Lapu-Lapu วีรบุรุษฟิลิปปินส์คือ ผู้ฆ่า Ferdinand Magellan

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Battle of Mactan
ชาวตะวันตกต่างจดจำ Ferdinand Magellan
ในฐานะนักสำรวจชาว Portuguese ผู้กล้าหาญ
ที่ออกเดินทางทางเรือเพื่อสำรวจไปทั่วโลกครั้งแรก
แต่สำหรับชาว Philippines แล้ว ท่านคือ แค่คนผิวขาวคนหนึ่ง
ที่ตายเพราะพยายามจะยึดครองดินแดนที่ไม่ใช่ของตน/นักล่าอาณานิคม
วีรบุรุษที่แท้จริง คือ Lapu-Lapu ชาว Filipinos
ชื่อเรียกรวมชนเผ่าพื้นเมืองตามเกาะแก่งในฟิลปปินส์
Lapu-Lapu หัวหน้าชนเผ่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด
เพราะมีชัยชนะในการรบกับ Ferdinand Magellan ผู้นำทัพทหารสเปน
พร้อมทั้งท่านกลายเป็นวีรบุรุษคนแรกของชาว Filipinos
ที่ประสบความสำเร็จในการต่อต้านการล่าอาณานิคมจากคนต่างชาติ
ทำให้ฟิลลิปปินส์ว่างเว้นจากการถูกล่าอาณานิคมนานกว่า 40 ปี

Ferdinand Magellan ผู้หยิ่งผยองและเชื่อมั่นในอาวุธของตนเอง
คือ สาเหตุการตายของท่านเอง ในการต่อสู้กับชนเผ่า Filipinos
และการตายของท่านได้ยุติเป้าหมายในการแล่นเรือรอบโลกเป็นคนแรกของโลก

1.

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของ Magellan, เกาะ Mactan, 1521. ภาพจิตรกรรมโดย Gregory Manchess
Ferdinand Magellan ออกแล่นเรือจาก Spain ในปี 1519
ด้วยการนำกองเรือ Armada ของ Spain จำนวน 5 ลำ
มุ่งหน้าลงทางทิศใต้ผ่านมหาสมุทร Atlantic ไปยัง Patagonia
ผ่านช่องแคบแห่งหนึ่งที่ตั้งชื่อตามท่าน
และน่านน้ำทะเลที่ชื่อว่า ทะเลสงบสุข peaceful sea
ซึ่งตอนนี้ชื่อใหม่คือ มหาสมุทร Pacific

วันที่ 16 มีนาคม 1521
Ferdinand Magellan ได้เดินทางมาถึงหมู่เกาะ Philippines
และเป็นชาว European คนแรกที่เดินทางมาถึงหมู่เกาะแห่งนี้

Ferdinand Magellan มีภารกิจ 2 อย่างคือ
1) ค้นหาเส้นทางตะวันตกเพื่อไปยังหมู่เกาะ Maluku Islands
หรือที่รู้จักกันดีว่า หมู่เกาะเครื่องเทศ Spice Islands ใกล้กับ Indonesia
2) อ้างว่าเกาะใด ๆ ที่ท่านค้นพบเป็นของกษัตริย์ Spain
ก่อนที่กองเรือชาว Portuguese จะมาอ้างสิทธิ์ดังกล่าวและเดินทางมาถึง
และท่านจะได้รับรางวัลอย่างงามจากกษัตริย์ Spain
แม้ว่าความจริงก็คือ ท่านเป็นชาว Portuguese
ทำให้มีข้อกังขาความจงรักภักดีของ Ferdinand Magellan
แต่สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากการที่ Ferdinand Magellan ไม่ประสบความสำเร็จ
ในการโน้มน้าวให้กษัตริย์ Portugal สนับสนุน/ลงทุนการเดินเรือของท่าน
ทำให้ท่านต้องหันหน้าเดินทางไปขอเงินทุนสนับสนุนจากกษัตริย์ Spain

Ferdinand Magellan ได้ขึ้นบกบนเกาะ Homonhon
และกลายเป็นสหายกับ Rajah Kolambu กับ Rajah Siagu หัวหน้าเผ่า Limasawa
และต่อมาได้ชักนำให้ Ferdinal Magellan รู้จักกับ Rajah Humabon ที่เป็น Rajah of Cebu ด้วย
ไม่นานนัก Rajah Humabon ได้เข้ารับ ศีลมหาสนิท กลายเป็นชาวคริสต์ นิกาย Catholicism
พร้อมกับภริยาของตนและบรรดาลูกสมุนบริวารหลายคน
Rajah Humabon จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นชื่อชาว Christian ว่า Carlos
เพื่อถวายพระเกียรติแด่ King Charles of Spain
ส่วนภริยาของ Carlos ได้รับชื่อว่า Juana of Castile
เพื่อถวายพระเกียรติแด่ พระมารดาของ King Charles

เรื่องนี้ เห็นได้ชัดเจนว่า Rajah Humabon ชื่นชมยินดีอย่างแรง
ในการเปลี่ยนชื่อจากชนเผ่าพื้นเมือง
จึงแล่นเรือไปทั่วหมู่เกาะ Cebu Island
เพื่อแต่งตั้งชื่อใหม่ ๆ ให้กับพลเมืองของท่าน
ในที่สุด หัวหน้าเผ่าในหมู่เกาะที่ใกล้เคียงกับ Cebu Island หลายคน
ต่างเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ นิกาย Catholicism

ยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวคือ Lapu-Lapu
ผู้ปฏิเสธอำนาจของ Rajah Humabon
และไม่ยอมก้มหัวให้กับกษัตริย์ Spain

2.

แผนที่การแล่นเรือรอบโลกครั้งแรกของ Ferdinand de Magellan
และ Juan Sebastián Elcano ระหว่างปีค. ศ. 1519 ถึง ค.ศ. 1522

Rajah of Cebu ได้พยายามโน้มน้าวให้ Ferdinand Magellan
ทำสงครามเพื่อกำจัด Lapu Lapu คู่แข่งของตน
ผู้ครองครองเกาะ Mactan Island ที่เพียงแล่นเรือข้ามน่านน้ำจาก Cebu
และการดำรงอยุ่ของ Lapu Lapu จะเป็นภัยคุกคามกับ Rajah of Cebu
โดยตกลงร่วมมือกับ Ferdinand Magellan ในการไปรบกับ Lapu Lapu
และถ้ามีชัยชนะแล้วจะได้ครอบครองทั้งเกาะ Cebu กับเกาะ Mactan

แต่ Ferdinand Magellan หยิ่งเกินไปที่จะร่วมมือกับ Humabon Rajah of Cebu
ในทางกลับกัน Ferdinand Magellan อยากจะสร้างความประทับใจให้กับ Humabon Rajah of Cebu
ด้วยการบอกว่า อย่าเข้าไปแทรกแซงในการรบของท่านกับ Lapu Lapu หัวหน้าเผ่าบนเกาะ Mactan
Ferdinand Magellan เชื่อว่า ท่านจะมีชัยในสงครามครั้งนี้
เพราะพวกตนมีอาวุธที่เหนือกว่าคนพื้นเมืองมาก คือ มีปืนและหน้าไม้
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามรับมือได้แค่อาวุธแบบโบราณ
หอกแบบดั้งเดิม ดาบ และคันธนูที่ชนเผ่าผลิตและใช้กัน
แม้ว่าความจริง Ferdinand Magellan จะมีจำนวนทหารน้อยกว่า
มีทหารเพียง 49 คน แต่ต้องต่อสู้กับชนเผ่าพื้นเมืองถึง 1,500 คน
ตามการประมาณการในปัจจุบันนี้

Humabon Rajah of Cebu กลับดีใจอย่างแรง
เพราะจะได้เวลาฉวยโอกาสเช่นกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ
ด้วยการจ้องมองดูการรบจากระยะไกลจากสนามรบ
แม้ว่า Rajah of Cebu ยังเชื่อมั่นในพลังอำนาจอาวุธของชาว European
แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าถ้าเกิดเข้าร่วมในการรบครั้งนี้กับ Ferdinand Magellan
ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา จะทำให้ Lapu-Lapu กลายเป็นผู้แข็งแกร่งมากที่สุดใน Cebu
และหัวหน้าชนเผ่าอื่นจะยอมทำตาม/เป็นสมุนบริวารของ Lapu-Lapu
แต่ถ้าเกิด Ferdinand Magellan แพ้ในการรบครั้งนี้
Humabon Rajah of Cebu ยังรักษาหน้าตาและเกียรติยศได้
ด้วยการบอกว่า แค่ชมเหตุการณ์ในการรบเท่านั้น
แบบอยู่บนภูดูเสือกัดกัน ถ้าตายทั้งคู่ก็ได้ศพ 2 ตัว
ถ้าตายตัวเดียวก็ได้ศพ 1 ตัว อีกตัวไม่มีเวลาหันหน้ามาแว้งกัดอีก
เพราะเหนื่อยมากกับบาดเจ็บจากการสู้รบกับอีกตัว

แต่การรบครั้งนั้น กลับมีเรื่องที่น่าประหลาดใจ
เพราะนักรบของ Lapu-Lapu ต่างอยู่ในระยะไกลกว่า
วิถีกระสุนปืนและหน้าไม้ของทหาร Ferdinand Magellan จะยิงไปถึง
แม้ว่าทหาร Ferdinand Magellan จะได้พัฒนาการใช้ปืน
และวิธีการบรรจุกระสุนปืนได้ค่อนข้างรวดเร็ว
ใช้เวลาเพียง 10 วินาทีถึง 1 นาทีเต็มก็พร้อมยิงแล้ว
แต่ทหารของ Ferdinand Magellan อยู่ในชัยภูมิที่เสียเปรียบมาก
เพราะต้องเคลื่อนไหวไปมาบนชายหาดและไร้ที่กำบัง
ต้องลุยน้ำขึ้นจากทะเลเพื่อไปรบกับนักรบชนเผ่า
ทั้งยังถูกล้อมด้วยนักรบของ Lapu-Lapu ที่มีจำนวนมากกว่ามาก
และนักรบของ Lapu-Lapu หลายคนต่างดาหน้า
พุ่งเข้าโจมตี Ferdinand Magellan โดยเฉพาะคนเดียวก่อน

" เพราะนักรบชนเผ่าหลายคนจำกัปตัน (Ferdinal Magellan) ได้
จึงร่วมกันเข้ามารุมล้อมตัวท่านและใช้อาวุธตีรันฟันแทงท่าน
จนกระทั่งหมวกนักรบของท่านร่วงหล่นถึงสองครั้ง
มีนักรบชาวอินเดียขว้างหอกไม้ไผ่(หลาว)ใส่เข้าที่ใบหน้าของท่าน
แต่ในทันใดนั้น ท่านก็โต้กลับด้วยหลาวอันนั้น
พุ่งใส่ร่างของนักรบอินเดียอีกคน
ต่อจากนั้น ท่านก็พยายามจะดึงดาบออกมา
แต่ก็สามารถดึงออกมาได้เพียงครึ่งด้าม
เพราะท่านได้รับบาดเจ็บที่แขนอีกข้าง
เพราะหอกไม้ไผ่อีกอันได้ปักเข้าที่แขนข้างนั้น
เมื่อบรรดานักรบพื้นเมืองเห็นอาการเช่นนี้แล้ว
ต่างวิ่งตรูกันเข้าไปรุมล้อมท่านทันที
และมีนักรบรายหนึ่งได้ฟันซ้ำเข้าไป
ที่ขาซ้ายของท่านจนได้รับบาดเจ็บ
โดยฟันด้วยมีดขนาดใหญ่ซึ่งคล้ายกับดาบ
แต่มีขนาดใหญ่กว่าดาบธรรมดาทั่วไปมาก
เพราะมีดเล่มนั้น ทำให้กัปตัน (Ferdinal Magellan) ต้องก้มหน้าล้มลง
แล้วพวกนักรบชนเผ่าต่างตรูเข้าไปทิ่มแทงท่าน
ด้วยหลาวไม้ไผ่และมีดดาบนานาด้าม
แบบท่านโดนไปหลายดอกมาก
จนกระทั่งท่านตายคราสนาบรบที่นั่น

ท่านผู้เป็นกระจกเงาของเรา แสงสว่างของเรา
ความสบายอกสบายใจของเรา
และท่านคือ ผู้นำทางที่แท้จริงของเรา
ตอนที่พวกนักรบทำให้ท่านบาดเจ็บ
ท่านหันกลับมามองพวกเราหลายต่อหลายครั้ง
เพื่อมองว่าพวกเราทั้งหมดกลับขึ้นไปบนเรือได้แล้วหรือยัง
หลังจากที่พวกเราเห็นท่านตายแน่นอนแล้ว
พวกเราหลายคนต่างได้รับบาดเจ็บ
ต่างพยายามถอยหนีอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
กลับไปขึ้นบนเรือที่รีบถอนสมอหนีให้ไกลจากสนามรบ

ศพของ Magellan แหลกเละไม่เหลือสภาพ
แม้ว่า Rajah Humabon จะพยายามเกลี้ยกล่อม Lapu-Lapu
ให้ Lapu-Lapu คืนศพของ Ferdinand Magellan (เพื่อไปทำพิธีศาสนาคริสต์)
แต่หัวหน้าผู้มีชัยปฏิเสธ เพราะเขาตั้งใจจะเก็บซากศพ(กระดูก) นี้ไว้
เป็นรางวัลของขวัญที่มีชัยชนะในสงคราม

ภรรยาและลูกของ Ferdinand Magellan ทุกคนต่างเสียชีวิตใน Seville ที่สเปน
ก่อนที่สมาชิกกองเรือผจญภัยจะเดินทางกลับไปยังสเปน
เพื่อแจ้งข่าวนี้ให้ครอบครัว Ferdinand Magellan ทราบ
ดูเหมือนว่าพยานหลักฐานต่าง ๆ ของ Ferdinand Magellan
จะหายสาบสูญไปจากโลกนี้แล้ว “ Antonio Pigafetta
นักวิชาการชาวอิตาลีที่ร่วมเดินทางกับ Ferdinand Magellan ได้เขียนต่อในบันทึกของท่าน

3.

Antonio Pigafetta

4.

Map of Borneo by Pigafetta
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่