ขอบคุณสาย น้ำหลาก มามากมาย
ขอบคุณกาย สังขาร เฝ้าฝันหา
ขอบคุณเงิน หลาย ๆ ล้าน ผ่านเข้ามา
ขอบคุณวัน เวลา อันหวานชื่น
ขอบคุณ3 ตัวตรง บรรจงได้
ขอบคุณ2 ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อาจฝืน
ขอขอบคุณ มิตรภาพ อันยั่งยืน
อีกกี่หมื่น ชาติภพ จึงพบเจอ
กราบสำนึก พระคุณฟ้า บารมี
บรรพจารย์ ท่านที่ เมตตาเสมอ
2 วิสุทธิ อาจารย์ อันเลิศเลอ
กั่นเซี่ยเทียน เอินซือเต๋อ ทุก ๆ วัน
มหันตภัย หลายหลาก มามากมี
เข้าถึงที่ ถิ่นฐาน ทุก ๆ ท่าน
ล้างผิดบาป อำมหิต สิ้นไปพลัน
ทุกคืนวัน โลกสงบ พบร่มเย็น
ครอบครัวอาบ ไออุ่น วัยรุ่นชอบ
คือคำตอบ ทุกโจทย์ หมดทุกข์เข็ญ
เป็นหนุ่มสาว ยุคใหม่ ใฝ่บำเพ็ญ
บ่มจิตเป็น พุทธะ ละโลกีย์
"ขอบคุณ" หรือ จดจำสำนึกคุณ เป็นคุณธรรมพื้นฐานประการแรก ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ภูมิ เว สัปปุริสสานัง กตัญญูกตเวทิตา การกตัญญู รู้คุณ เป็นพื้นฐานของคนดี ตรงกับอีกหลาย ๆ ศาสนา อาทิ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ยูดาห์ หรือยิว รวมทั้ง อนุตรธรรม ในนาม “อี้ ก้วน เต้า”ด้วย ในขณะที่ New Ton's Law กล่าวถึงกฎของจักรวาลข้อหนึ่งว่า Action = Reaction แรงกิริยา เท่ากับ แรงปฏิกิริยา หรือแรงสะท้อนกลับ และตรงกับ กฎแห่งกรรม ทำสิ่งใด ก็จะได้สิ่งนั้น
เมื่อเรา “ขอบคุณ”ต่อสิ่งที่ได้รับมา แท้จริงแล้ว แค่ “ขอบคุณ”ยังไม่พอ ต้องลงมือทำแทนคำ "ขอบคุณ" Action เราก็จะได้รับสิ่งเดียวกันนั้นกลับคืนมา Reaction ทำเล็กน้อย จะได้กลับมาเล็กน้อย ทำมาก จะได้กลับมามาก ทำอย่างสุดกำลังพลั่งพลูออกจากก้นบึ้งของหัวใจ แม้ทุกข์ยากปานใดไม่ท้อถอย ก็จะได้กลับมาอย่างท่วมท้นล้นเหลือ แต่ถ้าไม่ทำ กลับถูกริบแม้เป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีอยู่กลับคืนไป ตรงกันข้าม ถ้าประพฤติเนรคุณก็จะถูกลงโทษสถานหนัก เป็นโทษที่หนักกว่าความผิดทั่วไป
กราบสำนึกในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ....จดจำสำนึกคุณของพ่อ-แม่ แผ่นดินถิ่นเกิด ครูอาจารย์ ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผู้อุปถัมภ์ค้ำชู
จดจำสำนึกคุณเงินทองที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ละท่านมิใช่น้อย ๆ รวมทั้งหมด นับเป็นแสน เป็นล้าน หรือมากกว่านั้น ให้ "ขอบคุณ" ทำบ่อย ๆ วันละหลาย ๆ ครั้ง เงินที่เคยขาดมือ ก็จะมีเงินตุงกระเป๋า
นึกถึงวันวานอันหวานชื่น แล้ว "ขอบคุณ"อย่างสุดซึ้ง เปี่ยมล้นหัวใจ ชีวิตครอบครัวที่เคยแตกร้าว คู่รักหักมุมกุมขมับ เคยจ๊ะจ๋า กลายเป็นหน้ายังไม่มอง สำหรับชีวิตวัยรุ่นวุ่นรัก เคยช่วยทำรายงาน เคยหลบมุมจู๋จี๋ในห้องสมุดแอร์เย็นฉ่ำ เคยเล่นไลน์ เคยไปส่งถึงบ้าน ไม่เคยผิดนัดวันหยุด กลายเป็นหลบหน้าตา ไม่รับโทรศัพท์ ให้ย้อนนึกถึงวันเวลาที่เคยมีความสุขด้วยกัน แล้ว "ขอบคุณ"วันละหลาย ๆ ครั้ง อะไร ๆ ที่เลวร้าย ก็จะกลายเป็นสดใสชื่นบานปานรักแรกพบ หรืออย่างน้อย ๆ บรรยากาศอันอึดอัด ก็จะคลี่คลายลงได้
มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เราไม่รู้หรอก และก็ไม่ใช่หน้าที่ที่เราจะต้องรู้ มันทำงานอยู่ในอาณาจักรที่ไร้รูปลักษณ์ มองไม่เห็น [Invisible] แต่ทรงพลังไร้ขีดจำกัด ยุติธรรม เที่ยงตรง คงเส้นคงวา หน้าที่ของเรา ก็แค่ "ขอบคุณ" เท่านั้นเอง หากมองอีกมุม ก็จะพบได้ว่าทั้งหมดนั้น ก็คือ การคิดบวก [Positive Thinking]ภาคสนาม นั่นเอง
การคิดบวก[Positive Thinking]...เป็นธรรมดาเหลือเกิน ไม่มีใครเพอร์เฟค ไม่มีเรื่องใดหรือสิ่งใดสมบูรณ์พร้อมไร้ข้อตำหนิ คนเราหรือเรื่องราวต่าง ๆ จึงมีทั้งด้านบวกและลบปะปนกันอยู่ในคน ๆ เดียวกัน หรืออยู่ในเรื่องเดียวกัน เราจึงต้องค้นหาและแยกแยะให้ได้ ว่าอะไรคือบวก อะไรคือลบ แล้วเราก็เลือกที่จะมอง หรือคิดเฉพาะด้านบวก คนที่มองด้านบวก คิดบวก พูดบวก พูดดี ทำบวก ทำดี ก็จะดึงดูดความสุข ความเจริญเข้ามา ส่วนคนที่มองด้านลบ คิดลบ พูดลบ พูดเลว ทำลบ ทำเลว ก็จะดึงดูดความเลวร้าย หรือทุกข์ภัยเข้ามา ตามกฎแรงดึงดูด [Law of Attraction] ชะตาชีวิตหรือเคราะห์กรรม แท้จริง เราคือคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของเราเอง จงอย่าเสียใจ ไม่กล่าวโทษ ไม่บ่นว่า ถ้ากำลังดวงตก อกหักรักคุด ให้สวมจิตวิญญาณ "จ่าเฉย" ช่างหัวมัน ช่างเขาเถอะ ปล่อยเขาไป มันอยู่ได้ไม่นาน สักพักก็จะผ่านไปเอง เราต้องกลับมาย้อนมองส่องตนที่ผ่านมา แล้วแก้ไขซะก็สิ้นเรื่อง
คำ "ขอบคุณ"...คำ มหัศจรรย์
ขอบคุณกาย สังขาร เฝ้าฝันหา
ขอบคุณเงิน หลาย ๆ ล้าน ผ่านเข้ามา
ขอบคุณวัน เวลา อันหวานชื่น
ขอบคุณ3 ตัวตรง บรรจงได้
ขอบคุณ2 ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อาจฝืน
ขอขอบคุณ มิตรภาพ อันยั่งยืน
อีกกี่หมื่น ชาติภพ จึงพบเจอ
กราบสำนึก พระคุณฟ้า บารมี
บรรพจารย์ ท่านที่ เมตตาเสมอ
2 วิสุทธิ อาจารย์ อันเลิศเลอ
กั่นเซี่ยเทียน เอินซือเต๋อ ทุก ๆ วัน
มหันตภัย หลายหลาก มามากมี
เข้าถึงที่ ถิ่นฐาน ทุก ๆ ท่าน
ล้างผิดบาป อำมหิต สิ้นไปพลัน
ทุกคืนวัน โลกสงบ พบร่มเย็น
ครอบครัวอาบ ไออุ่น วัยรุ่นชอบ
คือคำตอบ ทุกโจทย์ หมดทุกข์เข็ญ
เป็นหนุ่มสาว ยุคใหม่ ใฝ่บำเพ็ญ
บ่มจิตเป็น พุทธะ ละโลกีย์
"ขอบคุณ" หรือ จดจำสำนึกคุณ เป็นคุณธรรมพื้นฐานประการแรก ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ภูมิ เว สัปปุริสสานัง กตัญญูกตเวทิตา การกตัญญู รู้คุณ เป็นพื้นฐานของคนดี ตรงกับอีกหลาย ๆ ศาสนา อาทิ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ยูดาห์ หรือยิว รวมทั้ง อนุตรธรรม ในนาม “อี้ ก้วน เต้า”ด้วย ในขณะที่ New Ton's Law กล่าวถึงกฎของจักรวาลข้อหนึ่งว่า Action = Reaction แรงกิริยา เท่ากับ แรงปฏิกิริยา หรือแรงสะท้อนกลับ และตรงกับ กฎแห่งกรรม ทำสิ่งใด ก็จะได้สิ่งนั้น
เมื่อเรา “ขอบคุณ”ต่อสิ่งที่ได้รับมา แท้จริงแล้ว แค่ “ขอบคุณ”ยังไม่พอ ต้องลงมือทำแทนคำ "ขอบคุณ" Action เราก็จะได้รับสิ่งเดียวกันนั้นกลับคืนมา Reaction ทำเล็กน้อย จะได้กลับมาเล็กน้อย ทำมาก จะได้กลับมามาก ทำอย่างสุดกำลังพลั่งพลูออกจากก้นบึ้งของหัวใจ แม้ทุกข์ยากปานใดไม่ท้อถอย ก็จะได้กลับมาอย่างท่วมท้นล้นเหลือ แต่ถ้าไม่ทำ กลับถูกริบแม้เป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีอยู่กลับคืนไป ตรงกันข้าม ถ้าประพฤติเนรคุณก็จะถูกลงโทษสถานหนัก เป็นโทษที่หนักกว่าความผิดทั่วไป
กราบสำนึกในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ....จดจำสำนึกคุณของพ่อ-แม่ แผ่นดินถิ่นเกิด ครูอาจารย์ ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผู้อุปถัมภ์ค้ำชู
จดจำสำนึกคุณเงินทองที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ละท่านมิใช่น้อย ๆ รวมทั้งหมด นับเป็นแสน เป็นล้าน หรือมากกว่านั้น ให้ "ขอบคุณ" ทำบ่อย ๆ วันละหลาย ๆ ครั้ง เงินที่เคยขาดมือ ก็จะมีเงินตุงกระเป๋า
นึกถึงวันวานอันหวานชื่น แล้ว "ขอบคุณ"อย่างสุดซึ้ง เปี่ยมล้นหัวใจ ชีวิตครอบครัวที่เคยแตกร้าว คู่รักหักมุมกุมขมับ เคยจ๊ะจ๋า กลายเป็นหน้ายังไม่มอง สำหรับชีวิตวัยรุ่นวุ่นรัก เคยช่วยทำรายงาน เคยหลบมุมจู๋จี๋ในห้องสมุดแอร์เย็นฉ่ำ เคยเล่นไลน์ เคยไปส่งถึงบ้าน ไม่เคยผิดนัดวันหยุด กลายเป็นหลบหน้าตา ไม่รับโทรศัพท์ ให้ย้อนนึกถึงวันเวลาที่เคยมีความสุขด้วยกัน แล้ว "ขอบคุณ"วันละหลาย ๆ ครั้ง อะไร ๆ ที่เลวร้าย ก็จะกลายเป็นสดใสชื่นบานปานรักแรกพบ หรืออย่างน้อย ๆ บรรยากาศอันอึดอัด ก็จะคลี่คลายลงได้
มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เราไม่รู้หรอก และก็ไม่ใช่หน้าที่ที่เราจะต้องรู้ มันทำงานอยู่ในอาณาจักรที่ไร้รูปลักษณ์ มองไม่เห็น [Invisible] แต่ทรงพลังไร้ขีดจำกัด ยุติธรรม เที่ยงตรง คงเส้นคงวา หน้าที่ของเรา ก็แค่ "ขอบคุณ" เท่านั้นเอง หากมองอีกมุม ก็จะพบได้ว่าทั้งหมดนั้น ก็คือ การคิดบวก [Positive Thinking]ภาคสนาม นั่นเอง
การคิดบวก[Positive Thinking]...เป็นธรรมดาเหลือเกิน ไม่มีใครเพอร์เฟค ไม่มีเรื่องใดหรือสิ่งใดสมบูรณ์พร้อมไร้ข้อตำหนิ คนเราหรือเรื่องราวต่าง ๆ จึงมีทั้งด้านบวกและลบปะปนกันอยู่ในคน ๆ เดียวกัน หรืออยู่ในเรื่องเดียวกัน เราจึงต้องค้นหาและแยกแยะให้ได้ ว่าอะไรคือบวก อะไรคือลบ แล้วเราก็เลือกที่จะมอง หรือคิดเฉพาะด้านบวก คนที่มองด้านบวก คิดบวก พูดบวก พูดดี ทำบวก ทำดี ก็จะดึงดูดความสุข ความเจริญเข้ามา ส่วนคนที่มองด้านลบ คิดลบ พูดลบ พูดเลว ทำลบ ทำเลว ก็จะดึงดูดความเลวร้าย หรือทุกข์ภัยเข้ามา ตามกฎแรงดึงดูด [Law of Attraction] ชะตาชีวิตหรือเคราะห์กรรม แท้จริง เราคือคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของเราเอง จงอย่าเสียใจ ไม่กล่าวโทษ ไม่บ่นว่า ถ้ากำลังดวงตก อกหักรักคุด ให้สวมจิตวิญญาณ "จ่าเฉย" ช่างหัวมัน ช่างเขาเถอะ ปล่อยเขาไป มันอยู่ได้ไม่นาน สักพักก็จะผ่านไปเอง เราต้องกลับมาย้อนมองส่องตนที่ผ่านมา แล้วแก้ไขซะก็สิ้นเรื่อง