'มือปืนป๊อปคอร์น'ปวดใจถูกลอยแพ ไร้คนดูแลครอบครัว
https://www.dailynews.co.th/crime/675715

"ท็อป-วิวัฒน์" หรือ มือปืนป๊อปคอร์น ออกอาการเซ็ง หลังรับทราบผลคำพิพากษาศาลฎีกา ถูกจำคุก 37 ปี 4 เดือน เผยหลังถูกจับกุมจนถึงชั้นศาล ไม่เคยได้รับการประกันตัว หรือความช่วยเหลือดูแลครอบครัวจากกลุ่มการเมืองแต่อย่างใด

จากกรณีศาลฎีกาพิพากษากลับให้จำคุก นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือ "มือปืนป๊อบคอร์น" เป็นเวลา 37 ปี 4 เดือน ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เนื่องจากฎีกาของพนักงานอัยการโจทก์นั้นฟังขึ้น จำเลยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง เข้าไปภายในศูนย์การค้าไอทีสแควร์ ย่านหลักสี่  ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมกลุ่ม กปปส. เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ที่จะเข้ามาปะทะกันจนทำให้ นายอะแกว แซ่ลิ่ว อายุ 72 ปี ถึงแก่ความตายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือ ท็อป นั้นก่อนเข้าห้องพิจารณาดีและขณะอยู่ในห้องมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยอมพูดจาใด ๆ กับใคร แต่พอหลังจากออกมาจากห้องพิจารณาคดีแล้ว กลับมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เพราะคิดว่าศาลฎีกาจะพิพากษายกฟ้องตามศาลอุทธรณ์ แต่ปรากฏว่าผิดคาด ต้องถูกจำคุกถึง 37 ปี 4 เดือน ทั้งนี้ นายท็อป หรือ มือปืนป๊อปคอร์น ไม่เคยได้รับการประกันตัวหรือความช่วยเหลือจากฝ่ายการเมืองแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าตัวถูกจำคุกมาแล้ว 4 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยบอกผ่านทนายความว่า "ขอขอบคุณทุกกำลังใจแต่ผมกับครอบครัวไม่ขอรับเงินช่วยเหลือ" ในช่วงที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกระยะแรก ๆ จนต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องและให้ขังไว้ในระหว่างฎีกา ซึ่งในระหว่างนี้ ก็ยังไม่มีฝ่ายไหนยื่นมือให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายท็อป จนกระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษาในที่สุด

อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลฎีกาพิพากษากลับจำคุก นายท็อปไปแล้ว ฝ่ายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการกปปส.รวมทั้งกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่าง สุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตหลวงปู่พุทธอิสระ ก็ยังไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าวอีกด้วย.

---

ศึกชิงหัวหน้าปชป.ส่อเค้าวุ่น! ปูดมีคนอื่นกดโหวตแทน
https://www.dailynews.co.th/politics/675815

"นิพิฏฐ์"เผย 4 หน่วยเลือกตั้งหยั่งเสียง คะแนนสูงผิดปกติ  ด้าน“คุณหญิงกัลยา”เผยมีเหตุคนอื่นกดโหวตแทน ชงร้อง กกต.พรรค

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ กล่าวถึงภาพรวมการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา  ว่า  ได้รับรายงานถึงปัญหาใน 4 หน่วยเลือกตั้ง คือ 2 หน่วยเลือกตั้ง มีปัญหากีดกันผู้สังเกตการณ์ของผู้สมัครบางหมายเลข ไม่ให้เข้าไปสังเกตการณ์ในหน่วยเลือกตั้ง ขณะที่อีก 2 หน่วยเลือกตั้งพบความผิดปกติในเรื่องจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์กับผลการลงคะแนนในเครื่องลาสเบอร์รี่ ไพน์ ที่ไม่สอดคล้องกัน โดยผู้สังเกตการณ์พบว่ามีจำนวนผู้ไปใช้สิทธิบางตา แต่กลับปรากฏมีจำนวนผู้ลงคะแนนในระบบมากผิดปกติ ซึ่งจะได้ประมวลเรื่องดังกล่าวรายงานให้ กกต.ของพรรครับทราบเพื่อนำไปสู่การแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหาในการลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และ กทม. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ย.นี้

ด้านคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคอีสาน กล่าวถึงการลงคะแนนหยั่งเสี่ยงผ่านคูหาหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน ว่า พบปัญหาที่มีสมาชิกไปรอใช้สิทธิจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งต้องให้สมาชิกทิ้งบัตรประชาชนพร้อมกับปั๊มลายนิ้วมือเอาไว้ จากนั้นจะมีคนมากดลงคะแนนให้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และได้ตักเตือนไปแล้ว รวมถึงได้รายงานด้วยวาจาเพื่อให้ กกต.พรรค รับทราบถึงปัญหานี้เพื่อจะได้นำไปแก้ไข อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าการลงคะแนนหยั่งเสียงผ่านระบบไอทีที่หน่วยเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคกลาง ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ น่าจะราบรื่นมากขึ้น เพราะเครื่องลงคะแนนใช้งานได้ดี และเจ้าหน้าที่เริ่มมีประสบการณ์จากการลงคะแนนหยั่งเสียงเมื่อวันที่ 5 พ.ย.นี้แล้ว คิดว่าปัญหาต่างๆ คงจะลงน้อยลง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า  จากการที่พรรคประชาธิปัต์เปิดให้ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ “ไอโฟน” ระบบปฏิบัติการไอโอเอส ลงคะแนนผ่านแอพพลิเคชั่น D-ELECT ได้ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงเวลา 18.00 น.ของวันที่ 9 พ.ย.นี้ ปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์แจ้งผ่านไลน์ที่เป็นทางการของพรรค เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า  กกต.พรรคขอปิดการลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกตั้งฯในโทรศัพท์มือถือ “ไอโฟน” ระบบปฏิบัติการไอโอเอส เนื่องจากพบปัญหาด้านความปลอดภัย จึงจำเป็นต้องขอปิดระบบเพื่อปรับปรุง และเมื่อปรับปรุงเสร็จแล้วจะแจ้งให้ทราบทันที อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันนี้ (7 พ.ย.) ฝ่ายที่เกี่ยวข้องและกรรมการไอที 3 ฝ่าย ยังแก้ไขปัญหานี้ไม่เสร็จ  ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าปัญหานี้เกิดจากมีผู้ที่ใช้สิทธิ์ผ่านแอพพลิเคชั่นนี้แล้ว แต่ยังสามารถกดเข้าไปในระบบในการจะลงคะแนนได้อีก.

---

'กำนันสุเทพหงอย' ลงหาสมาชิกตลาดหนองมนมีแค่พ่อค้าแม่ค้า ยันมาชลบุรีเพื่อหาแนวร่วมอุดมการณ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1216419

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือกำนันสุเทพ ในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช.พร้อมด้วยนายสำราญ รอดเพชร และคณะ ได้เดินเชิญชวนประชาชนในตลาดหนองมน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อให้มาเป็นสมาชิกพรรคการเมือง แต่เนื่องตลาดซบเซาด้วยปัญหาเศรษฐกิจ มีแต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดตลาดขายของเท่านั้น และการเดินทางมาของนายสุเทพครั้งนี้ ไม่มีกองหนุนมาให้การสนับสนุนแต่อย่างใด ทั้งที่ในอดีตจะมีคนให้การสนับสนุนอย่างมากมายช่วงที่มีการณรงค์แกนนำ กปปส.ถือว่าชลบุรีเป็นเมืองหลวง มีฐานสนับสนุนอย่างมากมาย แต่ในขณะที่ครั้งนี้พ่อค้าแม่ค้าเพียงแต่ทักทายตามปกติเท่านั้น พร้อมทั้งเชิญชวนให้เหมาข้าวหลาม ขนมจาก แต่นายสุเทพเลือกซื้อไป 2 ร้าน มีทั้งขนมจาก และข้าวหลาม เพื่อนำไปเลี้ยงผู้ร่วมงาน นอกจากนี้ ยังได้เดินเข้าไปยังธนาคารกรุงเทพ สาขาหนองมน นานประมาณ 5 นาที

หลังจากนั้น นายสุเทพกล่าวว่า หลังจากได้เดินไปชวนเชิญให้สมัครสมาชิกพรรคในธนาคาร ได้มีผู้ให้ความสนใจสมัครสมาชิกพรรคเหมือนกัน ส่วนการเดินทางมาภาคตะวันออกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามพรรครวมพลังประชาชาติไทยไม่มีฐานในภาคตะวันออก จึงได้มารณรงค์ให้มีการตื่นตัวทางการเมืองให้มากขึ้น ส่วนกรณีที่ จ.ชลบุรี ถือว่าเป็นฐานกำลังสำคัญของ กปปส.ในอดีตนั้น ขณะนี้สถานการณ์การเมืองได้เปลี่ยนไปแล้ว ก็ต้องว่ากันไปตามความจริง ต้องถามประชาชนว่าคิดอย่างไร หากมีอุดมการณ์เดียวกัน และต้องการพรรคการเมืองของประชาชนที่ตั้งมาเองก็มาร่วมงานด้วยกัน

นายสุเทพกล่าวอีกว่า ส่วนการส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งก็หวังทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ภาคตะวันออก หลังจากเลือกตั้งแล้วมากันอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมีนัยยะสำคัญทางการเมือง วอนชาวชลบุรีที่มีอุดมการณ์เดียวกัน รักแผ่นดิน ก็มาเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะได้ทำการเมืองเพื่อประชาชน

ทางด้านพ่อค้าแม่ค้าในตลาดหนองมน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความตื่นเต้นเกี่ยวกับการเดินหาสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ส่วนใหญ่จะชมว่าหล่อและหน้าตาดี ส่วนการเชิญชวนเป็นสมาชิกพรรคของคิดดูก่อน หลังจากนายสุเทพเดินในตลาดหนองมนแล้ว ปรากฏว่าได้รับรายงานว่าจากในพื้นที่ตลาดเมืองชลบุรี ไม่มีบรรดา กปปส.มาต้อนรับหลังจากนั้นได้เดินทางไป จ.ฉะเชิงเทรา ทันที

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 4 ชลบุรี (บ้านบึง บ่อทอง หนองใหญ่ มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการหาสมาชิกผิดปกติ นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ ว่าที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทย เขต 4 ชลบุรี กล่าวว่า มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งหาสมาชิกส่อไปในทางทำผิดกฎหมายแจกสิ่งของมากมาย ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะกฎหมายยังไม่ระบุความผิด เพราะยังหาเสียงไม่ได้ ก็ได้แต่มองดู ยอมรับว่าการเลือกตั้งเขต 4 ชลบุรี เป็นที่สนใจของคอการเมือง เพราะมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งคนสำคัญหลายคนที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ อาทิ นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ พรรคพลังประชารัฐ นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง พรรคเพื่อไทย รวมทั้งตนเองด้วย

---

'กกต.' แจงถ้าพรรคการเมืองถูกยุบหลัง26 พ.ย. สมาชิกหาสังกัดใหม่ได้แต่หมดสิทธิลงสมัคร-อียูขอสังเกต 400 คน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1216512

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวภายหลัง คณะกรรมาธิการการเมืองสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)และ อนุกรรมาธิการด้านการเมือง อนุกรรมาธิการด้านระบบการเลือกตั้งและพรรคการเมือง อนุกรรมาธิการด้านองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มาประชุมหารือร่วมกันกับประธานกกต. กกต. และผู้บริหารของสำนักงานฯว่า มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นความคืบหน้า การเตรียมความพร้อมของสำนักงานกกต.ตามหน้าที่และอำนาจตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง จำนวนและแนวโน้มของพรรคการเมืองที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้ง ระยะเวลาสิ้นสุดการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง การดำเนินการตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เงื่อนไขและกระบวนการยุบพรรคการเมือง การแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ปัญหาและอุปสรรค ผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากรต่อหน่วยเลือกตั้ง จากเดิม 800 คน เป็น 1,000 คน/หน่วยเลือกตั้ง ความคืบหน้าในการพัฒนาพนักงานของ กกต. ให้มีความพร้อม ในการปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวนและไต่สวน การดูแลและคุ้มครองพยาน กรอบระยะเวลาของการเลือก ส.ว. ที่เลือกกันเอง และระยะเวลาของการคัดเลือก ส.ว. ของ คสช.

ทั้งนี้มีรายงานว่า การหารือประเด็นที่ กมธ.การเมืองสนช.สนใจซักถามคือเรื่องการกำหนดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันเลือกตั้งว่าเป็นมาอย่างไร และถ้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันเลือกตั้งผู้ที่จะลงสมัครส.ส.ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอย่าช้าที่สุดคือภายในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ แต่หากว่าหลังวันดังกล่าว พรรคการเมืองนั้นถูกยุบ การไปสังกัดพรรคการเมือง จะทำให้มีปัญหาในการลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ รวมถึงกกต.ได้มีการวางมาตรการป้องกันหรือรับมืออย่างไรกรณีหากเกิดการชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้งเหมือนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

ซึ่งกกต.ได้ชี้แจงว่า วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นการคาดการณ์โดยพิจารณาจากวันที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.จะมีผลบังคับใช้ เพื่อเป็นการเร่งรัดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานฯจะได้มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งมากที่สุดเท่านั้น แต่ที่สุดแล้ววันเลือกตั้งจะเป็นวันใดก็ขึ้นอยู่กับการประชุมตามข้อ 8 ของคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 หลังพ.รป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ ส่วนหากมีการยุบพรรคหลังวันที่ 26 พฤศจิกายน สมาชิกก็ต้องไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่ แต่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ไม่ได้ เพราะถือว่าสังกัดพรรคการเมืองนั้นมายังไม่ถึง90 วัน

สำหรับการรับมือกับการชุมนุมประท้วงต่างๆ นั้นได้ประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในเรื่องการข่าว การรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่แล้วโดยจะมีการสกัดกั้นไม่ให้มีการก่อตัวชุมนุมได้ นอกจากนี้ทางกกต.ยังได้ชี้แจงถึงเรื่องการขอเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งขององค์กรต่างประเทศว่า ทางอียูได้ขอที่จะส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามา 200-400 คน โดยขอที่จะไปสังเกตการณ์ในทุกพื้นที่ ซึ่งถือว่าจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่กกต.ยังไม่ได้การประชุมหารือกัน