จะกี่ครั้งก็ยังเทให้ Leh (Ladakh) หมดใจ เดินทาง 13-21/4/2024 (ตอนที่ 2)

กลับมาต่อตอนที่ 2 กันค่ะ
สำหรับคนที่สนใจตอนแรก ติดตามได้ที่ link นี้ค่ะ https://ppantip.com/topic/42719516

เรามุ่งหน้าไปที่ Hundra Nubra Valley แต่ระหว่างทางเราแวะถ่ายรูปที่ริมลำธาร ไม่รู้ชื่อสถานที่ ตอนเปิดประตู ปิดแทบไม่ทันเพราะพายุทรายพัดมา นั่งรอสักพักก็ตัดสินใจเผชิญหน้าความเป็นจริงอย่างไม่ลดละ ได้รูปสวย ๆ มาบ้าง แต่และผลสรุปคือทรายเข้าตา เข้าปาก ติดตัวเต็มเลย 

แล้วก็ไปจบที่สุดท้ายของวันนี้คือ Hunder sand dune ที่นี่เน้นกิจกรรมสำหรับคนที่ต้องการขี่อูฐชมวิว ยิงธนู ขี่ ATV แต่สำหรับทีมเรานั้น ไม่สนใจสักกิจกรรมค่ะ เป็นทีมเกร๋ ๆๆ คนอื่นมาได้รูปขี่อูฐกลับไป แต่เรานั้นเน้น เล่นบทผู้ประสบภัยค่ะ เดินขึ้นไปบนเนินทราย แล้วเอาตัวเองไปปะทะกับพายุทะเลทราย ผลคือเข้าตา เข้าหู เข้าปาก ทุกส่วนของอวัยวะฉาบไปด้วยทราย 555+++ 

หากสมาชิกคนใดตั้งตารอการรีวิวการขี่อูฐ เราต้องขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้ไม่ได้นะคะ เพราะทั้งสองรอบไม่มีประสบการณ์ในด้านขี่อูฐเลยค่ะ นานาจบข่าว

หลังจากนั้นก็เข้าโรงแรม ที่ Lobby พนักงานเอา welcome drink และ ผ้าพันคอสีขาว (น่าจะเป็นผ้าผ่านพิธีมงคลสักอย่าง) คล้องคอ และพาเราเข้าห้องพัก หลังก้าวผ่านประตูห้อง เราได้แต่ร้อง Wowwww.... ไม่หยุดปาก เป็นห้องพักที่ใหญ่โต สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน วิวอลังการ ต้องขอบคุณ คุณหนิง Lucky Team in Ladakh ที่จัดให้อย่างสาสม สนองความต้องการพักผ่อนยาว ๆ ในคืนนี้

เพราะวันนี้ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 6 ชม. ระหว่างทางเราเผชิญหนักกับสภาพอากาศ มีทั้ง หิมะตก พายุทราย ฝนตกปรอยๆ แสงแดงแรงๆ  แน่นอนเราต้องการเตียงนุ่มๆ อาหารเย็น ดี ๆ ซึ่งคุณหนิงก็สายตรงมาจัดให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องโคมาวอ



17/4/67 (วันที่ 4) : วันนี้เราจะเดินทางไป Pangong Lake เป็นทะเลสาบที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 4,200 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม. ระหว่างทางเราแวะถ่ายรูปข้างลำธารจุดเดิม แต่เช้านี้อากาศดีมาก ลมพัดโชยเย็น ๆ แสงแดดอ่อน ๆ วิวริมลำธารกับแสงแดดยามเช้า ทำให้เรารู้สึกว่าการเดินทางในวันนี้ต้องมีอะไรดี ๆ รอเราอยู่ข้างหน้าแน่ ๆ 


และเมื่อมาถึง Pangong Lake ทั้งลม และความหนาวก็ปะทะกับร่างกายของเราอย่างจัง ทำให้คิดไปถึงคืนนี้ว่าเราจิ นอนกันได้อย่างไร เพราะอากาศหนาวมาก เราเดินลงไปถ่ายรูปกับทะเลสาบด้วยอาการตัวงอค่อย ๆ เดิน แต่เมื่อถึงจุดถ่ายรูป ด้วยความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ เราก็โพสต์ท่ากันแบบไม่หวั่นในความหนาว เพราะกลัวรูปที่ออกมาไม่สวย หน้าที่ในการเป็นนางแบบมันค้ำคอนะ 555++




หลังจากนั้นเราก็เข้าพักที่โรงแรม เมื่อพนักงานโรงแรมพามาที่ห้อง แนะนำว่ามี Heater และผ้าห่มไฟฟ้า เราแทบอยากจะกระโดนกอดนาง คิดในใจว่ารอดตายแล้วคืนนี้ ต้องกลับมาขอบคุณ คุณหนิง Lucky Team in Ladakh อีกครั้งที่รู้ใจลูกค้าว่าต้องการอะไร และจัดสรรไว้ให้อย่างลงตัวโดยมิต้องร้องขอใด ๆ เม่าผิงไฟเพี้ยนmbpt

จากที่เราติดตามอ่านเรื่องเล่าจากทีมอื่น ที่นี่จะมีคนออกมาชม และ ถ่ายรูปทางช้างเผือกเก็บไว้ แต่ทีมเราไม่เอาอะไรเลย สิงสถิตย์กันอยู่ในห้อง กล้องดูดาวมีหน้าห้อง ยังมิย่างกลายออกไปส่อง เรียกได้ว่าศีลเสมอกันอย่างแท้ทรู ก็คนมันหนาวอะเนอะ 555+++

18/4/67 (วันที่ 5) : เช้านี้เพื่อนเราบ่นนิดหน่อยว่าปรับที่นอนไฟฟ้าร้อนไปเมื่อคืน รู้สึกอัดอัด ดีที่เราไม่ได้ปรับอะไรเลย วันนี้เราจะเดินทางไปพักที่ Tso Moriri ใช้เวลาประมาณ 7 ชม. จึงออกเดินทางเช้ากว่าปกตินิดหน่อย ระหว่างทางเราแวะถ่ายรูปคู่กับ Pangong Lake ที่จุดชมวิว เพื่อเก็บความทรงจำก่อนบอกลากันอีกครั้ง บ่นกับตัวเองหวังว่าจะได้กลับมาสบตากันอีกนะ Pangong Lake เสียงเพื่อนตะโกนช๊อตฟีลบอกว่า มาคนเดียวเด้อ ไม่มาเป็นเพื่อนแล้ว 555+++


ระหว่างทางที่จะมา Tso moriri เรามีอาการแน่นหน้าอก หายใจเข้า - ออก ก็รู้สึกปวดหน้าอกมาก ไม่แน่ใจะว่าเกิดจากอะไร เรากินยาแก้แพ้ความสูงแล้ว ก็ไม่ดีขึ้น เราตัดสินใจกินยาลมสมุนไพรไทยชื่อ ยาลม 108  ที่พกไป และแกะแผ่นแปะปวดตราเสือแปะตรงที่รู้สึกแน่น สักพักก็มีอาการดีขึ้นบ้าง

ที่จุดชมวิว Tso Moriri ลมแรง และ อากาศหนาวมาก ไม่สามารถนั่งเล่นชิลล์ ๆ ได้อีกแล้ว (มารอบแรกนั่งเล่นได้นานเลย)

พอถึงโรงแรมเราก็ซุกตัวนอนพักกันบนที่นอน ประมาณ 19.00 น. พนักงานโรงแรมมาเคาะประตูเรียกบอกว่าขอเลื่อนเวลาอาหารเย็นเราเป็นประมาณ 20.00 น. เราบอกว่าไม่เป็นไร เราไม่ทาน แต่น้ำในห้องน้ำเราไม่ไหล ได้คำตอบกลับมาว่าอากาศหนาวทำให้ท่อส่งน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่มีน้ำใช้ OMG!!

วิธีแก้ปัญหาคือตักน้ำมาเพิ่มในห้องน้ำให้เรา เราขอน้ำร้อนเพื่อใช้ต้มบะหมี่ ประมาณ 20.00 น. พนักงานกลับมาพร้อมกับถังน้ำใช้ในห้องน้ำ น้ำร้อนที่ขอไป เรากล่าว Good Night แต่นางบอกว่าอย่างเพิ่งขาดกระเป๋าน้ำร้อน แล้วก็วิ่งลงไปเอามาให้เรา ก่อนออกไปนางกล่าวขอโทษเรายกใหญ่กับหลาย ๆ เรื่องที่ไม่ค่อยสะดวก ซึ่งเราและทีมไม่ติดใจใด ๆ เลย รู้สึกขอบคุณที่ดูแลกันอย่างดีมากกว่า คืนนี้หนาวมากกว่าทุก ๆ คืน ภาวนาว่าต้องผ่านไปให้ได้ พอตกดึกรู้สึกเหมือนโดนผีอำ แต่ความจริง ห่มผ้า และใส่เสื้อกันหนาวหลายชั้นเกินไป ตื่นมาถอดทิ้ง เพราะหายใจไม่ออก สุดท้าย กีดีนะ...ดีที่รอดมาได้ 555+++



19/4/67 (วันที่ 6) : วันนี้เดินทางกลับเข้าพักในตัวเมือง Leh ช่วงบ่าย ๆ Zangpor แชร์อินเตอร์เน็ตให้ทีมเราก็ได้รับข้อความจากคุณหนิง ถามว่าสนใจทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารเกาหลีไหม พวกเราก็คิดว่าไม่นะ ไม่ไปได้ไง เลยรีบตอบตกลงทันที คุณหนิงบอกว่าถ้าต้องการทานชุดหมูย่างเกาหลีต้องสั่งไว้ก่อนเพราะเมื่อวานหมูหมด เราก็รีบ confirm เพราะร่างกายขาดเนื้อหมูมานานพอสมควรแล้ว จะไม่ให้ตามขอบคุณ คุณหนิง Lucky Team in Ladakh ได้ยังไง รู้ใจไปหมดซะทุกอย่างจริง ๆ ไม่ได้คุณหนิง มื้อนี้เราไม่ได้กินหมูย่างแน่ ๆ 



20/4/67 (วันเดินทางกลับ) : ก่อนกลับไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ Lucky, Zangpor และ พนักงานโรงแรม ที่ดูแลกันเป็นอย่างดีตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่

ขอบคุณ คุณหนิง ติดตามสอบถามสารทุกข์ สุขดิบ ทุกสถานการณ์ ถ้ามีโอกาสจะขอกลับมาใช้บริการอีกแน่นอน #ขอบคุณมาก ๆ ที่ดูแลกันอย่างดีโดยไม่ต้องร้องขอ ทีมนี้ #luckyteaminladakh มีแต่คนน่ารักทั้งทีม เพี้ยนหลงรักนานาเก่งเพี้ยนออกทริป


สุดท้ายนี้ขอเอารูปวิวทิวทัศน์รวม ๆ ของ Leh Ladakh มาให้ดูเพื่อเป็นการปิดทริปที่สวยงามนี้


อยากจะบอกว่าใจไม่อยากกลับ แต่ตังค์หมดแล้ว ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนจบนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่