แค่อยากบอก.. เรื่องโรคซึมเศร้าจากประสบการณ์ตัวเอง

กระทู้นี้ไม่ใช่เป็นกระทู้เพื่อตั้งคำถามหรอกค่ะ แค่อยากให้หลายๆคนได้รู้และแค่อยากบอก...เล่าถึงเรื่องราวและประสบการของตนเอง
ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลเกินเหตุ (Generalized anxiety disorder)


ฮัลโหลล~ สวัสดีค่ะทุกๆคน สำหรับใครที่หลงเข้ามานะคะ ก็ขอแนะนำกันก่อนนิดนึง กระทู้นี้คือการบอกเล่าเรื่องราวของผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลเกินเหตุ.. ใช่ค่ะ เรื่องราวทั้งหมดในนี้ เป็นเรื่องที่เคยเกิดกับเรามาจริงๆตั้งแต่เด็ก และจนถึงปัจจุบัน เราก็ยังคงเป็นโรคนี้อยู่ ซึ่งเดี๋ยวซักวันแหละมันก็จะหาย ยิ้ม  โดยที่เราเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะ..
ทุกๆคนลองมองดูรอบๆตัวเราสิ เจออะไรบ้าง โหวว... คนนู้นก็เครียด คนนี้ก็เครียด คนโน้นก็หน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งใจทำงานยิกๆ ในขณะที่บางคน เฮ้ยยย~เออ คนนี้ตลกดีจัง ร่าเริ่งได้ตลอดเวลาเลยนะแก55555 น่าอิจฉาพวกนี้จังเนอะ ไม่เห็นเค้าจะดูเครียดเลย แต่ว่า.. ใครจะรู้ล่ะ ว่าภายในจิตใจเค้าอาจจะมีความเหงาและเศร้าอยู่ลึกๆก็ได้..แต่ “ก็แค่อยากบอกให้รู้” ไว้เฉยๆอ่ะนะ เผื่อว่าเอ้ออ~ เจอคนใกล้ๆตัวเป็นงี้เหมือนกันเลย เราอาจจะรับมือกับตรงนั้นได้บ้าง(มั้ยนะ?😂)  หรือว่าเอ๊ะ.. เรารึเปล่านะ ที่เป็นแบบนี้ ชอบคิดนั่นนี่วนไปวนมา เราป่วยไหมนะ หรือเราแค่คิดมากเฉยๆ อืมมม...🤔🤔🤔

แห่ะ.. เกริ่นซะยาว ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย5555 สวัสดีอีกรอบค่ะ เราชื่อ.. คอตต้อล อ่ะ.. นี่ไม่ใช่ชื่อจริงๆเราหรอกก็ตั้งมาเล่นๆกับเพื่อนละพูดเล่นไปเล่นมาก็ติดเฉย จนบางคนแทบจะไม่ค่อยได้เรียกชื่อจริงๆกันละ ส่วนใหญ่ก็จะเรียก คอตต หรือ ต้อลล อ่ะบางคนมาเป็นตัวย่อก็มี คตต.(?)🤣🤣🤣 อ่ะ แค่ชื่อ็ยาวละ 555555 ต่อๆ เราอายุ 22 ปี ตอนนี้เรียนอยู่ปี4 คณะทันตแพทยศาสตร์ (ความลับละกันว่ามหาลัยไหน) อิอิ ก็ตามบอกไปตอนต้นแหละ เราป่วยและก็ยอมรับเลยว่าป่วยจนต้องพบจิตแพทย์และก็กินยา แต่อาการตอนนี้ก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ 😄 อ่ะ.. เท่านี้ก่อนละกัน โพสนี้ว่าจะมาเกริ่น intro เฉยๆ แต่เขียนไปขียนมามันส์มือเลยเกริ่นซะยาวเลย 555 เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจเรื่องคนขิตป่วยคนนี้ ก็ลองไว้อ่านเพลินๆ อ่านเล่นๆ ก็ลองติดตามได้นะคะ😄🙏🏻

       อ่ะ.. บอกไว้ก่อน.. คือเราอ่ะยอมรับนะว่าป่วยแต่คือคนป่วยประเภทนี้ซึ่งก็คือคนป่วยทางจิตอ่ะ มันก็มีหลายแบบอ่ะเนอะ บางคนก็สามารถคุมสติได้แต่ชอบมีพฤติกรรมแปลกๆ อย่างพฤติกรรมแปลกๆของเราก็เช่น ชอบแกะแผลอ่ะ..แกะแผลกัดเล็บหรือบางทีชอบจิก จิกแผลตัวเองตอนเครียดมากๆ (อ่ะเริ่มน่ากลัวละ==; อย่าเพิ่งกลัวเลาน๊า แง;-;) บางคนอาจจะคุมสติตัวเองไม่อยู่ หรือที่หลายๆคนชอบเรียกว่าบ้านั่นเอง อ่อใช่..ละเอาจริงๆอ่ะคนที่”ป่วยทางจิตนี่ไม่ได้จะหมายความว่าเค้าเป็นบ้านะ” หรือมันก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ป่วยทางจิตนั้นจะเป็นคนไม่ดีไปซะหมดอ่ะ คือเอาจริงๆถึงคนเหล่านี้จะดูน่ากลัวไปบ้าง (ยอมรับเราก็กลัว==;;) แต่ถ้าเค้าได้รับการรักษาที่ถูกวิธีและมีคนข้างๆคอนสนับสนุนพวกเค้าและนำพาเค้าไปในทางที่ดี เค้าก็สามารถใช้ชีวิตในสังคมปกติได้เช่นกัน ตึ่งโป๊ะ! ยาวอีกละ นี่ยังไม่เข้าเรื่องเลย ถถถถถถ...

        อ่ะๆๆๆ มาๆๆ เข้าเรื่องจริงละเด้ออ~ 😂 ทุกคนเคยได้ยินโรคนี้มั้ย Generalized anxiety disorder หรือว่าโรควิตกกังวลวิตกจริตเกินเหตุนั่นเอง แถ่นแท๊นนน!~ และเป็นโอกาสอันดีของเราที่เราบังเอิ๊ญญ บังเอิญญ ได้เรียนเรื่องนี้พอดี อ่ะแฮ่ม! โรค Generalized anxiety disorder จะอยู่ในกรุ๊ปของ other anxiety disorder ซึ่งตามหลักของทางการจัดกลุ่มพฤติกรรมและอารมณ์ทางจิต จะอยู่ในหมวด F40-48 ; Neurotic, stress-related and somatoform disorder.. (อันนี้เขียนตามที่อาจารย์เลคเชอร์เลยนะเนี่ย!55555)
ถึงตอนนี้หลายๆคนคงสงสัยอ่ะ อินี่บ่นอะไรย๊าวยาววววะ ไม่รู้เรื่องเลอ😂 เอาง่ายๆละกัน เอาเป็นว่าโรควิตกกังวลวิตกจริตเกินเหตุอ่ะ มันจะมีอาการหลักๆเลยคือเครียด! คิดมาก! คิดเยอะ! แต่เดี๋ยวก่อนเด้อ.. อาการเครียดอย่างงี้มันไม่ใช่เครียดธรรมดาที่พอเครียดๆแล้วมันก็จะหายไป แต่อาการของโรคนี้อ่ะ คือ เราจะไม่สามารถหยุดคิดหรือหยุดกังวลได้ ในหัวเราจะมีการทำงานตลอดเวลา คือจะคิดนั่นโน่นนี่เต็มไปหมด คือแบบบางทีก็คิดจนหัวแทบระเบิดแน่ะ🤯 ตู้มมม!! และการคิดซ้ำไปซ้ำมาของโรคนี้อ่ะ คือบางคนเค้าก็จะพูดง่ายๆป่ะ ว่า เอ้าา! ถ้าคิดละปวดหัวก็ไม่ต้องคิดดิ ก็หยุดคิดดิ.. บลาๆ คือ..นี่อยากตะโกนไปดังๆว่า มันทำไม่ได้โว้ยยยยยยยยยย! เพราะว่ามันเป็นความปกติของneurotransmitter หรือสารสื่อนำประสาทในสมองมันไม่สามารถควบคุมให้ปกติได้และวิธีการรักษาคือต้องใช้ยามาช่วย (โดยตอนนี้เราเองก็กินยาอยู่2ตัว ;-;) เพิ่มเติมนอกจากยาคือ (อันนี้หมอบอกมา) ก็ต้องค่อยๆปรับความคิดตัวเองให้ได้แล้วก็รอให้เวลาและประสบการณ์เป็นตัวสอนให้เราสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ ..
         โดยถ้าถามว่าโรคนี้มันหายขาดมั้ย คือมันก็พูดยากอ่ะเนอะ เพราะนี่ก็เป็นมา10กว่าปีละ ทุกวันนี้ยังเป็นอยู่เลย5555🤣 แค่มันจะเป็นน้อยเป็นมากและจะระเบิดออกมาตอนไหนเท่านั้นแหละ อีกอย่างเราก็ไม่ใช่นักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ทางด้านนี้ แต่ถึงถ้าเรารักษาไม่หายขาดแต่เราสามารถควบคุมและจัดกัดกับความคิดเราและอยู่กับสังคมได้ สำหรับเราเราถือว่า mission complete ละ 55555555 😇😁


ถ้าถามว่ารู้เมื่อไหร่ว่าเป็นแบบนี้... อืมมม.. เอาจริงๆก็รู้มาตั้งแต่เด็กละแหละ😂 บอกไว้ก่อนเลยว่าไปหาจิตแพทย์ตั้งแต่ๆตอนเด็กๆ เด็กที่ว่านี่ไม่ใช่ช่วงมัธยมนะ แต่เป็น ตอนประถมจ้าา~ (ดูเก็บกดแต่เด็กเลยเนอะ5555)
       โดยพื้นฐานของนิสัยเราคือ เราเป็นเด็กค่อนข้างเก็บตัว ชอบอยู่คนเดียว และเล่นคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ก็ตามภาษาลูกคนเดียวอ่ะ ไม่มีเพื่อนเล่นด้วย ฮื้ออออ😭 เพราะงั้นส่วนใหญ่ถ้าจะเล่น ก็เล่นกับแม่หรือบางทีพอไปบ้านยายก็เล่นกับยายและก็น้าๆ แต่ว่าทุกคนก็มีงานมีการต้องทำใช่ป่ะล่ะ หลายๆครั้งมันก็ต้องเล่นคนเดียวไง;-; และพอช่วงประถมปลาย เรามีปัญหากับเพื่อนเรื่อง”ทำงานกลุ่ม” 555555 ใช่~ งานกลุ่ม เรื่องงานกลุ่มเล็กๆน้อยๆนี่แหละ งานกลุ่มที่ใครๆหลายๆคนก็มองว่า โหห~ งานกลุ่มของเด็กประถมเองป่ะแก ไม่เห็นน่าจะมีปัญหาอะไรเลย ทำไปเดี๋ยวก็เสร็จ อืมม.. ใช่ ก็แค่นั้นแหละ แต่ตอนนั้นสำหรับเด็ก10ขวบนิดๆ เราไม่มองว่ามันแค่นั้นอ่ะดิ.. เรามองว่า “งานก็คืองาน งานที่ครูสั่งมาควรต้องทำให้เสร็จก่อน พอทำงานเสร็จแล้วก็ค่อยไปเล่น” และเราก็คิดว่า ถ้าเราเล่นไปทำงานไป แล้วงานไม่เสร็จล่ะ? ต้องโดนครูว่าแน่ๆ ถ้าหนักก็โดนตี;-; ด้วยความที่เป็นเด็กดีและตั้งใจเรียนมากๆ(?) เพราะงั้นสำหรับเราเวลามีการบ้านมาเราจะทำการบ้านก่อนทุกครั้งแล้วก็ค่อยไปเล่น แต่กับงานกลุ่มมันไม่เป็นงั้นอ่ะดิ... เพราะว่างานกลุ่มคือเราต้องทำงานร่วมกับคนอื่นถูกมะ ละทีนี้ด้วย ความที่เพื่อนเราก็เด็กไง.. เด็กเราๆส่วนใหญ่ตามปกติก็จะไม่คิดอะไรมากอ่ะเนอะ อยากจะเล่นก็เล่น~ เล่นสนุกแล้วมีอารมณ์ทำงานค่อยมาทำ งืมมม.. เอาล่ะสิ แย่แล้วแย่ล้าวว~ ความเห็นไม่ตรงกันแล้วไงล่ะ ทีงี้ทำไง? ตอนแรกเราก็ พยายามโน้มน้าวเพื่อนนะว่า

คอต :  เพื่อนๆ มาช่วยกันทำก่อน นี่ไงเดี๋ยวทำเสร็จก็ได้เล่นแล้ว (พูดไปพร้อมส่งสายตาวิงวอน*^*)
เพื่อน : เดี๋ยวค่อยทำก็ได้ มาเล่นตรงนี้ก่อนเร็วว ค่อยไปทำ
คอต : แต่เดี๋ยวมันจะไม่เสร็จนะ ._.
เพื่อน : เออน่ะ เดี๋ยวมาช่วยกันทำก็เสร็จ
คอต : ... (-จุดเลยค่ะ..)

ใจนึงเราก็อยากเล่นใจนึงเราก็ห่วงงาน ช่วงแรกๆก็อืมม.. เชื่อเพื่อน โอเคเดี๋ยวพอมาช่วยกันทำเดี๋ยวก็เสร็จ!! แต่ว่า.. มันไม่เป็นงั้นอีกอ่ะ-3- พอได้เวลาทำงานจริงๆทุกคนก็ทำไปเล่นไป สรุปจ้า.. งานไม่เสร็จ อ่าว.. แล้วทำไง ก็ต้องแบ่งงาน แยกกันกลับไปทำที่บ้าน และมากไปกว่านั้นสำหรับเรา พอมีงานกลุ่มที่แทนที่ควรจะได้ทำเสร็จแล้วแต่ต้องกลับมาทำที่บ้านอีก ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดเพราะว่า มันทำให้เวลาดูทีวีตอนเย็นของเราลดน้อยลงไง!! 😭 (ตอนเด็กสิ่งที่สำคัญสำหรับเราคือการนอนดูcartoon network -…-)แลเริ่มคิดวนไปมา ว่า ทำไมนะ ทำไม ทำไมเพื่อนไม่ฟังเรา ทำไมไม่ทำงานให้เสร็จก่อน เนี่ยถ้าทำเสร็จแล้วก็จบแล้วก็ได้เล่นแบบสบายๆละ แถมได้ดูทีวีด้วย;_; ทำไมอ่ะ ทำไมทำไมทำไม... คิดวนไปวนมา จนเจองานกลุ่มหลายๆครั้งเข้า และส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ..
จนวันนึงเราทนไม่ไหวและระเบิดร้องไห้ออกมาตอนนั่งรถกลับบ้าน ตู้มม!... จำได้เลย ตอนนั้นพูดว่า
“ไม่เข้าใจเพื่อนเลย ทำไมเค้าไม่ทำตามเราบอก ทำไมเค้าไปเล่นก่อน ทำไม ทำไมและทำไม (พูดไปร้องไห้ไป ฮึก..)”
แต่แม่เราก็พยายามปลอบและอธิบายเหตุผลให้เราฟังว่า “ก็เพราะคนเราไม่เหมือนกันไง เราไม่สามารถไปกำหนดคนอื่นได้ว่าให้เค้าทำอย่างนั้นอย่างนี้ หรือเราไม่สามารถไปบังคับให้เค้ามาทำในสิ่งที่เราต้องการได้”  
      ถามว่าตอนนั้นฟังแม่แล้วเข้าใจมั้ย บอกได้เลยว่าเข้าใจ.. แต่..ความคิดนั้นและคำว่า”ทำไม”ก็ยังคงวนไปมาอยู่ในหัวเราอยู่ดี ซึ่งความคิดเหล่านั้นทำให้เราเกิดความเครียด จนบางครั้งตอนนอนเราจะมีอาการละเมอ   มีครั้งนึงเดินละเมอลงมาข้างล่างด้วย (ดีไม่ตกบันไดตาย==;) ซึ่งพอมีอาการเครียดเหล่านี้บ่อยๆเข้า แม่เราก็เลยพาไปหาจิตแพทย์สำหรับเด็ก ก็นะตอนนั้นก็ทำแบบทดสอบทางจิตวิทยานั่นนู่นนี่ มีวาดรูป ละก็คุยกับหมอ บลาๆๆ ละหมอก็พูดขึ้นมาว่า

หมอ : น้องเป็นโรควิตกจริตวิตกกังวลเกินเหตุนะครับ ซึ่งดีละฮะที่พามาหาแต่เนิ่นๆ เพราะว่าโรคนี้ถ้าเป็นหนักๆมันจะนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าได้... ก็ เดี๋ยวหมอจะสั่งยานะครับ บลาๆๆ~ (จำไม่ได้ละว่าหมอพูดอะไรมั่ง แต่ได้ยามาชุดนึงกับต้องไปปรับเปลี่ยนความคิด)
                 นี่แหละฮะ... จุดเริ่มต้น..😂

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่