สวัสดีครับ
ผมมีโอกาสได้ไปรีวิวอาหารร่วมกับทีมงาน ppantip.com เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ที่ร้าน Hoshi สาขาพระราม 2
หลังจากที่ทราบว่าได้รับคัดเลือกไปรีวิว ก็ทำการบ้านอ่านกระทู้ที่เคยรีวิว ก็ทำใจไว้ระดับนึง เพราะส่วนตัวคือไม่เคยได้ยินชื่อนี้ น่าจะเป็นร้านน้องใหม่ที่มาลงตลาดเดียวกับพวก Sushi Hiro อะไรประมาณนั้น
แต่พอวันที่ไปทานจริง กลับรู้สึกดีเกินคาด ส่วนเมนูที่ทานมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันครับ
.
.
.
1. Inaniwa Onsen (490 บาท)
เป็นจานแรกที่ได้ทาน คำแรกที่ได้รู้สึกคือความสดชื่นจากน้ำซุปและเส้นที่เย็น แต่ว่ามันมีกลิ่นหอมๆที่คุ้นเคยเตะลิ้นเข้ามา แต่นึกไม่ออก ก็เลยถามเชฟ ก็พบว่าเขาใส่เห็ดทรัฟเฟิลลงในซุปด้วย ทำให้โซบะจานนี้ดูหอมเป็นพิเศษ ส่วนเนื้อปลาเป็นโอโทโร่ ชิ้นเล็กๆ ละลายเบาๆ ส่วนไข่ออนเซ็น มาแบบงงๆ เพราะกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลกลบไปหมดแล้ว เลยไม่ค่อยมีบทบาทที่โดดเด่นเท่าไหร่
2. Miracle of The Sea (1,490 บาท)
อภิมหาโคตรปลาดิบ ที่รวมแทบทุกส่วนยอดฮิตมาให้ทาน ไฮไลท์น่าจะอยู่ที่ อากามิด้านบนที่เป็น Blue Fin Tuna รสชาติต่างกับ Yellow Fin แบบชัดเจนระดับนึง ที่ชอบรองลงมาน่าจะเป็น Ikura ที่สด รสชาติดี แตกต่างจากที่เคยกินร้านอื่นๆ ยิ่งทานคู่กับแซลมอนด้วยแล้วนั้น รสชาติกลมกล่อมมาก
ซาซิมิที่นี่ชิ้นเป้งมาก ใหญ่และหนากว่าร้านอื่นๆ เล็กน้อย แอบคิดในใจว่าถ้าเอามาแบ่งหั่นไปอีก น่าจะทานได้อีกหลายคน
3. Salmon Unagi Ebi Tem Roll (390 บาท)
โรลที่มีแซลมอน ปลาไหล กุ้งเทมปุระ อยู่ในชิ้นเดียวกัน งงมั้ยล่ะ รสชาติตีกันไปทุกส่วน แต่ texture ดีงาม มีความกรอบของแป้งเทมปุระ ปลาโอแห้ง และสาหร่าย ซึ่งแน่นอน ไอสามอย่างนี้ กลบรสชาติของวัตถุดิบหลักไปหมดแล้ว กินเพลินๆ แบบโหลดข้าวลงท้องก็พอทานได้
4. Kani Miso (280 บาท)
พระเอกของวันนี้เลยทีเดียว ก็คือมันปูย่างมิโสะ มีความกลมกล่อมสูงงงงงง รสชาติหวานๆ มันๆ เค็มเบาๆปลายๆ กินเพลินมาก บวกกับราคาไม่สูงมาก สั่งมาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อีกถ้วย คือนิพพานจริงๆ
จานสุดท้าย เชฟเซอร์ไพรซ์ด้วยการทำเมนูพิเศษ โดยนำเนื้อจากกระดูกปลาทูน่ามาขูด ห่อด้วยสาหร่ายและข้าว เป็นคำปิดท้ายที่ฟินที่สุด เนื้อที่ติดกระดูกแต่กลับละลายหายไปอย่างไว (เหลือแต่ข้าวกับสาหร่ายที่ยังเคี้ยวไม่หมด) รสชาติโดยรวมเหมาะสมดีมาก
ส่วนตัวมองว่าราคามันก็ใกล้เคียงกันกับ Sushi Hiro นั่นแหล่ะ แต่ว่าคนไม่เยอะจอแจ รวมถึงพนักงานเดินบริการทั่วถึงดี (สาขาพระราม 2)
ก็ไปลองกันได้ครับ ถ้าให้แนะนำก็คงจะแนะนำ Kani Miso กับข้าวซักถ้วย ก็น่าจะฟินไปทั้งวันแล้วครับ
[SR] อีกหนึ่งม้ามึดของร้านอาหารญี่ปุ่น "Hoshi Japanese Restaurant" พระราม 2
ผมมีโอกาสได้ไปรีวิวอาหารร่วมกับทีมงาน ppantip.com เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ที่ร้าน Hoshi สาขาพระราม 2
หลังจากที่ทราบว่าได้รับคัดเลือกไปรีวิว ก็ทำการบ้านอ่านกระทู้ที่เคยรีวิว ก็ทำใจไว้ระดับนึง เพราะส่วนตัวคือไม่เคยได้ยินชื่อนี้ น่าจะเป็นร้านน้องใหม่ที่มาลงตลาดเดียวกับพวก Sushi Hiro อะไรประมาณนั้น
แต่พอวันที่ไปทานจริง กลับรู้สึกดีเกินคาด ส่วนเมนูที่ทานมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันครับ
.
.
.
เป็นจานแรกที่ได้ทาน คำแรกที่ได้รู้สึกคือความสดชื่นจากน้ำซุปและเส้นที่เย็น แต่ว่ามันมีกลิ่นหอมๆที่คุ้นเคยเตะลิ้นเข้ามา แต่นึกไม่ออก ก็เลยถามเชฟ ก็พบว่าเขาใส่เห็ดทรัฟเฟิลลงในซุปด้วย ทำให้โซบะจานนี้ดูหอมเป็นพิเศษ ส่วนเนื้อปลาเป็นโอโทโร่ ชิ้นเล็กๆ ละลายเบาๆ ส่วนไข่ออนเซ็น มาแบบงงๆ เพราะกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลกลบไปหมดแล้ว เลยไม่ค่อยมีบทบาทที่โดดเด่นเท่าไหร่
อภิมหาโคตรปลาดิบ ที่รวมแทบทุกส่วนยอดฮิตมาให้ทาน ไฮไลท์น่าจะอยู่ที่ อากามิด้านบนที่เป็น Blue Fin Tuna รสชาติต่างกับ Yellow Fin แบบชัดเจนระดับนึง ที่ชอบรองลงมาน่าจะเป็น Ikura ที่สด รสชาติดี แตกต่างจากที่เคยกินร้านอื่นๆ ยิ่งทานคู่กับแซลมอนด้วยแล้วนั้น รสชาติกลมกล่อมมาก
ซาซิมิที่นี่ชิ้นเป้งมาก ใหญ่และหนากว่าร้านอื่นๆ เล็กน้อย แอบคิดในใจว่าถ้าเอามาแบ่งหั่นไปอีก น่าจะทานได้อีกหลายคน
โรลที่มีแซลมอน ปลาไหล กุ้งเทมปุระ อยู่ในชิ้นเดียวกัน งงมั้ยล่ะ รสชาติตีกันไปทุกส่วน แต่ texture ดีงาม มีความกรอบของแป้งเทมปุระ ปลาโอแห้ง และสาหร่าย ซึ่งแน่นอน ไอสามอย่างนี้ กลบรสชาติของวัตถุดิบหลักไปหมดแล้ว กินเพลินๆ แบบโหลดข้าวลงท้องก็พอทานได้
พระเอกของวันนี้เลยทีเดียว ก็คือมันปูย่างมิโสะ มีความกลมกล่อมสูงงงงงง รสชาติหวานๆ มันๆ เค็มเบาๆปลายๆ กินเพลินมาก บวกกับราคาไม่สูงมาก สั่งมาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อีกถ้วย คือนิพพานจริงๆ
ส่วนตัวมองว่าราคามันก็ใกล้เคียงกันกับ Sushi Hiro นั่นแหล่ะ แต่ว่าคนไม่เยอะจอแจ รวมถึงพนักงานเดินบริการทั่วถึงดี (สาขาพระราม 2)
ก็ไปลองกันได้ครับ ถ้าให้แนะนำก็คงจะแนะนำ Kani Miso กับข้าวซักถ้วย ก็น่าจะฟินไปทั้งวันแล้วครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม