สวัสดีครับ ห่างหายเข้ากลีบเมฆไปหลายปี
วันนี้กลับมา เพื่อแลกเปลี่ยน และแนะนำเมนูอาหารที่ผมเองโปรดปรานมาก
กินได้กินดี กินกี่วันก็ไม่เคยเบื่อ ฮ่าๆๆๆ
และเมนูนี้ หากไปทางเหนือ ไม่มีหรอกครับแบบห่อใหญ่ๆ
มาแบบห่อกระจิดริด น่าจะพอๆกับห่อแหนมไปแล้วเดี๋ยวนี้
ห่อกันหนา ใหญ่ แกะออกมาได้นิดเดียว เสียอารมณ์
คนทางเหนือ ต้องรู้จักกันดีครับ ข้างเงี้ยว ( ชื่อนี้เรียกตั้งแต่เด็กๆ ที่เริ่มรู้จัก เพราะคุณแม่ทำให้ทาน )
หรือข้างกั้นจิ้น ( ชื่อนี้ มารู้จักอีกที ก็เมื่อโตมาแล้ว และได้ไปอยู่ทางเชียงใหม่ )
จะขอออกตัวก่อนนะครับว่า สูตรที่บ้านผมทำ คุณแม่ไม่เคยใส่เลือดมาตั้งแต่ที่ผมเคยได้ทาน
และมารู้จักว่า ของทางเหนือทำกันจริงๆ ใส่เลือดสดลงไปคลุกด้วย ....เป็นสิ่งที่ดีต่อผมจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
ดังนั้น ก็จะเป็นสูตรดัดแปลงนะครับ จากตามตำราเดิมๆ
ซึ่งนอกจากไม่ใส่เลือดแล้ว สูตรผมเองในวันนี้ ก็ไม่ใช้หมูสับเช่นกัน ฮ่าๆๆๆ
เนื่องจาก ก่อนหน้าที่จะทำ ก็นึกอยากทานแหนม และไปที่ห้าง เจอแหนมสดลดราคา
เลยจัดมา 2 ห่อใหญ่ เป็นแหนมไก่ นะครับ
ดังนั้น สูตรผม ก็ง่ายๆเลย เอาตามที่มี และดีต่อใจ...
มาดูวิธีทำกันครับ
อุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมด
1. ใบตองเช็ดสะอาด ตัดเป็นชิ้น ( ของผมทำห่อใหญ่ ใช้ขนาดประมาณ 12 - 14 นิ้ว )
นำไปย่างไฟพอสลด ( 1 ห่อ / ใบตองห่อ 3 ชิ้น หรือ 3 ชั้น กันแตก นะครับ )
2. หุงข้าวสวย ( ผมใช้ข้วหอมมะลิเก่า เพราะผมทำเยอะ จะต้องมีอุ่นหลายครั้ง มันจะเละ )
3. เนื้อหมูบด ( สูตรดั้งเดิม ) ( หรือ เนื้อไก่บด หรือ แหนมสด )
4. รากผักชี กระเทียม พริกไทย ( ขาว ) ตำรวมกัน
5. เกลือแกง
6. น้ำปลา
7. หอมแดงซอย ( หอมไทย )
8. กระเทียมเจียว
9. พริงแห้งทอด
10. มะนาวผ่าซีก
11. ตอก ไว้มัดห่อข้าว ( ผมใช้หนังยางรัดถุง ที่เหลือจากแกะห่อแหนม เน้น reuse และสะดวกครับ อิอิอิ )
12. เลือดหมูสด หรือ เลือดไก่สด ( กรุงเทพฯ หรือในเมือง หาไม่ได้ และผมไม่เคยใส่ ไม่ใส่ก็ได้ครับ )
13. รังนึ่ง ( รังถึง รังซึ้ง
แล้วแต่จะเรียก )
( ผมทำเยอะมากครับ ทำทีเดียว แล้วไว้เผื่อทานวันต่อๆไปด้วย ดังนั้น ทุกอย่าง กะเอาตามปริมาณที่ต้องการเองเลยครับ
ห่อ นึง ผม = ข้าว 2 ทัพพีกว่าๆ ผมหุงข้าว ประมาณ 12 ถ้วย ใช้แหนม 20 ชิ้น จาก 2 ห่อใหญ่ และ ผักชี 6 - 8 ราก กระเทียม 4 หัว
และ พริกไทย 1 ห่อเล็ก + อีก เกือบ ครึ่งห่อ พริกไทยขาว พอดีผมซื้อแบบแยกห่อละ 15 บาท มานะครับ )
มาถึงวิธีทำนะครับ
ตำรากผักชี กระเทียม พริกไท ( ขาว ) และเนื้อสัตว์บด ไปวางรอที่อ่างผสม ( กระจายมันออกให้ทั่วๆ )
นำข้าวสวยที่หุงสุกร้อนๆ ลงไปคลุกกับเนื้อสัตว์บด ( หมู ไก่ หรือ ที่ผมใช้คือแหนมไก่ ) เทลงในอ่างผสม
แล้วใช้ทัพพี หรือไม้พาย ช่วยคลุกทั้งหมดให้เข้ากัน ข้าวจะร้อนมากนะครับ ใช้มือไม่ได้แน่นอน
และคลุกแบบให้เข้ากันดีทั้งหมดนะครับ ไม่ใช่เหลือข้าวขาวๆไว้
หากใส่เลือดด้วย ก็ใส่พร้อมกันตอนใส่ข้าวหุงสุกลงไปคลุกพร้อมกัน มันจะเริ่มสุกนิดๆนั่นเอง
และช่วงนี้ ผมก็จะปรุงรส โดยใช้เกลือนิดหน่อย และน้ำปลา
( บางสูตรอาจไม่ใส่น้ำปลา แต่ที่ผมใส่น้ำปลา เพราะส่วนตัว ชอบให้ออกหอมกลิ่นน้ำปลาด้วยครับ )
เมื่อคลุกเข้ากันดีแล้ว ก็เตรียมห่อได้เลยครับ
เอารังนึ่ง ( รังถึง รังซึ้ง
แล้วแต่จะเรียก ) ใส่น้ำให้เกินครึ่งเล็กน้อย ปิดฝา และเปิดเตา ตั้งน้ำรอ
เอาข้าวที่คลุกกับเครื่องทั้งหมด ตักลงห่อ จะห่อแบบไหน ยังไง ก็ตามสะดวกครับ ตอนห่อ ก็บีบห่อให้แน่น
เพื่อที่เขาจะไม่คลายตัว มีข้าวเละออกมา ห่อด้วยใบตอง 2 - 3 ชั้น หรือมากกว่า กันแตก
แล้วมัด หรือรัดด้วย ตอก เชือกกล้วย หรือหนังยางรัดถุง รัดให้ก่ออยู่ตัวแน่นหนา และปิดมิดชิด
( ในขั้นตอนวิธีทำ และอุปกรณ์ก่อนทำ ผมไม่ได้เก็บภาพไว้นะครับ เพราะต้องเตรียมหลายอย่าง
และตอนห่อนี่ยุ่งยาก มันจะมาถ่ายรูปด้วย คงทำไม่ได้ และผมรีบทำด้วยครับ )
ห่อเสร็จแล้ว นำไปลงเรียงในรังนึ่ง หากทำเยอะ เรียงซ้อนกันได้นะครับ ไม่มีปัญหา ให้ปิดฝาได้ก็พอ
น้ำเดือดเเล้ว ก็นำลงไปนึ่ง ประมาณ 25 - 30 นาที สังเกตสีใบตอง ที่จะออกสีน้ำตาล คือสุกแล้วครับ
จะทานร้อนๆก็ได้ หรือจะเก็บไว้ทานแบบไม่ร้อนก็ได้ เพราะสมัยก่อน ชาวเขา ชาวพื้นที่สูง
เขาห่อไปกินระหว่างเดินทาง หรือไปทำงานในไร่ ในสวน ดังนั้น เมนูนี้ ไม่ต้องพึ่งจานมานข้าว
ใช้มือจก แล้วทิ้ง ไม่มีต้องเก็บมาล้างอีกเลย
ของทานคู่กัน หรือเครื่องเคียง ก็คือ หอมแดงซอย ( ใส่ตามชอบ )
พริกแห้งทอด ราดกระเทียมเจียว เพื่อให้หอมๆ ( ผมชอบมาก ใส่เยอะเลยครับ ฮ่าๆๆ ) และทานกับพริกแห้งทอด
และของผม ก็กินแบบปรุงรสด้วย ปกติ เห็นขายตามตลาด หรือร้านอาหาร ใจให้มะนาวมาบีบใส่ด้วย
หากคิดว่ายังจืดไป ก็ใส่น้ำปลาเพิ่ม น้ำตาลเพิ่ม แล้วแต่ชอบ รสปากใคร ก็ของแต่ละคนชอบครับ
ไม่มีถูก ไม่มีผิด เอาที่เราทานได้ แล้วเจริญอาหาร
( สมัยเด็กๆ จำได้ ผมใส่พริกป่นลงไปด้วย เพราะอยากให้เผ็ดแบบทั่งทุกอนู ฮ่าๆๆๆ )
หากเป็นทางเหนือ อาจทานคู่กับกับข้าวอื่นๆ เช่น จิ้นทอด ตำบ่าหนุน ( ตำขนุน ) น้ำพริกหนุ่ม
หรือทานคู่กับขนมจีนน้ำเงี้ยว ก็อร่อย ( แต่ทั้งหมดที่ว่ามา น้ำพริกหนุ่ม กับน้ำเงี้ยว ผมเพิ่งทำทานไปหมดแล้ว )
ครั้งนี้ ผมก็ทานกับ ไข่ลูกเขย ( แยกน้ำ ) ผักต่างๆ ส้มตำ และต้มจืดผักครับ ..
ลองทำทานกันดูนะครับ จะยุ่งยาก ก็ตอนเตรียมอุปกรณ์ต่างๆนี่เอง
ผมไม่มีรูปบันทึกระหว่างทำ เพราะต้องรีบทำ คิดแล้ว ลงมือทำเลย ไม่งั้นคงไม่ได้ทำอีก
ทำเอง กินเองคนเดียว ...มันก็มือระวิงหน่อยครับ ..
ขอบคุณทุกท่านที่เเวะเข้ามาอ่าน และเยี่ยมชมกระทู้นะครับ
[CR] @ ํ ํ ํ ํ ข้าวเงี้ยว... หรือข้าวกั้นจิ้น ( แบบคนในกรุง.... ) ํ ํ ํ@
สวัสดีครับ ห่างหายเข้ากลีบเมฆไปหลายปี
วันนี้กลับมา เพื่อแลกเปลี่ยน และแนะนำเมนูอาหารที่ผมเองโปรดปรานมาก
กินได้กินดี กินกี่วันก็ไม่เคยเบื่อ ฮ่าๆๆๆ
และเมนูนี้ หากไปทางเหนือ ไม่มีหรอกครับแบบห่อใหญ่ๆ
มาแบบห่อกระจิดริด น่าจะพอๆกับห่อแหนมไปแล้วเดี๋ยวนี้
ห่อกันหนา ใหญ่ แกะออกมาได้นิดเดียว เสียอารมณ์
คนทางเหนือ ต้องรู้จักกันดีครับ ข้างเงี้ยว ( ชื่อนี้เรียกตั้งแต่เด็กๆ ที่เริ่มรู้จัก เพราะคุณแม่ทำให้ทาน )
หรือข้างกั้นจิ้น ( ชื่อนี้ มารู้จักอีกที ก็เมื่อโตมาแล้ว และได้ไปอยู่ทางเชียงใหม่ )
จะขอออกตัวก่อนนะครับว่า สูตรที่บ้านผมทำ คุณแม่ไม่เคยใส่เลือดมาตั้งแต่ที่ผมเคยได้ทาน
และมารู้จักว่า ของทางเหนือทำกันจริงๆ ใส่เลือดสดลงไปคลุกด้วย ....เป็นสิ่งที่ดีต่อผมจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
ดังนั้น ก็จะเป็นสูตรดัดแปลงนะครับ จากตามตำราเดิมๆ
ซึ่งนอกจากไม่ใส่เลือดแล้ว สูตรผมเองในวันนี้ ก็ไม่ใช้หมูสับเช่นกัน ฮ่าๆๆๆ
เนื่องจาก ก่อนหน้าที่จะทำ ก็นึกอยากทานแหนม และไปที่ห้าง เจอแหนมสดลดราคา
เลยจัดมา 2 ห่อใหญ่ เป็นแหนมไก่ นะครับ
ดังนั้น สูตรผม ก็ง่ายๆเลย เอาตามที่มี และดีต่อใจ...
มาดูวิธีทำกันครับ
อุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมด
1. ใบตองเช็ดสะอาด ตัดเป็นชิ้น ( ของผมทำห่อใหญ่ ใช้ขนาดประมาณ 12 - 14 นิ้ว )
นำไปย่างไฟพอสลด ( 1 ห่อ / ใบตองห่อ 3 ชิ้น หรือ 3 ชั้น กันแตก นะครับ )
2. หุงข้าวสวย ( ผมใช้ข้วหอมมะลิเก่า เพราะผมทำเยอะ จะต้องมีอุ่นหลายครั้ง มันจะเละ )
3. เนื้อหมูบด ( สูตรดั้งเดิม ) ( หรือ เนื้อไก่บด หรือ แหนมสด )
4. รากผักชี กระเทียม พริกไทย ( ขาว ) ตำรวมกัน
5. เกลือแกง
6. น้ำปลา
7. หอมแดงซอย ( หอมไทย )
8. กระเทียมเจียว
9. พริงแห้งทอด
10. มะนาวผ่าซีก
11. ตอก ไว้มัดห่อข้าว ( ผมใช้หนังยางรัดถุง ที่เหลือจากแกะห่อแหนม เน้น reuse และสะดวกครับ อิอิอิ )
12. เลือดหมูสด หรือ เลือดไก่สด ( กรุงเทพฯ หรือในเมือง หาไม่ได้ และผมไม่เคยใส่ ไม่ใส่ก็ได้ครับ )
13. รังนึ่ง ( รังถึง รังซึ้ง แล้วแต่จะเรียก )
( ผมทำเยอะมากครับ ทำทีเดียว แล้วไว้เผื่อทานวันต่อๆไปด้วย ดังนั้น ทุกอย่าง กะเอาตามปริมาณที่ต้องการเองเลยครับ
ห่อ นึง ผม = ข้าว 2 ทัพพีกว่าๆ ผมหุงข้าว ประมาณ 12 ถ้วย ใช้แหนม 20 ชิ้น จาก 2 ห่อใหญ่ และ ผักชี 6 - 8 ราก กระเทียม 4 หัว
และ พริกไทย 1 ห่อเล็ก + อีก เกือบ ครึ่งห่อ พริกไทยขาว พอดีผมซื้อแบบแยกห่อละ 15 บาท มานะครับ )
มาถึงวิธีทำนะครับ
ตำรากผักชี กระเทียม พริกไท ( ขาว ) และเนื้อสัตว์บด ไปวางรอที่อ่างผสม ( กระจายมันออกให้ทั่วๆ )
นำข้าวสวยที่หุงสุกร้อนๆ ลงไปคลุกกับเนื้อสัตว์บด ( หมู ไก่ หรือ ที่ผมใช้คือแหนมไก่ ) เทลงในอ่างผสม
แล้วใช้ทัพพี หรือไม้พาย ช่วยคลุกทั้งหมดให้เข้ากัน ข้าวจะร้อนมากนะครับ ใช้มือไม่ได้แน่นอน
และคลุกแบบให้เข้ากันดีทั้งหมดนะครับ ไม่ใช่เหลือข้าวขาวๆไว้
หากใส่เลือดด้วย ก็ใส่พร้อมกันตอนใส่ข้าวหุงสุกลงไปคลุกพร้อมกัน มันจะเริ่มสุกนิดๆนั่นเอง
และช่วงนี้ ผมก็จะปรุงรส โดยใช้เกลือนิดหน่อย และน้ำปลา
( บางสูตรอาจไม่ใส่น้ำปลา แต่ที่ผมใส่น้ำปลา เพราะส่วนตัว ชอบให้ออกหอมกลิ่นน้ำปลาด้วยครับ )
เมื่อคลุกเข้ากันดีแล้ว ก็เตรียมห่อได้เลยครับ
เอารังนึ่ง ( รังถึง รังซึ้ง แล้วแต่จะเรียก ) ใส่น้ำให้เกินครึ่งเล็กน้อย ปิดฝา และเปิดเตา ตั้งน้ำรอ
เอาข้าวที่คลุกกับเครื่องทั้งหมด ตักลงห่อ จะห่อแบบไหน ยังไง ก็ตามสะดวกครับ ตอนห่อ ก็บีบห่อให้แน่น
เพื่อที่เขาจะไม่คลายตัว มีข้าวเละออกมา ห่อด้วยใบตอง 2 - 3 ชั้น หรือมากกว่า กันแตก
แล้วมัด หรือรัดด้วย ตอก เชือกกล้วย หรือหนังยางรัดถุง รัดให้ก่ออยู่ตัวแน่นหนา และปิดมิดชิด
( ในขั้นตอนวิธีทำ และอุปกรณ์ก่อนทำ ผมไม่ได้เก็บภาพไว้นะครับ เพราะต้องเตรียมหลายอย่าง
และตอนห่อนี่ยุ่งยาก มันจะมาถ่ายรูปด้วย คงทำไม่ได้ และผมรีบทำด้วยครับ )
ห่อเสร็จแล้ว นำไปลงเรียงในรังนึ่ง หากทำเยอะ เรียงซ้อนกันได้นะครับ ไม่มีปัญหา ให้ปิดฝาได้ก็พอ
น้ำเดือดเเล้ว ก็นำลงไปนึ่ง ประมาณ 25 - 30 นาที สังเกตสีใบตอง ที่จะออกสีน้ำตาล คือสุกแล้วครับ
จะทานร้อนๆก็ได้ หรือจะเก็บไว้ทานแบบไม่ร้อนก็ได้ เพราะสมัยก่อน ชาวเขา ชาวพื้นที่สูง
เขาห่อไปกินระหว่างเดินทาง หรือไปทำงานในไร่ ในสวน ดังนั้น เมนูนี้ ไม่ต้องพึ่งจานมานข้าว
ใช้มือจก แล้วทิ้ง ไม่มีต้องเก็บมาล้างอีกเลย
ของทานคู่กัน หรือเครื่องเคียง ก็คือ หอมแดงซอย ( ใส่ตามชอบ )
พริกแห้งทอด ราดกระเทียมเจียว เพื่อให้หอมๆ ( ผมชอบมาก ใส่เยอะเลยครับ ฮ่าๆๆ ) และทานกับพริกแห้งทอด
และของผม ก็กินแบบปรุงรสด้วย ปกติ เห็นขายตามตลาด หรือร้านอาหาร ใจให้มะนาวมาบีบใส่ด้วย
หากคิดว่ายังจืดไป ก็ใส่น้ำปลาเพิ่ม น้ำตาลเพิ่ม แล้วแต่ชอบ รสปากใคร ก็ของแต่ละคนชอบครับ
ไม่มีถูก ไม่มีผิด เอาที่เราทานได้ แล้วเจริญอาหาร
( สมัยเด็กๆ จำได้ ผมใส่พริกป่นลงไปด้วย เพราะอยากให้เผ็ดแบบทั่งทุกอนู ฮ่าๆๆๆ )
หากเป็นทางเหนือ อาจทานคู่กับกับข้าวอื่นๆ เช่น จิ้นทอด ตำบ่าหนุน ( ตำขนุน ) น้ำพริกหนุ่ม
หรือทานคู่กับขนมจีนน้ำเงี้ยว ก็อร่อย ( แต่ทั้งหมดที่ว่ามา น้ำพริกหนุ่ม กับน้ำเงี้ยว ผมเพิ่งทำทานไปหมดแล้ว )
ครั้งนี้ ผมก็ทานกับ ไข่ลูกเขย ( แยกน้ำ ) ผักต่างๆ ส้มตำ และต้มจืดผักครับ ..
ลองทำทานกันดูนะครับ จะยุ่งยาก ก็ตอนเตรียมอุปกรณ์ต่างๆนี่เอง
ผมไม่มีรูปบันทึกระหว่างทำ เพราะต้องรีบทำ คิดแล้ว ลงมือทำเลย ไม่งั้นคงไม่ได้ทำอีก
ทำเอง กินเองคนเดียว ...มันก็มือระวิงหน่อยครับ ..
ขอบคุณทุกท่านที่เเวะเข้ามาอ่าน และเยี่ยมชมกระทู้นะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้