ประเทศไทยครอบอันดับ 1 ของโลก
คนจน>>จนลง คนรวย>>รวยขึ้น
นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว อ้างอิงถึงรายงานของ The Credit Suisse Global Wealth Report 2018
ระบุว่า คนไทย 1% ถือครองความมั่นคั่ง หรือมีทรัพย์สินรวมถึง 66.9% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ เท่ากับว่า คนไทยถึง 95% ถือครองทรัพย์สินเพียง 33.1 ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงมาก และสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ส่วนประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 2 คือ รัสเซีย โดยประชากร 1 % มีทรัพย์สินรวม 57.1% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
อันดับ 3 ได้แก่ ตุรกี ที่ประชากร 1% มีทรัพย์สินรวม 54.1% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
และอันดับ 4 ได้แก่ อินเดีย ที่ประชากร 1% มีทรัพย์สินรวม 51.5% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
และมีเพียง 4 ประเทศข้างต้นเท่านั้น ที่ประชากร 1% มีทรัพย์สินรวมเกินกว่า 50% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ ส่วนประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจต่ำที่สุด คือ เบลเยี่ยม ที่ประชากร 1% มีทรัพย์สินรวม 20.1% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2559) รายงาน The Credit Suisse Global Wealth Report 2016 ได้ระบุว่า ไทยมีความล้ำเหลื่อมสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก โดยคนไทย 1% ถือครองทรัพย์สินรวม 58.0% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
นายบรรยง แสดงความคิดเห็นว่า จากรายงานดังกล่าวยืนยันว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เราอาจจะมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทางการเงิน ทางการเมืองได้ดี แต่ถ้าไม่แก้เรื่องนี้ให้ได้ก็สุ่มเสี่ยงมากกว่า เสถียรภาพทางสังคมจะมีปัญหา
“ที่ยากที่จะกระจาย ก็เพราะว่ามันกระจุกแบบสุดๆ นี่แหละครับ ใครคิดว่า 'รัฐสวัสดิการ' จะช่วยได้ ก็ต้องระวังแหล่งที่มาของเงินที่จะเอามากระจายด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ (80%) เขาก็หาได้แทบไม่พออยู่แล้ว ครั้งจะเอาจากพวก 1% ก็ต้องฝ่ากระบวนการล็อบบี้อันทรงอิทธิพลของเหล่าเจ้าสัวให้ได้ และต้องระวังเขาหอบทรัพย์หนีออกนอกประเทศกันหมดด้วย บางคนบอกว่าเอาจากงบทหารแล้วกัน ทำอย่างนั้นก็เหมือนอยู่บ้านไม้เก่าๆ โทรมๆ แล้วยังไม่ยอมจ่ายเงินซื้อประกันไฟอีก มันเสี่ยงนะครับ"
“ทุกคน..เกิดมาอย่างเท่าเทียมกัน” มันเป็นอุดมคติ เท่าๆกับเป็นความมุ่งมั่นระดับบุคคล
แต่ความสามารถของคนไม่เท่ากัน บรรพบุรุษของเราเลยรวย-จนต่างกัน
มาถึงรุ่นลูกหลานเหลนโหลนเลยรวย-จนต่างกันซะแล้ว
รัฐบาล..จึงต้องคอยดูแลแก้ไข..เสมอต้นเสมอปลายหาวิธีกระจายความมั่งคั่งไปสู่คนส่วนใหญ่..ทำไง?
เก็บภาษีคนรวยมากกว่าคนจน..แบบไหน?
ความเหลื่อมล้ำมันลดทอนอุดมคติดีๆหลายอย่าง ปัญหาคือ "ช่องว่าง"ของความไม่เท่าเทียมกันหลายเรื่อง
มันถ่างห่างจากกันแค่ไหน? และมีวิธีการใด? ที่จะลดความเหลื่อมล้ำให้ "เอื้อมถึง"กัน
ถ้าไม่มีสังคมก็กระเถิบเข้าใกล้จุดถล่ม-ล่มสลาย คนรวยโคตรเก่ง+รัฐบาลโคตรดีย์
"รวยกระจุก จนกระจาย" ไทยขึ้นแท่นเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงติดอันดับ 1 ของโลก
คนจน>>จนลง คนรวย>>รวยขึ้น
นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว อ้างอิงถึงรายงานของ The Credit Suisse Global Wealth Report 2018 ระบุว่า คนไทย 1% ถือครองความมั่นคั่ง หรือมีทรัพย์สินรวมถึง 66.9% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ เท่ากับว่า คนไทยถึง 95% ถือครองทรัพย์สินเพียง 33.1 ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงมาก และสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ส่วนประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 2 คือ รัสเซีย โดยประชากร 1 % มีทรัพย์สินรวม 57.1% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
อันดับ 3 ได้แก่ ตุรกี ที่ประชากร 1% มีทรัพย์สินรวม 54.1% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
และอันดับ 4 ได้แก่ อินเดีย ที่ประชากร 1% มีทรัพย์สินรวม 51.5% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
และมีเพียง 4 ประเทศข้างต้นเท่านั้น ที่ประชากร 1% มีทรัพย์สินรวมเกินกว่า 50% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ ส่วนประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจต่ำที่สุด คือ เบลเยี่ยม ที่ประชากร 1% มีทรัพย์สินรวม 20.1% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2559) รายงาน The Credit Suisse Global Wealth Report 2016 ได้ระบุว่า ไทยมีความล้ำเหลื่อมสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก โดยคนไทย 1% ถือครองทรัพย์สินรวม 58.0% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ
นายบรรยง แสดงความคิดเห็นว่า จากรายงานดังกล่าวยืนยันว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เราอาจจะมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทางการเงิน ทางการเมืองได้ดี แต่ถ้าไม่แก้เรื่องนี้ให้ได้ก็สุ่มเสี่ยงมากกว่า เสถียรภาพทางสังคมจะมีปัญหา
“ที่ยากที่จะกระจาย ก็เพราะว่ามันกระจุกแบบสุดๆ นี่แหละครับ ใครคิดว่า 'รัฐสวัสดิการ' จะช่วยได้ ก็ต้องระวังแหล่งที่มาของเงินที่จะเอามากระจายด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ (80%) เขาก็หาได้แทบไม่พออยู่แล้ว ครั้งจะเอาจากพวก 1% ก็ต้องฝ่ากระบวนการล็อบบี้อันทรงอิทธิพลของเหล่าเจ้าสัวให้ได้ และต้องระวังเขาหอบทรัพย์หนีออกนอกประเทศกันหมดด้วย บางคนบอกว่าเอาจากงบทหารแล้วกัน ทำอย่างนั้นก็เหมือนอยู่บ้านไม้เก่าๆ โทรมๆ แล้วยังไม่ยอมจ่ายเงินซื้อประกันไฟอีก มันเสี่ยงนะครับ"
“ทุกคน..เกิดมาอย่างเท่าเทียมกัน” มันเป็นอุดมคติ เท่าๆกับเป็นความมุ่งมั่นระดับบุคคล
แต่ความสามารถของคนไม่เท่ากัน บรรพบุรุษของเราเลยรวย-จนต่างกัน
มาถึงรุ่นลูกหลานเหลนโหลนเลยรวย-จนต่างกันซะแล้ว
รัฐบาล..จึงต้องคอยดูแลแก้ไข..เสมอต้นเสมอปลายหาวิธีกระจายความมั่งคั่งไปสู่คนส่วนใหญ่..ทำไง?
เก็บภาษีคนรวยมากกว่าคนจน..แบบไหน?
ความเหลื่อมล้ำมันลดทอนอุดมคติดีๆหลายอย่าง ปัญหาคือ "ช่องว่าง"ของความไม่เท่าเทียมกันหลายเรื่อง
มันถ่างห่างจากกันแค่ไหน? และมีวิธีการใด? ที่จะลดความเหลื่อมล้ำให้ "เอื้อมถึง"กัน
ถ้าไม่มีสังคมก็กระเถิบเข้าใกล้จุดถล่ม-ล่มสลาย คนรวยโคตรเก่ง+รัฐบาลโคตรดีย์