ตอนแรกว่าจะไม่ทำรีวิวละนะ พอดีเพื่อนหลายๆคนอยากรู้รายละเอียด ว่าไปที่ไหนยังไงบ้าง เอาเป็นว่า เริ่ม !!!

ทริปนี้ เป็นทริปที่ตอนแรกตั้งใจจะไปคนเดียว แต่พอแม่รู้ นางเลยบอกว่า "เฮ้ย ชั้นไปด้วยสิ" สุดท้ายเลยกระเตงกันไปสองคนแม่ลูกเช่นเคย 5555

เริ่มจากการหาตั๋วเครื่องบินก่อนเลย (แม่ไปด้วย เลยไม่อยากให้นางนั่งรถทัวร์นาน) ก็เลยจองผ่าน airasiago.com โดยเลือก เป็นแบบ ตั๋วไปกลับ + ที่พัก ราคาจะถูกกว่าจองแยก แต่ตั้งใจว่าจะนอนที่เกาะพยามแค่ 2 คืน เห้ย ในเวปมันให้จองได้ ไม่จำเป็นต้องครบทั้ง 3 คืน งั้นจองดิ รอไรอะ  เลื่อนไปเลื่อนมา ด้วยความตั้งใจอยากให้ที่พักติดทะเล เนื่องจากแม่ชอบเดินลงไปเล่นน้ำ และเราสองคน นอนง่ายๆสบายๆ เลยมาได้ที่นี่ Gold Key บังกะโล อยู่ที่อ่าวเขาควายเหนือ ราคาตั๋วรวมที่พักแล้วแบบ คือโอเคอะ โอเคกับการเที่ยวเที่ยวแนวเราๆ

แผนที่คร่าวๆ ของเกาะ

พอได้ที่พักแล้ว ก็จองไปเลย ซึ่งไฟลท์ Airasia มีเช้ามากกกกก  ออกจากดอนเมืองตีห้า  แต่ก็คิดว่าน่าจะโอเค เพราะกว่าจะถึงเกาะ คงเที่ยงๆ

ข้ามไปบินถึงเลยเนอะ 5555
พอออกจาก gate จะมีคนมายืนรอเรียกเลยว่าจะไปท่าเรือมั้ย ซึ่งบางคนอาจจะเห็นป้ายว่า เข้าเมือง 50 บาท แต่รถเข้าเมืองอาจจะไปไม่ถึงท่าเรือ เลยตัดสินใจไปกับคนที่เรียก (ซึ่งมาถามคนพื้นที่ตอนหลังว่า เจ้านี้ เหมือนได้สัมปทาน สนามบิน-ท่าเรือ) เลยอะ ไปก็ไป คนละ 200 บาท ย้ำคนละ 200
ซึ่งจะมี นทท ไปทั้งเกาะช้างและเกาะพยาม จะเป็นรถทัวร์สีเหลืองๆ ซึ่งคนขับจะเดินเก็บตังบนรถแล้วถามว่าเราลงไหน ถ้าไปเกาะ นางก็จะ upsell ขายตั๋วเรือให้เลย ซึ่งตอนนั้นไม่แน่ใจว่า ซื้อที่ท่าจะถูกกว่ามั้ย เลยยังไม่ซื้อกะนาง
พอไปถึงท่าเรือ ก็จัดแจงซื้อตั๋ว ซึ่งจริงๆตั้งใจว่า จะนั่งเรือหวานเย็นแบบธรรมดาไป ในราคาคนละ 200 ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. แต่เรือธรรมดาดั๊นมีรอบ 10:00 ซึ่ง เราถึงท่าเรือกันตั้งแต่ 7:30 เลยแบบ เอาวะ speedboat ก็ได้เอ้า คนละ 350 บาท ครึ่งชั่วโมงถึง

พอดีว่าท่าเรือที่รถไปส่งนั้น วันนั้นน้ำแห้งมาก เรือไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้ เค้าเลยให้เรานั่งรถสองแถวไปที่ท่าเรือไต๋แขกแทน ระหว่างนั่งสองแถว แม่ก็ดันไปเม้ากะคนขับ ชื่อพี่หมู พี่หมูให้เบอร์ทิ้งไว้ เผื่ออยากเที่ยวในตัวเมือง

Speedboat ที่จะพาไปเกาะพยาม นั่งได้ ประมาณ 40 คน ไม่อันตราย ครึ่ง ชม.ถึง

ประมาณ 8 โมงนิดๆ เราก็มาถึงเกาะพยาม ซึ่งตรงท่าเรือจะมีวินมอไซค์จอดเรียงราย
ต้องบอกก่อนว่า เกาะพยามใช้แต่มอไซค์ เพราะถนนแคบ ซึ่งถ้าขี่ไม่เป็น จะลำบากหน่อย แต่ถนนบนเกาะขี่ง่าย ไม่ชัน นอกจากเลยไปทางอ่าวกวางปีบ จะลำบากนิดนึง



จากท่าเรือมาก็จะประมาณนี้ เดินตรงไปนิดนึง จะมีร้านเช่ามอไซค์ เลือกตามใจได้เลย
ราคาเท่ากันหมด 250 บาทต่อวัน น้ำมันต่างหาก
เราเช่ารถจากร้านสวัสดี คือคุยกะพี่แกแล้วถูกคอ เลยเอารถแกนี่ล่ะ
คุยไปคุยมา เลยถามแกว่ามีทัวร์แบบ one day ขายที่ไหน แกดันมีขายว่ะ เลยจองกะแกเลย เป็น one day tour รอบเกาะ 9:00-12:30 เป็นทัวร์พาไปดำน้ำรอบๆเกาะ คนละ 500 บาท  จริงๆ แกมีทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ขาย แต่ราคาคนละ 2,600 แน่ะ เลยไม่ไป
คือคนที่นี่ จะทำธุรกิจร่วมกัน ทุกร้านขายราคาเท่ากัน ไม่ว่าจะจองทัวร์ผ่านร้านไหน
ไหนๆก็อยุ่ร้านแกละ เลยซื้อตั๋วเรือขากลับ เกาะพยาม-ระนอง เลยละกัน
เพราะกลัวว่า ช่วงเวลาที่เราอยากจะกลับอาจจะเต็ม จองไว้ก่อนกันเหนียว แกเลยลดให้เหลือ คนละ 300 เพราะเราเช่ามอไซค์กะแกแล้ว

และแล้วก็ถึงเวลาไปที่พัก ขี่รถไม่ไกลจากท่าเรือเท่าไหร่ ประมาณ 3 กิโล แต่ด้วยความที่มาถึงเช้าเกิน ห้องยังไม่ได้ ไม่เป็นไร งั้นเที่ยวก่อน

ดูจากแผนที่ ไหนๆเราก็มาถึงอ่าวเขาควายเหนือละ งั้นไปอีกหน่อยก็อ่าวกวางปีบ  ไปสิ

ทางไปอ่าวกวางปีบค่อนข้างลำบาก เนื่องจากยังไม่เทคอนกรีต จะขรุขระ และชันเป็นบางช่วง พอไปถึง จะเห็นรถมอไซค์จอด เพราะไม่สามารถเอารถขี่ไปต่อได้แล้ว ต้องเดินต่อเข้าไป แต่ไม่ไกล

ทางเดินลงอ่าวกวางปีบ

พอไปถึง เห้ย คือเป็นอ่าวฟิลแบบ เงียบๆ สงบๆ มีร้านอาหารอยู่ร้านเดียว กับที่พักเพียง2-3 เจ้า
บรรยากาศหน้าอ่าว
ไอ้แจ๊คกี้ ตัวแสบที่เจ้าของร้านที่นี่ ออกมาต้อนรับ

พี่เค้าบอกว่า ถ้าช่วงเช้าๆ จะมีนกเงือกบินมา พี่แกจะวางพวกผลไม้ไว้ ทั้งกระรอก ทั้งนอกต่างๆจะมากินกัน นกเงือกเค้าจะไม่ค่อยเข้าใกล้คน แต่สามารถเห็นได้

ด้วยความที่อ่านรีวิวมาก่อน เห็นว่ามีหินทะลุ เลยถามคนแถวนั้น เค้าบอกว่าต้องขี่รถย้อนกลับไปทางอ่าวใหญ่ เลี้ยวตรงโรงเรียน แล้วจะเห็นป้ายบอก เอาวะ ไหนๆเวลาก็เหลือ เลยชวนแม่ออกจากอ่าวกวางปีบ ไปกันต่อ  ขี่รถมาเรื่อยๆ ไม่ยากจริงๆ ป้ายชัดเจน "หินทะลุ" เย้
จากที่จอดรถ เดินมานิดเดียวก็เจอ พอดีน้ำขึ้นนิดหน่อยเลยต้องลุยกันเข้าไป




ได้เวลาที่ห้องน่าจะได้ละ เลยกลับไปที่พักกัน
ส่วนใหญ่ พนง ที่นี่จะเป็นคนพม่า แต่น่ารัก พูดรู้เรื่อง จัดแจงห้องให้เสร็จสรรพ

*** สำคัญมาก  เกาะพยาม ยุงเยอะมากกกก ตัวเท่าแม่ไก่ ไม่เป็นพาหะ แต่ก็พกพวกยาทากันยุงมาไว้ก็ดี
ที่พักเราจะฟิลบังกะโล ห้องพัดลม เพราะฉะนั้น เค้าจะกางมุงครอบเตียงไว้ให้กันยุง

บังกะโลหลังน้อย
บรรยากาศจากหน้าบ้าน

พอพักซักนิด ตกเย็นก็เลยเดินไปเล่นน้ำ น้ำที่นี่ไม่ค่อยใส เหมือนกับที่อื่น แต่บรรยากาศก็ทำให้เรามองข้ามไป วิวทะเล เสียงคลื่น แค่นี้ก็พอใจละ


รู้มาว่า Hippie Bar บารืชื่อดังของที่นี่ อยู่ไม่ไกล เดินไปได้ เลยลองเดินไปดู ก็มีฝรั่งนั่งกินเบียร์กันตั้งแต่หัววัน แต่เพราะเรามาช่วงเงียบ เลยไม่ค่อยครึกครื้นเท่าไหร่

พอตกกลางคืน ก็ขี่รถออกไปหาไรกิน อาหารที่นี่ ก็อาหารตามสั่งทั่วไป แต่ราคาจะค่อนข้างสูงหน่อย กะเพราราดข้าวก็ขั้นต่ำ 60-70 พอกินข้าวเสร็จ ตั้งใจจะไป Hippie Bar พอเดินไป ขุ่นพระ เงียบมากกกก เลยแบบ นอนละกัน เหนื่อยมาทั้งวัน

เข้าวันที่ 2 วันนี้ไปทัวร์ ก็ขี่รถจากที่พัก มาจอที่ร้านเช่ารถ หาไรกินก่อน พอ 9 โมง ก็มีคนเดินมารับ ทัวร์ก็พาไปดำน้ำ แล้วก็แวะ หินทะลุเราก็เลยได้รูปมาเพิ่มจากเมื่อวาน

หลังจากทัวร์เสร็จ เวลามีเหลือ เลยกลับไปอาบน้ำอาบท่า แล้วพาแม่ตะลอนต่อ คราวนี้ ต้องมาไหว้พระละ เป็นอีกจุดที่ต้องมา ไม่ไกลจากท่าเรือ เป็นวัดเดียวในเกาะ


โบสถ์กลางน้ำ อีกจุดที่ต้องมาเยือน

เสร็จจากวัด ก็อยากลองไปอ่าวใหญ่ เลยแบบ ป้ะแม่ ไปกัน
ระยะทางไปอ่าวใหญ่ ค่อนข้างไกล วิ่งเส้นหลัก แล้วเลี้ยวตรงแยกโรงเรียน ตรงไปยาวๆราวๆ 5 กิโล แต่ตอนนี้ที่เราไป ถนนกำลังซ่อม เลยขี่ยาก เพราะมันแคบและเป็นทราย ถ้าล้มก็มีถลอกแน่ๆ


อ่าวใหญ่สมชื่อ  กว้างมากกกกกกกกกก ความยาวของหาดน่าจะมากกว่า 2 กิโล ยิ่งช่วงน้ำลง จะมีพื้นทีเตะบอลกันกันได้สบายๆเลย

ตกเย็นก็กลับไปดูพระอาทิตย์ตกที่บังกะโลเรา

เข้าวันที่ 3 ต้องออกจากเกาะพยามละ จองเรือไว้ 10 โมง ก็เอารถมาคืน ดีนะที่จองไว้ก่อน คนแอบเต็มลำ


พอเรือมาถึงระนอง ก็จะมีคนมานำเสนอรถไปนู่นนี่ คืออากาศร้อน เลยไปกะเจ้านึง เป็นเจ้าของรถเอง ค่ารถคนละ 70 บาท จากท่าเรือ ไปที่โรงแรม Tinidee
** โรงแรมนี้ ทุกคนในระนองรู้จัก พอดีไปเจอราคา 570 เลยแบบเห้ย โอเคเลย แต่พอเข้าไปอ่านรายละเอียด
คือโรงแรมนี้จะมี 2 ตึก ตึกใหญ่จะเป็นห้องราคาพันกว่า เราอยู่ตึกเล็ก ค่อนข้างเก่ากว่านิดนึง เลยถูก แต่สามารถใช้สระว่ายน้ำส่วนกลางร่วมกันได้
ที่นี่เก๋ตรงที่ มีบ่อน้ำแร่ ซึ่งทางโรงแรมได้รับสัมปทานให้รถสูบน้ำจากบ่อ มาใส่ไว้ที่โรงแรม ให้ผู้เข้าพักได้แช่

เรามาถึงโรงแรมกันก่อนเที่ยง ห้องยังไม่ได้ เลยนึกถึงพี่หมู คนขับสองแถว เลยโทรหาแก ว่าถ้าไปทัวร์รอบเมือง แกคิดราคายังไง
รถพี่หมูจะเป็นสองแถวคลาสสิกของเมืองระนอง แกคิดราคา ชั่วโมงละ 200 บาท เลยเอาวะ ไปก็ไป

เริ่มจากไปที่จวนเจ้าเมืองระนอง ที่รวบรวมประวัติคนเก่าแก่ของเมืองระนองไว้

ต่อด้วยบ้านเทียนสือ บ้านเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นบ้านหลังแรกๆที่คนจีนเริ่มมาอาศัยในระนอง


ไปต่อที่ พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึง พระมหากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ ร.5 ร.6 ร.7 ซึ่งเคยเสด็จเยือน

และแล้วก็ไฮไลต์ บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน




พี่หมูยังพาไปที่ เนินเขาหญ้า เป็นเนินเตี้ยๆ มีหญ้าปลิวๆ แต่คนมักจะมาถ่ายรูปกัน
นอกจากพี่หมูจะพาเที่ยว ยังถ่ายรูปให้อีก


ไปต่อที่วัดบ้านหงาว วัดที่มีพระพุทธรูปที่สร้างจากดีบุกองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
เพราะแต่ก่อน ที่ระนองมีการทำเหมืองแร่ดีบุก


ถ้าใครอยากไปทัวร์ในตัวเมือง ติดต่อพี่หมูได้เลย แกยินดีพาเที่ยว  080-892-8099 ราคาตามที่บอก

สรุปค่าใช้จ่าย
ตัดค่าเครื่องกับค่าที่พักออกไป

- ค่ารถจากสนามบินไปท่าเรือ 200/คน
- speedboat ไปเกาะพยาม 350/คน
- มอไซค์ 250/คัน/วัน  (น้ำมันลิตรละ 35 เฉลี่ยวันละลิตร)
- one day tour รอบเกาะ 500/คน
- speedboat กลับเข้าระนอง 350/คน
- รถจากท่าเรือไปในเมือง 70/คน
- ทัวร์พี่หมู 200/ชั่วโมง (เรากะแม่เที่ยวเกือบ 4 ชั่วโมง)
- รถจากโรงแรมไปสนามบิน 200/คน

จะเห็นได้ว่า ค่าเดินทางค่อนข้างจะแพง แต่มันก็เป็นราคาที่ต้องจ่ายเนื่องด้วยเวลาและความสะดวก  แต่เราก็มองในจุดที่ว่า เมืองระนอง เป็นเมืองที่ฝนตกแทบจะทั้งปี เพราะฉะนั้น ช่วงที่อากาศดี ก็จะเป็นช่วงที่ทำให้คนพื้นที่มีรายได้ และคนระนองน่ารักมากๆ

ปล.ไม่เหมาะสำหรับคนสายบันเทิงหรือรักความสบาย เพราะมันสงบจริงๆ