ผู้ชายคนนี้พี่ขอ

นิยาย ผู้ชายคนนี้พี่ขอ




เรื่องย่อ
แดนสรวง สารภาพรักก่อนจบม.ปลาย กับปิ่นรัก  แต่ปิ่นรักกลับปฏิเสธ เพื่อรักษามิตรภาพของเขาและเธอเอาไว้  
แดนสรวงเติบใหญ่ และกลับมาอีกครั้งในฐานะรองประธานบริษัทที่ปิ่นรักทำงานอยู่  เขากลั่นแกล้งเธอทุกวิถีทาง เพื่อล้างแค้น
ปิ่นรักไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดเธอนัก  แต่เธอก็พร้อมจะทำทุกวิถีทาง  ให้เขากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ  และแก้เผ็ดเขาด้วยการเปิดเผย
ตัวตนที่เคยเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขาตกหลุมรัก  เพื่อนรักที่เคยเรียนด้วยกันสมัยมัธยมปลาย  กลับโคจรมาเจอกันอีกครั้ง  
เรื่องวุ่น ๆ ของเหล่าเพื่อน  ความสัมพันธ์อันดีในอดีตจะเปลี่ยนความขัดแย้งเป็นความรักได้หรือไม่ ลองติดตามดูนะครับ

แดนสรวง   รองประธานบริษัทอุตสาหกรรม ชายหนุ่มผู้เพรียบพร้อมในทุกด้าน  นักเรียนตัวอย่าง เรียนดี กีฬาเด่น ฮอตมากสมัยม.ปลาย
               เคยสารภาพรักกับปิ่นรัก แต่โดนปฏิเสธ  ผู้ชายที่ยึดติดกับอดีต  มีปมบางอย่าง  แข็งนอกอ่อนใน   มักจะใจดีกับคนอื่น ยกเว้นปิ่นรัก
ปิ่นรัก        ประชาสัมพันธ์สาว อดีตผู้หญิงที่แดนสรวงเคยตกหลุมรัก  เพราะไม่รับรัก  เธอจึงโดนเขาเอาคืนด้วยการกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา  
               แต่ฉายาแรมโบ้สมัยเรียน  ทำให้เธอเข้มแข็ง และสวนกลับแดนสรวงได้อย่างไม่เกรงกลัว
สิงหา        นักดนตรีอารมณ์ดี  เพื่อนรักของแดนสรวง  ที่เคยอ้วนมากตอนสมัยมัธยม  แต่โตเป็นหนุ่มรูปงาม  เขาหลงรักความใจดีมีน้ำใจของบัวแวง  
บัวแวง      เพื่อนรักของปิ่นรัก  พยาบาลสาว ผู้เอื้ออารี  แสนซื่อ มีน้ำใจ  เคยตกหลุมรักภณเพื่อนสมัยม.ปลายเพียงแค่จดหมายรักฉบับเดียว
ภณ          สถาปนิกหนุ่มหล่อ ที่ฮอตมากสมัยเรียน แต่ก็น้อยกว่าแดนสรวง  ผู้ชายที่ทำให้บัวแวงตกหลุมรัก  และอยากจะคืนดีกับเธออีกครั้ง  
ปุยฝ้าย     สาวสวยสุดฮอตประจำโรงเรียน  ที่ตอนนี้เป็นนางแบบฟรีแลนซ์  เธอยังรักแดนสรวงอยู่ และพยายามจะทำให้เขาเป็นของเธอให้ได้

....................................................

ผู้ชายคนนี้พี่ขอ

ตอนที่ 1


สายลมพัดในฤดูหนาว  ใบไม้ร่วงหล่นเป็นสาย ราวกับหิมะโปรย  ใต้ต้นไม้นั้น นักเรียนมัธยมปลายหนุ่มสาวคุยปัญหาคาใจกัน
“ฉันชอบเธอ คบกับฉันเถอะนะ”  ฝ่ายชายพูดตรงเป้าไม่อ้อมค้อม  ผิดกับฝ่ายสาว ที่รั้งรอ ยืนคิดหนัก
“เฮ้ย...   พูดเล่นหรือเปล่า เรากลับไปหาเพื่อน ๆ กันเถอะ”   หญิงสาวหันตัวกลับ แต่ฝ่ายชายยังหนักแน่น
“ฉันชอบเธอจริง ๆ เรื่องแบบนี้ฉันไม่พูดเล่นหรอก”   หญิงสาวชะงัก หันกลับมามองหน้าเขาอีกครั้ง แววตาของเขาบอกว่าเอาจริง
“แต่เราเป็นเพื่อนกันนะ เป็นเพื่อนกันดีกว่า เรื่องนี้ฉันยังไม่อยากคิด”
“เธอไม่ชอบฉันเหรอ”
“ชอบ... ชอบสิ  เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน”
“ถ้าเธอชอบฉัน  ก็ให้โอกาสฉัน  เย็นนี้ฉันจะรอคำตอบจากเธอ  แข่งกีฬาเสร็จ ฉันจะรอเธอที่นี่ รอคำตอบจากเธออีกครั้ง”

........................................

กร๊งงงงงงงง  เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่น  หญิงสาวเปิดผ้าห่มกลิ้งไปปิดมัน แล้วลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นตัว
“นี่ฉันฝันอีกแล้วเหรอเนี่ย...”  หญิงสาวส่ายหัวก่อนจะไปอาบน้ำ  ก่อนจะโทรศัพท์หาเพื่อนสาว
“ว่าไงนะ  เธอฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ”
“ใช่ เดือนนี้สามรอบแล้วนะ ฉันรู้สึกไม่ดีเลย”
“หรือว่า...”
“หรือว่าอะไร”
“เค้าจะไม่อยู่ในโลกใบนี้แล้ว”   สองสาวตาโพลง
“บัว... อย่าพูดแบบนี้สิ  ฉันไม่คุยกับเธอแล้ว แค่นี้นะ”   ปิ่นรักวางสาย ครุ่นคิดหนัก

....................

ปิ่นรักเดินครุ่นคิดมาทำงานที่บริษัท  เธอวางกระเป๋าลงก่อนจะถอนหายใจ
“ฉันคงโสดมานานเกินไป  ถึงได้นึกถึงเรื่องนั้น ไม่มีอะไรหรอก ทำงานต่อเถอะปิ่นรัก”  
เธอเดินออกไปส่งเอกสารที่แผนกอื่น  ระหว่างทางเดินสวนกับบุรุษนิรนามคลับคล้ายคลับครา
“ใช่ไหมนะ  ใช่เขาไหม”   เธอเดินตามชายคนนั้นไป  จนกระทั่งเขาหายไปลับตา  เมื่อหาเขาไม่เจอ  ปิ่นรักก็คิดว่าไม่มีอะไร  กลับไปทำงานที่ห้องของตนต่อ
“ปิ่น”   เสียงรุ่นพี่เรียก ปิ่นรักรีบหันหา เธอถูกมอบหมายให้ไปประชุมแทน  เธอตอบตกลง แล้วเดินไปที่ห้องประชุมก่อนจะนั่งลงคิดไม่ตก เรื่องเพื่อนรักในอดีตที่ฝันถึง  จนไม่ได้ฟังเสียงรอบข้าง  .... ขอเสียงปรบมือต้อนรับรองประธานคนใหม่ของเราด้วยครับ..... เสียงปรบมือดังกึกก้อง  ปิ่นรักตบมือตาม ใบหน้ามองตรงไปที่หน้าเวที  เธอถึงกับอึ้ง ที่เห็นภาพตรงหน้า
“สวัสดีครับ ผมแดนสรวง  ยินดีที่ได้รู้จักครับ”  สายตาของเขาบรรจบมาที่เธอ   ปิ่นรักเบิกตาโพลง หูอื้อ ฟังอะไรไม่รู้เรื่อง  เมื่อประชุมจบ เธอก็ลุกออกจากห้องพร้อมกับเพื่อน ๆ
“ปิ่น เธอไม่ประชุมต่อเหรอ”
“ทำไมเหรอ ประชุมจบแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ก็เธอต้องคุยโปรเจคต่อกับท่านรองประธานไง  เมื่อกี้เค้ามอบหมายให้แต่ละฝ่ายเรียบร้อยแล้ว”
“คุยต่อ”  เพื่อนสาวพยักหน้า  ปิ่นรักเกือบแน่นิ่ง   เธอทำใจร่ม ๆ  แล้วหันหลังกลับเข้าไปประชุม ...ไม่เป็นไร... เค้าจำฉันไม่ได้หรอก  เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว  ไม่มีวัน...
“ปิ่นรัก   เธอคิดจะชิ่งหรือไง”   เสียงทุ้มนั้นทำให้เธอแทบบ้า
“ท่านรองประธานรู้จักปิ่นด้วยเหรอครับ”
“ครับ  รู้จักดี เพื่อนรักของผมสมัยเด็ก ๆ”    ผู้คนรอบข้างต่างชื่นชมยินดี  ต่างกับปิ่นรักที่ยังคาดไม่ถึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   เขาไม่ได้ตาย  ไม่ได้บาดเจ็บ  แต่ตัวเป็น ๆ มายืนอยู่ตรงนี้   ช็อกเป็นลมไปเลยดีกว่าปิ่นรัก   ทำไม  ทำไมไม่เป็นลม  เป็นลมเองก็ได้วะ   ปิ่นรักฟุบล้มไปกองกับพื้น  
“ไม่ต้องครับ  เดี๋ยวผมจัดการเอง”   เขาเดินเข้าไปช้อนร่างของปิ่นรักขึ้นแล้วกระซิบข้างหูเธอเบา ๆ
“เธอยังใช้แผนโง่ ๆ เหมือนเดิม ยังแกล้งคนอื่นได้เก่งเหมือนเคยนะ”   ปิ่นรักกัดกรามแน่น เสียใจที่เค้ารู้ทัน  ชายหนุ่มวางเธอลงบนเตียงในห้องพยาบาล
“ตื่นขึ้นมาได้แล้ว”  หญิงสาวนอนเงียบ
“ถ้าเธอไม่ตื่น ฉันจะปล้ำ”  หญิงสาวนอนเงียบเช่นเคย
“คิดว่าฉันพูดเล่นเหรอ”  เขาท้าวแขนคล่อมตัวเธอไว้ทั้งสองข้าง  ค่อย ๆ โน้มตัวลงจนหน้าเกือบชิด
“นับหนึ่ง  สอง....”
“โอ๊ย พอแล้ว”     ปิ่นรักพลักเขาออกห่าง
“ไง ไม่เจอกันตั้งนาน  พอเห็นหน้าฉันก็แกล้งเป็นลม  แถมคำแรกที่พูดถึงกัน ก็คือคำนี้เนี่ยนะ เธอนี่มันร้ายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยจริง ๆ”
“ ฉันขอโทษ  ฉันทำตัวไม่ถูก”
“ฉันเป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ  เพื่อนกัน  ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลยนี่”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง  อยู่ ๆ ก็มาเจอหน้าคนที่...”
“ที่อะไร  คนที่เคยสารภาพรักเธอในอดีตน่ะเหรอ... ปิ่นรัก  นี่เธอยังไม่ลืมเรื่องนั้นอีกเหรอ”  หญิงสาวก้มหน้าไม่กล้าสบตา
“เธอไม่ต้องห่วง  ฉันไม่เอาเรื่องอดีตมาใส่ใจหรอก  เรื่องเก่า ๆ  ฉันลืมมันไปหมดแล้ว  เธอเองก็...”  ชายหนุ่มกวาดสายตามองเรือนร่างของหญิงสาว  
“ไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลยสักนิด  นี่ฉันแปลกใจตัวเองจริง ๆ ว่าไปชอบเธอได้ยังไง”  
“นายแดน”   ปิ่นรักโกรธจัด  ชายหนุ่มยิ่งยิ้มอ่อน
“โกรธอะไร โถ ฉันคาดหวังไว้มากเลยนะ  ว่าเธอตอนโตจะสวยขนาดไหน  หึ... น่าผิดหวังชะมัด”
“นายแดน”  ปิ่นรักโกรธจนกระชากคอเสื้อ
“โอ๊ะ  ขาโหดกลับมาแล้ว  ฉันไม่กลัวเธอหรอก เพราะถ้าเธอทำอะไรฉัน ก็เตรียมตัวหางานใหม่ได้เลย”  ปิ่นรักกัดฟัน จำใจต้องปล่อยมือ
“ฉลาดดีเหมือนกันนี่  เธอจำฉันไม่ได้ก็ดีแล้ว  แกล้งทำต่อไปเถอะ  จากนี้ไปเราต้องทำงานร่วมกันในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง  จะไม่มีคำว่าเพื่อนอีก”    แดนสรวงเดินออกจากห้องไปอย่างเย็นชา  ปิ่นรักเหมือนถูกเพื่อนรักทอดทิ้ง  เธอตาแดง แต่ก็กลั้นน้ำตาเอาไว้

.............................................................

บัวแวงถึงกับอึ้งเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับปิ่นรัก
“ว่าไงนะ  นายแดนไม่ได้ตาย  แต่มาเป็นเจ้านายเธอ”
“ใช่  ซวยชะมัด”
“แล้วเธอทำยังไง”
“ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยแกล้งเป็นลม”
“แกล้งเป็นลม  แล้วเค้าว่าไง”
“เหมือนจะดี แต่ก็หลอกฉันไปเชือด  ด่าฉันซะเละ”
“แดนไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้นไปได้นะ  เพราะเธอนั่นแหละยัยปิ่น  ไปสร้างบาดแผลไว้ในหัวใจของเขา  เลยอาฆาตแค้น  นี่อย่าบอกนะว่าจะมาเอาคืนเธอน่ะ”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้หรอก  คงแค่บังเอิญมาทำงานที่เดียวกันมากกว่า  เค้าคงไม่คิดว่าจะเจอฉันเหมือนกัน  แต่ฉันเองก็น่าจะเข้าไปทักเขาตรง ๆ ไม่น่าจะหนีเลย”
“แล้วเธอหนีทำไมล่ะ ฉันก็สงสัยเหมือนกัน”    คำถามของบัวแวงทำให้ปิ่นรักนิ่งคิด
“ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน”
“หรือว่าเธอยังรู้สึกผิดที่ไม่ได้รับรักเขาอยู่ ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้วนะ   เธอก็น่าจะลืมมันได้ แล้วทักทายเขาแบบเพื่อนปกติได้นี่  ทำไมต้องหนีเค้าด้วยล่ะ”   บัวแวงยิงคำถามที่ปิ่นรักก็ไม่รู้คำตอบ  เธอคงกลัวที่จะเจอเพื่อนเก่ามากกว่า
“เธอลองคิดดูดี ๆ สิ ว่าเธอไปทำอะไรเขา  เธอถึงได้ฝังใจจนไม่กล้าสู้หน้าเขาถึงขนาดนี้   ฉันว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าการปฏิเสธการสารภาพรักแน่  ๆ ”    ปิ่นรักคล้อยตามเริ่มครุ่นคิด  เธอนั่งคิดถึงอดีตย้อนไปเมื่อสมัยวัยรุ่น  

...............................................

บรรยายกาศสีเทา ๆ ณ โรงเรียนมัธยมปลาย นักเรียนมากมายวิ่งเข้าแถว   เด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาสาย วิ่งกระหืดกระหอบ ก่อนจะถูกคุณครูฝ่ายปกครองกักตัวไว้  ให้ไปยืนตั้งแถวใหม่ต่างหาก  เมื่อเพลงชาติจบลง นักเรียนดีเด่นได้รับรางวัลขึ้นเวทีประกาศผลงานของตนเอง  เด็กปลายแถวอย่างปิ่นรักได้แต่ยืนมองไกล ๆ ราวกับคนละโลก  
“ดูสิ เพื่อนได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ  ส่วนพวกเธอต้องได้รางวัลเหมือนกัน หันหลังไป กอดอก....ป๊าป”  เสียงเฆี่ยนด้วยไม้เรียวดังป๊าบ ๆ เล่นเอาขาลายเป็นแถบ ๆ เด็กมาสาย เดินก้มหน้าก้มตาเดินไปห้องเรียน  ปิ่นรักเหลือบมองนักเรียนดีเด่นที่ได้รับคำชื่นชมจากอาจารย์  เขาเดินแซงหน้าพวกเธอไป  อย่างสง่างามราวกับฝูงหงส์  ปิ่นรักมองดูอย่างหมั่นไส้   นั่นคือวินาทีแรกที่พวกเขาได้พบกัน  

......................................

จนกระทั่งวันนี้  ภาพเก่าเล่าซ้ำ  แดนสรวงและผู้ติดตามเดินผ่านหน้าเธอไป  ท่าทีวิ่งกระหืดกระหอบของเธอ บ่งบอกว่าเธอมาสาย  ชายหนุ่มหยุดและหันมามองเธออย่างตำหนิ
“บอกฝ่ายบุคคลด้วยว่าให้ตรวจสอบขาดลามาสายของพนักงานให้ละเอียด  ผมไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบบริษัทเราเป็นอันขาด”    ลูกน้องคนสนิทรับคำ  ก่อนจะหันขวับเดินกลับไป   ปิ่นรักเหมือนโดนตบหน้าดังฉาด  
“เหมือนเดจาวูเลยวุ้ย  วันนี้ซวยแต่เช้า”  
เมื่อกลับเข้าห้องทำงาน  เพื่อน ๆ ต่างปรบมือดีใจให้กับปิ่นรัก จนเธอสงสัยว่าทำไมต้องดีใจกับเธอด้วย  เพื่อนรุ่นพี่บอกว่าเธอกำลังจะได้ไปเป็น PR โครงการพิเศษที่ชื่อว่า ปันน้ำใจสู่น้อง ภายใต้การกำกับดูแลของท่านรองประธานคนใหม่  เริ่มงานวันนี้ และตอนนี้เลย  
“ตอนนี้”
“ใช่จ้ะ  ท่านรองประธานเรียกพบเพื่อคุยโปรเจคใหม่ตอนนี้จ้ะ”    รอยยิ้มที่ส่งมา ทำให้ปิ่นรักต้องยิ้มตอบอย่างอ่อนแรง

.................................

“ก๊อก ๆ ๆ  เข้ามา”  
“นายเรียกฉันเหรอ”
“นาย...  เธอเรียกฉันแบบนี้ได้ยังไงปิ่นรัก  ออกไปแล้วเข้ามาใหม่”   แดนสรวงใช้อำนาจสั่งการ จนปิ่นรักต้องหันหลังกลับ
“เรียกฉันเหรอคะท่านรองประธาน”  
“ทำไมเธอไม่เคาะประตู   ออกไปใหม่”   ปิ่นรักกัดฟันหันหลังควับ  แดนสรวงอดขำไม่ได้แต่เขาก็แกล้งทำขรึม
“ก๊อก ๆ ๆ เข้ามา”
“เรียกฉันเหรอคะท่านรองประธาน”
“อืม  บริษัทเราจะทำโปรเจคพิเศษ ปันน้ำใจสู่น้อง  เธอไปคิดมาว่าจะทำอะไรบ้าง แล้วเอามาให้ฉันดู พร้อมงบประมาณด้วย แค่นี้”
“แค่นี้...”
“อืม แค่นี้ มีอะไรเหรอครับ คุณปิ่นรัก”   สายตาท้าทายนั้น  เรียกพลังในกายของหญิงสาวให้กลับฟื้นคืนชีพ
“ไม่มีค่ะ...ท่านรองประธาน ดิฉันจะรีบทำให้นะคะ ขอตัวก่อนนะคะ...ปัง!”   ปิ่นรักเดินอาด ๆ กลับไปที่โต๊ะ  อย่างหัวเสีย  
“คิดจะเล่นกับฉันใช่ไหม... นายแดน .... ได้  ฉันจะไม่ใจดีกับนายอีกต่อไป จากนี้เราขาดกัน...”    แดนสรวงแอบมองเธอจากห้องของตัวเอง เขายิ้มอย่างมีความสุข  ที่ได้ยั่วให้เธอโมโหได้  
“ไม่ใช่แค่นี้หรอก  ต่อไปเธอจะต้องเจออีกเยอะ  ฉันไม่ยอมปล่อยให้เธอมีความสุขหรอก”  สายตาคมกริบนั้นดูกร้าวร้าวแฝงไว้ด้วยความเคลือบแคลงบางอย่าง

..............
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่