วันนี้คุณพ่อมาหาที่บ้านแต่เช้า ซึ่งผมจะรู้เลยว่าท่านมาต้องการเงิน ท่านนั่งอยู่หน้าบ้านหลังพิงประตูส่วนผมลุกจากที่นอนล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมของขายในครัว สายตาผมก็จะคอยหันไปหน้าบ้านอยู่ตลอดว่าท่านนั่งทำอะไรไม่พูดไม่จาผิดสังเกต ผมก็ทำของต่อจนเวลาเที่ยง เตรียมตัวออกไปส่งให้ลูกค้า คุณพ่อถามว่ามี 5,000 มั้ยไฟที่บ้านถูกตัด ผมรีบตอบตกลงว่ามีเดี๋ยวจัดการให้ เดี๋ยวโอนไปเลย กลับบ้านไปก่อนเลยวันนี้ไม่ว่างคุยด้วยอยู่ก็ไม่มีประโยชน์วันนี้ไม่ว่างจริงๆ ลองออกไปหาประโยชน์ดีกว่า ปกติท่านจะใช้เวลาคุ้มค่าและไม่ยอมเสียเวลาง่ายๆจะทำงานเต็มที่ในทุกๆวัน ท่านก็บอกผมว่าจะเอาเงินสดเดี๋ยวรอ ผมเลยบอกงั้นรอแปบนะเดี๋ยวรีบมาไปส่งของแปบเดียว เพราะต้องกลับมาเตรียมของขายต่อ ผมกำเงินกลับมา 10,000 ในใจคิดว่า จะให้ท่านสัก 9,000 ส่วนผมจะขอเก็บไว้ 1,000 พอมาถึงผมส่งเงินให้ท่าน ท่านบอก 50,000 บาท ฟังยังไง 5,000 ผมมองหน้าเเล้วเห็นถึงสีหน้าผิดหวังท่านคงคิดว่า ผมกำเงินมา 50,000 บาท ผมเลยเดินเข้าครัวเตรียมของทำต่อ เวลาบ่ายๆ ท่านเดินเข้าไปนอนในห้องผม ผมเลยเดินเข้าไปเปิดแอร์ในห้องให้ แล้วบอกว่าเอาไรมั้ยกินข้าวก่อนดีกว่าเพราะคนเราเวลาอิ่มแล้วสมองจะแล่นถ้าไม่แล่นก็นอนจะได้ไม่เครียด ท่านบอกไม่เอา แล้วผมก็ออกมาทำของต่อ สักพักท่านสตาร์ทมอไซออกไป ไม่รู้ว่าไปไหนขับรถผมไปด้วย ท่านไม่ใช่คนเเถวนี้และไม่เคยขับมอไซออกไป ผมเอะใจไปไหนไปทำอะไร แล้วก็กลับมา มานั่งหน้าบ้านผมเดินออกไปนั่งข้างๆท่านบอกเอาเล่มรถยนต์มาจะไปขึ้นเงินติดล้อ ผมเลยพูดขึ้นไปว่าจะทำแบบนั้นได้อย่างไร ผมมีทางเดินของผมแล้ว ท่านก็มีทางเดินของท่านตอนนี้ผมมาไกลแล้ว ลูก2คน ภรรยา1คน ผมมีครอบครัวต้องรับผิดชอบ ผมคงให้ไปไม่ได้จริงๆมันดูไม่ดีเลย ลองคิดดูให้ดีๆนะเรากำลังเอาเงินไปใช้หนี้อีกที่ แล้วเป็นหนี้อีกที่มันใช่แล้วใช่ไหม ผมอธิบายแบบนี้ไม่มีวันจบสิ้นแน่นอน ถึงแม้จะใช้หนี้เงินติดล้อก็ยังมีหนี้อื่นอีกที่ต้องใช้ ซึ่งทุกอย่างมันจะยิ่งแย่ลงกว่านี้ ผมมองถึงภายภาคหน้า ลองหาทางอื่นดูก่อน แล้วท่านก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พร้อมกับมีรายรับอีกจำนวน ร่วม 100,000 บาท แต่ยังไม่ได้ถูกผัดเป็นข้าว ผมเลยบอกโทรไปเลยตอนนี้เรามีเหตุผลจำป็นต้องใช้ ศักดิ์ศรีกินไม่ได้แล้วตอนนี้ ท่านบอกว่ารอก่อนๆเดี๋ยวเขาบอกจะโอนให้ 3-4วัน ผมเลยบอก เราแค่โทรไปว่า ยังไงถ้าได้เงินแล้วให้รีบโอนให้ผมทันทีเลยนะครับพอดีมีเหตุผลจำเป็นต้องใช้ ท่านคงกลัวเสียฟอมจากที่ผมดู มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ผมก็เข้าใจนะลูกค้าจะไปจี้มากๆก็ไม่ดี ผมเลยเอ่ยขึ้นว่าตอนนี้ท่านเห็นมั้ยครอบครัวกำลังเดือดร้อนนะซึ่งมันลามมาถึงครอบครัวผมแล้ว คนที่เราควรแคร์ไม่ใช่เขา แต่คือครอบครัว ผมบอกธุรกิจที่ท่านทำไปไม่รอดแล้วตัดสินใจให้เด็ดขาดเลยว่าจะเอายังไง หลายปีมานี้ท่านเป็นอยู่แบบนี้ ที่ผ่านมาผมมองว่าท่านกำลังหลอกตัวเองว่าเดี๋ยวคงได้เงิน พอได้มาก็หมดไม่เหลือตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโตท่านไม่มีเก็บเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็มีหนี้ก้อนโตซะแล้ว ผมบอกว่าเห็นผมไหมตอนนี้ผมมาไกลแล้วนะผมซื้อรถยนต์ซื้อสด ในขณะที่ท่านผ่อน ผมยอมเก็บเงินอยู่นานเพราะกลัวการเป็นหนี้ ขึ้นชื่อว่ารถ มันลดจริงๆครับคิดดูต้องผ่อน ต้องเติมน้ำมัน ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวอื่นๆอีกมากมาย ผมเลยตัดสินใจซื้อสดแล้วให้เป็นชื่อคุณพ่อ วันนี้ผมเลยพูดขึ้นว่าผมรู้นะว่าท่านมีหนี้สินมากมายท่านลองงคิดดูวันนึง ท่านถูกยึดทรัพย์ขึ้นมารถผมจะถูกยึดไปด้วยเพราะเป็นชื่อท่าน ตอนนี้ผมมีเงินอยู่ 100,00 กว่าบาท ผมให้ไปไม่ได้ผมจำเป็นต้องลงทุนทำธุรกิจของผมก็จะเหลือเงินอยู่ 10,000 กว่าบาท
แล้วท่านก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ผมมองตามน้ำตาคลอผมเสียใจที่ผมช่วยพ่อไม่ได้เลยหรอว่ะ พ่อจะเป็นยังไง พ่อจะเสียใจมั้ยที่ลูกคนนี้พึ่งพาไม่ได้ ผมเครียดมากๆ แล้วออกไปส่งของที่เตรียมไว้ขับมอไซไปแบบสมองชาคิดแต่เรื่องเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำไมผมถึงช่วยไม่ได้ ทำไมผมถึงเห็นแก่ตัวแบบนี้ นั่นพ่อทั้งคนนะ นี่ก็ภรรยากับลูกเครียดมากๆเลือกอะไรไม่ได้ ไม่ช่วยพ่อก็ผิดหวัง ช่วยลูกเมียก็ไม่มีกิน
เลือกอะไรดี? ระหว่างครอบครัวที่เราสร้าง กับครอบครัวที่สร้างเรา
แล้วท่านก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ผมมองตามน้ำตาคลอผมเสียใจที่ผมช่วยพ่อไม่ได้เลยหรอว่ะ พ่อจะเป็นยังไง พ่อจะเสียใจมั้ยที่ลูกคนนี้พึ่งพาไม่ได้ ผมเครียดมากๆ แล้วออกไปส่งของที่เตรียมไว้ขับมอไซไปแบบสมองชาคิดแต่เรื่องเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำไมผมถึงช่วยไม่ได้ ทำไมผมถึงเห็นแก่ตัวแบบนี้ นั่นพ่อทั้งคนนะ นี่ก็ภรรยากับลูกเครียดมากๆเลือกอะไรไม่ได้ ไม่ช่วยพ่อก็ผิดหวัง ช่วยลูกเมียก็ไม่มีกิน