จุดเริ่มต้นที่ไม่รู้สุดท้ายจะเป็นเช่นไร

เกริ่นนำ เหตุผลที่ตั้งกระทู้นี้ก็เพียงแค่อยากระบายสิ่งที่อัดอันในใจนะครับกับชีวิตครอบครัวที่กำลังจะพังลงไปและไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี
ปฐมบท การพบเจอผมพบรักกับเมียในโรงงานแห่งหนึ่ง ผมเป็นช่างโรงงานเมียผมเป็นพนักงานทั่วไป ผมเห็นเธอครั้งแรกในไลน์ผลิตเป็นพนักงานเข้าใหม่ผมชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกเลยแต่เขาไม่มองผมเลยแม้แต่น้อยก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียวส่วนผมก็ไม่กล้าเข้าไปทักเพราะเห็นว่ายุ่งกับงานและบรรดาสายตาของชายฉกรรจ์ทั้งหลาย ทั้งหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ที่ส่งสายตาเป็นดั้งสมบัติของตัวเอง(ในโรงงานเรื่อง ผญ ถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิตก็ว่าได้)ผมทำได้แค่ยืนมองตาปริบๆและวันเวลาก็ผ่านไป ผมไม่เห็นเธอในไลน์ผลิตอีกเลยผมเสียดายมากที่ไม่ได้รู้จักกับเธอ ผมอดสงสัยไม่ได้เลยถามกับพนักงานที่พอจะเป็นมิตรว่าเธอนั้นอยู่ที่ไหน ก็ได้คำตอบมาว่าย้ายแผนกไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าไปที่ไหน (โรงงานใหญ่มากมีเนื้อที่เป็นพันไร่)จนวันนึงผมได้เจอเธออีกครั้ง(ย้ายมาอยู่แผนกแพคกิ้ง) ครั้งนี้ผมไม่ปล่อยโอกาศอีกแน่นอนแต่อย่างที่บอกไปจีบหญิงในโรงงานเสี่ยงนตรีนมากๆ ผมได้ให้พี่ที่รู้จักซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอถามว่ามีแฟนหรือมีครอบครัวหรือยัง ได้คำตอบมาว่า ยัง เธอบอกว่าถ้าอยากรู้อะไรทำไม่ไม่มาถามเอง ผมจึงรวบรวมความกล้าไม่สนใจสายตาของใครแล้ว และได้ทำความรู้จักและขอเบอร์โทรของเธอมา ซึ้งวันนั้นผมก็เกือบมีเรื่องเหมือนกันเพราะบรรดาหนุ่มๆในแผนกไม่พอใจแต่ก็ผ่านเหตุการณ์มาไดด้วยดี หลังจากนั้นผมก็ได้พูดคุยสานความรักเรื่อยมา ผมมารู้ที่หลังว่าเธอยังเรียนอยู่มหาลัยอีกปีกว่าๆก็จะจบ (เธอเข้ามาทำงานช่วงปิดเทอมเพื่อหาเงินค่าเทอม)เธอบอกผมเอง ส่วนผมนั้นจบแค่ ปวส.ผมก็คบกับเธอมาตลอดจนเธอเรียนจบ ช่วงที่เรียนและได้ฝึกงานอยู่นั้น เธอไม่เคยขอเงินผมใช้เลยแต่เป็นผมเองที่ส่งให้เธอบ้างไม่ได้เยอะอะไรมากมาย เวลาหนึ่งปีกว่าๆได้พิสูจน์อะไรหลายอย่างจากความชอบกลายมาเป็นความรัก ความห่วงใย ห่วงแหน และความหวังดีจนผมเชื่อมั่นได้จริงๆว่าเธอจะเป็นคู่ชีวิตของผม คนที่ผมคิดจริงจังที่สุด หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ท้องกับผม ท้องก่อนกำหนดที่จะแต่งงานกัน จนตองหาฤกษ์แต่งใหม่ให้เร็วขึ้น
ผมกับเมียแต่งงานอยู่กินกันมาตั้งแต่ ปี54 ถึงปัจจุบันมีลูกสาว 1 คนอายุเข้า 6 ขวบ เมียผมเลี้ยงลูกจนเข้าโรงเรียนประมาณ 3 ขวบและได้ออกช่วยทำงานที่ บ.แห่งหนึ่งใกล้บ้าน เข้างานเช้าเลิกเย็น บริษัทนี้พนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมีผู้หญิงอยู่สามคน ความรักของครอบครัวผมก็เหมือนกับครอบครัวทั่วๆไป มีรักกันทะเลาะกัน งอลกันบ้างไม่ได้หนักหนาเคยทะเลาะและงอลกันมากสุดแค่สองวัน ผมจะเป็นคนง้อเสมอ เพราะผมเลือกวิธีคุยปัญหากัน ทุกอย่างเป็นปกติดีของปีที่หนึ่งถึงสองของการทำงานของเมียผม
อุปนิสัยใจคอ เมีย : เป็นคนรักครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง เป็นแม่ที่ดีของลูก ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน เก็บเงินเก่งมีความเชื่อในกฎแห่งกรรม แต่เป็นคนขี้น้อยใจนิดนึง
                       ผม : ก่อนมีเมีย ชีวิตหนุ่มโสดติดเพื่อน กินเหล้า เที่ยวกลางคืน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ติดยา
                               หลังแต่งงาน (เมียผมท้องก่อนแต่ง)ชีวิตก่อนหน้านั้นผมตัดทิ้งหมดเลิกทั้งหมดเพื่อลูกเมีย
การสนทนาในชีวิตประจำวัน ผมใช้คำว่าพี่แทนตัวเสมอและเมียผมใช้คำว่าหนูแทนตัวเสมอ ไม่เคยพูดกู หรือตอนทะเลาะไม่เคยด่าหยาบๆหรือพาดพิงถึงพ่อแม่ซึ่งกันและกันเลย ซึ่งถึงตรงนี้ก็ดูปกติดีใช่ไหมครับ
เค้าลาง หัวหน้างานที่แสนดี ที่มีลูกเมียแล้ว
ตบมือข้างเดียวกี่ครั้งมันก็ดังไม่ได้

ปีที่สองขอการทำงานของเมียผม  14 กุมภาพันธ์ หัวหน้างานของเมียได้ส่งสติกเกอร์วันวาเลนไทน์มาในเฟสส่วนตัวซึ่งเขาก็รู้ว่าเมียผมมีครอบครัวก็จงใจส่งมา อีกทั้งยังขอเฟสเมียผม แต่เมียผมไม่ได้ไห้ไป แล้วก็มีดึกๆชอบโทรประมาณว่าขอรายละเอียดงานซึ่งตอนนั้นเมียผมรำคาญมากเวลาพักยังโทรมาอีกจึงให้ผมรับโทรสับแทน ผมทำเสียงแข็งไปว่านี่เวลางานเหรอไม่รู้กาละเทสะเลยนะ หลังจากวันนั้นเมียบอกว่าไม่ค่อยมายุ่งอะไรอีกเลย แต่เปลี่ยนไปยุ่งกับคนอื่นแทน เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เมียผมเล่าให้ฟังให้ผมรับรู้ทั้งหมด เวลาผ่านไปหัวหน้างานก็ได้ลาออกไปเพราะทนแรงกดดันไม่ไหว (งานไม่ทำวันๆเอาแต่แหล่หญิง) ในปีนี้เมียผมยังปกติอยู่ในทุกๆเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวผม เราสามคนพ่อแม่ลูกยังรักกันดี
ในเรื่องงานของเมียผม เคยเล่าเกี่ยวกับความยากลำบากในการทำงานให้ฟัง ความยากก็คืองานต้องติดต่อสื่อสารขอความช่วยเหลือกันตลอด(อยู่คนละแผนก) บางคนพูดยาก ดือ มึน ชีกอ ขี้เกรียจ มีหมด เมียบอกว่าทำงานมาปีกว่าแล้วไม่ค่อยสนิทกับใคร เลยทำงานยาก เมียบอกว่าคุยๆก็เข้าเรื่องอย่างว่า มีคนมาจีบมีคนมาชอบ แต่เมียผมไม่เล่นด้วย แต่ละคนมีลูกเมียกันหมดทั้งนั้น พอไม่คุยด้วยก็หาว่าหยิ่ง เมียผมเล่าให้ฟังหมด จนวันเลาผ่านไป
ปีที่สามของการทำงานของเมียผม เมื่อมือที่สามที่พยายามที่จะทำลายครอบครัวผม
จากตบมือข้างเดียว ไม่รูตอนนี้พร้อมใจกันตบหรือเปล่า

ปีนี้ผมสังเกตุความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง เวลาอยู่ด้วยกันบรรยากาศมันเปลี่ยนไป ไม่ได้ทะเลาะกันกับเหมือนคนทะเลาะกัน ใกล้กันกลับเหมือนไกลกัน เวลาเลิกงานกับมาบ้านจะมีอารมณ์หงุดหงิด ไม่อยากคุยกับลูกผัว กลับมาเอาแต่เล่นโทรศัพท์ เล่นเฟส ดูยูทูบ ทำเหมือนผมกับลูกเป็นแค่อากาศ ที่เจ็บปวดใจที่สุดคือลูกอยากอวดการบ้านอยากให้แม่ว่าดูเขียนสวยไหมวาดภาพสวยไหม แต่กลับตะหวาดลูกกลับมา ผมจำหน้าลูกตอนนั้นได้ติดตา ผมน้ำตาตกในพูดไม่ออก พูดไปก็ทะเลาะกันเปล่าๆ จากที่เคยมีปัญหาก็คุยกันแต่นานวันกลับเอาการพูดคุยมาแก้ไขปัญหาไม่ได้ ผมน้อยใจเมียทุกครั้งและทุกครั้งผมก็จะเงียบไปเอง เริ่มอยากออกนอกบ้าน เริ่มกินเหล้าเบียร์ในงานกีฬาสีและงานปีใหม่บริษัททั้งที่กินไม่เป็นและไม่กินมาก่อน ขอผมไปงานเลี้ยงพี่ที่ทำงานโดยโทรมาขอแต่ผมไม่ให้ไปแต่เมียผมอยากจะไปมาก ซึ่งคนนี้แหละน่าสงสัยที่สุด
สืบสาวราวเรื่อง
เมื่อก่อนบ่นทำงานยากลำบากไม่สนิทกับใครไม่มีใครให้ความร่วมมือ อยากให้วันทำงานหมดเร็วๆอยากหยุดเร็วๆ ไปทำงานสายทุกวัน(สายได้ 15นาที) ใช้สิทธิมาสายทุกวัน อยากลาออกเบื่อ แต่ก็ออกไม่ได้ต้องทำเพื่อลูก ไม่เคยแต่งหน้าไปทำงาน แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับกันหมดอยากไปทำงาน ไปทำงานไม่สาย ไม่ค่อยอยากหยุดงาน (ให้ลางานไปงานโรงเรียนลูกสาวก็ไม่ลา กิจกรรมวันแม่ก็ไม่ไปให้ผมไปแทนบอกแต่ว่าหยุดงานไม่ได้คนในแผนกเขาลาหยุดไปแล้ว) แต่งหน้าทาปากไปทำงานทุกวัน
มือถือเมีย ในเฟสบุคเมียตั้งค่าซ่อนเพื่อนทั้งหมดจงใจไม่ให้เห็นและลบแชท line จะลบแชทออกทั้งหมดเหลือแค่แชทกลุ่ม เพื่อนคนสองคน พ่อ พี่ น้องของเมียผมเท่านั้น
ก่อนหน้านั้นผมแอบดูแชทไลท์มีแชทน่าสงสัยที่สุดคือพี่ที่ทำงานของเมียผม(เขาเป็นหัวหน้าแผนกผลิต เมียผมเป็นเจ้าหน้าที่แผนกควบคุมคุณภาพ)ซึ่งหัวหน้าผลิตมีอยู่ด้วยกันสี่คนแบ่งเป็นสามกะ ปกติการสื่อสารในงานจะมีกลุ่มงานต่างๆในไลน์ให้ประสานงานกัน แต่กับหัวหน้างานคนนี้ ต่อไปผมจะเรียกนายเอแล้วกัน นายเอเคยมีเมีย มีลูกโตอายุจะยี่สิบแล้ว นายเอเป็นหัวหน้างานคนเดียวที่แชทส่วนตัวกับเมียผมในแชทจะมีเกี่ยวกับงานต่างๆและส่งรูปภาพกิจกรรมต่างๆในบริษัทและในแชทนั้นได้มีการส่งรูปตัวเองให้กันบ่อยครั้ง หมายถึงนายเอถ่ายรูปเมียผม เมียผมถ่ายรูปเขา แล้วส่งให้กัน รูปไม่ได้โป๊ รูปปกตินะครับประมาณส่งมาแทนความคิดถึง
จุดที่เหมือนกับจะแตกหัก น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน นับประสาอะไรกับใจอ่อนๆของคน
พอผมเห็นรูปที่ส่งให้กัน
ผม ทำไมต้องส่งรูปให้กันด้วย
เมีย เงียบไม่ตอบพอแค่นมากๆก็บอกถ่ายเล่นๆกัน
ผม เขาจีบเธอเหรอ
เมีย ป่าวเขามีแฟนนะสวยกว่าหนูอีก
ผม เงียบ
เมีย เขาเป็นพี่ที่สนิทที่สุดแล้วก็มีเขานี้แหละถึงทำงานได้ทุกวันนี้
เมีย พี่จะกลัวอะไรหนูไม่มีอะไรกับเขาสักหน่อยและไม่คิดจะมีด้วย
ผม รู้ไหมเปลี่ยนไปมากนะ ทำไมกลับมาต้องหงุดหงิดด้วย กับพี่พี่ไม่ว่าแต่ทำไมต้องทำกับลูกด้วย วันนึง 24 ชั่วโมงได้คุยกับลูกกับผัวถึง สิบนาทีไหม ถามคำตอบคำ
เมีย ก็เหนื่อยเครียดงานมา ไหนจะคนที่บ้านอีก หนูก็หงุดหงิดสิ (เมียผมมีปัญหากับพี่สะใภ้) ตอนที่ทะเลากันพี่เคยปกป้องหนูไหมให้เขาชี้หน้าด่า
ผม ไม่ใช่ไม่ปกป้องนะแต่พี่ไม่อยากทำให้พ่อกับแม่ไม่สบายใจ พี่เลือกที่จะเงียบไงเดี๋ยวเราก็ย้ายไปอยู่บ้าเราแล้ว (ผมจะสร้างบ้านต้นปีหน้า 62)
ผม เมื่อก่อนเหนื่อยเครียดอะไรแค่ไหนแค่มองหน้าลูกแล้วเราคุยกัน กอดกันมันก็หายนิ
เมีย เงียบ
และมีหลายเรื่องราวที่คุยกันวันนั้นด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น หลังจากนั้นเขาก็จะลบแชทที่แอบคุยกันตลอดไม่ให้ผมรู้
ทุกวันนี้เรายังอยู่ด้วยกันคุยกันบ้างแต่รู้สึกได้ว่าไม่เหมือนเดิมเมียผมจากวันนั้นก็พยายามเหมือนจะปรับตัวให้ดูเหมือนเดิม
แต่ดูยังไงก็ไม่ใช่
รักแท้แพ้ใกล้ชิด
ผมไม่รู้ความสัมพันธ์ของเขาสองคนไปถึงขั้นไหนแต่ที่แน่ๆเพราะความใกล้ชิด หยอกล้อกันนี้แหละเป็นฉนวนของเหตุนี้
จุดสุดท้ายชีวิตของครอบครัวไม่รู้จะเป็นเช่นไร
จากคนที่ไม่เคยปิดบังกัน กลับกล้ายเป็นคนที่มีเงื่อนงำมากที่สุด ผมไม่รู้เรื่องอะไรอีกหลายๆอย่างเกี่ยวกับเมียผม เขาพยายามปกปิดตลอดเวลา ที่เมียผมทำแบบนี้ไม้รู้เพราะด้วยอะไรหรือทำเพื่อรอเวลาที่เหมาะสมของเขา ณ วันนี้ที้ผมเขียนกระทู้ผมพยายามทำใจเสมอมา คนจะไปเอาอะไรมารั้งก็ไม่อยู่ ทุกวันนี้ผมก็รักลูกผมให้มากๆไม่รู้จะเป็นยังไงแต่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด บ้านที่จะสร้างเพื่อครอบครัวยังก็ต้องดำเนินต่อ และไม่รู้ว่าถึงวันนั้นแล้วบ้านหลังนี้เราจะได้อยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูกหรือเปล่า
สุดท้ายแล้ว ผมเสียใจครับเสียใจจริงๆสงสารลูกด้วย


นี้คือรูปภาพที่ลูกผมวาดในความคิดของลูกยังมีแม่เสมอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่