อาร์ม ชุติมา กับ สัญญาที่ไม่เป็นธรรม "สัญญาทาส"

พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540
.
มาตรา 5 ข้อตกลงจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพในการประกอบอาชีพการงาน หรือการทำนิติกรรมที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจการค้าหรือวิชาชีพซึ่งไม่เป็นโมฆะ แต่เป็นข้อตกลงที่ทำให้ผู้ถูกจำกัดสิทธิ หรือเสรีภาพต้องรับภาระมากกว่าที่จะพึงคาดหมายได้ตามปกติ ให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น

ในการวินิจฉัยว่าข้อตกลงตามวรรคหนึ่งทำให้ผู้ถูกจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพต้องรับภาระมากกว่าที่จะพึงคาดหมายได้หรือไม่ ให้พิเคราะห์ถึงขอบเขตในด้านพื้นที่และระยะเวลาของการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพ รวมทั้งความสามารถและโอกาสในการประกอบอาชีพการงานหรือการทำนิติกรรมในรูปแบบอื่นหรือกับบุคคลอื่นของผู้ถูกจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพ ประกอบกับทางได้เสียทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายของคู่สัญญาด้วย

มาตรา 7 ในสัญญาที่มีการให้สิ่งใดเป็นมัดจำ หากมีกรณีที่จะต้องริบมัดจำถ้ามัดจำนั้นสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงให้ริบได้เพียงเท่าความเสียหายที่แท้จริงก็ได้

มาตรา 10 ในการวินิจฉัยว่าข้อสัญญาจะมีผลบังคับเพียงใดจึงจะเป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีให้พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ทั้งปวง รวมทั้ง

(1) ความสุจริต อำนาจต่อรอง ฐานะทางเศรษฐกิจ ความรู้ ความเข้าใจ ความสันทัดจัดเจน ความคาดหมาย แนวทางที่เคยปฏิบัติ ทางเลือกอย่างอื่น และทางได้เสียทุกอย่างของคู่สัญญาตามสภาพที่เป็นจริง

(2) ปกติประเพณีของสัญญาชนิดนั้น

(3) เวลาและสถานที่ในการทำสัญญาหรือในการปฏิบัติตามสัญญา

(4) การรับภาระที่หนักกว่ามากของคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง

คดีที่ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม

คดีนี้มีข้อเท็จจริงโดยสรุปคือ นางสาว ป. สมัครเข้าเรียนในคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัย ค. ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาเอกชน เมื่อขึ้นเรียนจบชั้นปีที่สอง มหาวิทยาลัยมีประกาศให้นักศึกษาในคณะนี้ต้องทำสัญญา ซึ่งเป็นสัญญาสำเร็จรูปกับมหาวิทยาลัยว่า เมื่อจบการศึกษาแล้วจะทำงานในโรงพยาบาลที่มหาวิทยาลัยกำหนด โดยต้องมีผู้ค้ำประกันด้วย

นางสาว ป. เกรงว่าหากไม่ยินยอมทำสัญญา อาจมีผลต่อการสำเร็จการศึกษา จึงยอมทำสัญญา โดยให้ ก. เป็นผู้ค้ำประกัน แต่เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว นางสาว ป. ไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาลที่มหาวิทยาลัยกำหนด

มหาวิทยาลัยฟ้อง นางสาว ป. และ ก. ผู้ค้ำประกัน เรียกค่าเสียหายเป็นเงินสี่แสนบาท

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นางสาว ป. จำเลยเรียนจบชั้น ปีที่สองแล้ว ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนไปมากแล้ว มหาวิทยาลัย ค. โจทก์ เพิ่งมีประกาศให้ทำข้อตกลงที่เป็นการจำกัดสิทธิในการประกอบอาชีพ ที่ต้องทำงานในโรงพยาบาลของโจทก์หรือโรงพยาบาลอื่น แม้เพียงหนึ่งปีโดยมีค่าตอบแทนให้ แต่ก็ทำให้นางสาว ป. ไม่มีทางเลือก

การทำสัญญาดังกล่าวเป็นเรื่องที่นางสาว ป. ไม่เคยคาดหมายมาก่อน เพราะหากทราบมาก่อนก็อาจไม่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ค. ที่ทำให้ถูกจำกัดสิทธิในการเลือกที่ทำงาน การบังคับตามสัญญาดังกล่าว ทำให้นางสาว ป ไม่ได้รับความเป็นธรรม ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยให้สัญญาดังกล่าวไม่มีผลใช้บังคับ (คำพิพากษาฎีกาที่15162/2556

กรณี อาร์ม ชุติมา กับ สัญญาที่ไม่เป็นธรรม "สัญญาทาส" เพื่อน ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ????!!!!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่