มาแชร์ประสบการณ์ (ไม่ค่อยดี) กับการทานอาหารบุฟเฟต์ร้านยูสูกี้สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
เพิ่งมาทานครั้งแรก ราคาต่อหัวอยู่ที่299 บาท นั่งทานได้ชั่วโมงครึ่ง ถ้าเพิ่มอีก100บาท จะมีกุ้งกับหอยเพิ่มมา เอาแบบราคาปกติ299
อาหารมีหลากหลาย ขนมหวาน เครื่องดื่ม ผลไม้ รวมอยู่ในราคานี้แล้ว ยังมีข้าวผัด แกงเขียวหวาน ก๋วยเตี๋ยวตัด ขนมจีบ ซาลาเปา โดยรวมราคารับได้กับอาหารอย่างที่เห็นในราคาชั่วโมงครึ่ง
เข้าไปปุ๊บ พนักงานจะมาถามถึงน้ำซุป เลือกได้สองรสชาติ เลือกปุ๊บ พนังงานก็เดินไป โดยเวลาชั่วโมงครึ่งเริ่มนับจากตรงนั้น ตรงที่น้ำซุปยังไม่มา แต่พนักงานรับออเดอร์ไปแล้ว
ผมเริ่มทานประมาณ หกโมงครึ่ง ก็จะไปสิ้นสุดอยู่ช่วงเกือบๆสองทุ่ม เวลาในการทานชั่วโมงครึ่ง ไม่ได้รีบร้อนอะไร ยังไงก็ไม่เคยทานจนหมดเวลาเพราะทานไม่เยอะอยู่แล้ว
ทานไปซักพักประมาณเกือบจะครึ่งชั่วโมง เนื้อหมูสไลด์หมด เบคอนสไลด์ก็หมด จะมีหมู ไก่ ที่หั่นเป็นก้อนๆ หมักด้วยอะไรหลายๆอย่างที่เหลือเป็นเศษๆ ผมที่ตั้งใจมากินไอ้หมูบางๆ และเพิ่งกินไปแค่ไม่กี่ถาดก็เซ็งสิครับ รอซักพัก(ใหญ่ๆประมาณสิบห้านาที) ก็ไม่มีมา เลยบอกพนักงานว่ารบกวนช่วยลงหมูสไลด์มาด้วยครับ พนักงานก็บอกว่ารอซักพักครับเดี๋ยวตามให้ ซักพักตรงนี้คือเวลามันเดินมาจนประมาณทุ่มสี่สิบหมูก็ไม่มีตามรูปที่เห็น สี่สิบนาทีคือมันไม่มีของ
ของไม่มีไม่เป็นไร เพราะอย่างที่บอกไลน์อาหารอื่นยังมีให้ทานได้ ก็ราคานี้ ก็ต้องรับสภาพได้ แต่มันก็ยังมีความรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ คือผมว่าทางร้านก็ไม่ได้ฟิกเวลาว่าคุณเข้ามาเวลานี้ ชั่วโมงครึ่งต้องออกทันที (ตรงจุดนี้ขาดเลยนิดหน่อยน่าจะคุยกันได้) แต่การรอโดยไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่ แบบไม่มีอาหารมาเติม มันรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ ในเมื่อคุณจำกัดเวลาในการทาน คุณไม่ควรจะให้ลูกค้ารอนานเกินสิบนาที แต่อะนนี้คือรอสี่สิบนาที
การบริการ เข้าใจอยู่ว่าวันนี้ใกล้ปีใหม่ เป็นวันศุกร์เย็น อาจจะมีลูกค้ามาเยอะกว่าปกติ พนักงานยุ่งกันทุกคน โต๊ะและถาดไม่ค่อยเก็บปล่อยให้กองๆกันเต็มโต๊ะอันนี้เป็นทริคในการให้ลูกค้าทานได้น้อยลงรึเปล่า ถ้าเป็นทริคเป็นหลักการขายเพื่อสร้างกำไรให้กับทางร้านก็เข้าใจอยู่ แต่ถ้าไม่ได้จงใจ ผู้บริหารควรต้องพิจารณาใหม่แล้วว่า การบริการมีปัญหา พนักงานมีปัญหา อาจจะพนังงานไม่พอก็ต้องหาทางแก้ไข หรือพนักงานตกหล่นไปก็ต้องปรับเปลี่ยนครับ
กลับมาเรื่องหมูสไลด์ ยังไงก็รู้สึกถูกเอาเปรียบ อยากกินแต่ไม่ได้กิน ก็อยากเตือนว่าไปบุฟเฟต์ร้านไหน อยากทานอะไร เล็งๆไว้ก่อนว่ามีเติมตลอดมั้ย เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกเหมือนผม
เวลาประมาณทุ่มห้าสิบ หมูสไลด์เริ่มมีลงมีแล้ว โดยรวมเวลาห้าสิบนาที มันนานเกินไปนะครับ ความรู้สึกอยากทานหรือว่าระหว่างที่รอทานอย่างอื่นไปแล้วจนรู้สึกว่า ตามแล้วไม่มากูไม่กินแล้วก็ได้
ร้านนี้ลูกค้าเอไอเอสเซเรเนส มีส่วนลด ตรงนี้อาจจะไม่ใช่จุดดีสำหรับเอไอเอสก็ได้ ถ้าเอไอเอสเลือกร้านที่มีการบริการไม่ดี แลดูเอาเปรียบลูกค้ามาเป็นพันธมิตรในการให้ส่วนลด มันก็มีส่วนที่ทำให้เอไอเอสด้อยค่าลงไปด้วยเช่นกัน
สรุปเช็คบิล น่าจะรอบนี้รอบแรกและรอบสุดท้ายสำหรับร้านยูสุกี้ครับ
ระหว่างที่รอ ทางร้านก็ยังรับลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆนะครับ ใครเข้าตอนทุ่มนึงจะได้กินหมูสไลด์ตอนเกือบสองทุ่มแลดูไม่เป็นธรรมนะครับ เรื่องหมูๆไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ
ยูสุกี้สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า รู้สึกถูกเอาเปรียบกับการบริการแย่ๆ
เพิ่งมาทานครั้งแรก ราคาต่อหัวอยู่ที่299 บาท นั่งทานได้ชั่วโมงครึ่ง ถ้าเพิ่มอีก100บาท จะมีกุ้งกับหอยเพิ่มมา เอาแบบราคาปกติ299
อาหารมีหลากหลาย ขนมหวาน เครื่องดื่ม ผลไม้ รวมอยู่ในราคานี้แล้ว ยังมีข้าวผัด แกงเขียวหวาน ก๋วยเตี๋ยวตัด ขนมจีบ ซาลาเปา โดยรวมราคารับได้กับอาหารอย่างที่เห็นในราคาชั่วโมงครึ่ง
เข้าไปปุ๊บ พนักงานจะมาถามถึงน้ำซุป เลือกได้สองรสชาติ เลือกปุ๊บ พนังงานก็เดินไป โดยเวลาชั่วโมงครึ่งเริ่มนับจากตรงนั้น ตรงที่น้ำซุปยังไม่มา แต่พนักงานรับออเดอร์ไปแล้ว
ผมเริ่มทานประมาณ หกโมงครึ่ง ก็จะไปสิ้นสุดอยู่ช่วงเกือบๆสองทุ่ม เวลาในการทานชั่วโมงครึ่ง ไม่ได้รีบร้อนอะไร ยังไงก็ไม่เคยทานจนหมดเวลาเพราะทานไม่เยอะอยู่แล้ว
ทานไปซักพักประมาณเกือบจะครึ่งชั่วโมง เนื้อหมูสไลด์หมด เบคอนสไลด์ก็หมด จะมีหมู ไก่ ที่หั่นเป็นก้อนๆ หมักด้วยอะไรหลายๆอย่างที่เหลือเป็นเศษๆ ผมที่ตั้งใจมากินไอ้หมูบางๆ และเพิ่งกินไปแค่ไม่กี่ถาดก็เซ็งสิครับ รอซักพัก(ใหญ่ๆประมาณสิบห้านาที) ก็ไม่มีมา เลยบอกพนักงานว่ารบกวนช่วยลงหมูสไลด์มาด้วยครับ พนักงานก็บอกว่ารอซักพักครับเดี๋ยวตามให้ ซักพักตรงนี้คือเวลามันเดินมาจนประมาณทุ่มสี่สิบหมูก็ไม่มีตามรูปที่เห็น สี่สิบนาทีคือมันไม่มีของ
ของไม่มีไม่เป็นไร เพราะอย่างที่บอกไลน์อาหารอื่นยังมีให้ทานได้ ก็ราคานี้ ก็ต้องรับสภาพได้ แต่มันก็ยังมีความรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ คือผมว่าทางร้านก็ไม่ได้ฟิกเวลาว่าคุณเข้ามาเวลานี้ ชั่วโมงครึ่งต้องออกทันที (ตรงจุดนี้ขาดเลยนิดหน่อยน่าจะคุยกันได้) แต่การรอโดยไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่ แบบไม่มีอาหารมาเติม มันรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ ในเมื่อคุณจำกัดเวลาในการทาน คุณไม่ควรจะให้ลูกค้ารอนานเกินสิบนาที แต่อะนนี้คือรอสี่สิบนาที
การบริการ เข้าใจอยู่ว่าวันนี้ใกล้ปีใหม่ เป็นวันศุกร์เย็น อาจจะมีลูกค้ามาเยอะกว่าปกติ พนักงานยุ่งกันทุกคน โต๊ะและถาดไม่ค่อยเก็บปล่อยให้กองๆกันเต็มโต๊ะอันนี้เป็นทริคในการให้ลูกค้าทานได้น้อยลงรึเปล่า ถ้าเป็นทริคเป็นหลักการขายเพื่อสร้างกำไรให้กับทางร้านก็เข้าใจอยู่ แต่ถ้าไม่ได้จงใจ ผู้บริหารควรต้องพิจารณาใหม่แล้วว่า การบริการมีปัญหา พนักงานมีปัญหา อาจจะพนังงานไม่พอก็ต้องหาทางแก้ไข หรือพนักงานตกหล่นไปก็ต้องปรับเปลี่ยนครับ
กลับมาเรื่องหมูสไลด์ ยังไงก็รู้สึกถูกเอาเปรียบ อยากกินแต่ไม่ได้กิน ก็อยากเตือนว่าไปบุฟเฟต์ร้านไหน อยากทานอะไร เล็งๆไว้ก่อนว่ามีเติมตลอดมั้ย เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกเหมือนผม
เวลาประมาณทุ่มห้าสิบ หมูสไลด์เริ่มมีลงมีแล้ว โดยรวมเวลาห้าสิบนาที มันนานเกินไปนะครับ ความรู้สึกอยากทานหรือว่าระหว่างที่รอทานอย่างอื่นไปแล้วจนรู้สึกว่า ตามแล้วไม่มากูไม่กินแล้วก็ได้
ร้านนี้ลูกค้าเอไอเอสเซเรเนส มีส่วนลด ตรงนี้อาจจะไม่ใช่จุดดีสำหรับเอไอเอสก็ได้ ถ้าเอไอเอสเลือกร้านที่มีการบริการไม่ดี แลดูเอาเปรียบลูกค้ามาเป็นพันธมิตรในการให้ส่วนลด มันก็มีส่วนที่ทำให้เอไอเอสด้อยค่าลงไปด้วยเช่นกัน
สรุปเช็คบิล น่าจะรอบนี้รอบแรกและรอบสุดท้ายสำหรับร้านยูสุกี้ครับ