สวัสดีค่ะ พี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิก นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเลย อยากจะขอคำแนะนำจากทุกคนหน่อยค่ะ
คือเรามาเรียนอยู่ที่เมกาได้ไม่กี่เดือน และได้ไปเที่ยวที่ซานฟรานมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่เดินเล่นในเมือง มีคนมาสะกิดว่ากระเป๋าเราเปิด เราใช้กระเป๋า backpack นะคะ ขอเตือนอีกที่ว่าอย่าประมาทเหมือนเรา เพิ่งรู้ว่าซานฟรานเองก็มีเรื่องโขมยเยอะ
เมื่อเปิดดูพบว่ากระเป๋าตังเราหาย โชคดีที่เอกสารสำคัญไม่มีอะไรหาย เราเลยโทรแจ้งอายัดบัตรก่อน เป็นบัตรที่เมกา 1 ใบ บัตรเครดิตที่ไทยสองใบ คิดเอาเองว่าเรียงตามวงเงิน โดยนับตั้งแต่เราใช้กระเป๋าตังครั้งสุดท้าย ประมาณ 2 ชมค่ะ
จนมาถึงบัตรสุดท้าย เมื่อเราโทรแจ้ง น้อง call center บอกว่าธุรกรรมสุดท้ายเพิ่งเกิดในช่วงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เราเลยบอกว่าต้องการระงับการจ่าย เนื่องจากไม่ได้ใช้บัตร และอธิบายเหตุการณ์ให้ทาง call center ฟัง น้อง call center บอกไม่น่ามีปัญหาอะไร และจะส่งเรื่องไปให้แผนกสืบสวนจัดการ พร้อมระงับยอดให้ระหว่างนี้ ทางเราเองก็เลยสบายใจ ลอง check กับ app พบว่าเป็นยอดถูกระงับที่ประมาณ 800 และ 600 เหรียญที่ target โดยระยะเวลาห่างกันไม่ถึงสามนาที (ห้างนี้เหมือนเทสโก้บ้านเราค่ะ) เราไม่เคยใช้บัตรนี้หรือบัตรไหนซื้อของจากที่นี่เลย เราเองเลยชะล่าใจคิดว่าไม่น่ามีปัญหา
ปรากฏว่าผ่านไปสามอาทิตย์ ธนาคารติดต่อมาบังคับใช้หนี้ เราเลย check app ก็พบว่า เปลี่ยนจากยอดที่รอเรียกเก็บเป็บยอดที่ต้องใช้ เราได้คุยกับฝ่ายสืบสวน น้องเขาบอกว่าเข้าใจแต่เนื่องจากเราโทรระงับช้า ถือว่าการใช้จ่ายทุกอย่างคือความรับผิดชอบของเรา ตามสัญญาคู่มือการใช้บัตรเครดิต เราต้องจ่ายเงิน ถ้าเราคิดว่าเราถูก เราต้องไปฟ้องศาลเอง เราบอกว่าในกรณีนี้ เราพยายามโทรอายัด แถมเป็นธุรกรรมที่ผิดปกติ เพราะบัตรนี้เราแทบไม่ใช้ที่เมืองนอกเลย จะใช้ส่วนมากเพราะเป็นบัตรที่เราผูกกับบัญชีฮูเบอร์ ดังนั้น เราใช่ต่อครั้งไม่เคยเกิน 20 เหรียญด้วยซ้ำ ทางธนาคารไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ นอกเหนือไปจากการใช้ที่ target ที่เราไม่รู้ว่าสาขาที่ใช้อีก คือเราเองยังไม่รู้ว่าจะต้องไปดูกล้องที่ไหนเลย แถมเราเองก็ไม่ไดอยู่ตรงนั้นแล้ว ธนาคารไม่มีคำแนะนำ หรือช่วยเหลืออย่างอื่นบ้างเหรอ ทางธนาคารบอกไม่มี ก็ต้องตามกระบวนการ sale slip ก็ไม่มีให้ดู ถ้าอย่างนั้นใครปลอมเบอร์บัตรเราก็ได้เหรอ
คือเราเองก็ยอมรับในความผิดที่บัตรเราถูกโขมยแต่เราเองก็รู้สึกว่าทางธนาคารน่าจะช่วยเหลือมากกว่านี้ ในการคุ้มครองการทำธุรกรรม เรามีบัตรเครดิตอื่น เช่น ถ้าเราใช้บัตรต่างประเทศ โดยไม่แจ้ง จะมีการโทรหา เพื่อสอบถามก่อน ทั้งที่ธุรกรรมนั้นอาจไม่ได้มีมูลค่ามากมาย แต่บัตรนี้ โดน รูดจนจะเต็มวงเงิน กลับไม่มีการช่วยเหลืออะไร
เราควรจะทำอย่างไรต่อไปดีคะ ควรฟ้องศาลไม่ยอมจ่ายมั้ย มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง แล้วถ้าเราอยู่เมืองนอก จะลำบากมั้ย หรือเราควรจ่ายให้จบ เป็นบทเรียนราคาแพงเวลาคิดจะทำอะไรในอนาคต จะได้คิดถึงธนาคารนี้เป็นธนาคารแรก ว่าไม่ควรเชื่อใจกันอีกแล้ว ไปหาธนาคารอื่นที่มีมาตรการป้องกัน ช่วยเหลือลูกค้าที่ดีกว่านี้
ขอบคุณค่ะ
บัตรเครดิตถูกโขมยที่เมืองนอก ธนาคารบังคับจ่าย ให้เราหาหลักฐานเอง ต้องทำยังไงต่อคะ
คือเรามาเรียนอยู่ที่เมกาได้ไม่กี่เดือน และได้ไปเที่ยวที่ซานฟรานมาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่เดินเล่นในเมือง มีคนมาสะกิดว่ากระเป๋าเราเปิด เราใช้กระเป๋า backpack นะคะ ขอเตือนอีกที่ว่าอย่าประมาทเหมือนเรา เพิ่งรู้ว่าซานฟรานเองก็มีเรื่องโขมยเยอะ
เมื่อเปิดดูพบว่ากระเป๋าตังเราหาย โชคดีที่เอกสารสำคัญไม่มีอะไรหาย เราเลยโทรแจ้งอายัดบัตรก่อน เป็นบัตรที่เมกา 1 ใบ บัตรเครดิตที่ไทยสองใบ คิดเอาเองว่าเรียงตามวงเงิน โดยนับตั้งแต่เราใช้กระเป๋าตังครั้งสุดท้าย ประมาณ 2 ชมค่ะ
จนมาถึงบัตรสุดท้าย เมื่อเราโทรแจ้ง น้อง call center บอกว่าธุรกรรมสุดท้ายเพิ่งเกิดในช่วงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เราเลยบอกว่าต้องการระงับการจ่าย เนื่องจากไม่ได้ใช้บัตร และอธิบายเหตุการณ์ให้ทาง call center ฟัง น้อง call center บอกไม่น่ามีปัญหาอะไร และจะส่งเรื่องไปให้แผนกสืบสวนจัดการ พร้อมระงับยอดให้ระหว่างนี้ ทางเราเองก็เลยสบายใจ ลอง check กับ app พบว่าเป็นยอดถูกระงับที่ประมาณ 800 และ 600 เหรียญที่ target โดยระยะเวลาห่างกันไม่ถึงสามนาที (ห้างนี้เหมือนเทสโก้บ้านเราค่ะ) เราไม่เคยใช้บัตรนี้หรือบัตรไหนซื้อของจากที่นี่เลย เราเองเลยชะล่าใจคิดว่าไม่น่ามีปัญหา
ปรากฏว่าผ่านไปสามอาทิตย์ ธนาคารติดต่อมาบังคับใช้หนี้ เราเลย check app ก็พบว่า เปลี่ยนจากยอดที่รอเรียกเก็บเป็บยอดที่ต้องใช้ เราได้คุยกับฝ่ายสืบสวน น้องเขาบอกว่าเข้าใจแต่เนื่องจากเราโทรระงับช้า ถือว่าการใช้จ่ายทุกอย่างคือความรับผิดชอบของเรา ตามสัญญาคู่มือการใช้บัตรเครดิต เราต้องจ่ายเงิน ถ้าเราคิดว่าเราถูก เราต้องไปฟ้องศาลเอง เราบอกว่าในกรณีนี้ เราพยายามโทรอายัด แถมเป็นธุรกรรมที่ผิดปกติ เพราะบัตรนี้เราแทบไม่ใช้ที่เมืองนอกเลย จะใช้ส่วนมากเพราะเป็นบัตรที่เราผูกกับบัญชีฮูเบอร์ ดังนั้น เราใช่ต่อครั้งไม่เคยเกิน 20 เหรียญด้วยซ้ำ ทางธนาคารไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ นอกเหนือไปจากการใช้ที่ target ที่เราไม่รู้ว่าสาขาที่ใช้อีก คือเราเองยังไม่รู้ว่าจะต้องไปดูกล้องที่ไหนเลย แถมเราเองก็ไม่ไดอยู่ตรงนั้นแล้ว ธนาคารไม่มีคำแนะนำ หรือช่วยเหลืออย่างอื่นบ้างเหรอ ทางธนาคารบอกไม่มี ก็ต้องตามกระบวนการ sale slip ก็ไม่มีให้ดู ถ้าอย่างนั้นใครปลอมเบอร์บัตรเราก็ได้เหรอ
คือเราเองก็ยอมรับในความผิดที่บัตรเราถูกโขมยแต่เราเองก็รู้สึกว่าทางธนาคารน่าจะช่วยเหลือมากกว่านี้ ในการคุ้มครองการทำธุรกรรม เรามีบัตรเครดิตอื่น เช่น ถ้าเราใช้บัตรต่างประเทศ โดยไม่แจ้ง จะมีการโทรหา เพื่อสอบถามก่อน ทั้งที่ธุรกรรมนั้นอาจไม่ได้มีมูลค่ามากมาย แต่บัตรนี้ โดน รูดจนจะเต็มวงเงิน กลับไม่มีการช่วยเหลืออะไร
เราควรจะทำอย่างไรต่อไปดีคะ ควรฟ้องศาลไม่ยอมจ่ายมั้ย มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง แล้วถ้าเราอยู่เมืองนอก จะลำบากมั้ย หรือเราควรจ่ายให้จบ เป็นบทเรียนราคาแพงเวลาคิดจะทำอะไรในอนาคต จะได้คิดถึงธนาคารนี้เป็นธนาคารแรก ว่าไม่ควรเชื่อใจกันอีกแล้ว ไปหาธนาคารอื่นที่มีมาตรการป้องกัน ช่วยเหลือลูกค้าที่ดีกว่านี้
ขอบคุณค่ะ