บีบีซีรายงานว่า องค์กรการกุศลออกซ์แฟม (Oxfam) ได้เปิดเผย 8 มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก โดยครอบครองทรัพย์สินรวมกันเท่ากับทรัพย์สินของประชาชนที่ยากจนที่สุด 3,600 ล้านคน หรือเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรโลก โดยผลสำรวจนี้ชี้ให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย ที่ดูเหมือนจะห่างออกจากกันมากกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากปี 2016 ต้องรวบรวมทรัพย์สินจากมหาเศรษฐี 62 คน ถึงจะรวมได้เท่ากับทรัพย์สินของประชากรครึ่งโลก

โดยข้อมูลนี้สำรวจร่วมกับนิตยสารฟอร์บส์ และเผยแพร่ออกมาก่อนจะมีการประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ในวันที่ 17-20 มกราคมนี้

ทั้งนี้ มหาเศรษฐีทั้ง 8 คน ได้แก่ บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์, อแมนซิโอ ออร์เทกา ผู้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้า Zara และเจ้าของบริษัท Inditex, วาร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Berkshire Hathaway, คาร์ลอส สลิม เฮลู เจ้าของ Grupo Carso, เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงเว็บไซต์อเมซอน, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงเฟซบุ๊ก, ลาร์รี่ เอลลิสัน ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงออราเคิล และไมเคิล บลูมเบิร์ก เจ้าของบริษัทบลูมเบิร์ก แอลพี

เคที ไรท์ หัวหน้าระดับสูงออกซ์แฟม กล่าวว่า รายงานดังกล่าวทำขึ้นเพื่อท้าทายชนชั้นนำในเรื่องเศรษฐกิจและการเมืองให้หันมาสนใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจหลังการแบ่งขั้วทางการเมืองทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ จนทำให้ประชาชนต้องทำงานหนัก แต่กลับไม่ได้รับส่วนแบ่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

รายงานดังกล่าวจึงเรียกร้องถึงเศรษฐกิจที่นึกถึงมนุษย์มากขึ้นและกระตุ้นรัฐบาลของประเทศต่างๆ จัดการกับผู้หลีกเลี่ยงภาษี และออกมาตรการทางภาษีกับเหล่ามหาเศรษฐี

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า รายงานดังกล่าวยังดูเป็นการโจมตีมหาเศรษฐี แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาอย่างการกระจายรายได้ เพิ่มสวัสดิการคนยากจน เป็นต้น