เช้าวันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2562 ผมขึ้นรถไฟ (รฟท.) มาทำงานเป็นปกติเหมือนทุกวัน จากสถานีบ้านทับช้าง เขตประเวศ กรุงเทพฯ ปลายทาง 》ป้ายหยุดรถพญาไท ขบวนที่ 378 หัวตะเข้ - กรุงเทพฯ (หัวลำโพง) เวลาประมาณ 08:25 นาที (เส้นทางบ้านทับช้าง》หัวหมาก 》 สุขุมวิท 71》คลองตัน》อโศก》มักกะสัน》พญาไท)
วันนี้อากาศดี เย็นสบาย ขึ้นรถไฟได้ก็รีบเดินชิดด้านใน หาที่มั่น ยืนจับราวเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นปกติ ภายในตู้ขบวนรถไฟผู้โดยสารค่อนข้างหนาแน่น แต่ไม่ถึงกับเบียดเสียด ยืนชิดกันอย่างหลวม ซึ่งก็เป็นปกติเหมือนทุกวัน เพราะค่อนข้างสายแล้ว รถไฟออกได้สักพัก ประมาณ 10 นาที ระหว่างยืนเล่นโทรศัพท์มือถือ ผมก้มหน้าหลับตา กะจะพักสายตาแค่แว้บเดียว พอลืมตาขึ้นมา เริ่มรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม ผมรู้สึกว่าไม่ดีแน่นอน ประกอบกับช่วงเวลานั้นคนเริ่มลงสถานีคลองตันค่อนข้างเยอะทำให้พอมีพื้นที่ว่าง จึงนั่งยองลงกับพื้น
ผู้โดยสารคนอื่นก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคงคิดว่าผมแค่ยืนแล้วเมื่อยขา จึงนั่งลงไม่มีอะไร แถมตอนนั้นอาการยังไม่แสดงออกเท่าไหร่ ยังรู้สึกควบคุมตัวเองได้ แต่มีผู้โดยสารหญิงวัยทำงานคนหนึ่งนั่งหันข้างให้ผม คงจับสังเกตได้ เธอเสนอที่นั่งให้ผม "นั่งไหมค่ะ" ครั้งแรกผมตอบปฏิเสธ "ไม่เป็นไรครับ"พร้อมคำขอบคุณ ตอนนั้นคิดในใจว่าต้องอดทน พาตัวเองไปให้ถึงป้ายหยุดรถพญาไทให้ได้ อีกแค่ 15 นาที เพราะที่นั้นมีตึกเรียนพิเศษที่ผมยังพอนั่งพักได้
พอรถไฟออกจากสถานีคลองตันได้สักพัก อาการเริ่มรุนแรง หน้ามืด มองเห็นภาพมัว หน้าเริ่มซีดชา หมดแรง ผู้โดยสารหญิงคนเดิมเสนอที่นั่งให้ผมอีกครั้ง ผมจึงตอบรับและกล่าวขอบคุณ พอนั่งลง อาการกลับแย่ลง อาจเพราะเห็นภาพเคลื่อนไหวเวลารถไฟวิ่ง หน้ามืด วิงเวียนศีระษะ หายใจแผ่วเบา มองเห็นภาพมัว กำลังจะเป็นลมอย่างแน่นอน ผมจึงสุ่มถามขอยาดมจากผู้โดยสารหญิงอีกคนที่นั่งข้างกัน เธอนั่งติดหน้าต่าง (ที่นั่งบนรถไฟเป็นที่นั่งชุดละ 4 คน หันหน้าเข้าหน้ากัน) โชคดีที่เธอมียาดม และยื่นให้ผม อาการเริ่มดีขึ้นอย่างช้าช้า จังหวะที่เธอจะลงป้ายหยุดรถอโศก ผมถามขอซื้อยาดม "ผมขอซื้อต่อได้ไหมครับ" เธอรีบตอบว่า "ไม่เป็นไร" พร้อมบอกให้ผมขยับไปนั่งติดหน้าต่างแทนเธอ อาการจะได้ดีขึ้น
พอรถออกจากป้ายหยุดรถมักกะสัน ผมรู้สึกเหมือนจะอาเจียน จึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำบนรถไฟ อยู่ในห้องน้ำสักพัก อาการเริ่มดีขึ้น เพราะมองไม่เห็นอะไร และโชคดีไม่อาเจียน ผมจึงลงป้ายหยุดรถพญาไท และรีบเข้าร้านสะดวกซื้อ หาน้ำหวานดื่มก่อนต่อรถไฟฟ้า BTS ไปทำงานตามปกติ
ถ้าในเวลานั้น ผมไม่ได้ผู้โดยสารหญิงทั้งสองคนที่สละที่นั่งให้ผม โดยที่เธอยืน และอีกคนที่สละยาดมส่วนตัวให้กับผม ผมอาจมีอาการแย่กว่านี้หรือฟื้นมาในโรงพยาบาลแล้วก็ได้ครับ ขอขอบพระคุณน้ำใจคนไทย ที่ไม่เคยทิ้งกัน กระทู้นี้ไม่มีเนื้อหาสำคัญ แต่แบ่งปันความประทับใจแก่กันครับ
ยาดมที่ผู้โดยสารหญิงสละให้ผม
เมื่อผมจะเป็นลมบนรถไฟ ขอบคุณน้ำใจคนไทย
วันนี้อากาศดี เย็นสบาย ขึ้นรถไฟได้ก็รีบเดินชิดด้านใน หาที่มั่น ยืนจับราวเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นปกติ ภายในตู้ขบวนรถไฟผู้โดยสารค่อนข้างหนาแน่น แต่ไม่ถึงกับเบียดเสียด ยืนชิดกันอย่างหลวม ซึ่งก็เป็นปกติเหมือนทุกวัน เพราะค่อนข้างสายแล้ว รถไฟออกได้สักพัก ประมาณ 10 นาที ระหว่างยืนเล่นโทรศัพท์มือถือ ผมก้มหน้าหลับตา กะจะพักสายตาแค่แว้บเดียว พอลืมตาขึ้นมา เริ่มรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม ผมรู้สึกว่าไม่ดีแน่นอน ประกอบกับช่วงเวลานั้นคนเริ่มลงสถานีคลองตันค่อนข้างเยอะทำให้พอมีพื้นที่ว่าง จึงนั่งยองลงกับพื้น
ผู้โดยสารคนอื่นก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคงคิดว่าผมแค่ยืนแล้วเมื่อยขา จึงนั่งลงไม่มีอะไร แถมตอนนั้นอาการยังไม่แสดงออกเท่าไหร่ ยังรู้สึกควบคุมตัวเองได้ แต่มีผู้โดยสารหญิงวัยทำงานคนหนึ่งนั่งหันข้างให้ผม คงจับสังเกตได้ เธอเสนอที่นั่งให้ผม "นั่งไหมค่ะ" ครั้งแรกผมตอบปฏิเสธ "ไม่เป็นไรครับ"พร้อมคำขอบคุณ ตอนนั้นคิดในใจว่าต้องอดทน พาตัวเองไปให้ถึงป้ายหยุดรถพญาไทให้ได้ อีกแค่ 15 นาที เพราะที่นั้นมีตึกเรียนพิเศษที่ผมยังพอนั่งพักได้
พอรถไฟออกจากสถานีคลองตันได้สักพัก อาการเริ่มรุนแรง หน้ามืด มองเห็นภาพมัว หน้าเริ่มซีดชา หมดแรง ผู้โดยสารหญิงคนเดิมเสนอที่นั่งให้ผมอีกครั้ง ผมจึงตอบรับและกล่าวขอบคุณ พอนั่งลง อาการกลับแย่ลง อาจเพราะเห็นภาพเคลื่อนไหวเวลารถไฟวิ่ง หน้ามืด วิงเวียนศีระษะ หายใจแผ่วเบา มองเห็นภาพมัว กำลังจะเป็นลมอย่างแน่นอน ผมจึงสุ่มถามขอยาดมจากผู้โดยสารหญิงอีกคนที่นั่งข้างกัน เธอนั่งติดหน้าต่าง (ที่นั่งบนรถไฟเป็นที่นั่งชุดละ 4 คน หันหน้าเข้าหน้ากัน) โชคดีที่เธอมียาดม และยื่นให้ผม อาการเริ่มดีขึ้นอย่างช้าช้า จังหวะที่เธอจะลงป้ายหยุดรถอโศก ผมถามขอซื้อยาดม "ผมขอซื้อต่อได้ไหมครับ" เธอรีบตอบว่า "ไม่เป็นไร" พร้อมบอกให้ผมขยับไปนั่งติดหน้าต่างแทนเธอ อาการจะได้ดีขึ้น
พอรถออกจากป้ายหยุดรถมักกะสัน ผมรู้สึกเหมือนจะอาเจียน จึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำบนรถไฟ อยู่ในห้องน้ำสักพัก อาการเริ่มดีขึ้น เพราะมองไม่เห็นอะไร และโชคดีไม่อาเจียน ผมจึงลงป้ายหยุดรถพญาไท และรีบเข้าร้านสะดวกซื้อ หาน้ำหวานดื่มก่อนต่อรถไฟฟ้า BTS ไปทำงานตามปกติ
ถ้าในเวลานั้น ผมไม่ได้ผู้โดยสารหญิงทั้งสองคนที่สละที่นั่งให้ผม โดยที่เธอยืน และอีกคนที่สละยาดมส่วนตัวให้กับผม ผมอาจมีอาการแย่กว่านี้หรือฟื้นมาในโรงพยาบาลแล้วก็ได้ครับ ขอขอบพระคุณน้ำใจคนไทย ที่ไม่เคยทิ้งกัน กระทู้นี้ไม่มีเนื้อหาสำคัญ แต่แบ่งปันความประทับใจแก่กันครับ
ยาดมที่ผู้โดยสารหญิงสละให้ผม