10ปีที่แล้วผมถูกหามส่งรพ.และหมอบอกว่าถ้าเมื่อกี้คุณนอนหลับไปคุณจะไม่ได้ตื่น...ผมเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ ที่ผมเป็นเพราะผมเป็นเบาหวานแล้วคุมน้ำตาลไม่ได้ จากนั้นก็เป็นความดัน และจบท้ายด้วยเส้นเลือดหัวใจตีบ
ต่อจากนั้นอีก4ปีผมใช้ชีวิตแบบคนเป็นโรคหัวใจ เหนื่อยง่าย ไม่กล้าออกแรงอะไรกลัวหัวใจวายตาย แล้ววันหนึ่งผมตัดสินใจอเพราะผมเป็นเบาหวานแล้วก็คุมน้ำตาลไม่ได้ ต่อจากนั้นก็ความดันโลหิตสูง สรุปเป็นครบแพคเกจ เบาหวาน ความดัน หัวใจอกกำลังกายด้วยการเข้าฟิตเนส ผมเล่นเวทและคาร์ดิโอเบาๆ วางเป้าหมายเพื่อลดความอ้วนและหวังว่าร่างกายจะแข็งแรงขึ้น
ผมลดความอ้วนได้ในเวลาไม่ถึงปี จากนั้นผมเริ่มกลับไปเล่นฟุตบอลได้ซึ่งเป็นกีฬาที่ผมรัก
5ปีที่ผมออกกำลังกายผมวิ่งไกลสุดได้1.3km.บนลู่ จนเมื่อปีที่แล้วผมตั้งใจหัดวิ่งจริงจัง โชคดีที่มีเพื่อนที่ให้คำปรึกษา ขอบคุณไว้ตรงนี้ด้วย รัตน์ นา เมย์ 3โค้ชส่วนตัวที่ทำให้ผมวิ่งได้ พค.60 Miniครั้งแรก มค.61 Halfครั้งแรก สค.61 Fullครั้งแรก
ตลอดการวิ่งปีกว่าของผมในทุกระยะที่วิ่ง ผมไม่มีอาการของโรคหัวใจใดๆ ไม่เคยเจ็บหน้าอกหรือเหนื่อยมาก ผมเลยตัดสินใจเข้าไปตรวจที่ศูนย์หัวใจรพ.จุฬาภรณ์ เพื่อเช็คว่าหัวใจผมตีบมากขึ้นหรือดีขึ้น
ผมตรวจอัลตร้าซาวน์หัวใจและวิ่งสายพาน ผลการตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆของหัวใจ ไม่พบสิ่งผิดปกติที่จะบ่งบอกว่าเส้นเลือดหัวใจจะตีบ ผมหายแล้วหรือ!!!แต่เท่าที่รู้โรคหัวใจเป็นแล้วไม่หาย ยังไงกันแน่ ผมไม่ขอสรุปน่ะครับว่าผมหาย...วันนั้นหมอทั้ง2ท่าน พยายามถามผมว่า ผมแน่ใจเหรอว่าผมเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ? ผมแอดมิดนอนรพ.อยู1อาทิตย์ ฉีดยาสลายลิ่มเลือดและให้ยาสลายลิ่มเลือดกับน้ำเกลือตลอดที่อยู่รพ.
กีฬาเป็นยาวิเศษ ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ วันนี้ผมรู้แล้วว่ามันเป็นจริง ผมคงเอาผลการตรวจไปคุยกับหมอที่ผมรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการลดยา
ถ้าคุณยังไม่ป่วยจงรักษาตัวเองไม่ให้ป่วย แต่ถ้าคุณป่วยคุณก็ลุกออกมาออกกำลังกายเพื่อจะทำให้คุณหายป่วยหรือถ้าไม่หายป่วย คุณก็จะแข็งแรงขึ้น
สุดท้าย...แค่อยากจะบอกว่า การออกกำลังกาย อย่าแข่งกับคนอื่น ให้แข่งกับตัวเอง คุยกับตัวเองเยอะๆบ่อยๆ ถามตัวเองว่าไหวไหมสู้ไหม และที่สำคัญที่สุด คุณต้องคบกับพี่วินัย พี่วินัยไม่เคยทำให้ใครผิดหวังครับ
10ปีผ่านไปกับประโยคของหมอ...เมื่อกี้ถ้าคุณหลับไปคุณจะไม่ได้ตื่น
ต่อจากนั้นอีก4ปีผมใช้ชีวิตแบบคนเป็นโรคหัวใจ เหนื่อยง่าย ไม่กล้าออกแรงอะไรกลัวหัวใจวายตาย แล้ววันหนึ่งผมตัดสินใจอเพราะผมเป็นเบาหวานแล้วก็คุมน้ำตาลไม่ได้ ต่อจากนั้นก็ความดันโลหิตสูง สรุปเป็นครบแพคเกจ เบาหวาน ความดัน หัวใจอกกำลังกายด้วยการเข้าฟิตเนส ผมเล่นเวทและคาร์ดิโอเบาๆ วางเป้าหมายเพื่อลดความอ้วนและหวังว่าร่างกายจะแข็งแรงขึ้น
ผมลดความอ้วนได้ในเวลาไม่ถึงปี จากนั้นผมเริ่มกลับไปเล่นฟุตบอลได้ซึ่งเป็นกีฬาที่ผมรัก
5ปีที่ผมออกกำลังกายผมวิ่งไกลสุดได้1.3km.บนลู่ จนเมื่อปีที่แล้วผมตั้งใจหัดวิ่งจริงจัง โชคดีที่มีเพื่อนที่ให้คำปรึกษา ขอบคุณไว้ตรงนี้ด้วย รัตน์ นา เมย์ 3โค้ชส่วนตัวที่ทำให้ผมวิ่งได้ พค.60 Miniครั้งแรก มค.61 Halfครั้งแรก สค.61 Fullครั้งแรก
ตลอดการวิ่งปีกว่าของผมในทุกระยะที่วิ่ง ผมไม่มีอาการของโรคหัวใจใดๆ ไม่เคยเจ็บหน้าอกหรือเหนื่อยมาก ผมเลยตัดสินใจเข้าไปตรวจที่ศูนย์หัวใจรพ.จุฬาภรณ์ เพื่อเช็คว่าหัวใจผมตีบมากขึ้นหรือดีขึ้น
ผมตรวจอัลตร้าซาวน์หัวใจและวิ่งสายพาน ผลการตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆของหัวใจ ไม่พบสิ่งผิดปกติที่จะบ่งบอกว่าเส้นเลือดหัวใจจะตีบ ผมหายแล้วหรือ!!!แต่เท่าที่รู้โรคหัวใจเป็นแล้วไม่หาย ยังไงกันแน่ ผมไม่ขอสรุปน่ะครับว่าผมหาย...วันนั้นหมอทั้ง2ท่าน พยายามถามผมว่า ผมแน่ใจเหรอว่าผมเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ? ผมแอดมิดนอนรพ.อยู1อาทิตย์ ฉีดยาสลายลิ่มเลือดและให้ยาสลายลิ่มเลือดกับน้ำเกลือตลอดที่อยู่รพ.
กีฬาเป็นยาวิเศษ ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ วันนี้ผมรู้แล้วว่ามันเป็นจริง ผมคงเอาผลการตรวจไปคุยกับหมอที่ผมรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการลดยา
ถ้าคุณยังไม่ป่วยจงรักษาตัวเองไม่ให้ป่วย แต่ถ้าคุณป่วยคุณก็ลุกออกมาออกกำลังกายเพื่อจะทำให้คุณหายป่วยหรือถ้าไม่หายป่วย คุณก็จะแข็งแรงขึ้น
สุดท้าย...แค่อยากจะบอกว่า การออกกำลังกาย อย่าแข่งกับคนอื่น ให้แข่งกับตัวเอง คุยกับตัวเองเยอะๆบ่อยๆ ถามตัวเองว่าไหวไหมสู้ไหม และที่สำคัญที่สุด คุณต้องคบกับพี่วินัย พี่วินัยไม่เคยทำให้ใครผิดหวังครับ