https://www.voathai.com/a/thai-police-canada-australia-willing-to-accept-saudi-woman/4739546.html
ทางการไทย เปิดเผยว่า นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัลกุนัน (Rahaf Mohammed Alqunun) หญิงชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 18 ปี เดินทางไปยังแคนาดาผ่านเส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปกรุงโซล🇰🇷
สิ้นสุดที่นครโตรอนโต🇰🇷
นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แห่ง🇨🇦ยืนยันว่า
ยินดีที่จะรับดูแลในฐานะผู้ลี้จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ในฐานะที่🇨🇦เห็นความสำคัญของการยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชนและการยืนหยัดเพื่อสิทธิสตรีทั่วโลก
และบอกว่านางสาวอัลกุนันเลือกที่จะขอลี้ภัยมายังแคนาดา
ก่อนหน้านี้ มีหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย เป็นหนึ่งประเทศที่พิจารณารับดูแลนางสาวอัลกุนันในฐานะผู้ลี้ภัย
นางสาวอัลกุนัน เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ระหว่างหลบหนีจากครอบครัวที่ไปพักผ่อนในคูเวต และกำลังรอต่อเครื่องบินไปยังออสเตรเลียที่เป็นจุดหมายปลายทาง โดยอ้างว่าครอบครัวของเธอจะสังหารเธออย่างแน่นอนหากถูกส่งตัวกลับไป
ก่อนหน้านี้ ทางการไทยไม่อนุญาตให้นางสาวอัลกุนันเข้าประเทศ เธอจึงขังตัวเองอยู่ในห้องพักที่โรงแรม และทวีตข้อความหลายครั้งในวันจันทร์ว่าต้องการพบผู้แทนจากสหประชาชาติ เพื่อปรึกษาเรื่องการลี้ภัยไปยังออสเตรเลีย ทำให้กลายเป็นกระแสสังคมให้ทางการไทยให้การช่วยเหลือเธอในที่สุด
Human Rights Watch ระบุว่า สตรีชาวซาอุฯ ที่หลบหนีจากครอบครัวของพวกเธอ เมื่อกลับไปอาจถูกลงโทษสถานหนักจากสมาชิกในครอบครัวเอง ถูกจำกัดอิสรภาพ หรือถูกกระทำรุนแรงในรูปแบบต่างๆ
นอกจากนี้ สตรีที่กระทำผิดทางศีลธรรม อาจถูกลงโทษขั้นสูงสุด คือประหารชีวิต
เมื่อปีที่แล้ว มีเหตุการณ์คล้ายกันที่ฟิลิปปินส์ เมื่อสตรีซาอุฯ ชื่อ ดิน่า ลาสลูม เดินทางขึ้นเครื่องบินหนีออกจากซาอุฯ ไปหยุดพักที่ฟิลิปปินส์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินจะรายงานว่า เห็นเธอถูกมัดมือมัดเท้าและใช้เทปกาวปิดปากขณะถูกลากออกจากสนามบิน
องค์กรสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ตั้งแต่นั้นไม่มีใครได้ยินข่าวของ ดิน่า ลาสลูม (Dina Lasloom) อีกเลย
https://www.9news.com.au/2019/01/11/19/30/rahaf-mohammed-alqunun-saudi-teen-granted-asylum-in-australia?ocid=social-9news
สนง.ข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ และไทยจะรับมือเหตุการณ์ในลักษณะนี้อย่างไร อาจมีทำตามแบบราฮาฟก็เป็นได้
ทางการไทย เปิดเผยว่า นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัลกุนัน (Rahaf Mohammed Alqunun) หญิงชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 18 ปี เดินทางไปยังแคนาดาผ่านเส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปกรุงโซล🇰🇷
สิ้นสุดที่นครโตรอนโต🇰🇷
นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แห่ง🇨🇦ยืนยันว่า
ยินดีที่จะรับดูแลในฐานะผู้ลี้จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ในฐานะที่🇨🇦เห็นความสำคัญของการยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชนและการยืนหยัดเพื่อสิทธิสตรีทั่วโลก
และบอกว่านางสาวอัลกุนันเลือกที่จะขอลี้ภัยมายังแคนาดา
ก่อนหน้านี้ มีหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย เป็นหนึ่งประเทศที่พิจารณารับดูแลนางสาวอัลกุนันในฐานะผู้ลี้ภัย
นางสาวอัลกุนัน เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ระหว่างหลบหนีจากครอบครัวที่ไปพักผ่อนในคูเวต และกำลังรอต่อเครื่องบินไปยังออสเตรเลียที่เป็นจุดหมายปลายทาง โดยอ้างว่าครอบครัวของเธอจะสังหารเธออย่างแน่นอนหากถูกส่งตัวกลับไป
ก่อนหน้านี้ ทางการไทยไม่อนุญาตให้นางสาวอัลกุนันเข้าประเทศ เธอจึงขังตัวเองอยู่ในห้องพักที่โรงแรม และทวีตข้อความหลายครั้งในวันจันทร์ว่าต้องการพบผู้แทนจากสหประชาชาติ เพื่อปรึกษาเรื่องการลี้ภัยไปยังออสเตรเลีย ทำให้กลายเป็นกระแสสังคมให้ทางการไทยให้การช่วยเหลือเธอในที่สุด
Human Rights Watch ระบุว่า สตรีชาวซาอุฯ ที่หลบหนีจากครอบครัวของพวกเธอ เมื่อกลับไปอาจถูกลงโทษสถานหนักจากสมาชิกในครอบครัวเอง ถูกจำกัดอิสรภาพ หรือถูกกระทำรุนแรงในรูปแบบต่างๆ
นอกจากนี้ สตรีที่กระทำผิดทางศีลธรรม อาจถูกลงโทษขั้นสูงสุด คือประหารชีวิต
เมื่อปีที่แล้ว มีเหตุการณ์คล้ายกันที่ฟิลิปปินส์ เมื่อสตรีซาอุฯ ชื่อ ดิน่า ลาสลูม เดินทางขึ้นเครื่องบินหนีออกจากซาอุฯ ไปหยุดพักที่ฟิลิปปินส์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินจะรายงานว่า เห็นเธอถูกมัดมือมัดเท้าและใช้เทปกาวปิดปากขณะถูกลากออกจากสนามบิน
องค์กรสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ตั้งแต่นั้นไม่มีใครได้ยินข่าวของ ดิน่า ลาสลูม (Dina Lasloom) อีกเลย
https://www.9news.com.au/2019/01/11/19/30/rahaf-mohammed-alqunun-saudi-teen-granted-asylum-in-australia?ocid=social-9news