"เพื่อไทย"ตั้งสาขาพรรคลำดับที่ 3 สมุทรปราการ(มีคลิป)
https://www.matichon.co.th/region/news_1210929
เมื่อเวลา 9.00น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 ที่โรงแรมคัลเลอร์ลีฟวิ่ง ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยจัดการประชุมจัดตั้งสาขาและเลือกคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 3 จังหวัดสมุทรปราการ (ภาคกลาง) ต่อจากภาคอีสานที่จังหวัดอุดรธานี และภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค แกนนำ และ อดีตส.ส.ของพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.ท.
วิโรจน์ เปาอินทร์, นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย, นาย
พงศ์เทพ เทพกาญจนา, นาย
ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย, นาย
วรชัย เหมะ, นาง
อนุสรา ยังตรง ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก มีสมาชิกพรรคเดินทางร่วมประชุมกว่า 200 คนนาย
ภูมิธรรม เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคลำดับที่ 3 ซึ่ง สาขาที่ 1 และ 2 เปิดตัวไปแล้ว คือ ภาคอีสาน จังหวัดอุดรธานี และ ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจังหวัดสมุทรปราการถือเป็นฐานเสียงหลักของภาคกลาง ต่อไปพื้นที่ภาคใต้ จากนั้นจะเปิดตัว ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้ครบ 77 จังหวัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะต้องใช้ระยะเวลา ขณะนี้ยังดำเนินการไม่ได้ เพราะกกต.ยังไม่ประกาศเขตเลือกตั้งที่ชัดเจน ส่วนตัวมองว่า คสช. ควรปลดล็อกพรรคการเมือง เพื่อให้สามารถดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ ซึ่งต้องพาประเทศเข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็วที่สุด
ขณะที่เลขาธิการพรรคเพื่อไทยก็ได้เรียกให้ คสช.ปลดล็อกพรรคการเมืองโดยไวเพื่อจะดำเนินการกิจกรรมต่างๆ ได้ไปตามระยะเวลากำหนด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คลิปอยู่ในข่าวครับ
แชร์สนั่น 'ธนาธร' โดดช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนถนนกลางดึก
https://www.matichon.co.th/politics/news_1211475
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. โซเชียลแห่แชร์คลิป “
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ขณะกำลังเข้าช่วยผู้ประสบเหตุบนท้องถนน หน้างาน FutureFest เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยคลิปมีความยาว 2.04 นาที ซึ่งเป็นภาพที่นาย
ธนาธรกำลังช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ก่อนจะถอนตัวออกมายืนดูห่างๆ เพื่อให้หน่วยกู้ภัยเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุส่งโรงพยาบาล
โดยภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “
Korn John Jatuwimon” เป็นผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า
“เมื่อคืนหลังจากงาน Future Fest ออกมาไม่ถึง 5 นาที มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแถวนั้น พี่ Supakon Tangtiphaiboontana กับ พี่ Thanathorn Juangroongruangkit ลงไปช่วยดูอาการและปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนทีมกู้ภัยจะมา ล่าสุดได้ข่าวว่าคนที่ประสบอุบัติเหตุปลอดภัยแล้ว โล่งอก”
ด้านทีมงานพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าวคือ “
พี่โจ” คนขับรถของนาย
ธนาธร ที่พบว่า เขาไม่เคยปล่อยผ่าน หรือคิดว่าไม่เกี่ยว ไม่ใช่เรื่องของเรา บรรยากาศตอนนั้น เป็นภาพที่น่าประทับใจ ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจจต่างก็เดินมาทักทายให้กำลังใจ
'ไทกร' ชี้ สุเทพฉุดกระแส รปช.ตก แฟนคลับส่วนใหญ่ยังเลือกกาประชาธิปัตย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1211136
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. นาย
ไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย ระบุว่า
หนีพรรคต่ำสิบ…!! ได้พูดคุยกับน้องสุริยะใสเรื่องการเมือง น้องสุริยะใสขอให้ผมเขียนถึงพรรค รปช.บ้าง ผมก็ไม่ขัดข้องจึงขอแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาตามที่น้องสุริยะใสต้องการ
เหลืออีกไม่ถึง 150 วันก็ถึงวันเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองสองพรรคที่มีจุดกำเนิดคล้ายกันนั่นคือ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และพรรคเพื่อชาติ (พช.) ต้องมาดูกันว่าทั้งสองพรรคจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งเพียงใด โดยมีปัจจัยเปรียบเทียบดังนี้
(1) ตัวผู้นำสูงสุดของพรรค พรรครวมพลังประชาชาติไทยมีท่านสุเทพเป็นผู้นำสูงสุด พรรคเพื่อชาติมีคุณจตุพรเป็นผู้นำสูงสุด หากเปรียบเทียบคุณสมบัติและศักยภาพของทั้งสองท่านแล้วมีได้เปรียบเสียเปรียบกันไป เช่น
(1.1) ทั้งสองท่านเป็นผู้นำม๊อบ เป็นผู้นำมวลชน เป็นผู้นำการชุมนุมเหมือนกัน
(1.2) ทั้งสองท่านเป็นนักการเมืองเหมือนกัน แต่ท่านสุเทพจะมีภาษีดีกว่าเพราะเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ตำแหน่งสุดท้าย เป็นถึงรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง คุณจตุพรเป็นเพียงอดีต ส.ส. เท่านั้น
(2) มวลชนของพรรค
(2.1) มวลชนของพรรค รปช. ของท่านสุเทพ อาศัยมวลชนหลักจากกลุ่ม กปปส. ซึ่งปัจจุบันพลังมวลชนของ กลุ่ม กปปส. แทบไม่มีเหลืออยู่เลย เพราะมวลชนกลับฐานที่ตั้งเดิมของตนหมด หรือไม่ก็เลือกทางเดินของตนเองที่ไม่เลือกเดินตามท่านสุเทพ มวลชน กปปส. กระจัดกระจายไปตามพรรคการเมืองต่างๆ เช่น ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ พลังธรรมใหม่ ประชาชนปฏิรูป ฯลฯ
(2.2) มวลชนของพรรคเพื่อชาติของคุณจตุพร เป็นมวลชนหลักจากกลุ่ม นปช. เสื้อแดง ซึ่งถือว่าคุณจตุพรและคณะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนมวลชนของพรรคเพื่อไทยให้กลายเป็นมวลชน นปช. เสื้อแดง และยังสามารถรักษามวลชนกลุ่มนี้ให้ศรัทธาและเชื่อฟังการนำของแกนนำอย่างคุณจตุพรได้อย่างเหนียวแน่นมั่นคง
(3) ฐานมวลชน
(3.1) พรรค รปช. ของท่านสุเทพ ไม่มีฐานมวลชนแน่นอน พื้นที่ไม่แน่นอน เป็นลักษณะกระจายไปทั่ว เป็นหย่อมๆ เล็กๆ น้อยๆ กระจายไปทั่วประเทศ
(3.2) พรรคเพื่อชาติของคุณจตุพรมีฐานมวลชนแน่นอน เพราะมีรายชื่อที่อยู่ของสมาชิก นปช. ซึ่งมีมากกว่า 600,000 คน มีพื้นที่แน่นอนนั่นคือ ภาคอีสาน และ ภาคเหนือ
(4) การดึงคะแนนเสียง
(4.1) พรรค รปช. ของท่านสุเทพ ต้องดึงคะแนนเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก ซึ่งตามหลักจิตวิทยาการเมืองในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและการตัดสินใจลงคะแนน โอกาสที่พรรค รปช. จะดึงคะแนนเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นไปได้น้อยมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะในบรรยากาศช่วงหาเสียง พรรคใหญ่สองพรรค จะมีกระแสแรงที่สุด ประชาชนจะมุ่งความสนใจไปที่สองพรรคนั่นคือ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย และหากประชาชนที่ไม่เลือกพรรคเพื่อไทยแต่ยังลังเลว่าจะเลือกพรรคไหนดีระหว่างพรรค รปช. กับ ปชป. สุดท้ายผู้เลือกตั้งมากกว่า 90% จะตัดสินใจเลือกพรรคใหญ่ หรือพรรคที่กระแสแรงที่สุดในฝั่งที่ไม่ใช่ฝ่ายเพื่อไทย นั่นคือ เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และตอนนี้ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. หลายคนเริ่มตีตัวออกห่าง ไม่เข้าร่วมกิจกรรมพรรค และเตรียมตัวย้ายไปอยู่พรรคอื่น ทำให้กระแสพรรค รปช. ตกลงเรื่อยๆ
(4.2) พรรคเพื่อชาติจะดึงคะแนนมาจากพรรคเพื่อไทย โดยใช้มวลชน นปช. เสื้อแดง เป็นจุดเริ่มต้นขยายปริมาณมวลชน เรื่องนี้ได้สร้างความหวาดหวั่นให้ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ยิ่งนำความบาดหมาง ความน้อยเนื้อต่ำใจที่คนเสื้อแดงได้รับจากพรรคเพื่อไทยมาขยายผล ก็ยิ่งทำให้พรรคเพื่อชาติได้คะแนนมากขึ้น ยิ่งพรรคเพื่อไทยชูคนที่ไม่มีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยขึ้นเป็นผู้นำพรรค ทำให้พรรคเพื่อชาติมีความชอบธรรมในการหาเสียงว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะพรรคเพื่อชาติสู้จริง ตายจริง ยอมตายเพื่อประชาธิปไตย พรรคเพื่อชาติยิ่งจะได้คะแนนเสียงจากมวลชนมากขึ้น
(5) กระแสโจมตี
(5.1) พรรค รปช. ของท่านสุเทพ จะถูกโจมตีไปที่ตัวท่านสุเทพเป็นหลัก โดยเฉพาะในเรื่องไม่รักษาคำพูด เรื่องนี้จะกลบเรื่องอื่นๆหมด ทำให้พรรค รปช. ไม่สามารถนำเสนอด้านบวกอื่นๆของพรรคไปสู่ประชาชนได้
(5.2) พรรคเพื่อชาติจะถูกโจมตีเรื่องใช้ความรุนแรงในอดีต แต่เรื่องนี้จะพาดพิงไปที่พรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน แต่การที่คุณจตุพรพลิกบทบาทใหม่ แนวทางใหม่ ข้อโจมตีนี้จะอ่อนลงไม่สามารถกลบภาพด้านบวกของคุณจตุพรได้ พรรคเพื่อชาติจะได้ภาพด้านบวกมากขึ้นเรื่อยๆ
จากเหตุผลคร่าวๆข้างต้นจึงเชื่อว่าตัวเลข ส.ส. ที่ทั้งสองพรรคจะได้รับนั้นต่างกัน พรรคเพื่อชาติจะได้ ส.ส. เป็นจำนวนมากพอสมควร ซึ่งแกนนำพรรคคนสำคัญประเมินไว้ว่าต้องได้คะแนนสองล้านคะแนนขึ้นไป ส่วนพรรค รปช. นั้น ตัวเลข ส.ส. น่าจะไม่สดใส แกนนำคนสำคัญของพรรค รปช. พูดกับผมโดยตรงว่า”ได้ ส.ส………คนก็สุดยอดแล้วพี่”
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1673192519451796&id=100002831925779
JJNY : 4in1 พท.ตั้งสาขาพรรคสมุทรปราการ/ธนาธรช่วยผู้ประสบภัย/ไทกรชี้สุเทพฉุดรปช./นายกฯไร่อ้อยโอดชาวไร่เจ๊งระนาว
https://www.matichon.co.th/region/news_1210929
เมื่อเวลา 9.00น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 ที่โรงแรมคัลเลอร์ลีฟวิ่ง ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยจัดการประชุมจัดตั้งสาขาและเลือกคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 3 จังหวัดสมุทรปราการ (ภาคกลาง) ต่อจากภาคอีสานที่จังหวัดอุดรธานี และภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค แกนนำ และ อดีตส.ส.ของพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย, นายวรชัย เหมะ, นางอนุสรา ยังตรง ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก มีสมาชิกพรรคเดินทางร่วมประชุมกว่า 200 คนนายภูมิธรรม เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคลำดับที่ 3 ซึ่ง สาขาที่ 1 และ 2 เปิดตัวไปแล้ว คือ ภาคอีสาน จังหวัดอุดรธานี และ ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจังหวัดสมุทรปราการถือเป็นฐานเสียงหลักของภาคกลาง ต่อไปพื้นที่ภาคใต้ จากนั้นจะเปิดตัว ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้ครบ 77 จังหวัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะต้องใช้ระยะเวลา ขณะนี้ยังดำเนินการไม่ได้ เพราะกกต.ยังไม่ประกาศเขตเลือกตั้งที่ชัดเจน ส่วนตัวมองว่า คสช. ควรปลดล็อกพรรคการเมือง เพื่อให้สามารถดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ ซึ่งต้องพาประเทศเข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็วที่สุด
ขณะที่เลขาธิการพรรคเพื่อไทยก็ได้เรียกให้ คสช.ปลดล็อกพรรคการเมืองโดยไวเพื่อจะดำเนินการกิจกรรมต่างๆ ได้ไปตามระยะเวลากำหนด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แชร์สนั่น 'ธนาธร' โดดช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนถนนกลางดึก
https://www.matichon.co.th/politics/news_1211475
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. โซเชียลแห่แชร์คลิป “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ขณะกำลังเข้าช่วยผู้ประสบเหตุบนท้องถนน หน้างาน FutureFest เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยคลิปมีความยาว 2.04 นาที ซึ่งเป็นภาพที่นายธนาธรกำลังช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ก่อนจะถอนตัวออกมายืนดูห่างๆ เพื่อให้หน่วยกู้ภัยเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุส่งโรงพยาบาล
โดยภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Korn John Jatuwimon” เป็นผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า “เมื่อคืนหลังจากงาน Future Fest ออกมาไม่ถึง 5 นาที มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแถวนั้น พี่ Supakon Tangtiphaiboontana กับ พี่ Thanathorn Juangroongruangkit ลงไปช่วยดูอาการและปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนทีมกู้ภัยจะมา ล่าสุดได้ข่าวว่าคนที่ประสบอุบัติเหตุปลอดภัยแล้ว โล่งอก”
ด้านทีมงานพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าวคือ “พี่โจ” คนขับรถของนายธนาธร ที่พบว่า เขาไม่เคยปล่อยผ่าน หรือคิดว่าไม่เกี่ยว ไม่ใช่เรื่องของเรา บรรยากาศตอนนั้น เป็นภาพที่น่าประทับใจ ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจจต่างก็เดินมาทักทายให้กำลังใจ
'ไทกร' ชี้ สุเทพฉุดกระแส รปช.ตก แฟนคลับส่วนใหญ่ยังเลือกกาประชาธิปัตย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1211136
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย ระบุว่า
หนีพรรคต่ำสิบ…!! ได้พูดคุยกับน้องสุริยะใสเรื่องการเมือง น้องสุริยะใสขอให้ผมเขียนถึงพรรค รปช.บ้าง ผมก็ไม่ขัดข้องจึงขอแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาตามที่น้องสุริยะใสต้องการ
เหลืออีกไม่ถึง 150 วันก็ถึงวันเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองสองพรรคที่มีจุดกำเนิดคล้ายกันนั่นคือ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และพรรคเพื่อชาติ (พช.) ต้องมาดูกันว่าทั้งสองพรรคจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งเพียงใด โดยมีปัจจัยเปรียบเทียบดังนี้
(1) ตัวผู้นำสูงสุดของพรรค พรรครวมพลังประชาชาติไทยมีท่านสุเทพเป็นผู้นำสูงสุด พรรคเพื่อชาติมีคุณจตุพรเป็นผู้นำสูงสุด หากเปรียบเทียบคุณสมบัติและศักยภาพของทั้งสองท่านแล้วมีได้เปรียบเสียเปรียบกันไป เช่น
(1.1) ทั้งสองท่านเป็นผู้นำม๊อบ เป็นผู้นำมวลชน เป็นผู้นำการชุมนุมเหมือนกัน
(1.2) ทั้งสองท่านเป็นนักการเมืองเหมือนกัน แต่ท่านสุเทพจะมีภาษีดีกว่าเพราะเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ตำแหน่งสุดท้าย เป็นถึงรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง คุณจตุพรเป็นเพียงอดีต ส.ส. เท่านั้น
(2) มวลชนของพรรค
(2.1) มวลชนของพรรค รปช. ของท่านสุเทพ อาศัยมวลชนหลักจากกลุ่ม กปปส. ซึ่งปัจจุบันพลังมวลชนของ กลุ่ม กปปส. แทบไม่มีเหลืออยู่เลย เพราะมวลชนกลับฐานที่ตั้งเดิมของตนหมด หรือไม่ก็เลือกทางเดินของตนเองที่ไม่เลือกเดินตามท่านสุเทพ มวลชน กปปส. กระจัดกระจายไปตามพรรคการเมืองต่างๆ เช่น ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ พลังธรรมใหม่ ประชาชนปฏิรูป ฯลฯ
(2.2) มวลชนของพรรคเพื่อชาติของคุณจตุพร เป็นมวลชนหลักจากกลุ่ม นปช. เสื้อแดง ซึ่งถือว่าคุณจตุพรและคณะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนมวลชนของพรรคเพื่อไทยให้กลายเป็นมวลชน นปช. เสื้อแดง และยังสามารถรักษามวลชนกลุ่มนี้ให้ศรัทธาและเชื่อฟังการนำของแกนนำอย่างคุณจตุพรได้อย่างเหนียวแน่นมั่นคง
(3) ฐานมวลชน
(3.1) พรรค รปช. ของท่านสุเทพ ไม่มีฐานมวลชนแน่นอน พื้นที่ไม่แน่นอน เป็นลักษณะกระจายไปทั่ว เป็นหย่อมๆ เล็กๆ น้อยๆ กระจายไปทั่วประเทศ
(3.2) พรรคเพื่อชาติของคุณจตุพรมีฐานมวลชนแน่นอน เพราะมีรายชื่อที่อยู่ของสมาชิก นปช. ซึ่งมีมากกว่า 600,000 คน มีพื้นที่แน่นอนนั่นคือ ภาคอีสาน และ ภาคเหนือ
(4) การดึงคะแนนเสียง
(4.1) พรรค รปช. ของท่านสุเทพ ต้องดึงคะแนนเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก ซึ่งตามหลักจิตวิทยาการเมืองในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและการตัดสินใจลงคะแนน โอกาสที่พรรค รปช. จะดึงคะแนนเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นไปได้น้อยมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะในบรรยากาศช่วงหาเสียง พรรคใหญ่สองพรรค จะมีกระแสแรงที่สุด ประชาชนจะมุ่งความสนใจไปที่สองพรรคนั่นคือ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย และหากประชาชนที่ไม่เลือกพรรคเพื่อไทยแต่ยังลังเลว่าจะเลือกพรรคไหนดีระหว่างพรรค รปช. กับ ปชป. สุดท้ายผู้เลือกตั้งมากกว่า 90% จะตัดสินใจเลือกพรรคใหญ่ หรือพรรคที่กระแสแรงที่สุดในฝั่งที่ไม่ใช่ฝ่ายเพื่อไทย นั่นคือ เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และตอนนี้ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. หลายคนเริ่มตีตัวออกห่าง ไม่เข้าร่วมกิจกรรมพรรค และเตรียมตัวย้ายไปอยู่พรรคอื่น ทำให้กระแสพรรค รปช. ตกลงเรื่อยๆ
(4.2) พรรคเพื่อชาติจะดึงคะแนนมาจากพรรคเพื่อไทย โดยใช้มวลชน นปช. เสื้อแดง เป็นจุดเริ่มต้นขยายปริมาณมวลชน เรื่องนี้ได้สร้างความหวาดหวั่นให้ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ยิ่งนำความบาดหมาง ความน้อยเนื้อต่ำใจที่คนเสื้อแดงได้รับจากพรรคเพื่อไทยมาขยายผล ก็ยิ่งทำให้พรรคเพื่อชาติได้คะแนนมากขึ้น ยิ่งพรรคเพื่อไทยชูคนที่ไม่มีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยขึ้นเป็นผู้นำพรรค ทำให้พรรคเพื่อชาติมีความชอบธรรมในการหาเสียงว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะพรรคเพื่อชาติสู้จริง ตายจริง ยอมตายเพื่อประชาธิปไตย พรรคเพื่อชาติยิ่งจะได้คะแนนเสียงจากมวลชนมากขึ้น
(5) กระแสโจมตี
(5.1) พรรค รปช. ของท่านสุเทพ จะถูกโจมตีไปที่ตัวท่านสุเทพเป็นหลัก โดยเฉพาะในเรื่องไม่รักษาคำพูด เรื่องนี้จะกลบเรื่องอื่นๆหมด ทำให้พรรค รปช. ไม่สามารถนำเสนอด้านบวกอื่นๆของพรรคไปสู่ประชาชนได้
(5.2) พรรคเพื่อชาติจะถูกโจมตีเรื่องใช้ความรุนแรงในอดีต แต่เรื่องนี้จะพาดพิงไปที่พรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน แต่การที่คุณจตุพรพลิกบทบาทใหม่ แนวทางใหม่ ข้อโจมตีนี้จะอ่อนลงไม่สามารถกลบภาพด้านบวกของคุณจตุพรได้ พรรคเพื่อชาติจะได้ภาพด้านบวกมากขึ้นเรื่อยๆ
จากเหตุผลคร่าวๆข้างต้นจึงเชื่อว่าตัวเลข ส.ส. ที่ทั้งสองพรรคจะได้รับนั้นต่างกัน พรรคเพื่อชาติจะได้ ส.ส. เป็นจำนวนมากพอสมควร ซึ่งแกนนำพรรคคนสำคัญประเมินไว้ว่าต้องได้คะแนนสองล้านคะแนนขึ้นไป ส่วนพรรค รปช. นั้น ตัวเลข ส.ส. น่าจะไม่สดใส แกนนำคนสำคัญของพรรค รปช. พูดกับผมโดยตรงว่า”ได้ ส.ส………คนก็สุดยอดแล้วพี่”
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1673192519451796&id=100002831925779