ยังจำกันได้ไหม โดนตีครั้งไหนเจ็บสุดๆ

ชีวิตของผมนั้นดูเหมือนจะอยู่คู่กับไม้เรียวมาตลอด
เริ่มจากตอนเล็ก ร้องงอแง พูดแล้วไม่ฟัง ก็เริ่มด้วยไม้พื้นฐานคือ ก้านมะยมหลังบ้าน

แล้วพอโตขึ้นมา ก็มีกฎที่ที่พ่อตั้งไว้ เช่น ห้ามหนีเที่ยว ห้ามโกหก ห้ามโดดเรียน
และข้อที่สำคัญถ้าอาจารย์ที่โรงเรียนโทรมาบอกว่าโดนทำโทษ กลับบ้านต้องโดนเพิ่มอีกเท่า

กฎทุกข้อนี้นะครับผมเคยแหกหมดแล้ว เพราะผมในตอนนั้นเป็นคนที่เกเรพอสมควร และโดนลงโทษมาแล้วทุกรูปแบบ
ห้ามหนีเที่ยวก็จะหนี เช่น งานวัด งานกาชาด แล้วไม่ได้บอก
พ่อกลับบ้านมาไม่เห็นแกก็จะนั่งรอ พร้อมหวายคู่ใจ หวายเส้นนี้ยาวประมาณ 1 เมตร เป็นหวายที่ตีเจ็บที่สุดในโลก
พอผมกลับบ้านเห็นพ่อนั่งรอก็รู้แล้วว่าต้องโดนอะไร กลับมาไม่ต้องพูดอะไร ยืนกอดอกทันที
แล้วหวายนั้นก็จะลงมาที่ก้นตามจำนวนสองเท่า กลับบ้าน 4 ทุ่ม ก็ 20 ที แต่ตีแล้วร้อง ก็ไม่นับ เป็นการฝึกความอดทน
โดนตีจนก้นลายเป็นแนว เลือดซิบ แล้วพ่อก็ช่วยทายาให้

บางครั้งครูที่โรงเรียนโทรมา กลับบ้านก็ต้องรู้ชะตาตัวเอง โดนตีแอ่นแล้วแอ่นอีก หวายลงก้นดังขวับ ขวับ เจ็บมากๆ
บางครั้งพ่อรอให้เปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้าน คือกางเกงบอลธรรมดา ถ้าช้าโดนเพิ่ม

และโทษที่ร้ายแรงที่สุดคือ โดดเรียน มีเรื่องชกต่อย โดนครูที่โรงเรียนตี
กลับบ้าน พ่อเรียกเข้าห้องส่วนตัวคุยกันด้วยเหตุผล แล้วตีซ้ำ เจ็บมาก โดนประจำ ตี 10 ที 20 ที
เวลาโดนหวายหวดถือว่าเจ็บที่สุด เพราะตอนตีลงมาโดนก้นก็เจ็บ แล้วหวายจะเด้งกลับมาอีกรอบ

ที่โรงเรียน ก็โดนตีเหมือนกัน เวลาลืมทำการบ้านมา ครูก็ไม้เรียวลง
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมทะเลาะกับเพื่อน มีเรื่องกันนิดหน่อย ครูมาเห็นเลยโดนครูซะหลายที กลับบ้านก้นลายเลย
ครูสั่งให้ไปทำการบ้าน แต่ตอนนั้นผมไปเล่นเกมส์เลยลืมทำ ตอนเช้าส่งการบ้านไม่ทัน โดนครูตีจนแทบนั่งไม่ลง

ตอนอยู่ ม.ปลาย มีเรื่องจนเข้าห้องปกครอง แล้วก็โดนตีซะ
แถมกลับบ้าน พ่อรู้เรื่องจากครูอีก ความเจ็บที่โรงเรียนยังไม่หาย กลับบ้านต้องโดนหวายพ่อตีอีก
ก่อนตีพ่อถามว่าเท่าไหร่ ผมตอบไปว่าแล้วแต่พ่อครับ
คราวนี้พ่อหวดซะหลายที เจ็บมาก นั่งแทบไม่ได้ ก้นเป็นลายเลย เข็ดอีกนาน
การลงโทษที่เคยโดนมานะครับ มีทั้งไม้หวาย ไม้เรียว ไม้ไผ่ เข็มขัด ก้านมะยม

แต่ผมได้ดีเพราะไม้เรียวของพ่อและครู ขอบคุณพ่อและครูมากครับที่ทำให้ผมได้ดีจนถึงทุกวันนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่