คือเราตัดสินใจแต่งงานกับสามีเพราะว่าเราตั้งครรภ์ สามีก็รับผิดชอบทุกอย่างดูแลอย่างดี แต่เราพึ่งมาสงสัยตอนนี้ว่าจริงๆแล้วเป็นแบบนี้คือปกติใช่ไหม ตอนเราตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน ตอนนั้นเราตัดสินใจออกไปอยู่กับสามีโดยเช่าห้องอยู่ เราเช่าอยู่ประมาณ 4 เดือนได้ ค่าห้องมันเดือนละ 1,800 รวมน้ำไฟก็ไม่เกิน 2,500 สามีเราเป็นคนที่มีฐานะพอกินพอใช้ แต่บางเดือนก็หมุนไม่ทัน แล้วก็เป็นคนที่มีภาระเยอะมาก สามีเราเขามีพี่ชายแต่พี่ชายเขาแทบจะไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าช่วยก็แค่นิดหน่อย ตอนเราไปเช่าห้องกับสามีเลยบอกว่าจะจ่ายค่าเช่าเอง เพราะเรากลัวเป็นภาระเขามากกว่านี้ เราก็เลยตัดสินใจไม่ออกจากงานทั้งๆที่ตอนท้องเรามีภาวะแท้งคุกคามหม้อสั่งให้อยู่เฉยๆไม่ให้ทำอะไรเยอะ แต่เราก็กลัวจะรบกวนสามีเลยตัดสินใจทำต่อไป เราได้เงินเดือนอยู่ที่ 21,000 เราเก็บไว้เป็นค่าผ่าคลอด เดือนละ 10,000 แยกจ่ายค่าห้องออกไปอีก 2,500 ที่เหลือเราเอาไว้กินกับใช้ ถ้าสิ้นเดือนแล้วค่ากินกับใช้เหลือเราก็จะเอาไปเก็บไว้ในบัญชีที่เก็บไว้ให้ลูก มันก็จะมีบางเดือนที่เราไม่พอใช้เพราะแม่สามีมาขอเงินเราไปทำไร่ บางทีก็ 5,000 ไม่ก็ 10,000 เราไม่กล้าปฎิเสธเลยให้ไป ถ้าเดือนไหนที่แม่สามีมาขอเราก็จะเอาเงินสามีกินกับใช้ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั้งเรามีสาเหตุที่ต้องย้ายกลับมาอยู่บ้าน บ้านของเราจะอยู่กันทั้งครอบครัว แต่ว่าแยกกันใช้ชีวิต ไม่ได้มายุ่งกันมีแค่บางครั้งหรือเทศกาลที่จะได้ออกมานั่งกินข้าวร่วมกัน ตอนเราตัดสินใจจะย้ายมา แม่สามีทักมาขอเราว่าอย่าพึ่งให้สามีย้ายตามมาได้ไหม เพราะว่าพี่ชายของสามีเรายังเรียนไม่จบ ตอนนั้นเราก็สงสัยนะว่าแล้วมันเป็นปัญหาตรงไหน เพราะพี่สามีเราก็มีงานทำ งานของพี่สามีเรามั่นคงกว่างานของสามีเราอีก แล้วแม่สามีเราก็ให้สามีเรามาขอเราว่ายังไม่ย้ายตามมาได้ไหม แต่เรื่องนี้เราไม่ยอม เพราะเรามองว่าเราแต่งงานแล้วทำไมเราต้องแยกกันอยู่ อีกอย่างเราท้องอยู่ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินจะให้เราพึ่งครอบครัวเราตลอดมันก็คงจะไม่ใช่ เราเลยคุยกับสามีเราจนสามีเรายอมย้ายมาด้วย ตอนย้ายมาเราตัดสินใจหยุดทำงานแล้วเพราะเราเริ่มมีอาการตกเลือดแต่ไม่มากเราเลยคุยกับสามีว่าขอหยุดงาน พอเราเริ่มอยู่บ้านไม่ได้ทำงานเราก็เริ่มรู้อะไรบางอย่าง สามีเราโอนเงินให้พ่อแม่เดือนนึงเกือบ 10,000 ทั้งๆที่เงินเดือนสามีเราไม่เกิน15,000 พอสิ้นเดือนเงินออกก็โอนให้พ่อแม่คนละ 3-4พัน ต่อเดือน แต่ในเดือนนึงพ่อกับแม่ของสามีก็จะมาขออีก 2-3ครั้ง บางทีก็ขอ 2,000 ไม่ก็5,000 หรือไม่ก็ 500-1,000 คือเราไม่ได้มีปัญหาที่เขาเป็นลูกที่ดีนะ แต่เขาโอนให้พ่อแม่จนตัวเขาเองลำบาก ต้องไปหายืมคนอื่น ทั้งๆที่เขาแต่งงานกับเรามีลูกสร้างครอบครัว เขายังไม่เคยโอนเงินให้เราเยอะขนาดนั้นเลย หรือแม้กระทั่งเก็บเงินให้ลูกก็ไม่เคย มีแต่เราที่ทำงานหาเงินเก็บค่าคลอด ค่าซื้อของใช้ ทุกวันนี้เราเลยรู้สึกว่าเขายังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวหรือภรรยา เขายังเคยชินกับการได้เป็นลูกมากกว่าสามี ตอนแรกเราคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะทุกอย่างมันกระทันหันเขาเลยยังไม่พร้อม แต่เราพยายามปล่อยเขาพยายามให้เขาคิดเอง มีความคิดเป็นของตัวเอง ปรับตัวด้วยตัวเองโดยที่เราไม่กดดัน เราให้เวลาเขามานานจนเราจะคลอดแล้ว เขาก็ยังไม่มีทีท่าที่จะคิดถึงครอบครัวที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือแม้กระทั่งลูกของเขาเอง เขายังคงทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวตัวเองสบาย แต่ตัดมาที่เราตอนนี้เรายังต้องหางานเล็กๆน้อยๆทำที่บ้านเพื่อหาค่าซื้อของลูกกับค่ากินด้วยตัวเองอยู่เลย ทั้งๆที่ตอนนี้เรามีอายุครรภ์ 8 เดือนแล้ว เราไม่ไปหาหมอตามที่หมอนัดเพราะเรากลัวเงินที่เก็บไว้ค่าคลอดลูกจะหมด ตอนนี้เราอาจจะดูเหมือนเห็นแก่เงินนะ แต่การจะให้เด็กคนนึงโตขึ้นมาได้มันต้องใช้เงินเป็นหลักจริงๆ เราเข้าใจแฟนนะ แต่เราไม่รู้ว่าการที่เราต้องหาเงินเพื่อลูกอยู่ฝ่ายเดียวมันเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือปกติใช่ไหม กับการเริ่มต้นสร้างครอบครัว
ครอบครัวไหนเป็นแบบนี้บ้าง