บัตรประจำตัว ...................................
วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2018 10 นาฬิกา 24 นาที 22 วินาที UTC+7
ตอบ การพิจารณา
“อย่าให้อัปภาคย์ไปเลย
ควรเปรียบเรียกกลับคืนอาบัตินั้น เอาออก แสดงไปก็เพื่อ
ไม่ให้เอาชั่วมามากเพิ่มเติมขึ้น จะให้แต่อัปภาคย์โศกา ของผู้คนทุกแห่ง
เกี่ยวข้องด้วย ต้องหมดไป ฉะนั้น จงเข้าใจว่า ให้แสดงอาบัติ
เกิดกระทำอัพเภติได้ หาใช่ว่าทางจะส่งให้ไปทำชั่วได้สะดวก ดียิ่งขึ้น
ในทางเลวนั้น แต่ที่แท้ บทพระวินัยมุ่งจะให้ปลดเอาชั่วออกให้หมด
และให้คนได้มองเห็นอย่างถนัด ให้เห็นชัดในทุกฝ่าย
แล้วจึงไม่ต้องกลับเข้าไปทำ ให้เกิดการนั้นกับตนอีก
ตามความชั่วมันตั้งอยู่อย่างไร ก็จงปล่อยให้มันอยู่ไปอย่างนั้น ไม่ต้องพัก
และเราผู้จะเอาทางพ้น ฉะนั้น ไม่พึงจะวกเวียน กลับไปเกี่ยวสัมพันธ์
ให้ต้องทำอะไรซ้ำอีก”
ทิศทางตนเกี่ยวกับแสนแม้นว่า
หนทางวาทสิกขาสมาทาน
ฝึกธุระทนสู้ศึกสิ่งงาน
ศึกษาการแก่ดีชั่วทั่วทุกคน
ดลให้เราเปลี่ยนแปลงแสดงเหตุ
ธรรมประเภททุกเขตแถลงผล
สืบส่งผ่านสื่อสารทางยนต์
เกิดแต่จนจิตมั่นแค้นอย่าเรียน
ตอบ เหตุการณ์
“วันนี้
ได้หาความสะเทือน เข้ามาพูดในบ้าน พูดหางานบ้านงานเมือง งานเขต
งานเหตุงานผล ตามแต่คนที่อาจได้เป็นญาติและเคยเกี่ยวพัน ให้ต้องเคารพต่อกัน
มีมาจากแต่ก่อน จนถึงเดี๋ยวนี้ อันว่า เราจะให้เห็นว่า ความใส่ใจ
หรือควรจะเรียกว่า ความคลั่งไคล้งมงาย ก็ได้ ของตน ของเรารักษาระดับไว้ได้
จะไปต่อไปแล้ว ดีแค่ใด, อันตนพูดเอง จะพูดกล่าวแสดงให้ตน และคนของตนเห็นคุณ
และเห็นโทษ แลตาม มองดูให้ได้ไปเห็น ซึ่งเหตุบางสิ่งบางอย่าง บางเหตุการณ์
ที่เกิดในระดับนั้น ๆ ที่ได้ตามกระทบ ให้ต้องเกิดความขื่นขมใจก็มี
คือหมายความว่า เหตุการณ์อันไม่ให้แต่ละคน ได้ต่างคนต่างอยู่ได้
ก็จะต้องขื่นขมใจ ไม่ว่าจะครั้งไหนก็ตาม ครั้งใด
เมื่อไม่อาจจะต่างคนต่างอยู่ได้ ฉะนั้น ก็ต้องยอมรับความกระทบกระเทือน
และความที่อาจจะต้องขื่นขมใจ หากว่าเรา หรือว่าใคร จะต้องพูดออกไปถึง
การบ้าน งานเมือง ตามอันที่ต้องให้ได้ไปถึง จนพอแก่เกณฑ์การเมือง”
“ฉะนั้น จงเข้าใจว่า ให้แสดงอาบัติ”
วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2018 10 นาฬิกา 24 นาที 22 วินาที UTC+7
ตอบ การพิจารณา
“อย่าให้อัปภาคย์ไปเลย
ควรเปรียบเรียกกลับคืนอาบัตินั้น เอาออก แสดงไปก็เพื่อ
ไม่ให้เอาชั่วมามากเพิ่มเติมขึ้น จะให้แต่อัปภาคย์โศกา ของผู้คนทุกแห่ง
เกี่ยวข้องด้วย ต้องหมดไป ฉะนั้น จงเข้าใจว่า ให้แสดงอาบัติ
เกิดกระทำอัพเภติได้ หาใช่ว่าทางจะส่งให้ไปทำชั่วได้สะดวก ดียิ่งขึ้น
ในทางเลวนั้น แต่ที่แท้ บทพระวินัยมุ่งจะให้ปลดเอาชั่วออกให้หมด
และให้คนได้มองเห็นอย่างถนัด ให้เห็นชัดในทุกฝ่าย
แล้วจึงไม่ต้องกลับเข้าไปทำ ให้เกิดการนั้นกับตนอีก
ตามความชั่วมันตั้งอยู่อย่างไร ก็จงปล่อยให้มันอยู่ไปอย่างนั้น ไม่ต้องพัก
และเราผู้จะเอาทางพ้น ฉะนั้น ไม่พึงจะวกเวียน กลับไปเกี่ยวสัมพันธ์
ให้ต้องทำอะไรซ้ำอีก”
ทิศทางตนเกี่ยวกับแสนแม้นว่า
หนทางวาทสิกขาสมาทาน
ฝึกธุระทนสู้ศึกสิ่งงาน
ศึกษาการแก่ดีชั่วทั่วทุกคน
ดลให้เราเปลี่ยนแปลงแสดงเหตุ
ธรรมประเภททุกเขตแถลงผล
สืบส่งผ่านสื่อสารทางยนต์
เกิดแต่จนจิตมั่นแค้นอย่าเรียน
ตอบ เหตุการณ์
“วันนี้
ได้หาความสะเทือน เข้ามาพูดในบ้าน พูดหางานบ้านงานเมือง งานเขต
งานเหตุงานผล ตามแต่คนที่อาจได้เป็นญาติและเคยเกี่ยวพัน ให้ต้องเคารพต่อกัน
มีมาจากแต่ก่อน จนถึงเดี๋ยวนี้ อันว่า เราจะให้เห็นว่า ความใส่ใจ
หรือควรจะเรียกว่า ความคลั่งไคล้งมงาย ก็ได้ ของตน ของเรารักษาระดับไว้ได้
จะไปต่อไปแล้ว ดีแค่ใด, อันตนพูดเอง จะพูดกล่าวแสดงให้ตน และคนของตนเห็นคุณ
และเห็นโทษ แลตาม มองดูให้ได้ไปเห็น ซึ่งเหตุบางสิ่งบางอย่าง บางเหตุการณ์
ที่เกิดในระดับนั้น ๆ ที่ได้ตามกระทบ ให้ต้องเกิดความขื่นขมใจก็มี
คือหมายความว่า เหตุการณ์อันไม่ให้แต่ละคน ได้ต่างคนต่างอยู่ได้
ก็จะต้องขื่นขมใจ ไม่ว่าจะครั้งไหนก็ตาม ครั้งใด
เมื่อไม่อาจจะต่างคนต่างอยู่ได้ ฉะนั้น ก็ต้องยอมรับความกระทบกระเทือน
และความที่อาจจะต้องขื่นขมใจ หากว่าเรา หรือว่าใคร จะต้องพูดออกไปถึง
การบ้าน งานเมือง ตามอันที่ต้องให้ได้ไปถึง จนพอแก่เกณฑ์การเมือง”