คือเป็นกระทู้แรกที่มาตั้งแนวรีวิวครับเพราะรู้สึกอยากขอบคุณการรักษาของโรงพยาบาลที่ทำการรักษาคุณแม่ที่กระดูกสันหลังแตกให้หายเจ็บแวดภายในเวลา 3 วัน ครับ
เนื่องจากปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาคุณแม่มีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง ถามว่าล้มมั้ยแกก็บอกว่าเปล่า แต่ดูเหมือนคุณแม่จะเจ็บมากเลยนำส่งโรงพยาบาลในจังหวัด คุณหมอที่โรงพยาบาลในจังหวัดส่งคุณแม่เอ็กสเรย์ พร้อมแจ้งผลว่า "กล้ามเนื้ออักเสบและกระดูกสันหลังคด" แอดมิดอยู่ 2 คืน กลับจากโรงพยาบาลอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
ตอนนั้นน้าสาวโทรมาแนะนำโรงพยาบาล S Spine and nerve ซึ่งน้าเขยเคยไปรักษาอาการกระดูกทับเส้นประสาทมาครับ น้าบอกอยากให้แม่ลองไปตรวจ ด้วยความที่ไม่ทราบว่าแม่เป็นอะไรถึงปวดหลังรุนแรง เลยเสี่ยงดวงไปดูครับ
พอพบแพทย์อย่างแรกที่คุณหมอจัดการคือทำการส่งคุณแม่เข้าทำการ mri และ x-ray อย่างละเอียด ซึ่งผลออกมาคือกระดูกสันหลังแตก 2 จุด ทำให้กระดูกคดไปทับเส้นประสาท ต้องทำการผ่าตัด ความรู้สึกแรกหลังที่ได้ยินคำวินิจฉัยคือ ทำไมโรงพยาบาลแรกไม่เจอว่ากระดูกแตก
สำหรับแนวทางการรักษา คุณหมอแจ้งให้ทราบว่าต้องทำการผ่าตัดเพื่อยึดกระดูกโดยตอนแรกตั้งใจจะให้คุณแม่ได้รับการผ่าตัดในวันรุ่งขึ้นเลย แต่ติดที่คุณแม่มีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาแอสไพลิน ซึ่งทางโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ละเอียดในการขอทราบข้อมูลยามากครับ ผลเลยต้องรอการผ่าตัดไป 1 สัปดาห์เพื่อให้คุณ
ดยาแอสไพลิน
วันที่ 10 ตุลาคม คือวันที่คุณหมอนัดทำการรักษาครับ แต่ทางโรงพยาบาลให้มานอนก่อนในวันที่ 9 ตุลาคม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดครับ
บรรยากาศหลังแอดมิดก็จะประมาณนี้ครับ
ห้องพักผู้ป่วยก็อยู่สบายทั้งผู้ป่วยและคนเฝ้าครับ
ทีนี้พอเช้าวันที่ 10 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ก็มาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณแม่แล้วนำตัวส่งห้องผ่าตัด บอกตรงๆ ว่าแอบกังวลครับ
ระหว่างผ่าตัด เจ้าหน้าที่ให้ผมกลับไปรอที่ห้องพัก จนผ่านไปประมาณ 6 ชั่วโมงคุณแม่ฟื้นจากยาสลบ เจ้าหน้าที่ก็นำกลับมาส่ง ถามแม่ว่าเจ็บมั้ย แม่ว่าไม่เจ็บแต่เมื่อย แต่ตัวผมเองก็คิดว่าแม่คงโดนยาสลบเลยยังไม่รู้สึกเจ็บ
คืนแรกหลังผ่าตัดคุณแม่นอนอย่างเดียวเลยครับ แต่ก็มีเรียกหาขอดื่มน้ำบ้าง ก็แอบถามตลอดว่าเจ็บมั้ย แม่บอกไม่เจ็บแต่เมื่อยและรู้สึกตึงๆ อีกวันคุณหมอมาพบพร้อมอธิบายขั้นตอนการผ่าตัดครับ ซึ่งก็มีภาพมาให้เราชมพร้อมอธิบายให้ฟัง คือแผลผ่าตัดกระดูกสันหลังที่แตก 2 ท่อนทำไมมันเล็กแบบนี้ ตะลึงครับ
วันแรกหลังผ่าตัด คุณหมอยังให้คุณแม่นอนอย่างเดียวเลยครับ คุณแม่จะมีงอแงให้คอยช่วยพลิกตัวให้แกตลอดๆ เพราะเมื่อย พอวันที่ 2 เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดก็มาพาคุณแม่ฝึกเดิน บอกเลยสะตั้นมาก เพราะแม้จะทราบว่าการรักษาของที่นี่จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวไว แต่ก็ไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้
วันที่ 2 นี้คุณแม่ยังมีอาการแพนิคที่จะขยับตัว เพราะก่อนนี้เคยขยับแล้วเจ็บ แต่พอขยับจริงๆ ก็ไม่เจ็บครับ แต่พอเราหลอกล่อให้แกขยับด้วยตัวเองบ่อยๆ ก็เริ่มกล้าเดินเข้าห้องน้ำ เดินมานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นได้แล้ว ไม่เจ็บหลัง แต่ตึงๆ แผลผ่าตัดครับ
วันที่ 3 คุณแม่เริ่มเริงร่าแล้วครับ วันนี้ทางโรงพยาบาลพาไปเอ็กสเรย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
หลังจากนั้นช่วงบ่ายคุณหมอก็เข้าพบพร้อมกับรายงานผลการตรวจ บอกสามารถกลับบ้านได้แล้ว ดีใจปนตะลึงว่าไวมากครับ อิอิ
รุ่งขึ้นก็กลับบ้าน โดยรวมอาการคุณแม่ไม่เจ็บหลังแล้ว แต่มีแพนิคตอนนั่งรถบ้างครับ
หลังกลับมาบ้านคุณแม่ใช้ชีวิตได้ปกติทันทีเลยครับ เหลือแค่ยังอาบน้ำไม่ได้เพราะแผลผ่าตัดยังไม่แห้งครับ ซึ่งคุณหมอก็มีนัดมาพบ 2 รอบด้วยกันครับ คือวันที่ 17 และ 21 ตุลาคม ซึ่งวันนี้เพิ่งไปมาครับ มีนัดอีกทีวันที่ 18 เดือนหน้า
สรุปสั้นๆ เลยนะครับว่าประทับใจ 5 ดาว
สำหรับท่านที่มีอาการด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาทลองเข้าไปปรึกษาดูนะครับผมแปะเฟสโรงพยาบาลให้ครับ
fb โรงพยาบาลครับ
ส่วน fb ผม เผื่อใครอยากสอบถามเพิ่มเติมนะครับ หรือเข้าไปชม timeline
นนท์เอง
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์นะครับ
เล่าประสบการณ์คุณแม่เข้ารับการผ่าตัดจากกระดูกสันหลังแตก หายเจ็บในไม่กี่วัน ที่โรงพยาบาล S spine and nerve ครับ
เนื่องจากปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาคุณแม่มีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง ถามว่าล้มมั้ยแกก็บอกว่าเปล่า แต่ดูเหมือนคุณแม่จะเจ็บมากเลยนำส่งโรงพยาบาลในจังหวัด คุณหมอที่โรงพยาบาลในจังหวัดส่งคุณแม่เอ็กสเรย์ พร้อมแจ้งผลว่า "กล้ามเนื้ออักเสบและกระดูกสันหลังคด" แอดมิดอยู่ 2 คืน กลับจากโรงพยาบาลอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
ตอนนั้นน้าสาวโทรมาแนะนำโรงพยาบาล S Spine and nerve ซึ่งน้าเขยเคยไปรักษาอาการกระดูกทับเส้นประสาทมาครับ น้าบอกอยากให้แม่ลองไปตรวจ ด้วยความที่ไม่ทราบว่าแม่เป็นอะไรถึงปวดหลังรุนแรง เลยเสี่ยงดวงไปดูครับ
พอพบแพทย์อย่างแรกที่คุณหมอจัดการคือทำการส่งคุณแม่เข้าทำการ mri และ x-ray อย่างละเอียด ซึ่งผลออกมาคือกระดูกสันหลังแตก 2 จุด ทำให้กระดูกคดไปทับเส้นประสาท ต้องทำการผ่าตัด ความรู้สึกแรกหลังที่ได้ยินคำวินิจฉัยคือ ทำไมโรงพยาบาลแรกไม่เจอว่ากระดูกแตก
สำหรับแนวทางการรักษา คุณหมอแจ้งให้ทราบว่าต้องทำการผ่าตัดเพื่อยึดกระดูกโดยตอนแรกตั้งใจจะให้คุณแม่ได้รับการผ่าตัดในวันรุ่งขึ้นเลย แต่ติดที่คุณแม่มีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาแอสไพลิน ซึ่งทางโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ละเอียดในการขอทราบข้อมูลยามากครับ ผลเลยต้องรอการผ่าตัดไป 1 สัปดาห์เพื่อให้คุณดยาแอสไพลิน
วันที่ 10 ตุลาคม คือวันที่คุณหมอนัดทำการรักษาครับ แต่ทางโรงพยาบาลให้มานอนก่อนในวันที่ 9 ตุลาคม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดครับ
บรรยากาศหลังแอดมิดก็จะประมาณนี้ครับ
ห้องพักผู้ป่วยก็อยู่สบายทั้งผู้ป่วยและคนเฝ้าครับ
ทีนี้พอเช้าวันที่ 10 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ก็มาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณแม่แล้วนำตัวส่งห้องผ่าตัด บอกตรงๆ ว่าแอบกังวลครับ
ระหว่างผ่าตัด เจ้าหน้าที่ให้ผมกลับไปรอที่ห้องพัก จนผ่านไปประมาณ 6 ชั่วโมงคุณแม่ฟื้นจากยาสลบ เจ้าหน้าที่ก็นำกลับมาส่ง ถามแม่ว่าเจ็บมั้ย แม่ว่าไม่เจ็บแต่เมื่อย แต่ตัวผมเองก็คิดว่าแม่คงโดนยาสลบเลยยังไม่รู้สึกเจ็บ
คืนแรกหลังผ่าตัดคุณแม่นอนอย่างเดียวเลยครับ แต่ก็มีเรียกหาขอดื่มน้ำบ้าง ก็แอบถามตลอดว่าเจ็บมั้ย แม่บอกไม่เจ็บแต่เมื่อยและรู้สึกตึงๆ อีกวันคุณหมอมาพบพร้อมอธิบายขั้นตอนการผ่าตัดครับ ซึ่งก็มีภาพมาให้เราชมพร้อมอธิบายให้ฟัง คือแผลผ่าตัดกระดูกสันหลังที่แตก 2 ท่อนทำไมมันเล็กแบบนี้ ตะลึงครับ
วันแรกหลังผ่าตัด คุณหมอยังให้คุณแม่นอนอย่างเดียวเลยครับ คุณแม่จะมีงอแงให้คอยช่วยพลิกตัวให้แกตลอดๆ เพราะเมื่อย พอวันที่ 2 เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดก็มาพาคุณแม่ฝึกเดิน บอกเลยสะตั้นมาก เพราะแม้จะทราบว่าการรักษาของที่นี่จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวไว แต่ก็ไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้
วันที่ 2 นี้คุณแม่ยังมีอาการแพนิคที่จะขยับตัว เพราะก่อนนี้เคยขยับแล้วเจ็บ แต่พอขยับจริงๆ ก็ไม่เจ็บครับ แต่พอเราหลอกล่อให้แกขยับด้วยตัวเองบ่อยๆ ก็เริ่มกล้าเดินเข้าห้องน้ำ เดินมานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นได้แล้ว ไม่เจ็บหลัง แต่ตึงๆ แผลผ่าตัดครับ
วันที่ 3 คุณแม่เริ่มเริงร่าแล้วครับ วันนี้ทางโรงพยาบาลพาไปเอ็กสเรย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
หลังจากนั้นช่วงบ่ายคุณหมอก็เข้าพบพร้อมกับรายงานผลการตรวจ บอกสามารถกลับบ้านได้แล้ว ดีใจปนตะลึงว่าไวมากครับ อิอิ
รุ่งขึ้นก็กลับบ้าน โดยรวมอาการคุณแม่ไม่เจ็บหลังแล้ว แต่มีแพนิคตอนนั่งรถบ้างครับ
หลังกลับมาบ้านคุณแม่ใช้ชีวิตได้ปกติทันทีเลยครับ เหลือแค่ยังอาบน้ำไม่ได้เพราะแผลผ่าตัดยังไม่แห้งครับ ซึ่งคุณหมอก็มีนัดมาพบ 2 รอบด้วยกันครับ คือวันที่ 17 และ 21 ตุลาคม ซึ่งวันนี้เพิ่งไปมาครับ มีนัดอีกทีวันที่ 18 เดือนหน้า
สรุปสั้นๆ เลยนะครับว่าประทับใจ 5 ดาว
สำหรับท่านที่มีอาการด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาทลองเข้าไปปรึกษาดูนะครับผมแปะเฟสโรงพยาบาลให้ครับ
fb โรงพยาบาลครับ
ส่วน fb ผม เผื่อใครอยากสอบถามเพิ่มเติมนะครับ หรือเข้าไปชม timeline นนท์เอง
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์นะครับ