้องอนิจจัง เพราะว่าเหตุมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อัตตาจะสลายไม่ได้ มีแต่แปรรูป
อัตตาของพระอรหันต์ไม่สลาย เพียงแต่พระอรหันต์ไม่ถูกอัตตาครอบงำ ของท่านก็แปรเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย คือ อัตตาไม่สามารถควบคุมจิตพระอรหันต์ได้ แต่อัตตาแปรเปลี่ยนไปตามธรรม เป็นวาระเหตุแห่งธรรม ตายก็ตาย เกิดก็คือเกิด พระอรหันต์ไม่ได้เดือดร้อนเหมือนกับเขาตรงที่แปรเปลี่ยน
"อนิจจัง" ไม่ได้แปลว่า "สลาย" แต่แปลว่า "ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้ เมื่อเหตุเปลี่ยน ผลก็ต้องแปรเปลี่ยนตาม" เหมือนกับน้ำแข็ง อากาศร้อน น้ำแข็งก็จะละลาย
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต