ตอนเด็กๆเราขี้เกียจเรียนมาก หยุดเรียนเป็นอาทิตย์ๆ อ้างปวดท้อง ปวดหัวมันทุกวัน
ตอนนั้น8ขวบอยู่กับก๋งกับยาย ยายที่รักและตามใจมาตลอด วันนั้น..ยายคงหมดความอดทน เด็ดก้านมะยมหน้าบ้านวิ่งไล่ตีให้ไปโรงเรียน เราวิ่งหนียายไปกรี๊ดไป ดราม่าปวดท้องไป ยายถือไม้ก้านมะยมตามจนถึงบ่อปลาสวายหลังบ้าน เราเดินลุยลงบ่อด้วยอารมณ์เด็กโง่อยากเอาชนะ
ยายทิ้งไม้ก้านมะยมแล้วรีบลงมาจูงขึ้นจากบ่อ เพราะปลาสวายที่เลี้ยงบ่อนั้นตัวใหญ่และเยอะมาก อะไรลงไปมันตอดกันหมุบหมับๆ
วันนั้นเราไม่ต้องไปโรงเรียน ยายโดนก๋งบ่น ปล่อยให้มันโดนปลาตอดให้ตาย ไปห้ามมันทำไม
คืนนี้นเรานอนร้องไห้สงสารยาย กลัวยายโดนปลาตอดตาย😭
เป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนจบป.6 เราตั้งใจจะไม่เรียนต่อ ยายไปตามพี่คนนึงเป็นญาติทีเรารักและสนิทมาก ให้ช่วยพูดกล่อมให้ไปเรียนต่อ พี่พูดอยู่นานจนยอมไปเรียนต่อ ม.1
ที่โรงเรียน เราโดนเรียกดุเรียกตีประจำ จากครูประจำชั้น เรื่องไม่ตั้งใจเรียน เรื่องคุยเล่นในห้องตลอดเวลา
และวันหนึ่ง...วันนั้นวันประกาศผลสอบตอนอยู่ ม.1เทอม2 ปรากฏว่าราสอบได้ที่2 ซึ่งเราก็งงมากๆว่าเป็นไปได้ยังไง แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้นคือ.....
ครูประจำชั้นที่เคยดุ เคยบ่น เคยตี เดินเข้ามาหา ครูยิ้ม...แล้วโอบไหล่ พูดว่า...
"ครูดีใจด้วยนะที่เธอสอบได้ที่ 2 และครูขอโทษที่มองเธอผิดไป"
อยากจะบอกครูว่า....คำพูดครูเหล่านั้นเปลี่ยนชีวิตเด็กคนนึงไปตลอด หลังจากนั้นเรากลายเป็นเด็กตั้งใจเรียนไปเลย
เย็นนั้น...เราเอาผลสอบวิ่งกลับบ้านไปให้ยายดู ยายดีใจมากๆ เด็กเกเรขี้เกียจเรียนมันสอบได้ที่2ได้ยังไง ก๋งก็นั่งอมยิ้ม(เรารู้นะว่าก๋งก็ดีใจ) และทุกครั้งที่ประกาศผลสอบ ยายจะคอยเงี่ยหูฟังนั่งลุ้นว่าจะมีชื่อเรามั้ย (บ้านยายอยู่หลังโรงเรียน)
และยายก็ต้องดีใจเหมือนถูกหวย เราจะสอบได้ที่1 ไม่ก็ที่ 2 จนจบชั้นม.3 เพราะเราเริ่มติดใจที่มีคนชื่นชมในความเป็นเด็กดีมากกว่าโดนบ่นเรื่องเกเร
"ครู" คนที่เราระลึกถึงเสมอ ตอนนั้นครูเพิ่งจบมาสอนได้ปีแรก อายุคงไม่เกิน 22-23 เราจำเเววตากล้าๆกลัวๆของครูในวันนั้นได้ดี วันที่ครูยืนมองเราสักพัก แล้วเดินมากอดไหล่ แสดงความยินดีและขอโทษที่มองเราผิดไป
ครูมีหัวใจของแม่พิมพ์ และครูก็เปลี่ยนชีวิตเด็กคนนึงให้กลับมาเดินถูกที่ถูกทาง ด้วยความกล้าหาญในวันนั้นแล้ว
ด้วยความระลึกถึงครู
เสมอ
Cr: picture by moe.go.th
ครู..ในความทรงจำ
ตอนนั้น8ขวบอยู่กับก๋งกับยาย ยายที่รักและตามใจมาตลอด วันนั้น..ยายคงหมดความอดทน เด็ดก้านมะยมหน้าบ้านวิ่งไล่ตีให้ไปโรงเรียน เราวิ่งหนียายไปกรี๊ดไป ดราม่าปวดท้องไป ยายถือไม้ก้านมะยมตามจนถึงบ่อปลาสวายหลังบ้าน เราเดินลุยลงบ่อด้วยอารมณ์เด็กโง่อยากเอาชนะ
ยายทิ้งไม้ก้านมะยมแล้วรีบลงมาจูงขึ้นจากบ่อ เพราะปลาสวายที่เลี้ยงบ่อนั้นตัวใหญ่และเยอะมาก อะไรลงไปมันตอดกันหมุบหมับๆ
วันนั้นเราไม่ต้องไปโรงเรียน ยายโดนก๋งบ่น ปล่อยให้มันโดนปลาตอดให้ตาย ไปห้ามมันทำไม
คืนนี้นเรานอนร้องไห้สงสารยาย กลัวยายโดนปลาตอดตาย😭
เป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนจบป.6 เราตั้งใจจะไม่เรียนต่อ ยายไปตามพี่คนนึงเป็นญาติทีเรารักและสนิทมาก ให้ช่วยพูดกล่อมให้ไปเรียนต่อ พี่พูดอยู่นานจนยอมไปเรียนต่อ ม.1
ที่โรงเรียน เราโดนเรียกดุเรียกตีประจำ จากครูประจำชั้น เรื่องไม่ตั้งใจเรียน เรื่องคุยเล่นในห้องตลอดเวลา
และวันหนึ่ง...วันนั้นวันประกาศผลสอบตอนอยู่ ม.1เทอม2 ปรากฏว่าราสอบได้ที่2 ซึ่งเราก็งงมากๆว่าเป็นไปได้ยังไง แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้นคือ.....
ครูประจำชั้นที่เคยดุ เคยบ่น เคยตี เดินเข้ามาหา ครูยิ้ม...แล้วโอบไหล่ พูดว่า...
"ครูดีใจด้วยนะที่เธอสอบได้ที่ 2 และครูขอโทษที่มองเธอผิดไป"
อยากจะบอกครูว่า....คำพูดครูเหล่านั้นเปลี่ยนชีวิตเด็กคนนึงไปตลอด หลังจากนั้นเรากลายเป็นเด็กตั้งใจเรียนไปเลย
เย็นนั้น...เราเอาผลสอบวิ่งกลับบ้านไปให้ยายดู ยายดีใจมากๆ เด็กเกเรขี้เกียจเรียนมันสอบได้ที่2ได้ยังไง ก๋งก็นั่งอมยิ้ม(เรารู้นะว่าก๋งก็ดีใจ) และทุกครั้งที่ประกาศผลสอบ ยายจะคอยเงี่ยหูฟังนั่งลุ้นว่าจะมีชื่อเรามั้ย (บ้านยายอยู่หลังโรงเรียน)
และยายก็ต้องดีใจเหมือนถูกหวย เราจะสอบได้ที่1 ไม่ก็ที่ 2 จนจบชั้นม.3 เพราะเราเริ่มติดใจที่มีคนชื่นชมในความเป็นเด็กดีมากกว่าโดนบ่นเรื่องเกเร
"ครู" คนที่เราระลึกถึงเสมอ ตอนนั้นครูเพิ่งจบมาสอนได้ปีแรก อายุคงไม่เกิน 22-23 เราจำเเววตากล้าๆกลัวๆของครูในวันนั้นได้ดี วันที่ครูยืนมองเราสักพัก แล้วเดินมากอดไหล่ แสดงความยินดีและขอโทษที่มองเราผิดไป
ครูมีหัวใจของแม่พิมพ์ และครูก็เปลี่ยนชีวิตเด็กคนนึงให้กลับมาเดินถูกที่ถูกทาง ด้วยความกล้าหาญในวันนั้นแล้ว
ด้วยความระลึกถึงครูเสมอ
Cr: picture by moe.go.th