ลำบากใจ ยายไม่อยากเลี้ยงหลานแล้ว...

กระทู้สนทนา
เราเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับสามีและแม่เราไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว ปัญหามันก็ยังวนเวียนๆอยู่
กระทู้เกำเราค่ะ >> https://ppantip.com/topic/36971966
เรื่องสามีกับแม่เราที่เคยมีปัญหากันหนักๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว ดีขึ้นเพราะสามีเรายอมลงให้แม่
แม่เราที่เคยบ่นหนักมีปัญหาบลาๆ ก็ยังเป็นเหมือนเดิม...

ท้าวความนิดนึงเผื่อไม่ได้ย้อนกลับไปอ่านกระทู้เก่า...
เราอยู่กับแม่มาตั้งแต่เด็ก พ่อไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะพ่อมีภรรยาหลายคน พ่อเราส่งเสียบ้างไม่ส่งบ้าง แม่เราต้องทำงานหาเงินเลี้ยงเรามากันสองคน แต่อย่างพวกค่าเทอมค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ พ่อก็ให้ รถที่แม่ใช้พ่อก็ให้มาเลยไม่ต้องซื้อ
เราเรียนจบทำงานรายได้ค่อนข้างดี แม่เราก็ไม่ต้องทำงานอีก (ขายของตลาดนัด) เราเลี้ยงดูแม่เต็มๆ 100% แต่เราท้องเลยต้องแต่งงานกับสามีและซื้อบ้านใหม่หลังใหญ่ขึ้นและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น บ้านแม่เราก็ให้คนเช่าและย้ายมาอยู่กับเราและช่วยเลี้ยงหลาน

ทุกอย่างดูเหมือนโอเคถ้ามองจากมุมคนนอก แต่ลึกๆแม่เราไม่พอใจกับชีวิตแบบนี้ แม่เราอยากเป็นคุณนาย ให้ลูกเลี้ยงดู พาไปเที่ยว เก็บเงินให้เรา แต่ก่อนแต่งงานเราให้เงินแม่ค่อนข้างเยอะ ให้เงินเดือนเกือบทั้งหมดให้แม่ดูแลค่าใช้จ่าย ตอนนั้นเราต้องซื้อของเข้าบ้านค่อนข้างเยอะเพราะบ้านเราไม่ค่อยมีอะไร... แต่พอแต่งงานซื้อบ้านเราก็ต้องดูแลเงินด้วยตัวเองเพราะมีค่าใช้จ่ายหลายส่วน

เราให้เงินแม่ได้น้อยลงเพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะเพราะเราต้องซื้อบ้านด้วย จากที่เคยให้เป็นก้อนใหญ่ๆ เราก็ให้แม่ได้ครั้งละ 5,000-10,000 แล้วแต่เดือนไหนได้รายได้เยอะ-น้อยแค่ไหน แต่คือกินอยู่ด้วยกัน ค่าใช้จ่ายในบ้านเราออกหมด ซื้อของซุปเปอร์ ของใช้ส่วนตัวแม่ เสื้อผ้าเราออกทั้งหมด เราทำบัตรเสริมให้แม่วงเงินค่อนข้างเยอะ(รูดไม่ถึงอยู่แล้ว) ถ้าแม่จะไปข้างนอก เติมน้ำมัน สามารถใช้ได้เลย เราไม่เคยบ่น

แต่อย่างที่บอก แม่เราก็ไม่พอใจ เพราะอยากได้เงินเยอะๆ คือแม่เราเป็นคนรุ่นแม่ที่มีความคิดฝังหัวว่า เลี้ยงลูกคือการลงทุน ตอนนี้คือเวลาเก็บเกี่ยวผลกำไร แม่เลยมองว่า แม่ยังเพิ่งได้กำไรแป๊บเดียว ต้องเอาเงินมาลงทุนอีกแล้ว... ซึ่งก็คือการเลี้ยงหลาน จริงๆอยากใช้เวลากอบโกยความสุขอีกมากๆ

เราพยายามให้แม่เท่าที่จะให้ได้ เราพยายามซื้อทองคืนให้แม่เท่าที่เราให้ได้ เพราะแม่บอกว่าแม่ขายทองแม่ส่งเราเรียน เราก็พยายามใช้คืนไปจนใกล้ครบแล้ว แต่แม่ก็บอกว่า... มันก็ของเธออยู่ดี ซื้อให้ชั้นก็เหมือนซื้อให้เธอ ชั้นอยากได้เงิน เงินเยอะๆๆๆ

คือจริงๆ เราเองก็ไม่ดี ที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยตัวเองได้ จึงต้องให้แม่มาช่วยเลี้ยง เราเคยคิดกับแฟนว่าอยากจ้างคนมาเลี้ยงลูก แต่เอาจริงๆ เราก็ไม่สามารถสู้ค่าใช้จ่ายทั้งพี่เลี้ยงลูก และเลี้ยงดูยายอย่างสมบูรณ์พูนสุขเช่นทุกวันนี้ได้

ความไม่พ่อใจมีมาเรื่อยๆเป็นพักๆ เพราะยายเป็นคนอารมณ์ร้าย ขี้บ่น พูดจาไม่เสนาะหู เราและแฟนก็ทนๆกันมา เพียงแต่ตอนนี้ ลูกเราในวัยสองขวบครึ่งสามารถเข้าใจสิ่งที่ยายพูดแล้ว และหลายๆคำ ก็ไม่ได้เหมาะที่จะให้เด็กเล็กได้ยิน... คือลูกเรารักและติดยายมากๆ เพราะยายเลี้ยงเค้ามาตั้งแต่เกิด เราต้องไปทำงานตั้งแต่ลูกอายุได้เพียงเดือนเดียว หลังจากนั้นก็คือยายเป็นหลัก โชคดีที่ยังได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน บางครั้งเวลาไม่พอใจ ยายก็จะไล่หลานไปไกลๆ บอกไม่รัก ไม่ต้องการ ลูกเราก็เหมือนแม่เหล็กอ่ะค่ะ ยิ่งพลักเค้ายิ่งเข้าหา พร่ำบอกว่า "รักยายๆ หายายๆ"

ตอนนี้เราเอาลูกเราเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาลแถวบ้าน ใจจริงอยากเอามาเรียนแถวที่ทำงานแต่แถวนี้ไม่มีโรงเรียนที่สามารถไปรับ-ส่งได้ตามเวลางานเลย จึงให้ลูกเรียนโรงเรียนแถวบ้านแทน ทีแรก เราตั้งใจจะให้ลูกเข้าเรียนตอนอนุบาล 1 เลยเพราะน่าจะพร้อมกว่าและจะได้ไม่ป่วยบ่อย แถมประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย แต่ก็นั่นแหละค่ะ การที่ให้ยายได้พัก ได้ห่างหลานบ้างน่าจะดีกว่า

แรกๆดูเหมือนทุกอย่างเริ่มดีขึ้น แต่ยายก็ไม่พอใจอีก เพราะต้องตื่นเช้าไปส่งหลาน ส่วนใหญ่ยายจะอารมณ์ดี แต่พออารมณ์ไม่ดี ก็ไม่ดีอย่าบอกใคร

ล่าสุดที่เรารู้สึกเราท้อใจเหลือเกิน คือเพื่อนรุ่นน้องของแม่เรามาเที่ยวที่บ้าน มานอนพักที่บ้านคืนนึง คือตอนแรกเพื่อนแม่คนนี้ก็ลำบาก มีหนี้สิน แต่เค้าไปจับธุรกิจตัวนึงได้ ตอนนี้เลยฐานะดีมาก ติดตรงไม่มีลูกไม่มีสามี นอกจากทำงานหนัก ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ นี่ก็กำลังจะไปยุโรปเลยเข้ากรุงเทพฯมาให้แม่เราพาไปซื้อเสื้อผ้าพาไปเที่ยว แม่เราคงรู้สึกเศร้ากับชีวิตที่ไม่มีอย่างเค้า ต้องมาเลี้ยงหลานงกๆ แม่เราเลยไม่พอใจ

เช้านี้ แม่เราอารมณ์ไม่ดี จึงพูดกับหลานไปว่า... "ชีวิตกูไม่มีความสุขเลย ไม่ต้องมาเอากูมาก" อย่างที่บอกว่าลูกเราติดยายมากๆ จะร้องหายายตลอด

เอาจริงๆ คำพูดนี้สำหรับเราเราไม่โอเคเลย คือเราก็รู้สึก ชีวิตแบบนี้มันคงแย่มากๆ จะให้เราทำยังไง เราคงเลี้ยงดูแม่ได้ไม่ดีอย่างที่แม่ต้องการ บางทีก็รู้สึก ถ้ามันไม่มีความสุขขนาดนั้น เราไม่ต้องอยู่ด้วยกันมั้ย ถ้ายายไม่อยากเลี้ยงหลาน เราไม่อยากเลี้ยงแม่บ้างจะได้มั้ย... คือความคิดเรา เราไม่ได้อยากให้ลูกมาเลี้ยงดูนะคะ การมีลูก ต้องเลี้ยงลูก มันไม่ใช่เรื่องบุญคุณอะไรเลยในความคิดของเรา ไม่มีเด็กที่ไหนมาเกิดได้ถ้าเราไม่ได้ทำให้เค้าเกิด พอเรารู้ว่ามีเค้าเราสามารถเลี้ยงจะคลอดหรือจะยุติการตั้งครรภ์ได้ด้วยซ้ำ ทุกอย่างคือผลของการกระทำและการตัดสินใจของเราเองทั้งนั้นเลยนะคะ... อย่างพ่อแม่แฟนเรามีลูก 3 คน ไม่ขอเงินจากลูกเลยซักคน มีแต่ให้อย่างเดียว

แต่ก็นั่นแหละ... แค่คิดก็กลายเป็นคนอกตัญญูแล้วเน๊อะ ตอนนี้จะพูดก็ไม่ได้ คงแตกหัก ทำได้แค่ทน ทน ทน

จริงๆ แค่อยากมาระบาย เผื่อมีใครเจอสถานการณ์แบบเรา มีอะไรที่ทำได้ดีกว่าการ "ทน" บ้างมั้ยคะ...

เราพยายามอดทนอยู่นะคะ จนบางทีก็ไม่รู้จะทนไหวมั้ย ตอนนี้จากแฟนที่เคยบอกว่าชั้นไม่ไหว แฟนมาปลอบเราให้ทนๆ แฟนชินแล้ว แฟนไหว

ตอนนี้ก็คุยกับแฟนหาทางออกว่า...
1. พยายามให้แฟนไปรับส่งลูกให้มาเท่าที่จะได้ (เราขับรถไม่เป็น และเวลางานไม่สามารถรับ-ส่งลูกได้จริง) แต่แฟนเป็นเซลล์เวลาค่อนข้าง flexible น่าจะพอได้รับส่งได้ แต่อาจจะไม่ทุกวัน
2. หรือจะให้แฟนลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกเป็นพ่อบ้านเต็มตัวดีเพราะเรารายได้เยอะกว่า แต่เอาจริงคิดว่าไม่คุ้มเพราะลูกจะเข้าโรงเรียนแล้ว หาเวลารับส่งน่าจะง่ายกว่า

ขอแท็กมนุษย์เงินเดือนห้องสีลมด้วยนะคะ เพราะเราเป็นมนุษย์เงินเดือน เผื่อเจอคนที่สถานการณ์คล้ายๆเราค่ะ

ขอเสริมนิดนึงค่ะ
ถ้าให้แม่ย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิม ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเยอะค่ะเพราะตอนนี้ให้เค้าเช่าอยู่ ถ้าให้เค้าออกต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านต่อเดือนละห้าพัน ค่าน้ำไฟบ้านโน้น ค่าใช้จ่ายจิปาถะ และต้องให้เงินเดือนแม่แน่นอนทุกเดือน ซึ่งเดือนละ 5,000 นี่ไม่พอแน่นอน คือทุกวันนี้ให้ได้แน่ๆเดือนละ 5,000 ถ้าเดือนไหนมีเยอะก็ให้เยอะกว่านี้ค่ะ และแม่เราคงด่าเราอกตัญญู สาบส่งแน่ๆ เฮ้อออ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่