เรื่องเล่าจากลาดักห์ Backpack Leh trip Diary 10 วัน 9 คืน (มิถุนายน 2561 : Summer season) Part 3

  Leh trip diary ( มิถุนายน 2561 : Summer season )
    บันทึกการเดินทางนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสเขียนอะไรแบบนี้ขึ้นมาเลย ครั้งนี้จะไปกันที่เมืองLeh ในแคว้นLadakh โดยผมจะแบ่งเป็น 6 part สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน หรือ อยากติดตาม part ไหน รูปเยอะมั่กๆ สามารถติดตามได้ตามนี้เลยยย

0.เรื่องทั่วไปๆก่อนออกเดินทาง (เช่น ข้อมูลสำคัญ แผนการเดินทาง ค่าใช้จ่าย) : https://ppantip.com/topic/38453605
1.การเดินทางวันที่ 1 - 2 ( BKK - Delhi - Leh ) : https://ppantip.com/topic/38453667
2.การเดินทางวันที่ 3 - 4 ( Leh - Southeast side trip - Nubra valley ) : https://ppantip.com/topic/38453888
3.การเดินทางวันที่ 5 - 6 ( Nubra valley - Pangong lake - Leh ) : https://ppantip.com/topic/38454110
4.การเดินทางวันที่ 7 - 8 (Leh - Leh - West side trip) : https://ppantip.com/topic/38455237
5.การเดินทางวันที่ 9 - 10 (Leh - Delhi - BKK) : https://ppantip.com/topic/38455304


Part 3



Day 5 ( Nubra valley - Pangong lake )

ตื่นมาเช้าวันนี้ หนาวเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีน้ำอุ่นแล้ววว ความสดชื่นมันเป็นอย่างงี้นี่เอง หลังจากหมักความเค็มมาทั้งคืน5555 มากินอาหารเช้าที่ทางที่พักจัดให้ เป็นไข่เจียว Omelette, Toast แล้วเพิ่มความฟินต้านความหนาวด้วย ชาดำ เติมพลังเสร็จแล้ว สายเปย์ก็ไปเปย์ค่าห้อง แล้วสายเปย์ก็ออกเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่ Pangong lake วันนี้มันก็จะเบื่อหน่อยๆนั่งแต่รถ ทางที่เราผ่านวันนี้ส่วนใหญ่เป็นทางลูกรัง ข้างทางก็มีหินทั้งใหญ่และเล็ก นั่นแหละ แต่หินมันก็คือหินอ่ะเนอะ555 ใจจริงก็อยากจะนอนแหละ แต่ทางขรุขระมาก แทบไม่ได้นอนอย่างสงบสุขเลย



และแล้วคนขับก็มาจอดพักที่จุด Refreshment Point

เห็นคนขับไปเติมน้ำจากลำธารที่ไหลมา แถมสามารถใช้ดื่มได้เลยด้วย นี่มันน้ำบริสุทธิ์จากเทือกเขาหิมาลัย

คนขับเติมน้ำ ส่วนผมขอไปห้องน้ำ5555 พอเดินไปถึงห้องน้ำ เห็นห้องน้ำก็ช็อคไปสักพัก555 เพราะเป็นผ้าปิดรอบๆ ถ้าเป็นของผู้ชายข้างในมีโถฉี่อยู่อันเดียว


ถ้าจะทิ้งระเบิดสีเหลืองนี่ไม่รู้ต้องทำไงนะ555 แต่ที่รู้ๆคือข้างในห้องน้ำมองออกมาก็จะวิวสวยมว๊ากๆ ฉี่ออกแน่นวลล สงสัยบ้างแมะ ต้องเป็นคนยังไงถึงมีอารมณ์ถ่ายรูปในห้องน้ำได้555 ไม่ต้องสงสัยหรอก เพราะก็ยังสงสัยตัวเองเหมือนกัน555

พอเสร็จปุ้บ ข้างๆห้องน้ำจะมีหินก้อนใหญ่ๆเต็มไปหมดเลย วิวก็สวย





จริงๆก็เริ่มจะชินกับวิวสวยๆละ555 แต่ก็ดีได้บรรยากาศแปลกใหม่ดีเหมือนกัน



เสร็จแล้วผมก็นั่งรถต่อไปยาวๆไป มีอยู่ช่วงนึงข้างทางเหมือนเราวิ่งอยู่ระหว่างเขาสองลูก มีแม่น้ำขนาบถนน

ตรงนี้ผมได้มีโอกาสเห็นฝูงกวางภูเขาด้วย ดูในรูปสังเกตดีๆ สีมันค่อนข้างจะกลืนกับสีภูเขามาก
ขับผ่านหมู่บ้าน Durbuk ด้วย ซึ่งเป็นหมู่บ้านสองข้างทางถนน


คนขับรถจอดให้ผมกินข้าว เท่าที่สังเกตมาเนี่ย ตั้งแต่ออกมาจาก Leh เมนูร้านข้าวก็เหมือนๆกันทุกร้านเลย มีเมนูให้เลือกค่อนข้างน้อย เช่น พวก Noodles(ผัดเส้น) , Fried rice แล้วก็พวก Omelette มีอยู่แค่เนี้ยตลอดทาง ถ้ามาทางนี้ยังไงก็ต้องเห็นแต่เมนูพวกนี้จนเบื่อแน่นอน555


แถมรูปห้องน้ำด้วยละกันนะ555 คือแบบ ทุกที่มีห้องน้ำหลายแบบมากๆแปลกตาดี อย่างอันนี้พอฉี่เสร็จ เดินออกมาก็จะเห็นฉี่ไหลลงไปที่หลุมหลังห้องน้ำ555

พักเรื่องห้องน้ำไว้แค่นี้ก่อน555 บางทีก็สงสัยว่าเล่าเรื่องพวกนี้ทำไม555 จริงๆแถวๆนี้ก็มีร้านอื่นด้วยนะ แบบพวกร้านเบเกอรี่,ร้านกาแฟไรงี้ น่ากินเต็มไปหมดเลย แต่ผมไม่อยากให้คนขับรอนาน ไปกันต่อเลยดีกว่า

ขับไปเข้าใกล้ Pangong มากขึ้นเรื่อยๆ ทะเลสาบ Pangong เนี่ยเป็นทะเลสาบน้ำเค็ม ซึ่งที่นี่ไม่ใช่ของอินเดียทั้งหมดนะ แต่แบ่งเป็นของอินเดีย 60% และอีก 40%เป็นของทิเบต(จีน) ดังนั้นถ้าเรามุ่งหน้าไปที่ Pangong หมายความว่าเราก็จะเข้าใกล้ชายแดนมากขึ้นด้วย ทำให้จะผ่านพวกค่ายทหาร เจอทหารมากขึ้นเรื่อยๆ ตรงนี้เลยจะมีการตรวจใบ Permission ด้วย พอขับต่อไปอีกไปใกล้ๆ Pangong lake จะมีทุ่งโล่งๆข้างทาง

ผมเลยบอกคนขับว่า อยากเจอตัวMarmot พาไปหาหน่อย5555 สุดท้ายคือก็เจอแหละ ลงรถมา แต่ถ่ายรูปไม่ทัน เดินหาอยู่นานก็เจอแค่รู

มันไม่ยอมโผล่มา ทันแค่เนี้ยรูปเดียวเอง 5555

ไว้มาถ่ายตอนขากลับพรุ่งนี้ละกัน เอารูปวิวแถวนี้ไปก่อน

พอไปเรื่อยๆ ตอนใกล้จะถึงเข้าเต็มที เห็นเศษเสี้ยวของทะเลสาบ มันทำให้ผมรู้สึกใจเต้นขึ้นมาว่าความฝันที่เคยอยากมาเมื่อ 4 ปีก่อน มันเกิดขึ้นจริงอีกเรื่องแล้ว พอเข้ามาใกล้ๆเห็นกี่ทีก็ชื่นใจ555

ยังไม่ทันหายตื่นเต้น คนขับก็จอดรถให้ลงไปถ่ายรูปแล้ว ลงมาจากรถก็จะเห็น แม่ค้าชวนให้มาถ่ายรูปกับที่นั่งสามที่เป็นรูปก้น แล้วก็มีรถแนวๆ Vespa ทั้งหมดนี้ก็คือทำตามหนังเรื่อง 3 Idiots ที่นั่งก็คือแบบโปสเตอร์หนังนี้เลย

ส่วนมอเตอร์ไซค์ก็เหมือนตอนที่นางเอกขับรถมาหาพระเอกตอนสุดท้าย

แบบนี้ถือว่าสปอยไหมเนี่ย = =“ เอาเข้าจริง 4ปีก่อนหน้านี้ ความอยากมาที่นี่ก็เริ่มหายไปทีละนิดๆ แต่เมื่อปีก่อน หนังเรื่องนี้แหละ เป็นเหมือนตัวกระตุ้นให้ไฟลุกโชนอีกครั้งในใจ เป็นหนังที่ดีมากๆ ให้แง่คิดแรงบันดาลใจเยอะมาก ถ้าได้ดูก่อนมาที่นี่ จะช่วยเพิ่มความฟินได้อีกเยอะเลย5555

แต่นั่นแหละเสียดายเงิน ง่ายๆก็คืองกอ่ะ5555 เราต้อง On budget ถ่ายรูปเสียตัง เราไม่ถ่าย555 ผมเลยลงมาหาที่ถ่ายรูปที่วิวสวยๆไม่ค่อยมีคน


เห็นหลายคนถ่ายรูปตอนกระโดดกัน เลยลองทำตามบ้าง แต่พอถึงตาผม ขามันติด กระโดดไม่ค่อยออก555 เพื่อนผมถ่ายประมาณ 3เทคก็ได้รูปแล้ว แต่ผมต้องประมาณ30เทคได้ กว่าจะได้ท่ากระโดดนี้ แค่นี้ก็ถ่ายนานมากละอ่ะสัก20นาทีได้

เหนื่อยมากอ่ะเพราะยิ่งขึ้นมาที่สูงก็ยิ่งเหนื่อยง่าย ดังนั้นรักษาพลังงานด้วย จุ๊บๆ พอกระโดดเสร็จแล้วก็ไปหาถ่ายวิว ถ่ายพาโนรามา หาอะไรถ่ายชิวๆดีกว่า ตรงนี้สีอาจจะเพี้ยนบางรูปนะ ปรับค่ากล้องผิด TT อีกอย่างนึงคือ สีของทะเลสาบเนี่ย มันจะเปลี่ยนได้ เปลี่ยนตามแสงอาทิตย์ตกกระทบกับทะเลสาบในองศาที่ต่างๆกัน อย่างตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ สีจะสวยฟ้าใสๆ แต่ถ้าตอนเย็นแบบวันนี้ก็จะได้สีเข้มๆหน่อย







ตอนแรกพอถ่ายรูปเสร็จ ผมก็กำลังจะกลับแล้ว เพื่อนบอกผมว่า เออไม่Stackต่อหินหน่อยหรอวะ เห็นพูดมาทั้งทริปว่าอยากต่อหิน นั่นดิ ลืมไปเลย คือที่ผ่านมาไปที่ไหนก็จะมีแต่คนStackหินกัน ทำกันทุกที่ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำมาก โดยการต่อหินเนี่ยผมไปถามคนขับรถมาเขาบอกว่า สมัยก่อนถูกใช้เพื่อทำเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเป็นเจ้าของอาณาเขต แต่ก็มีคนอีกหลายกลุ่มบอกว่าเพื่อความโชคดี หรือบ้างก็ว่าเหมือนการสร้างสถูป สร้างได้ทุกที่ แม้แต่หินก้อนเล็กๆก็ยังสร้างสถูปได้เลย ผมเลยลองต่อสัก10กว่าชั้นไว้ตรงข้างๆทะเลสาบไว้เป็นที่ระลึกเนอะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่