ตามหัวข้อเลยครับ ผมไปปรึกษากับศาลแรงงงานกลางกรณีถูกเลิกจ้างกระทันหันหลังครบสัญญาทดลองงาน 105 วัน (18 มิ.ย.61 - 5 ต.ค.61)

จนท.ระบุว่าให้ลองยื่นฟ้องเรียกค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าดู เพราะทางบริษัทให้คนโทรมาแจ้งกับผมว่าขอใช้สิทธิ์ไม่ต่อสัญญาจ้างงาน

กับผมในวันสุดท้ายของสัญญาทดลองงาน และให้ออกจากตำแหน่งโดยมีผลทันที ซึ่งผมเพิ่งทราบ ณ ตอนนั้น ว่าจะต้องตกงาน

ซึ่งปกติทางบริษัทจ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือน กรณีผมคือ เค้าแจ้งวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งเลยกำหนดการจ่ายเงินเดือนมาแล้ว

และเมื่อถึงวันที่ศาลนัดไกล่เกลี่ย ทางบริษัทก็จ้างทนายเพื่อมาแจ้งกับทางผมและคนไกล่เกลี่ยว่า จะไม่จ่ายให้ผมสักบาท เพราะมีการแจ้งผมล่วงหน้าแล้ว

ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2561 โดยมีหนังสืออ้างอิงที่เค้าทำขึ้นมาเองมีเนื้อความว่า ขอใช้สิทธิ์ไม่ต่อสัญญาจ้างงานกับผม ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2561

ซึ่งมีแค่ลายเซ็นต์กรรมการบริษัท และอ้างกับผมว่า ได้ติดประกาศให้ผมรับทราบแล้ว ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2561 ตามที่ในเอกสารของบริษัทกล่าวอ้าง

ซึ่งในความเป็นจริงก็คือไม่มีการติดประกาศใดๆทั้งๆสิ้นที่สำนักงาน

โดยผมมีพยานบุคคลคือพนักงานบริษัทที่ทำงาน ณ ช่วงเวลานั้นๆ ยืนยัน (หลายคน) พร้อมทั้งมีหลักฐานทางไลน์ที่ยืนยันได้ว่า นายจ้างจะบอกเลิกจ้างผมในวันที่ 5 ต.ค.61 โดยนายจ้างพิมพ์บอกกับบุคคลที่สามด้วยตัวเองว่า ผมยังไม่รู้ตัวว่าจะถูกเลิกจ้าง รออีก 1 ชม.ทางนายจ้างจะให้คนโทรไปแจ้งผมว่าไม่ต่อสัญญาจ้างงาน

กรณีแบบนี้ผมทำอะไรได้บ้างไหมครับ ทางคนกลางที่เข้ามาไกล่เกลี่ยก็ให้ผมและบริษัท ถอยกันคนละก้าว ซึ่งผมก็ยอมรับได้ หากบริษัทมีการจ่ายชดเชยผมเล็กน้อย แต่เป็นทางบริษัทเองที่ยืนกรานจะไม่จ่ายเงินให้ผมในทุกๆกรณีน่ะครับ

ยิ่งมาเจอว่า ทางบริษัทตั้งใจทำเอกสารหลักฐานการบอกเลิกจ้างล่วงหน้า มาใช้อ้างอิงมั่วๆแบบนี้ผมยิ่งท้อหนัก แถมคนไกล่เกลี่ยยังพูดในเชิงขู่ผมให้ยอมความ

หากไม่ยอมอาจจะโดนแจ้งความกลับ หากบริษัทนำเอกสารใบนี้ไปติดประกาศ แล้วถ่ายรูปมาใช้อ้างอิงในชั้นศาลอีกด้วย (คือชี้นำกันซึ่งๆหน้าเลยน่ะครับ)

ผมควรดำเนินการอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้ดีครับ ปัจจุบันคือ คนไกล่เกลี่ยบอกให้ทางทนายและผมโทรเคลียร์กันเองก่อนวันนัดครั้งต่อไปในเดือนหน้า

โดยพูดทุกอย่างให้เรื่องไม่ต้องถึงชั้นศาล เพราะผมคงฟ้องได้เงินไม่ถึงที่ยื่นฟ้องมา จะได้แค่นิดหน่อย ไม่คุ้มค่าเดินทาง ไม่คุ้มเวลา

ผมอยากจะขอคำแนะนำด้วยครับ