สวัสดีค่ะ
เราเป็นคนนึงที่มีอาการท้อแท้ หมดหวัง ซึมเศร้ากับชีวิต จนวันนึงได้พบกับหนังสือเล่มนึงเมื่อเราอ่านแล้ว เรานำข้อมูลความรู้ที่ได้จากหนังสือมาปรับใช้ ส่งผลทำให้เรามีความสุขขึ้นมากค่ะ เข้าใจตัวเอง ไม่ค่อยเครียด รู้แล้วว่าต่อจากนี้ควรคิดและทำอย่างไรกับความคิด อารมณ์ ชีวิตตัวเอง คือมันดีจริงๆ
และแม่เราก็เป็นซึมเศร้าด้วยค่ะ แม่จะขี้กังวล คิดแต่เรื่องลบๆ ทัศนคติลบ อาจจะด้วยเพราะประสบการณ์ในอดีตของแม่ด้วย แต่แม่ไม่เคยไปหาหมอจิตแพทย์หรือทำการตรวจเช็คนะคะ มันเป็นการสันณิฐานของเราเอง จากการที่อยู่กับแกมาตลอดทั้งชีวิต ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจว่าแกป่วย
คือเราขอเกลิ่นก่อนนะคะ บ้านเราเป็นบ้านที่ไม่ค่อยคุยกัน ไม่ค่อยเปิดใจกัน และแม่เราก็เป็นคนมีทิฐิสูง คือเค้าจะมีความคิดว่าคนเป็นลูกอย่างเราไม่มีสิทธิ์มาสอนเค้า หลายๆครั้งที่เราให้คำแนะนำ เสนอความเห็น แต่เค้าจะไม่พอใจมาก ถึงขั้นเสียงดังอารมณ์ขึ้นเลย เรากับแม่รักกันค่ะ และเราทั้งสองคนต่างรู้ว่าเรารักกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ปฏิบัติดูแลกันด้วยดี แต่เหมือนมีระยะห่างบางอย่างที่เราคุยกันไม่ได้ทุกเรื่อง เราไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอายุที่ห่างกัน หรืออาจเป็นเพราะเรากับแม่นิสัยความคิดต่างกันมากไป หรือเป็นเพราะแม่เราเป็นคนที่วางตัวแบบนี้ด้วย
มันทำให้เรารู้สึกคิดหนักถ้าจะแนะนำหนังสือจิตวิทยาเล่มดังกล่าวให้แม่เราอ่าน เราไม่รู้จะเดินเข้าไปให้ยังไง หรือวางไว้เฉยๆ หรือจะพิมพ์ใส่ power point ทีละหัวข้อ และส่งให้แม่ทางไลน์
คือนิสัยเราเป็นคนไม่หวาน ไม่ค่อยกล้าแสดงความรู้สึกด้วย แต่เราเป็นห่วงเค้ามากอยากให้อาการเค้าดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น
อีกเรื่องนึงที่สำคัญเลยเรากลัวแม่เราอายด้วย อยู่ดีดีเอาหนังสือแบบนี้ไปให้อ่าน
และกลัวว่าแกจะโวยวายว่าเราไปยุ่งหรือสั่งสอนแก คือแกจะเป็นคนที่รับไม่ได้กับเรื่องที่เราชอบไปสอนหรือให้คำแนะนำกับแกค่ะ แกจะถือว่าคนเป็นลูกไม่มีสิทธิ์
อีกอย่างคือตัวเราก็รู้สึกอายด้วยถ้าอยู่ดีดีเอาหนังสือไปวางเฉยๆ แล้วคนในบ้านรู้ว่าเป็นของเรา
เราควรทำด้วยวิธีไหนดีคะ อยากให้แกได้อ่านหนังสือเล่มนี้จริงๆ
อยากให้เพื่อนๆพี่ๆในพันทิปช่วยกันแสดงความคิดเห็น ให้คำแนะนำค่ะ
ขอบคุณค่ะ
อ่านหนังสือจิตวิทยาเล่มนึงแล้วอาการซึมเศร้าของเราดีขึ้นมาก อยากให้แม่อ่านด้วย แต่ไม่รู้จะพูดยังไงดี
เราเป็นคนนึงที่มีอาการท้อแท้ หมดหวัง ซึมเศร้ากับชีวิต จนวันนึงได้พบกับหนังสือเล่มนึงเมื่อเราอ่านแล้ว เรานำข้อมูลความรู้ที่ได้จากหนังสือมาปรับใช้ ส่งผลทำให้เรามีความสุขขึ้นมากค่ะ เข้าใจตัวเอง ไม่ค่อยเครียด รู้แล้วว่าต่อจากนี้ควรคิดและทำอย่างไรกับความคิด อารมณ์ ชีวิตตัวเอง คือมันดีจริงๆ
และแม่เราก็เป็นซึมเศร้าด้วยค่ะ แม่จะขี้กังวล คิดแต่เรื่องลบๆ ทัศนคติลบ อาจจะด้วยเพราะประสบการณ์ในอดีตของแม่ด้วย แต่แม่ไม่เคยไปหาหมอจิตแพทย์หรือทำการตรวจเช็คนะคะ มันเป็นการสันณิฐานของเราเอง จากการที่อยู่กับแกมาตลอดทั้งชีวิต ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจว่าแกป่วย
คือเราขอเกลิ่นก่อนนะคะ บ้านเราเป็นบ้านที่ไม่ค่อยคุยกัน ไม่ค่อยเปิดใจกัน และแม่เราก็เป็นคนมีทิฐิสูง คือเค้าจะมีความคิดว่าคนเป็นลูกอย่างเราไม่มีสิทธิ์มาสอนเค้า หลายๆครั้งที่เราให้คำแนะนำ เสนอความเห็น แต่เค้าจะไม่พอใจมาก ถึงขั้นเสียงดังอารมณ์ขึ้นเลย เรากับแม่รักกันค่ะ และเราทั้งสองคนต่างรู้ว่าเรารักกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ปฏิบัติดูแลกันด้วยดี แต่เหมือนมีระยะห่างบางอย่างที่เราคุยกันไม่ได้ทุกเรื่อง เราไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอายุที่ห่างกัน หรืออาจเป็นเพราะเรากับแม่นิสัยความคิดต่างกันมากไป หรือเป็นเพราะแม่เราเป็นคนที่วางตัวแบบนี้ด้วย
มันทำให้เรารู้สึกคิดหนักถ้าจะแนะนำหนังสือจิตวิทยาเล่มดังกล่าวให้แม่เราอ่าน เราไม่รู้จะเดินเข้าไปให้ยังไง หรือวางไว้เฉยๆ หรือจะพิมพ์ใส่ power point ทีละหัวข้อ และส่งให้แม่ทางไลน์
คือนิสัยเราเป็นคนไม่หวาน ไม่ค่อยกล้าแสดงความรู้สึกด้วย แต่เราเป็นห่วงเค้ามากอยากให้อาการเค้าดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น
อีกเรื่องนึงที่สำคัญเลยเรากลัวแม่เราอายด้วย อยู่ดีดีเอาหนังสือแบบนี้ไปให้อ่าน
และกลัวว่าแกจะโวยวายว่าเราไปยุ่งหรือสั่งสอนแก คือแกจะเป็นคนที่รับไม่ได้กับเรื่องที่เราชอบไปสอนหรือให้คำแนะนำกับแกค่ะ แกจะถือว่าคนเป็นลูกไม่มีสิทธิ์
อีกอย่างคือตัวเราก็รู้สึกอายด้วยถ้าอยู่ดีดีเอาหนังสือไปวางเฉยๆ แล้วคนในบ้านรู้ว่าเป็นของเรา
เราควรทำด้วยวิธีไหนดีคะ อยากให้แกได้อ่านหนังสือเล่มนี้จริงๆ
อยากให้เพื่อนๆพี่ๆในพันทิปช่วยกันแสดงความคิดเห็น ให้คำแนะนำค่ะ
ขอบคุณค่ะ