ทริปนี้เรามากันในช่วง 28 เมย. - 1 พค. 2555 ตั้งใจมาเกาะพยาม มัลดีฟส์เมืองไทยค่ะ
เพราะหัวใจต้องการทะเล เราเลยเซมาที่ระนอง ไม่ใช่แค่ทะเลนะ ระนองยังเป็นแหล่งน้ำแร่ที่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติ
และยังเต็มไปด้วยประโยชน์ต่อร่างกาย ฟีลญี่ปุ่นเลยหละคะ (แต่ก็ควรมาหน้าหนาวแหละนะ 55++)
4วัน 3 คืน เราไปไหนบ้างดูจากภาพด้านล่างได้เลย
เรานั่งรถทัวร์จากกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) มาลงตัวเมืองระนอง ยิงยาวมา 1 ตื่นถึงค่ะ
เมื่อถึงตัวเมืองระนองแล้วเราก็หามื้อเช้าทานกันก่อน มีร้านติ่มซำใกล้ ๆ
กินเสร็จก็เดินไปนั่งรถสองแถวไปยังที่พักที่เราจองไว้ คือธารศิลา รีสอร์ท ที่พักติดลำธารเหมาะแก่การพักผ่อน ราคาก็ไม่แพงค่ะ
ถึงที่พักแล้วเราก็พักผ่อนกันสักหน่อย ก่อนจะออกไปตระเวนบริเวณรอบ ๆ ค่ะ
เราเก็บสัมภาระและเอนกายแว้บนึง ก็ออกมาตามหาโรตีแสนอร่อยในตัวเมืองระนอง โดยการนั่งสองแถวไปเดินตลาด
เจอร้านโรตีบังกีอาหรับ ขอบอกว่าอร่อยอะ อร่อยทุกอย่าง ต้องบอกว่าทิ้งคำว่าอ้วนไว้ที่กรุงเทพไปก่อนเลยค่ะ
จากนั้นเราก็ไปตามหาเช่ามอไซด์ เพื่อขับไปเที่ยวเล่นตามที่ต่าง ๆ ที่เราได้เล็งเอาไว้ เช่น
อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว, ภูเขาหญ้า, บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง
เราขับมอไซด์มาที่เที่ยวแห่งแรกของเราค่ะ นั่นคือ "อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว" เป็นน้ำตกคู่เมืองระนอง อยู่ภายในที่ทำการอุทยานฯ
ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าพิชิตยอดเขานมสาว ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง แต่เรายังไม่ไปในทริปนะคะ เราไปเที่ยวที่อื่นก่อนค่ะ
ถ่านรูปเล่นชมความงามน้ำตกแบบกรุบกริบพอค่ะ
ขับมอเตอร์ไซด์จากน้ำตกหงาวมาประมาณเกือบ ๆ 4 กิโล ก็จะเจอภูเขาหญ้า หรือเขาหัวล้าน หรือเขาผี
เป็นภูเขาที่ไม่มีหญ้าขึ้น ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนจะมีหญ้าเขียวปกคลุมสวยงาม แต่ถ้ามาหน้าร้อนแบบเราหละก็เกลี้ยงโล้นๆ โล่งๆ เลย
ถ่ายรูปภูเขาหญ้าได้แว้บเดียวเพราะว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร ละก็ขับรถต่อไปประมาณ 6 กิโลเมตร เราก็จะถึงบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง
ป็นน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สายน้ำแร่ร้อนผุดขึ้นมาจากผิวดิน และกระจายเป็นแอ่งน้ำ มีตาน้ำมากถึง 13 จุด
อุณหภูมิประมาณ 35-40 องศาเซลเซียล มีความใสสะอาด ไม่มีกลิ่นกำมะถัน/ก๊าซไข่เน่า
ปัจจุบันได้มีการปรับสภาพภูมิทัศน์ให้สวยงาม มีพันธุ์ไม้นานาชนิด สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น บ่อน้ำร้อนแบบแช่เท้า บ้อน้ำร้อนแบบแช่ทั้งตัว
ที่อาบน้ำกลางแจ้ง ห้องสุขา ศาลาพักผ่อน ที่จอดรถ ร้านอาหาร และบ้านพัก มีค่าเข้าด้วยค่ะ คนไทย 20 ต่างชาติ 100 บาท
แช่บ่อน้ำร้อนเรียบร้อยก็ขับรถไปหาอะไรกินใกล้ ๆ ที่พักจะมีตลาดนัด (ขับเจอก็จอดแวะซื้อกลับไปกินที่พัก)
วันที่ 2 แล้ว เรายังคงเดินเที่ยว ขับมอไซด์เที่ยวในเมืองระนองอยู่ค่ะ แต่คืนนี้เราจะเปลี่ยนที่พักมาพักกันที่หลวงพจน์ค่ะ
"หลวงพจน์ บูติค โฮสเทล" ราคาน่ารักที่พักน่ารัก แต่เป็นแบบห้องน้ำรวมค่ะ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองระนองค่ะ ใกล้ตลาด/ถนนคนเดินด้วยค่ะ
เราย้ายสัมภาระมาเก็บและเช็คอินที่นี่ และขับมอไซด์ไปเที่ยวกันต่อที่ "พระราชวังรัตนรังสรรค์"
ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง ปัจจุบันเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมภายในพระที่นั่งรัตนรังสรรค์ (จำลอง) สวยงามค่ะ
และแวะไปไหว้ศาลหลักเมืองระนอง และเจ้าเมืองระนอง ไม่ไกลเลยค่ะ อยู่ตรงข้าม สนง.เทศบาลเมืองระนอง
ขับเลยไปสุสานเจ้าเมืองระนอง ห่างจากเขตเทศบาลเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร
เป็นสุสานแบบจีนฝังศพของพระยารัตนเศรษฐี(คอชู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก
มาต่อกันที่นี่เลย The Blue Sky Resort Ranong (บนฝั่งระนองนะ) ยังไม่ได้ข้ามไปเกาะพยาม เราแวะมากินกาแฟและชั่งเล่นชมวิวกันที่นี่ค่ะ
แวะชมท่าเรือวิคตอเรียพอยท์ หรือเกาะสอง (ฝั่งพม่า) ยืมมองเฉยๆ นะ ไม่ได้ข้ามไปค่ะ 555+
แต่สามารถข้ามไปได้นะ ไปเที่ยวเล่นซื้อของได้ มีสินค้าพื้นเมืองมากมาย สามารถเช่าเรือหางยาวจากสะพานปลานี้ไปได้ค่ะ ลำละ 200-300 บาท
เมื่อวานนี้เราไปบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้งมา ส่วนวันนี้เราก็มาบ่อน้ำแร่ร้อนกันอีก แต่เป็นบ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวารินค่ะ
เป็นบ่อน้ำแร่ร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ 3 บ่อ ได้แก่ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว (บ่อสาธารณะ)
ทั้งสามบ่อตั้งอยู่ใกล้กันและมีอุณหภูมิความร้อนเฉลี่ยประมาณ 65 องศาเซลเซียส
ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย สามารถดื่มได้ มีคนเอาขวดน้ำมากรอกด้วยอะ
วันที่ 3 = วันนี้เราจะข้ามเกาะกันแล้วนะ เราจะไปเที่ยวเกาะพยามและนอนค้างบนเกาะ 1 คืน
เราเก็บสัมภาระ ทานโจ๊กเป็นอาหารเช้าที่อยู่ใกล้ที่พัก (เรือนขุนพจน์) และเดินทางมายังท่าเรือ โดยการนั่งสองแถวจากตัวเมืองระนอง
ใกล้ๆ กับตลาดเลยค่ะ บอกเค้าว่ามาท่าเรือระนอง
และจากท่าเรือระนองไปเกาะพยาม สามารถใช้บริการเรือโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยวได้ในราคา 150 บาท
มี 2 ช่วง คือ จากท่าเรือระนอง - เกาะพยาม รอบ 9 โมงเช้า และรอบบ่าย 2
จากเกาะพยาม-ท่าเมืองระนอง รอบ 8.30 และบ่าย 2
หรือถ้าต้องการใช้บริการเรือเร็วก็มีนะคะ ใช้เวลา 30-40 นาที ราคา 350 บาท
จากท่าเรือระนอง - เกาะพยาม เวลา 10.00 น. และ 14.30 น.
จากเกาะพยาม - ท่าเรือระนอง เวลา 09.00 น. และ 13.30 น.
เห็นราคาตัดสินใจไม่ยากค่ะ เรือโดยสารเลยค่ะ รอบ 9 โมงเช้า คนละ 150 เราไม่รีบค่ะ
นั่งเรือมาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงท่าเทียบเรือเกาะพยาม ท้องฟ้าแจ่มใสมาก แบกกระเป๋าแล้วสำรวจเกาะ พร้อมตระเวนหาที่พักกันค่ะ
เพราะเราไม่ได้จองที่พักใดๆ กะว่าจะมาหาเอาดาบหน้าค่ะ เช่นเคยนะคะเดินไม่ไหว เช่ามอไซด์บนเกาะค่ะ
เราตระเวนหาที่พักอยู่พักใหญ่ เนื่องจากเจ้าของที่พักกลับฝั่งไปบ้าง เพราะช่วงที่เรามาไม่ใช่ช่วงเที่ยวแล้ว ซึ่งก็ดีคนไม่เยอะ
เดินมาเรื่อยๆ จนมาเจอคนงานพม่าที่เฝ้าที่พักริมทะเลแห่งนึง ค่าพักคืนละ 500 ต่อหลัง แถมยังนอนได้ 3 คนด้วย
พิเศษไปกว่านั้นเค้าแถมตุ๊กแกตัวใหญ่ให้นอนเป็นเพื่อนเราด้วย อ๊ากกกกกก...จะร้องไห้ ธรรมชาติสุดๆ
ออกไปเช่ารถ หาของกิน และก็แวะไปเดอะบลูสกายรีสอร์ท (ฝั่งเกาะพยาม) จิบกาแฟชมความงามกันต่อจ๊ะ
ที่พักที่เราไม่ได้พักค่ะ
กินกาแฟเสร็จก็ขับมอเตอร์ไซด์ไปชมทะเลตามอ่าวอื่นๆ ของเกาะพยามกันบ้าง
โดยอ่าวหลัก ๆ ของเกาะพยามนั้น มี 4 อ่าว คือ อ่าวแม่หม้าย อ่าวใหญ่ อ่าวเขาควาย และอ่าวกวางปีบ
ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึง เราไปที่อ่าวใหญ่ก่อนค่ะ แต่วันนี้น่าจะได้แค่อ่าวเดียวเพราะจะมืดแล้ว
เพราะต้องกลับที่พักไปนอนกับตุ๊กแก..55+
เช้านี้เราจะไปเที่ยวอ่าวที่เหลือบนเกาะพยามค่ะ แต่ว่าจะแวะหามื้อเช้าทานกันก่อน ก็เดินหาเอาเลยค่ะไม่ได้ซีเรียสอะได้
เป็นการเดินชมวิถีชีวิตคนเกาะไปด้วยเลย จากนั้นก็ไปเดินเล่นกันที่อ่าวเขาควาย อ่าวนี้กว้างมากค่ะเดินเล่นยาวๆ ไป
เดินมาต่อที่อ่าวกวางปีบ อยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะพยามเลยค่ะ บ้างก็เรียกอ่าวนี้ว่า อ่าวลิง เพราะเป็นที่อาศัยของชนเผ่าลิง
อ่าวนี้เงียบสงบค่ะ มีบ้านพักไม่กี่หลัง ชื่อบ้านกวางปีบ เป็นกระท่อมเชิงผา น่าจะถูกใจชาวต่างชาติ
จากนั้นเราก็ต้องเก็บของเตรียมตัวเดินทางกลับ ไปยังท่าเรือตามเวลานัดหมาย รอบสุดท้ายก็คือบ่าย 2
ถึงท่าเรือเมืองระนองก็เย็นพอดี พวกเราต้องรีบเดินทางกลับกรุงเทพกันแล้วค่ะ
และหวังว่าคราวหน้าเราจะมาเที่ยวระนองอีกแน่ เพราะทะเลระนองสวยงามมาก ทะเลสวยน้ำใส มีที่เที่ยวน่าสนใจอีกเยอะเลย
หรืออาจจะข้ามไปเที่ยวเกาะของพม่า ทะเลพม่าก็สวยงามเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันเช่นเคยนะคะ
[CR] เกาะพยาม...ความงามที่ไม่ต้องพยายาม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้