“ช่วงคริสมาสปีใหม่ หยุดยาว ไปเที่ยวไหนกันดีเรา?” // “ไม่ไปละกัน ตั๋วแพง”

ก็เลยเป็นที่มาของการอยู่ปารีสยาวไปในช่วงวันหยุดยาวสิ้นปีแบบนี้ เราและ B1 ที่อยู่ปารีสอยู่แล้ว สมทบด้วย B2 ที่นั่งรถไฟขึ้นมาจากเมือง Bordeaux กับพ่อแม่ของ B1 B2 ที่บินมาเยี่ยมจากเมืองไทย มาอยู่ด้วยกันที่ปารีส แล้วทีนี้อยู่ปารีสยาวๆจะทำอะไรในเมื่อไปที่อื่นก็แพง คุณพ่อก็เลยจัดการหาที่เที่ยวใกล้ปารีส แล้วก็ได้มาหลายที่ และที่ที่เราจะไปกันวันนี้ก็คือเมือง Provins ไม่รู้เรียกว่าเมืองได้มั้ย เพราะดูเหมือนว่ามันคือหมู่บ้านเล็กๆมากกว่า

ถึงจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่ความเป็นมาไม่ได้เล็กเท่าไรเลย เพราะที่ Provins นี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO แต่ถ้าใครมาแล้วหวังจะเจอสถาปัตยกรรมสวยหรูนี่ต้องพับแผนเก็บไปก่อน เพราะที่นี่ไม่ได้มีอะไรยิ่งใหญ่ตระการตาเลย เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสถานที่เก่าแก่เก่ากึ้กมากกว่า ทั้งโบสถ์ ป้อมปราการ หรือแม้แต่ตัวเมืองเองก็ตาม


แต่ว่าก่อนจะเข้าเรื่อง ใครยังไม่เคยไปเที่ยวกับเรา ลองไปเที่ยวกับเราในทริปที่ผ่านมาได้ที่

Malta https://ppantip.com/topic/36591267
Budapest, Hungary https://ppantip.com/topic/37690503
Italy https://ppantip.com/topic/38035227
Portugal https://ppantip.com/topic/38200040

---

ครั้งนี้เป็นทริปไปเช้าเย็นกลับ ไม่มี Day 1 หรือวันอื่นๆให้แอดเวนเจอร์กัน เป็นทริปง่ายๆ ราคาไม่แพง เริ่มต้นด้วยการดูวิธีการเดินทาง เราใช้แอพ Citymapper ในการเดินทางทุกวันอยู่แล้วในปารีส เราก็เลยเอาชื่อเมือง Provins ไปใส่ในแอพ ผลลัพธ์ออกมาคือ เราต้องนั่งเมโทรจากบ้านไปขึ้นรถไฟ Transilien สาย P ที่สถานี Gare de l’Est รถไฟออกทุกๆเวลา 46 นาที อย่างเช่น 08:46 09:46 10:46 เรื่อยๆไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งได้ อยู่ห่างจากปารีสประมาณ 70-80 กิโลเมตร

ตั๋วที่ใช้ก็คือง่ายมาก เพราะ Provins ยังอยู่ในเขตปารีส Zone 5 ซึ่ง Navigo Pass ยังครอบคลุมอยู่ เราและ B1 ที่ถือ Navigo Pass ท้อปอัพรายเดือนกันอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา สำหรับ B2 และพ่อแม่ก็จัดการไปซื้อบัตร Navigo Découverte ใบละ 5€ ให้ที่สถานีรถไฟ แล้วท้อปอัพเข้าไปสำหรับ 1 อาทิตย์ Zone 1-5 นับตั้งแต่วันจันทร์ถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ ราคา 22.80€ รวมทั้งหมดเป็นคนละ 27.80€

แค่นั้นก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะว่าค่าเดินทางจากปารีส ถ้าซื้อตั๋วแยกคือขาละ 11.35€ ไปกลับก็ 22.70€ แล้ว สู้ซื้อ Navigo Pass แล้วใช้ได้ต่ออีกทั้งอาทิตย์ คุ้มกว่าเยอะเลย

ทริปนี้ใช้กล้อง Nikon D90 Fixed-Lens 35mm f/1.8 และภาพจากกล้อง iPhone 6S+ กับ iPhone XR เล็กน้อย

---

เริ่มต้น 1 day trip นี้ด้วยการตื่นเช้าท่ามกลางอากาศที่หนาวมากกกกกกกกกกก เราเลือกที่จะไปขึ้นรถไฟรอบ 08:46 เพราะวันนั้นมันมี strike แล้วรถไฟรอบน้อยลง ถ้าไม่ขึ้นรอบ 08:46 ก็จะเป็นรอบ 10:46 เลย ซึ่งออกจะสายไปหน่อย

ตื่นเช้า แต่งตัว ขนเสบียง หาอะไรกินรองท้องก็ขึ้นเมโทรไปที่สถานี Gare de l’Est กว่าจะถึงก็ลุ้นเอาว่าจะต้องวิ่งตามรถไฟมั้ย แต่โชคดีที่สถานีนี้ไม่ใหญ่มาก ไม่ต้องเดินไกล ไปถึงรถไฟจอดรออยู่ คนน้อยมากเนื่องจากเป็นวัน Christmas Eve คนคงเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดกันหมด รถไฟโล่ง สบาย

เราไปถึงที่ Provins ประมาณ 10 โมงได้ รถไฟที่นั่งมาเป็นรถไฟ Transilien ถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆก็น่าจะเป็นรถไฟชานเมือง ซึ่งต่างจาก Metro หรือ RER อย่าง Metro นี่อยู่แค่ในปารีส โซน 1-3 รถไฟ RER ก็จะวิ่งออกนอกเมืองไปอีก ส่วน Transilien นี่ออกไปไกลเลย

เรานั่งสาย P มาจนสุดที่สถานี Provins พอเดินออกมาข้างนอกก็จะเห็นได้ว่าเมืองมันเล็กจริงๆ และเงียบมาก อาจจะเพราะด้วยเป็นวัน Christmas Eve ด้วยก็เลยเงียบกว่าเดิมมาก


ลงจากรถไฟก็จะเห็น Tourism Office ตั้งอยู่เลยเดินไปเช้คข้อมูลสักหน่อย แต่มันปิดวันจันทร์! โชคจะไม่เข้าข้างแบบนี้เลยหรอ แต่ก็ยังดีที่หน้าออฟฟิศเค้าติดแผนที่เอาไว้ ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้างในตัวเมือง ซึ่งพอดูแล้ว รัศมีหมู่บ้านจิ๋วหลิวนี้ เดินแค่ 30 นาทีก็คือไปถึงสุดอีกฝั่งเมืองแล้ว เล็กเบอร์นี้แหละ

ตอนแรกเราดูรถบัสเบอร์ 50 จะนั่งไปที่สุดเมืองก่อนแล้วค่อยเดินกลับมาที่สถานีรถไฟ แต่รถบัสมาทุกๆ 1 ชั่วโมงซึ่งตอนนั้นต้องรออีก 50 นาที ก็ไม่รอแล้วล่ะ ออกเดินเลยก็แล้วกัน ดีที่อากาศวันนั้นไม่หนาวมาก เดินเล่นได้สบายๆไม่ทรมานร่าง ก่อนออกเดินก็เลยจัดการถ่ายรูปแผนที่หน้าออฟฟิศมา แล้วเอาชื่อเข้า Google Maps เดินตามแผนที่

รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวใน Provins ที่เขียนไว้ในแผนที่มีตามนี้:
- Prieuré Saint-Ayoul
- Église Sainte-Croix
- Jardin Garnier et Fonds Ancien
- Roseraie de Provins
- Souterrains
- Collégiale Saint-Quiriace
- Tour César
- Musée de Provins et du Provinois
- Place de Châtel
- Porte de Jouy
- Porte Saint-Jean
- Remparts

แต่พวกเราไม่ได้แวะไปทั้งหมดตามนี้ เดี๋ยวไปที่ไหนบ้างจะไล่เมนชั่นอีกที ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เล็กๆทั้งนั้น ไม่ใหญ่ไม่อลังการ โบสถ์เก่าแก่ก็เล็กๆ ป้อมปราการ กำแพงเมืองก็เล็กๆ เก่าขนาดที่บางสถานที่คือมีมาตั้งแต่ปี 1175 ถ้าจำไม่ผิด คือเกือบพันปีมาแล้ว ที่นี่ดีอยู่อย่างนึงก็คือมีป้ายภาษาอังกฤษกำกับอยู่ตามสถานที่สำคัญ ทำให้เรารู้ว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง


ว่าแล้วก็เอาชื่อสถานที่แรกพิมพ์ลงไปใน Google Maps แล้วก็เดินตามไปเลย พอก้าวเข้าไปในตัวหมู่บ้าน สิ่งแรกที่สังเกตุได้เลยคือตัวเมืองจะมีลำธารเล็กๆไหลผ่าน เดินผ่านตัวเมืองไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงที่แรกคือ Prieuré Saint-Ayoul หรือ Église Saint-Ayoul ดูท่าทางแล้วจะเป็นโบสถ์ประจำเมือง แต่เป็นโบสถ์ที่เก่าม๊ากกกกกกกก อิฐหินปูนทรายเก่าไปหมด เป็นโบสถ์เล็กๆกลางเมือง เดินเข้าไปด้านในคือเงียบ ไม่มีคน กลิ่นไม้กับผนังปูนอับชื้น ไม่ได้มีอะไรแฟนซีให้ดูมากมาย


เสร็จแล้วเราก็เดินกันไปต่อที่ Église Sainte-Croix โบสถ์เก่าแก่เล็กๆอีกที่นึง ระหว่างเดินไปที่ต่อไปเราก็ต้องเดินผ่านตัวเมือง ก็เป็นเมืองเล็กๆ มีคนขับรถจักรยานจาก La Poste มาหย่อนจดหมายตามบ้านต่างๆ ร้านตัดผม ซุปเปอร์ หรือร้านอาหารเล็กๆก็ยังเปิดอยู่ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือร้านขนมปังทุกร้านเต็มไปด้วยคนที่มาต่อคิวซื้อขนมปังกันจนล้นร้าน คิดว่าน่าจะเป็นการเตรียมการ ซื้อวัตถุดิบเข้าบ้านเพื่อเตรียมจะทำอาหารเลี้ยงครอบครัวในวันคริสมาส เพราะถ้าออกมาซื้อพรุ่งนี้คงจะไม่มีอะไรเปิดให้ซื้อแล้ว พาลให้ชวนคิดว่า หรือร้านขนมปังพวกนั้นจะอร่อยจนต้องลองซื้อกิน แต่แค่เห็นคิวก็ไม่รอแล้ว



เดินไปคิดไปอีกแค่ประมาณ 10 นาทีก็มาถึงที่ Église Sainte-Croix เก่าคร่ำครึไม่ต่างกันมากเท่าไรนัก โบสถ์นี้ออกมาอยู่นอกตัวเมืองหน่อย เงียบกว่าเก่าจากที่เงียบอยู่แล้ว แล้วเหมือนว่าจะไม่เปิดให้เข้าแล้วด้วย เราก็เลยได้แต่ถ่ายรูปกันอยู่ด้านหน้า แล้วก็เดินต่อไปยังอีกที่หนึ่ง



** to be continued ☺︎ **