ที่พัก 4 คืน
- บ้านไร่ไออรุณ
- The Blue Sky resort เกาะพยาม
- บ้านในหมง Tree House
- เรือนหลวงพจน์
01/08/18
เริ่มต้นการเดินทางไปกับสายการบินนกแอร์ DD7312 พวกเราได้ตั๋วขาไปในราคาคนละประมาณ 560 บาท ถึงสนามบินระนองประมาณ 07:30 น.
สภาพอากาศฝนตกๆ หยุดๆ พอเดินทางได้ไม่ลำบาก พวกเรานั่งรถกะเปอร์ไปเริ่มต้นในเมือง โชคดีที่ลุงคนขับรถพาเข้าเมืองบรรยายสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ฟังตลอดทางเข้าเมือง พวกเราเลยตัดสินใจเหมารถลุงทั้งวันในราคา 1,800 บาทรวมค่าไปส่งถึงบ้านไร่ไออรุณ ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กิโล
สถานที่แรกที่พวกเราไปคือ ร้านอาหารคุ้นลิ้น ร้านขึ้นชื่อของเมืองระนอง อาหารขึ้นชื่อของทางร้านจะเป็นแกงส้มต่างๆ ซึ่งพวกเราไม่ได้สั่ง สั่งหมูค้อง อาหารใต้มาลองแทน หมูค้องจะคล้ายๆ กับพะโล้น้ำขลุกขลิก อร่อยมากๆ แถมแต่ละเมนูให้เยอะมาก
มื้อนี้สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 600 บาท
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเท้าไปบ่อน้ำพุร้อนรักษะวารินที่อยู่ใกล้ๆ ร้าน สามารถไปนั่งแช่เท้าที่บ่อน้ำร้อนได้ค่ะ วันที่ไปบังเอิญเห็นป้าคนนึงเอาน้ำพุร้อนจากบ่อมาล้างหน้า แอบตะลึงนิดหน่อยเพราะบ่อใหญ่มันร้อนมาก
เดินทางต่อไปยังระนองแคนยอนค่ะ ฝนตกๆ หยุดๆ แต่ทุกครั้งที่แวะสถานที่ท่องเที่ยวฝนจะหยุดตลอดเลยค่ะ ที่ระนองแคนย่อนไม่มีใครเลย มีแค่พวกเรา ไปให้อาหารปลากันค่ะ ฝนเพิ่งหยุด อากาศเลยสดชื่นๆ หน่อย ลุงคนขับเล่าให้ฟังว่าระนองแคนย่อนเป็นเหมืองเก่าค่ะ
ขากลับจากระนองแคนย่อนผ่านอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น แต่เนื่องจากฝนยังคงตกอยู่ พวกเราเลยแวะกันแป๊บเดียว ถ่ายรูปท่ามกลางสายฝน
ต่อมา เรามาแช่บ่อน้ำร้อนกันที่ บ่อน้ำพุร้อนพรรั้ง ค่าเข้าคนละ 20 บาท ค่ารถอีกคันละ 20 มีทั้งบ่อกลางแจ้งและบ่อในร่มค่ะ ไม่ต้องกังวล ไปฤดูไหนก็แช่ได้ค่ะ
หลังจากแช่แล้วรู้สึกสดชื่นมากๆ
และแล้วก็มาถึงที่สุดเอ๊กซ์คลูสิฟของทริปค่ะ ที่ทำให้การเดินทางในครั้งนี้สมบูรณ์แบบ
ภูเขาหญ้า ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะเป็นน้ำตกหงาวค่ะ
และสิ่งที่ทำให้ที่นี่สมบูรณ์แบบก็คือ นี่ค่ะ
เจอกับอนันดาที่มาถ่ายโฆษณาพอดี น่ารัก เป็นกันเองมาก
จบการเดินทางของวันแรกด้วยการที่คุณลุงไปส่งที่บ้านไร่ไออรุณ ที่พักของเราในคืนนี้ ที่บ้านไร่ไออรุณต้องเชคอินก่อน 17:30 ซึ่งเราก็ถึงแบบฉิวเฉียด ทางบ้านไร่ก็โทรมาถามเรื่อยๆ ค่ะ
บ้านที่เราพักมีชื่อว่าบ้านพราวตะวันค่ะ ที่พักบ้านหลังละ 2500/2คน ถ้ามา 3 คน เพิ่มอีก 500 บาท พร้อมอาหารเช้า
อาหารมื้อเย็นจากครัวบ้านไร่ไออรุณค่ะ จำราคาไม่ได้
02/08/18
ตื่นเช้าขึ้นมาประมาหกโมงกว่าๆ บรรยากาศดีมากๆ พวกเราอาบน้ำแต่งตัวไปกินข้าวเช้าของทางบ้านไร่ค่ะ อาหารก็จะประมาณนี้
หลังจากนั้นเชคเอ้าท์เตรียมตัวออกจากบ้านไร่ไปเกาะพยามกันค่ะ โดยทางบ้านไร่ใจดีให้คุณพ่อขับรถซาเล้งไปส่งที่ท่ารถหน้าเซเว่นกะเปอร์แถวตลาดค่ะ
ค่ารถกะเปอร์เข้าเมืองคนละ 50 บาท
แต่พวกเราขอให้ไปส่งที่ท่าเรือไปเกาะพยาม คิดคนละ 100 บาทค่ะ
รถไปส่งถึงที่ขายตั๋วไปเกาะพยามค่ะ สปีดโบ้ตราคา 350 ต่อเที่ยว จะมีประมาณ 3-4 รอบต่อวัน
08:30 12:30 14:30 15:30 รอบบ่ายสองกับบ่ายสามแล้วแต่วันนะคะ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและจำนวนคนค่ะ อาจจะมีการรวบเป็นเที่ยวเดียว
ส่วนเรือโดยสารธรรมดาราคา 250 บาท น่าจะมีสองรอบ รอบแรกคือ 10:30 อีกรอบไม่แน่ใจค่ะ
พวกเราได้ไปรอบเที่ยงครึ่งค่ะ ซื้อตั๋วเสร็จจะมีรถเข้าไปส่งที่ท่าเรือซึ่งอยู่ไม่ไกล ถ้าใครพักที่ The Blue Sky Resort เกาะพยามให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ท่าเรือตรงร้านอาหาร จะมีรถกอล์ฟมารอรับที่ท่าเรือตอนเราไปถึงค่ะ
ถึงแล้ว เกาะพยาม มีรถกอล์ฟมารอรับที่ท่าเรือเลยค่ะ
หลังจากเชคอินก็มาติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ฟร้อนท์โรงแรมค่ะ ทางร้านเช่ารถก็จะขี่มอเตอร์ไซค์มารับเราไปที่ร้านค่ะ ค่าเช่าอยู่ที่คันละ 250 บาทต่อวัน นับแบบ 24 ชั่วโมง ค่าน้ำมัน 50 บาท ใช้บัตรประชาชนในการเช่าค่ะ
หลังจากได้มอเตอร์ไซค์จุดมุ่งหมายแรก คือ อ่าวเขาควายค่ะ ที่นี่จะมีหินทะลุอยู่ด้วยค่ะ เปิดกูเกิลแมพกันไปค่ะ ไม่มีใครเลยที่เกาะ และโชคดีมากๆ ในช่วงที่พวกเราไปฝนไม่ตกที่เกาะเลยค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้จะตกทุกวัน
ไปต่อที่ฮิปปี้บาร์ ไปเพื่อถ่ายรูปเฉยๆ ช่วงโลวซีซั่นแบบนี้เขาจะปิดปรับปรุงค่ะ
เสร็จแล้วเลยแวะไปหาอะไรกินกัน รอเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่อ่าวใหญ่ค่ะ ที่หาดมีคนมานับคนได้ค่ะ เรียกได้ว่าหาดเป็นของเรา นับได้ว่าเป็นข้อดีของช่วงโลวซีซั่น ถึงจะมีเมฆบังแต่ก็สวยไปอีกแบบค่ะ
อ่าวใหญ่
ดูพระอาทิตย์ตกดินเสร็จแล้วกลับมากินข้าวที่โรงแรมค่ะ ทางโรงแรมบอกว่าช่วงนี้เป็นเวลา 10 นาทีที่ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินก่อนที่จะมืดค่ะ เลยอาสาถ่ายรูปให้พวกเราสามคน สตาฟที่นี่น่ารักมากๆ บริการดีจนรู้สึกเกรงใจเลยค่ะ
ทริปนี้เป็นทริปนอนเร็วค่ะ กินข้าวเสร็จ ดูดาวแว๊บนึงก็กลับมาอาบน้ำนอนกันแล้ว
[CR] ::พากันหลง:: ระนอง2018 [ฉบับสาวสาวสาว] 4วัน 4คืน
- บ้านไร่ไออรุณ
- The Blue Sky resort เกาะพยาม
- บ้านในหมง Tree House
- เรือนหลวงพจน์
01/08/18
เริ่มต้นการเดินทางไปกับสายการบินนกแอร์ DD7312 พวกเราได้ตั๋วขาไปในราคาคนละประมาณ 560 บาท ถึงสนามบินระนองประมาณ 07:30 น.
เดินทางต่อไปยังระนองแคนยอนค่ะ ฝนตกๆ หยุดๆ แต่ทุกครั้งที่แวะสถานที่ท่องเที่ยวฝนจะหยุดตลอดเลยค่ะ ที่ระนองแคนย่อนไม่มีใครเลย มีแค่พวกเรา ไปให้อาหารปลากันค่ะ ฝนเพิ่งหยุด อากาศเลยสดชื่นๆ หน่อย ลุงคนขับเล่าให้ฟังว่าระนองแคนย่อนเป็นเหมืองเก่าค่ะ
ขากลับจากระนองแคนย่อนผ่านอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น แต่เนื่องจากฝนยังคงตกอยู่ พวกเราเลยแวะกันแป๊บเดียว ถ่ายรูปท่ามกลางสายฝน
ภูเขาหญ้า ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะเป็นน้ำตกหงาวค่ะ
และสิ่งที่ทำให้ที่นี่สมบูรณ์แบบก็คือ นี่ค่ะ
บ้านที่เราพักมีชื่อว่าบ้านพราวตะวันค่ะ ที่พักบ้านหลังละ 2500/2คน ถ้ามา 3 คน เพิ่มอีก 500 บาท พร้อมอาหารเช้า
ตื่นเช้าขึ้นมาประมาหกโมงกว่าๆ บรรยากาศดีมากๆ พวกเราอาบน้ำแต่งตัวไปกินข้าวเช้าของทางบ้านไร่ค่ะ อาหารก็จะประมาณนี้
แต่พวกเราขอให้ไปส่งที่ท่าเรือไปเกาะพยาม คิดคนละ 100 บาทค่ะ
รถไปส่งถึงที่ขายตั๋วไปเกาะพยามค่ะ สปีดโบ้ตราคา 350 ต่อเที่ยว จะมีประมาณ 3-4 รอบต่อวัน
08:30 12:30 14:30 15:30 รอบบ่ายสองกับบ่ายสามแล้วแต่วันนะคะ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและจำนวนคนค่ะ อาจจะมีการรวบเป็นเที่ยวเดียว
ส่วนเรือโดยสารธรรมดาราคา 250 บาท น่าจะมีสองรอบ รอบแรกคือ 10:30 อีกรอบไม่แน่ใจค่ะ
พวกเราได้ไปรอบเที่ยงครึ่งค่ะ ซื้อตั๋วเสร็จจะมีรถเข้าไปส่งที่ท่าเรือซึ่งอยู่ไม่ไกล ถ้าใครพักที่ The Blue Sky Resort เกาะพยามให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ท่าเรือตรงร้านอาหาร จะมีรถกอล์ฟมารอรับที่ท่าเรือตอนเราไปถึงค่ะ
เสร็จแล้วเลยแวะไปหาอะไรกินกัน รอเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่อ่าวใหญ่ค่ะ ที่หาดมีคนมานับคนได้ค่ะ เรียกได้ว่าหาดเป็นของเรา นับได้ว่าเป็นข้อดีของช่วงโลวซีซั่น ถึงจะมีเมฆบังแต่ก็สวยไปอีกแบบค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้