อันนี้ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นปัญหาที่บ้านเรา บ้านสามี ตัวเรา รึตัวสามีกันแน่
เมื่อปลายปี 60 เราท้องค่ะ เลยแต่งงานกับสามี ก่อนหน้าที่จะแต่ก็คบกันมาได้ 6 ปีแล้ว จริงๆ เรียกงานแต่งก็ไม่ได้แค่ผูกข้อไม้ข้อมือกับขอขมา
หลังจากนั้นเราก็มาอยู่ที่บ้านสามี ซึ่งบ้านสามีอยู่กันเป็นครอบครัวใหม่ คือมีญาติๆ พ่อสามีปลูกบ้านอยู่รวมกันบนที่ดินเดียวกัน
บ้านของสามีเป็นห้องรวมค่ะ คือต้องนอนรวมกับพ่อสามี มีแค่ไม้กระดานมากั้น ครัวไม่มี ใช้ครัวรวมกับบ้านใหญ่
ระหว่างที่อยู่บ้านสามีก็เรื่องจุกจิกที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดค่ะ แบ่งเป็น
1.เรื่องของงานบ้านค่ะ เราทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องทำกับข้าวค่ะ เวลาเราทำงานบ้านเสร็จแล้ว เราก็จะหาอะไรทำค่ะ อย่างอ่านนิยาย ส่วนมาเราหาอ่านทางเน็ตในมือถือ เวลาเค้ามาเห็นก็ชอบว่าว่าเราเอาแต่เล่นโทรศัพท์ ไม่ดูแลบ้านช่อง
ทั้งๆ ที่เราก็ทำไปแล้ว แต่เค้าไม่เห็นเอง อ่ะ อันนี้เราแก้โดยการเล่นให้น้อยลง
2.คนท้องใหญ่ๆ นี่มันมักจะปวดหลังใช่มั้ยคะ แต่บรรดาญาติๆ สามีก็ชอบให้เราออกมานั่งนอกบ้านเป็นวันๆ เลยค่ะ ได้แต่นั่งนะคะ เพราะเปลญวณเค้านอนกัน เราก็ได้แต่นั่งเฉย เล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้ ถักนู้นนี่นั่นก็ไม่ได้ โบราณเค้า พอวันไหนปวดหลังมากๆ ออกมานั่งน้อย เค้าชอบว่าเป็นมนุษย์ถ้ำ ออกมาเห็นเดือน เห็นตะวันบ้าง ปกติเราก็ออกมาเดินๆ นั่งๆ พักๆ ก็เข้าบ้าน เพราะไม่มีอะไรให้ ก็โดนบ่นเรื่องนี้ตลอด
อันนี้เป็นความอึดอัดช่วงท้องค่ะ มันดูเล็กน้อยค่ะ เมื่อเทียบกับช่วงหลังคลอด
ตอนเราคลอดแล้วพักฟื้นอยู่โพยาบาล ก็ตกลงกันว่าจะกลับไปเลี้ยงลูกที่บ้านเราค่ะ แค่สองสามเดือนแรก แต่วันที่ออกจาก รพ. เค้าอุ้มลูกเราไว้ค่ะ บอกเดี๋ยวตอนเย็นไปส่ง สุดท้ายก็ได้เลี้ยงที่บ้านสามี แล้วช่วงหลังคลอด เราดันเป็นภาวะซึทเศร้าหลังคลอดค่ะ ความรู้สึกเรามันแย่มาก ทั้งเลี้ยงลูก ทั้งงานบ้าน บรรดาญาติๆ สามีที่ชอบเอาความเชื่อผิดๆ มายัดเยียด อย่าง ดัดขาบ้าง ฉี่กวาดลิ้นบ้าง กินน้ำบ้าง แถมญาติคนนั้นบอก ทำไมไม่เลี้ยงแบบนี้ ญาติคนนี้บอกทำไมไม่เลี้ยงแบบนั้น ปวดหัวค่ะ สรรพัดปัญหา จนเราไม่ไหว ได้แต่เล่ากับแม่ แม่เราคงเห็นว่าสภาพเราแย่จริงๆ อุ้มลูกเรา เก็บของ พาเรากลับบ้านเลย
ทีนี้ก็มีปัญหาค่ะ บ้านสามีมาโวยวาย เราก็อธิบายไปว่าทำไม เพราะอะไร สภาพจิตใจเราไม่ไหว เราบอกเค้าว่าเรากลับไปแน่นอนพร้อมลูกเรา แต่ขอให้โตกว่านี้หน่อย เค้าเหมือนจะเข้าใจนะคะ แต่ก็เหมือนจะไม่เข้าใจเรา
ส่วนสามีไม่ยอมมาอยู่กับเราค่ะ เค้ายอมทีจะเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านเรากับบ้านเค้า เค้าให้เหตุผลว่า เค้ามาไม่ได้ พ่อเค้าไม่ให้มาอยู่ เราก็มีพาลูกเราไปค้างบ้าง
เรากลับมาอยู่บ้านได้แค่สี่เดือน ตอนนี้ลูกเจ็ดเดือนค่ะ ปัญหาล่าสุดที่เกิดคือ พ่อสามีไม่โอเคกับการที่ลูกชายเค้าต้องขับรถไปกลับเพื่อมาหาเรากับลูก เค้าบอกว่าบ้านเราไกล ขับรถดึกๆ อันตราย ตอนนี้สามีเลิกงานหกโมง ถ้าขับมาถึงบ้านเราก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ส่วนลูกหลับสามทุ่มไม่เกินสี่ทุ่ม ซึ่งเราก็มองว่ามันก็ไม่ได้ดึกมาก ยังมีรถวิ่งอยู่ จริงๆ สามีค้างที่บ้านเราได้ค่ะ เช้ามาก็กลับบ้านไปอาบน้ำไปทำงาน แต่เค้าเลือกที่จะไม่ค้างเอง เลือกที่จะขับรถเอง ทีนี้พ่อสามีก็พูดประมาณว่าเพราะเราลูกชายเค้าต้องขับรถไปมา
เมื่อวานนี้สามีแวะกลับบ้านเค้าก่อนไปส่งเราค่ะ พ่อสามีกำลังเมาเลย เรียกเราไปต่อว่าค่ะ ใจความคือ บอกว่าเราผิด เอาหลานเค้าไปทำไม เอาไม่ไม่บอกเค้า (ก่อนหน้านั้นเราคุยกันแล้วค่ะว่าจะเอาลูกกลับไปเลี้ยงบ้านเรา แต่เค้าไม่โอเค)แล้วที่ลูกชายเค้าต้องขับรถไปมาหลายๆ กี่โล เพราะว่าเราเอาลูกกลับมาอยู่บ้านเรา (ทั้งๆ ที่ปัญหามันก็แก้ได้ด้วยการที่สามีมาค้างบ้านเรา แต่พอสามีมาค้างพ่อเค้าจะมีปัญหาตลอด)พูดทำนองว่าเราทำให้ชีวิตลูกชายเค้าตกต่ำ เค้าบอกว่าปัญหาเกิดจากเรา แค่กลับไปอยู่มันก็แก้ปัญหาได้แล้ว (ซึ่งเรามองว่ามันก็จริงค่ะ พ่อสามีไม่ต้องห่วง ส่วนสามีไม่ต้องขับรถไปมา แต่เรารู้สึกแย่ที่จะกลับไปเอง) แต่ประโยคที่ทำให้เราเจ็บ คือ คำที้ว่า ขอก็ขอมาแล้ว ทำไมไม่มาอยู่บ้านเค้า กลับไปอยู่บ้านตัวเองทำไม
คือเค้าขอเรา แล้วเราต้องตัดขาดกับทางบ้านเลยเหรอคะ คือกลับมาเลี้ยงลูกที่บ้านตัวเองไม่ได้รึยังไง ทั้งๆ ที่ก็คุยกันแล้วว่า ถ้าลูกโต กลับไปอยู่ที่นั่นแน่นอน
แล้วอีกปัญหานึงคือ สามีเค้าทำตามที่พ่อเค้าบอกคือ ไม่ค่อยมาหาเรากับลูกเราแล้ว คือสองสามวันมาหาที จากที่เมื่อก่อนมาได้ทุกวัน ไม่มีปัญหาอะไร แน่นอนว่าฉันงี่เง่าค่ะ คือก็น้อยใจแหละค่ะ เราเลี้ยงลูกทั้งทั้งคืน ในขณะที่สามีกลับจากงานมาก็พักผ่อน เล่นเกมส์ แต่ฉันต้องเลี้ยงลูกงกๆ มันรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แล้วก็ทั้งๆ ที่เค้าว่าง แต่ก็ไม่เคยจะโทรมาหา โทรมาถามไถ่อะไรเราเลย เราทะเลาะกันเรื่องนี้ เค้าบอกว่าเราจิตใจคับแคบ สะเทือนใจมากค่ะ
สรุปคือเราผิดใช่มั้ยคะ ที่เอาหลานเค้ามา เราจิตใจคับแคบใช่มั้ยคะ
แล้วเราควรจะแก้ไขปัญหานี้ยังไงดี
อาจจะยาวหน่อย แถมส่วนมากมีแต่การบ่น ต้องขอโทษด้วยนะคะ คือมันรบกวนจิตใจมากเลยค่ะ
ปัญหาสองบ้าน
เมื่อปลายปี 60 เราท้องค่ะ เลยแต่งงานกับสามี ก่อนหน้าที่จะแต่ก็คบกันมาได้ 6 ปีแล้ว จริงๆ เรียกงานแต่งก็ไม่ได้แค่ผูกข้อไม้ข้อมือกับขอขมา
หลังจากนั้นเราก็มาอยู่ที่บ้านสามี ซึ่งบ้านสามีอยู่กันเป็นครอบครัวใหม่ คือมีญาติๆ พ่อสามีปลูกบ้านอยู่รวมกันบนที่ดินเดียวกัน
บ้านของสามีเป็นห้องรวมค่ะ คือต้องนอนรวมกับพ่อสามี มีแค่ไม้กระดานมากั้น ครัวไม่มี ใช้ครัวรวมกับบ้านใหญ่
ระหว่างที่อยู่บ้านสามีก็เรื่องจุกจิกที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดค่ะ แบ่งเป็น
1.เรื่องของงานบ้านค่ะ เราทำงานบ้านได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องทำกับข้าวค่ะ เวลาเราทำงานบ้านเสร็จแล้ว เราก็จะหาอะไรทำค่ะ อย่างอ่านนิยาย ส่วนมาเราหาอ่านทางเน็ตในมือถือ เวลาเค้ามาเห็นก็ชอบว่าว่าเราเอาแต่เล่นโทรศัพท์ ไม่ดูแลบ้านช่อง
ทั้งๆ ที่เราก็ทำไปแล้ว แต่เค้าไม่เห็นเอง อ่ะ อันนี้เราแก้โดยการเล่นให้น้อยลง
2.คนท้องใหญ่ๆ นี่มันมักจะปวดหลังใช่มั้ยคะ แต่บรรดาญาติๆ สามีก็ชอบให้เราออกมานั่งนอกบ้านเป็นวันๆ เลยค่ะ ได้แต่นั่งนะคะ เพราะเปลญวณเค้านอนกัน เราก็ได้แต่นั่งเฉย เล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้ ถักนู้นนี่นั่นก็ไม่ได้ โบราณเค้า พอวันไหนปวดหลังมากๆ ออกมานั่งน้อย เค้าชอบว่าเป็นมนุษย์ถ้ำ ออกมาเห็นเดือน เห็นตะวันบ้าง ปกติเราก็ออกมาเดินๆ นั่งๆ พักๆ ก็เข้าบ้าน เพราะไม่มีอะไรให้ ก็โดนบ่นเรื่องนี้ตลอด
อันนี้เป็นความอึดอัดช่วงท้องค่ะ มันดูเล็กน้อยค่ะ เมื่อเทียบกับช่วงหลังคลอด
ตอนเราคลอดแล้วพักฟื้นอยู่โพยาบาล ก็ตกลงกันว่าจะกลับไปเลี้ยงลูกที่บ้านเราค่ะ แค่สองสามเดือนแรก แต่วันที่ออกจาก รพ. เค้าอุ้มลูกเราไว้ค่ะ บอกเดี๋ยวตอนเย็นไปส่ง สุดท้ายก็ได้เลี้ยงที่บ้านสามี แล้วช่วงหลังคลอด เราดันเป็นภาวะซึทเศร้าหลังคลอดค่ะ ความรู้สึกเรามันแย่มาก ทั้งเลี้ยงลูก ทั้งงานบ้าน บรรดาญาติๆ สามีที่ชอบเอาความเชื่อผิดๆ มายัดเยียด อย่าง ดัดขาบ้าง ฉี่กวาดลิ้นบ้าง กินน้ำบ้าง แถมญาติคนนั้นบอก ทำไมไม่เลี้ยงแบบนี้ ญาติคนนี้บอกทำไมไม่เลี้ยงแบบนั้น ปวดหัวค่ะ สรรพัดปัญหา จนเราไม่ไหว ได้แต่เล่ากับแม่ แม่เราคงเห็นว่าสภาพเราแย่จริงๆ อุ้มลูกเรา เก็บของ พาเรากลับบ้านเลย
ทีนี้ก็มีปัญหาค่ะ บ้านสามีมาโวยวาย เราก็อธิบายไปว่าทำไม เพราะอะไร สภาพจิตใจเราไม่ไหว เราบอกเค้าว่าเรากลับไปแน่นอนพร้อมลูกเรา แต่ขอให้โตกว่านี้หน่อย เค้าเหมือนจะเข้าใจนะคะ แต่ก็เหมือนจะไม่เข้าใจเรา
ส่วนสามีไม่ยอมมาอยู่กับเราค่ะ เค้ายอมทีจะเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านเรากับบ้านเค้า เค้าให้เหตุผลว่า เค้ามาไม่ได้ พ่อเค้าไม่ให้มาอยู่ เราก็มีพาลูกเราไปค้างบ้าง
เรากลับมาอยู่บ้านได้แค่สี่เดือน ตอนนี้ลูกเจ็ดเดือนค่ะ ปัญหาล่าสุดที่เกิดคือ พ่อสามีไม่โอเคกับการที่ลูกชายเค้าต้องขับรถไปกลับเพื่อมาหาเรากับลูก เค้าบอกว่าบ้านเราไกล ขับรถดึกๆ อันตราย ตอนนี้สามีเลิกงานหกโมง ถ้าขับมาถึงบ้านเราก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ส่วนลูกหลับสามทุ่มไม่เกินสี่ทุ่ม ซึ่งเราก็มองว่ามันก็ไม่ได้ดึกมาก ยังมีรถวิ่งอยู่ จริงๆ สามีค้างที่บ้านเราได้ค่ะ เช้ามาก็กลับบ้านไปอาบน้ำไปทำงาน แต่เค้าเลือกที่จะไม่ค้างเอง เลือกที่จะขับรถเอง ทีนี้พ่อสามีก็พูดประมาณว่าเพราะเราลูกชายเค้าต้องขับรถไปมา
เมื่อวานนี้สามีแวะกลับบ้านเค้าก่อนไปส่งเราค่ะ พ่อสามีกำลังเมาเลย เรียกเราไปต่อว่าค่ะ ใจความคือ บอกว่าเราผิด เอาหลานเค้าไปทำไม เอาไม่ไม่บอกเค้า (ก่อนหน้านั้นเราคุยกันแล้วค่ะว่าจะเอาลูกกลับไปเลี้ยงบ้านเรา แต่เค้าไม่โอเค)แล้วที่ลูกชายเค้าต้องขับรถไปมาหลายๆ กี่โล เพราะว่าเราเอาลูกกลับมาอยู่บ้านเรา (ทั้งๆ ที่ปัญหามันก็แก้ได้ด้วยการที่สามีมาค้างบ้านเรา แต่พอสามีมาค้างพ่อเค้าจะมีปัญหาตลอด)พูดทำนองว่าเราทำให้ชีวิตลูกชายเค้าตกต่ำ เค้าบอกว่าปัญหาเกิดจากเรา แค่กลับไปอยู่มันก็แก้ปัญหาได้แล้ว (ซึ่งเรามองว่ามันก็จริงค่ะ พ่อสามีไม่ต้องห่วง ส่วนสามีไม่ต้องขับรถไปมา แต่เรารู้สึกแย่ที่จะกลับไปเอง) แต่ประโยคที่ทำให้เราเจ็บ คือ คำที้ว่า ขอก็ขอมาแล้ว ทำไมไม่มาอยู่บ้านเค้า กลับไปอยู่บ้านตัวเองทำไม
คือเค้าขอเรา แล้วเราต้องตัดขาดกับทางบ้านเลยเหรอคะ คือกลับมาเลี้ยงลูกที่บ้านตัวเองไม่ได้รึยังไง ทั้งๆ ที่ก็คุยกันแล้วว่า ถ้าลูกโต กลับไปอยู่ที่นั่นแน่นอน
แล้วอีกปัญหานึงคือ สามีเค้าทำตามที่พ่อเค้าบอกคือ ไม่ค่อยมาหาเรากับลูกเราแล้ว คือสองสามวันมาหาที จากที่เมื่อก่อนมาได้ทุกวัน ไม่มีปัญหาอะไร แน่นอนว่าฉันงี่เง่าค่ะ คือก็น้อยใจแหละค่ะ เราเลี้ยงลูกทั้งทั้งคืน ในขณะที่สามีกลับจากงานมาก็พักผ่อน เล่นเกมส์ แต่ฉันต้องเลี้ยงลูกงกๆ มันรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แล้วก็ทั้งๆ ที่เค้าว่าง แต่ก็ไม่เคยจะโทรมาหา โทรมาถามไถ่อะไรเราเลย เราทะเลาะกันเรื่องนี้ เค้าบอกว่าเราจิตใจคับแคบ สะเทือนใจมากค่ะ
สรุปคือเราผิดใช่มั้ยคะ ที่เอาหลานเค้ามา เราจิตใจคับแคบใช่มั้ยคะ
แล้วเราควรจะแก้ไขปัญหานี้ยังไงดี
อาจจะยาวหน่อย แถมส่วนมากมีแต่การบ่น ต้องขอโทษด้วยนะคะ คือมันรบกวนจิตใจมากเลยค่ะ