Nsr 150RR รหัสสังหาร (2536)

โลกยังหมุนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง สิ่งใดๆ ก็ล้วนต้องหมุนไปตามความเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน สำหรับทางค่าย Honda ที่เริ่มทำตลาดรถสปอร์ตขนาด 150cc ซึ่งได้เปิดตัวรถประเภทสปอร์ตไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2532 โดยมีรหัสว่า Nsr150R

จากรุ่นสู่รุ่นสำหรับ Nsr150R ถูกถอดแบบมาจาก NSR 250R ซึ่งทาง NSR 250R ก็ถูกทาง Honda ถอดแบบมาจาก NSR500 เหมือนกัน ทั้งนี้สามารถพูดได้ว่าทาง Honda ทำการย่อขนาดเจ้า NSR500 ให้เป็น NSR250R และสุดท้ายย่อจนเป็น Nsr150R



กาลเวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงวันที่ 23 เมษายน 2536 ณ.โรงแรมแอมบาสเดอร์ ทาง Honda ได้ทำการแถลงข่าวเปิดตัวรถสปอร์ตใหม่ล่าสุด โดยมีรหัสว่า Nsr 150RR ซึ่งการออกแบบดีไซน์เรียกได้ว่ารับการถ่ายทอดโดยตรงมาจากรถรุ่นพี่ในค่ายอย่างเจ้า CBR 250RR เลยทีเดียว



Nsr 150RR มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 1 ลูกสูบ ป้อนไอดีแบบแคร้งเคสรีดวาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 149 cc มีระยะชักที่ 59-54.5 มม และมีกำลังอัดอยู่ที่ 6.5: 1 พร้อมทั้งระบบ RC Valve ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ECU โดยสามารถทำแรงม้าสูงสุดที่ 35 แรงม้า ต่อรอบเครื่อง 10,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 2.55 กก.ม ที่รอบเครื่อง 9,500 รอบ/นาที



ในส่วนของงานดีไซค์ที่เป็นไปตามยุคสมัยแล้วก็ยังมีเรื่องแอโรไดนามิคที่ช่วยให้ลมไหลผ่านได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนจากฟูลแฟริ่งให้เป็นแบบฮาล์ฟแฟริ่ง

เบาะแยกส่วนรุ่นแรกในเมืองไทย ถือได้ว่าเป็นงานดีไซค์ที่ทาง Honda พยายามโฆษณา โดยเป็นการอ้างอิงจากสไตล์รถแข่ง สามารถถอดออกได้ด้วยกุญแจรวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายด้วยจุดเติมน้ำมัน 2t และน้ำในที่เดียวกัน

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic โดยมีแกนโช๊คขนาด 31 มม. ในส่วนระบบกันสะเทือนหลัง โมโนโช๊ค สามารถปรับได้ 5 ระดับ ทำงามรวมกับสวิงอาร์มหลังที่มีขนาดใหญ่ ตอบสนองทุกสภาพถนน

ดิสก์เบรคหน้า-หลัง แบบลูกสูบคู่ รวมถึงขยายจานเบรคให้ใหญ่ขึ้นรองรับแรงม้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิม

เฟรมเหลี่ยมคู่ (Twin Tube Frame) ยังคงใช้รวมกันกับ Nsr150R

สิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับ Nsr 150RR คือการที่ทาง Honda ได้ใส่สวิตซ์ off/run มาในรถรหัสนี้แล้ว ซึ่งในส่วน Nsr 150R รุ่นก่อนหน้าไม่มีมาให้

ทั้งนี้สำหรับ Nsr 150RR ทาง Honda ได้ทำการแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย โดยมีความแตกต่างกันระหว่างล้อแม็กและล้อซี่ลวดธรรมดา ทั้งนี้ราคาในรุ่นล้อแม็กมีราคาประมาณ 62,500 บาท และในส่วนล้อซี่ลวดมีราคาประมาณ 59,000 บาท


------------------------------------





หลังจากนั้นในปี 2537 ทาง Honda ก็ได้ทำการออนิวสติ๊กเกอร์ (All New Sticker) Nsr 150RR ใหม่ตามสไลต์ของค่ายนี้ โดยรายละเอียดที่ได้ปรับเปลี่ยนไปจากเดิมคือมีการเปลี่ยนตำแหน่งโดยเพิ่มตัวอักษร RR ตรงด้านข้างแทนที่อักษร RC ที่หายไปแทน ในส่วนของรุ่นสีดำสติกเกอร์จะสีไม่เหมือนกับรุ่นที่แล้ว อีกทั้งแม็กสีขาวทุกรุ่น ซึ่งได้รับอธิพลมาจากลายจะเหมือน NSR 500 ของ Michael Doohan ช่วงปี 1994

ในส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น

------------------------------------

NSR 150 RR [ver.3] (2538)

ถัดมาในปี 2538 ทาง Honda ก็ได้ทำการออนิวสติ๊กเกอร์ (All New Sticker) กับเจ้า Nsr 150RR อีกครั้งหนึ่ง โดยยังคงใช้ลาย NSR 500 ของ Michael Doohan ช่วงปี 1994 มาเป็นต้นแบบ

ในส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น



------------------------------------

NSR 150 RR [ver.4] (2539)

ในปี 2539 ทาง Honda ก็ได้ทำการออนิวสติ๊กเกอร์ (All New Sticker) กับเจ้า Nsr 150RR เช่นเดิม โดยลายจะต่างจากรุ่นที่แล้วเพียงเล็กน้อยที่ตรงสติกเกอร์ท้ายและสติกเกอร์ไฟหน้าเท่านั้น สำหรับในรุ่นสีดำและสีน้ำเงินสติกเกอร์จะสีไม่เหมือนรุ่นที่แล้ว และทาง Honda ได้เปลี่ยนกันตกเป็นกันตกขนาดใหญ่

ในส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น



------------------------------------





รุ่นสุดท้ายของ NSR 150 RR ในปี 2540 ทาง Honda ก็ได้ทำการออนิวสติ๊กเกอร์ (All New Sticker) เหมือนกันกับในรุ่นก่อนๆ

ในส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น

------------------------------------





------------------------------------



สิ่งได้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดของแนวทางการตลาดของ Honda คือการปล่อยรถโฉมใหม่อยู่ตลอดๆ ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมีเพียงแค่สติ๊กเกอร์ลายใหม่หรือสีใหม่เพียงเท่านั้น

ในส่วนเครื่องยนต์ 1 รหัส ทาง Honda เลือกที่จะใช้กับรถเป็นระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งมันอาจกลายเป็นข้อดีอย่างหนึ่งสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากเครื่องยนต์ที่เลือกมาใช้กับรถแทบจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์เลยก็ว่าได้

ทั้งนี้อาจจะเป็นที่กล่าวถึงในเครื่องยนต์ 150cc ของทาง Honda ซึ่งที่ไม่มีโดดเด่นในเรื่องความเร็วแรงอยู่สักเท่าไหร่ โดยอาจจะเปรียบได้ว่าเครื่องยนต์ถูกจัดอยู่ในระดับกลางๆ ของตลาด ซึ่งไม่ได้แย่สุดและก็ไม่ได้ดีที่สุดในรุ่นเหมือนกัน

อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ ก็เรียกได้ว่ามีบทบาทกับทาง Honda ด้วยเช่นกัน การที่เลือกใช้พาร์ทอะไหล่รวมกันในรถหลายๆโฉมจวบจนในหลายรุ่น ส่งผลทำให้การหาอะไหล่ต่างๆ ทำได้อย่าง่ายดาย นอกจากนี้การสต๊อกอะไหล่ก็มีปริมาณมากกว่าตามไปด้วย

นอกเหนือสิ่งอื่นใดคือความเป็นเจ้าตลาด ซึ่งเจ้าตลาดในที่นี้หมายถึงมีศูนย์บริการที่ควบคุมพื้นที่ในประเทศไทย ส่งผลทำให้อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายได้

สำหรับ Nsr150RR หรือเรียกกันติดปากว่ารุ่นตากลม หากนำไปเปรียบเทียบหาคู่แข่งในยุคเดียวกัน ซึ่งจะพบว่ามีทั้ง Yamaha Tzr 150, Suzuki RG 150 I และ Kawasaki Kr150 SE ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงในยุคนั้น สุดท้ายนี้มันคงกลายเป็นความชื่นชอบส่วนตัวมากกว่า สำหรับการเลือกที่จะซื้อรถคันหนึ่ง