สาวซาอุวัย18ได้รับการต้อนรับราวกับเจ้าหญิงในแคนนาดา








เธอหนีไปทำไม?

การยกเลิกศาสนาอิสลามนั้นมีโทษถึงตายในซาอุดิอาระเบีย

ภายใต้ "ระบบการปกครองโดยผู้ชายเปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ดูแล" ที่ซาอุดิอาระเบีย ผู้หญิงจะต้องได้รับการอนุมัติจากญาติฝ่ายชายเสียก่อน เช่นเพื่อขอหนังสือเดินทางเดิออกนอกประเทศ การศึกษาในต่างประเทศ หรือเกี่ยวกับทุนการศึกษาของรัฐบาล การแต่งงาน ฯลฯ จึงจะทำได้ จึงมีผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการละเมิดเพราะถูกปฏิเสทที่จะทำธุระกรรมที่อยากทำถ้าผู้ปกครองฝ่ายชายไม่อนุญาต

นส.อัลกุนัน บอกกับ BBC: "ฉันได้เแบ่งปันเรื่องราวของฉันและรูปภาพของฉันบนโซเชียลมีเดียและพ่อของฉันโกรธมากเพราะฉันทำสิ่งนี้ ... ฉันไม่สามารถเรียนและทำงานในประเทศของฉันได้ดังนั้นฉันจึงต้องการเป็นอิสระและได้รับการศึกษาและ ทำงานอย่างที่ฉันต้องการ "

เธอยังบอกด้วยว่าเธอกลัวว่าครอบครัวของเธอจะฆ่าเธอ

เธอบอกกับ AFP ว่าเธอทรมานกับการถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากครอบครัวของเธอรวมถึงการถูกขังอยู่ในห้องของเธอเป็นเวลาหกเดือนหลังจากที่เธอตัดผมของตัวเอง (น่าจะเพราะประชด)

ครอบครัวบอกกับ โฆษกBBC ว่าพวกเขาไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นใดๆและสิ่งที่พวกเขาสนใจคือความปลอดภัยของลูกสาวเท่านั้น

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคุณ อัลกุนันเขียนบน Twitter ว่าเธอมี "ข่าวดีและข่าวร้าย" ก่อนที่จะลบบัญชีของเธอ เพื่อนของเธอบอกว่าเธอได้รับขู่ว่าจะฆ่าทางออนไลน์

มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนไหม?

ใช่. กรณีของนางสาวอัลกุนันสะท้อนถึงผู้หญิงซาอุดิอาระเบียอีกคนที่กำลังเดินทางต่อไปยังออสเตรเลียในเดือนเมษายน 2560

ดิน่า อาลี ลาสลูม วัย 24,เดินทางจากคูเวตผ่านทางฟิลิปปินส์ แต่ถูกนำกลับไปยังซาอุดิอาระเบียจากครอบครัวที่สนามบินมะนิลา

นอกจากนี้นส. ราฮาฟยังได้ฝากความเป็นห่วงไปถึงกรณีเคสหนุ่มมุสลิมนักฟุตบอลฮาคีม อัลอาไลบี ชาวบาเรนที่เจอเรื่องราวละเมิดสิทธิมนุษยชนอะไรคล้ายๆกัน


วัยรุ่นซาอุฯ ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัลกุนัน เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ Pearson ในเมืองโตรอนโตรัฐออนแทรีโอ ภาพข่าว: เอเอฟพี

สาวน้อยราฮาฟ ดึงดูดความสนใจจากนานาชาติในสัปดาห์นี้หลังจากที่เธอขังตัวเองในห้องพักโรงแรมในสนามบินกรุงเทพฯเพื่อต่อต้านการถูกส่งตัวกลับบ้านให้ครอบครัวของเธอซึ่งปฏิเสธการละเมิดใด ๆ เธอได้ปฏิเสธที่จะพบพ่อและพี่ชายของเธอซึ่งมาถึงกรุงเทพเพื่อจะพาเธอกลับไปที่ซาอุดิอาระเบีย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของแคนาดา
คริสเทีย ฟรีแลนด์ ได้แนะนำเด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนนี้ตีอหน้าสีอต่างๆที่มารอรับที่สนามบินในฐานะ "ชาวแคนาดาผู้กล้าหาญคนใหม่" และกล่าวว่ามีสอัลกุนันตอนนี้ รู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลและลำบากของเธอและจะไม่ประกาศอะไรต่อสาธารณะในวันเสาร์นี้

“ เธอเป็นหญิงสาวผู้กล้าหาญที่ผ่านอะไรมามาก…และตอนนี้เธอกำลังจะไปที่บ้านใหม่ของเธอ” รัฐมนตรีกล่าวเสริม

ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าประเทศของเขาได้รับการร้องขอจากข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเพื่อขอลี้ภัย

ราฮาฟได้รับช่อดอกไม้และการต้อนรับอย่างงดงามราวกับเซเลปคนดังเพราะเธอเปรียบเสมือนวีระสตรีและภาพของเธอได้กลายเป็นถูกใช้แทนสมาคมปลดแอกของสตรีหรือสิทธิสตรีทางอินเตอร์เน็ตหลายกลุ่มไปแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่