จากหลายๆกระทู้แนะนำผมขอมนำมารวมกันเรื่องรายละเอียด ผมสรุปจากข่าว
เริ่มจาก เที่ยวบินนี้ มีการวางแผนเปลี่ยนล่วงหน้าหลายอาทิตย์
(ไม่ใช่การเปลี่ยนแบบกระทัน)
ตั้งแต่วันที่ 26เดือน9 จนถึง เริ่มบินเที่ยวบิน TG971 ซูริค-สุวรรณภูมิ วันที่ 11 ต.ค.
รู้ล่วงหน้าประมาณ 15 วัน
*รูปจากคุณ newuno
เปลี่ยนจากเครื่อง 777-300ER เป็น 747-400
เครื่อง 777-300ER มีการขายตั๋วแค่ 2 ชั้นโดยสาร คือ (ภาษาชาวบ้าน) ชั้นธุรกิจ และ ชั้นประหยัด
มีที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 42 ที่
มีที่นั่ง ชั้นประหยัด 306 ที่
ซึ่งที่นั่งชั้นธุรกิจ ของเครื่อง777-300ER นั้นสามารถนอนราบได้
เครื่อง 747-400 ซึ่งจะมีที่นั่ง 3แบบคือ เฟริสคลาส
มีที่นั่ง ชั้นเฟริสคลาส 9 ที่
มีที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 40 ที่
มีที่นั่ง ชั้นประหยัด 325 ที่ *จำนวนที่นั่งอาจไม่ถูกต้อง
เมื่อมีการเปลี่ยนแบบเครื่องบิน ระบบการจองจะเปิดที่นั่งโซน First Class ให้ผู้โดยสาร Business Class เลือกได้ แต่ถึงอย่างไร ผดส. ที่ไปเลือกที่นั่งโซน First Class ก็ยังได้รับการบริการในรูปแบบของ Business Class ซึ่งจากข่าวแล้วมีคนจองชั้นเฟริสคลาส เต็มทุกที่นั่ง
ถ้า จนท. มีความเป็นมืออาชีพหน่อย ก็ไม่ควรจะเปิดโซน First Class ให้ ผดส. เลือกเองที่นั่งได้ตั้งแต่แรก แต่น่าจะใช้วิธีเชิญ ผดส. บางส่วนจาก Business Class ไปนั่งที่โซน First Class แทน
ซึ่งที่นั่งชั้นธุรกิจ ของเครื่อง747-400 นั้นสามารถไม่สามารถนอนราบได้
.
ที่นั่ง BC ของทั้ง2 ลำ แตกต่างกันมาก 747 ปรับนอนราบไม่ได้ ไม่มีที่กั้นแบบส่วนตัวเหมือ 777 คือต่างกันฟ้ากับเหว
-- เที่ยวบิน ซูริค - สุวรรณภูมิใช้เวลา เดินทางนาน 10 ชม. 50 นาที คนที่บินบ่อยถ้าเขาเลือกที่นั่งได้ก็อยากได้แบบนอนราบได้ทั้งนั้น
.
คราวนี้มาถึงปัญหาที่เกิด ที่นั่งแบบนอนราบได้เต็ม แต่มีนักบินที่ต้องเดินทางตามหน้าที่ไปด้วยซึงเป็น ผู้ขอโดยสาร (Deadhead pilot)
*อันนี้ผมไม่ทราบว่านักบินจะรู้ล่วงหน้ากี่วันหรือกี่ชั่วโมงนะครับถ้าโดนสั่งมาก็ต้องไป
ตามกฏการบินสากล เรื่องเวลาพักผ่อนและปฎิบัติงาน นั้นมีเวลาแน่นอนว่าต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ..ชั่วโมงเพื่อทำหน้าที่ ขับเครื่องบิน
ไม่อย่างนั้นจะถือว่าทำผิดกฏหมายและจะโดนยึดใบอนุญาติได้ ถ้าเป็นเครื่อง 777-300ER ก็จะมีการสำรองที่นั่งไว้แล้ว แต่นี่ไม่ใช่ไงเป็นการเปลี่ยนเครื่อง
จะว่าเป็นบั๊ค อย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อเครื่อง300E สำรองที่นั่งนักบินไว้ที่ ชั้นธุรกิจ พอเปลี่ยนเครื่อง ถ้าจัดการได้ห่วยแตกมากๆก็จะไปสำรองที่นั่งที่ชั้นธุรกิจด้วย(นอนราบไม่ได้)
คราวนี้ก็มาถึงปัญหาใหญ่ ระหว่าง "หน้าที่"กับ"สิทธิ์" นักบินต้องการนอนราบเพื่อพักผ่อนให้เพียงพอไม่ปวดเมื่อยเพื่อที่จะไปทำหน้าที่ แต่ไม่มีที่ให้
จึงเป็นข่าวว่านักบินต้องการนั่งเฟริสคลาส แต่ให้ผู้โดยสารนั่งเต็มทุกที่แล้ว จะแก้ปัญหาอย่างไรและใครมีหน้าที่ในการแก้ปัญหานี้ ก็ต้องไปดูระเบียบของการบินไทยซึ่งผมคงไม่ไปนั่งหาหรอก แต่ ตามความรู้สึกก็คือ
กัปตันผู้ทำการบิน (On duty pilot) ของเครื่องควรจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ
ยกตัวอย่างเช่น กรณีไล่ผู้โดยสารที่เป็นแพทย์ชาวเอเชียลงที่มีการฟ้องร้องของอเมริกา
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_295671
เป็นกรณีที่คล้านกัน แต่อันนั้นที่นั่งเต็ม เลยต้องไล่คนลงแต่กรณีนี้มีที่นั่งชั้นธุรกิจเหลือแน่นอน
แต่ต้องการให้มีผู้เสียสละย้ายที่นั่ง
คำถาม เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นใครควรเป็นผ้เสียสละ
1.ผู้ขอโดยสาร (Deadhead pilot) ที่มาทีหลัง
2.ผู้โดยสาร 2 คนจาก9 คน
ตามข่าว คนที่ตัดสินใจ(ใคร?) ถือ สิทธิ์ของนักบิน "มากกว่า" สิทธิ์ของผดส.
ก็เลยต้องให้แอร์หาทางไปขอความร่วมมือจนเสียเวลาไปเรื่อยๆใช้เวลาเป็นการกดดันไปในตัว
ใช้เวลา จาก 13.30 จนกระทั่งเวลา 15.00 เพราะไปขอผู้โดยสารท่านอื่นแล้วไม่มีใครยอมให้ และได้รับแจ้งว่าถ้าผมไม่ยอมเปลี่ยนที่ให้นักบินที่จะโดยสาร (Deadhead pilot) ไปด้วย นักบินประจำเครื่อง (On duty pilot) ก็จะไม่ยอมบิน (จาก
https://ppantip.com/topic/38178165/comment15)
ส่วนใครผิดถกผมก็ไม่รู้ รู้แต่ผดส. ทั้ง 300 กว่าที่เขาไม่รู้อะไรด้วยเลยซวย เสียเวลาไป
ป.ล. ความเห็นส่วนตัว
คนผิด
>>>ผู้จัดการสถานีซูริก <<<แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ช้ามาก
เพราะ .ยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนที่นั่งผู้โดยสาร (สุดท้ายอีก2ชั่วโมงต่อมาก็ต้องยอมเปลี่ยน)
ทั้งๆที่เป็นอำนาจของเขา ถึงแม้นักบินจะงี่เง่าหรือ ตั้งข้อแม้มาไม่งั้นไม่บิน คุณก็ควรแก้ปัญหาให้ได้เร็วกว่านี้ แล้วค่อยทำรายงานตามหลัง
ทีนี้พอเครื่องบินดีเลย์นานเข้า ผู้จัดการสถานีซูริก กลายเป็นกดดันแทนเพราะถ้าดีเลย์2ชั่วโมงมันก็จะมีค่าเสียหาย และถ้าเกินเวลาทำงานกัปตันจะยกเลิกเที่ยวบินได้ เนื่องจากกฏสากลเกี่ยวกับเวลาการทำงาน
สุดท้าย ผู้จัดการสถานีซูริกต้อง โทรไปคุยกับกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น กัปตันผู้มีอำนาจแปลกใจ เนื่องจากตอนสรุปก่อนทำงาน ว่า มีผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ที่ได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาส เพียง 3 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่งตามลำดับเวลา และไม่แน่ใจว่า มีรายการจองผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่ได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาสเพิ่มเข้ามา หรืออัพเกรดผู้โดยสาร หรือมีเหตุผลอื่นใดที่ผู้จัดการสถานีซูริกไม่ได้อธิบายให้เข้าใจ
เวลาผ่านไป 15 นาที เจ้าหน้าที่ภาคพื้นเข้ามาแจ้งว่า ทุกอย่างเรียบร้อย (ให้คนไปขอให้ทั้ง2ท่านที่อัพเกรดเป็นบริการพิเศษกลับไปนั่งที่เดิม)จึงเริ่มทำการนำผู้โดยสารขึ้นเครื่อง แล้วเสร็จภายใน 20 นาที จึงดำเนินการขออนุญาตทำการบินต่อไป เครื่องบินจอดที่กรุงเทพฯ เวลา 00.06 น. ตามเวลาประเทศไทย
*ทั้ง2ท่านไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย เป็นผู้เสียหายเช่นกัน
.
สรุป กรณี ดีเลย์ 2 ชั่วโมงครึ่ง เหตุนักบินไม่ยอมเทคออฟ
เริ่มจาก เที่ยวบินนี้ มีการวางแผนเปลี่ยนล่วงหน้าหลายอาทิตย์ (ไม่ใช่การเปลี่ยนแบบกระทัน)
ตั้งแต่วันที่ 26เดือน9 จนถึง เริ่มบินเที่ยวบิน TG971 ซูริค-สุวรรณภูมิ วันที่ 11 ต.ค.
รู้ล่วงหน้าประมาณ 15 วัน
*รูปจากคุณ newuno
เปลี่ยนจากเครื่อง 777-300ER เป็น 747-400
เครื่อง 777-300ER มีการขายตั๋วแค่ 2 ชั้นโดยสาร คือ (ภาษาชาวบ้าน) ชั้นธุรกิจ และ ชั้นประหยัด
มีที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 42 ที่
มีที่นั่ง ชั้นประหยัด 306 ที่
ซึ่งที่นั่งชั้นธุรกิจ ของเครื่อง777-300ER นั้นสามารถนอนราบได้
เครื่อง 747-400 ซึ่งจะมีที่นั่ง 3แบบคือ เฟริสคลาส
มีที่นั่ง ชั้นเฟริสคลาส 9 ที่
มีที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 40 ที่
มีที่นั่ง ชั้นประหยัด 325 ที่ *จำนวนที่นั่งอาจไม่ถูกต้อง
เมื่อมีการเปลี่ยนแบบเครื่องบิน ระบบการจองจะเปิดที่นั่งโซน First Class ให้ผู้โดยสาร Business Class เลือกได้ แต่ถึงอย่างไร ผดส. ที่ไปเลือกที่นั่งโซน First Class ก็ยังได้รับการบริการในรูปแบบของ Business Class ซึ่งจากข่าวแล้วมีคนจองชั้นเฟริสคลาส เต็มทุกที่นั่ง
ถ้า จนท. มีความเป็นมืออาชีพหน่อย ก็ไม่ควรจะเปิดโซน First Class ให้ ผดส. เลือกเองที่นั่งได้ตั้งแต่แรก แต่น่าจะใช้วิธีเชิญ ผดส. บางส่วนจาก Business Class ไปนั่งที่โซน First Class แทน
ซึ่งที่นั่งชั้นธุรกิจ ของเครื่อง747-400 นั้นสามารถไม่สามารถนอนราบได้
.
ที่นั่ง BC ของทั้ง2 ลำ แตกต่างกันมาก 747 ปรับนอนราบไม่ได้ ไม่มีที่กั้นแบบส่วนตัวเหมือ 777 คือต่างกันฟ้ากับเหว
-- เที่ยวบิน ซูริค - สุวรรณภูมิใช้เวลา เดินทางนาน 10 ชม. 50 นาที คนที่บินบ่อยถ้าเขาเลือกที่นั่งได้ก็อยากได้แบบนอนราบได้ทั้งนั้น
.
คราวนี้มาถึงปัญหาที่เกิด ที่นั่งแบบนอนราบได้เต็ม แต่มีนักบินที่ต้องเดินทางตามหน้าที่ไปด้วยซึงเป็น ผู้ขอโดยสาร (Deadhead pilot)
*อันนี้ผมไม่ทราบว่านักบินจะรู้ล่วงหน้ากี่วันหรือกี่ชั่วโมงนะครับถ้าโดนสั่งมาก็ต้องไป
ตามกฏการบินสากล เรื่องเวลาพักผ่อนและปฎิบัติงาน นั้นมีเวลาแน่นอนว่าต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ..ชั่วโมงเพื่อทำหน้าที่ ขับเครื่องบิน
ไม่อย่างนั้นจะถือว่าทำผิดกฏหมายและจะโดนยึดใบอนุญาติได้ ถ้าเป็นเครื่อง 777-300ER ก็จะมีการสำรองที่นั่งไว้แล้ว แต่นี่ไม่ใช่ไงเป็นการเปลี่ยนเครื่อง
จะว่าเป็นบั๊ค อย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อเครื่อง300E สำรองที่นั่งนักบินไว้ที่ ชั้นธุรกิจ พอเปลี่ยนเครื่อง ถ้าจัดการได้ห่วยแตกมากๆก็จะไปสำรองที่นั่งที่ชั้นธุรกิจด้วย(นอนราบไม่ได้)
คราวนี้ก็มาถึงปัญหาใหญ่ ระหว่าง "หน้าที่"กับ"สิทธิ์" นักบินต้องการนอนราบเพื่อพักผ่อนให้เพียงพอไม่ปวดเมื่อยเพื่อที่จะไปทำหน้าที่ แต่ไม่มีที่ให้
จึงเป็นข่าวว่านักบินต้องการนั่งเฟริสคลาส แต่ให้ผู้โดยสารนั่งเต็มทุกที่แล้ว จะแก้ปัญหาอย่างไรและใครมีหน้าที่ในการแก้ปัญหานี้ ก็ต้องไปดูระเบียบของการบินไทยซึ่งผมคงไม่ไปนั่งหาหรอก แต่ ตามความรู้สึกก็คือ กัปตันผู้ทำการบิน (On duty pilot) ของเครื่องควรจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ
ยกตัวอย่างเช่น กรณีไล่ผู้โดยสารที่เป็นแพทย์ชาวเอเชียลงที่มีการฟ้องร้องของอเมริกา
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_295671
เป็นกรณีที่คล้านกัน แต่อันนั้นที่นั่งเต็ม เลยต้องไล่คนลงแต่กรณีนี้มีที่นั่งชั้นธุรกิจเหลือแน่นอน
แต่ต้องการให้มีผู้เสียสละย้ายที่นั่ง
คำถาม เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นใครควรเป็นผ้เสียสละ
1.ผู้ขอโดยสาร (Deadhead pilot) ที่มาทีหลัง
2.ผู้โดยสาร 2 คนจาก9 คน
ตามข่าว คนที่ตัดสินใจ(ใคร?) ถือ สิทธิ์ของนักบิน "มากกว่า" สิทธิ์ของผดส.
ก็เลยต้องให้แอร์หาทางไปขอความร่วมมือจนเสียเวลาไปเรื่อยๆใช้เวลาเป็นการกดดันไปในตัว
ใช้เวลา จาก 13.30 จนกระทั่งเวลา 15.00 เพราะไปขอผู้โดยสารท่านอื่นแล้วไม่มีใครยอมให้ และได้รับแจ้งว่าถ้าผมไม่ยอมเปลี่ยนที่ให้นักบินที่จะโดยสาร (Deadhead pilot) ไปด้วย นักบินประจำเครื่อง (On duty pilot) ก็จะไม่ยอมบิน (จาก https://ppantip.com/topic/38178165/comment15)
ส่วนใครผิดถกผมก็ไม่รู้ รู้แต่ผดส. ทั้ง 300 กว่าที่เขาไม่รู้อะไรด้วยเลยซวย เสียเวลาไป
ป.ล. ความเห็นส่วนตัว
คนผิด
>>>ผู้จัดการสถานีซูริก <<<แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ช้ามาก
เพราะ .ยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนที่นั่งผู้โดยสาร (สุดท้ายอีก2ชั่วโมงต่อมาก็ต้องยอมเปลี่ยน)
ทั้งๆที่เป็นอำนาจของเขา ถึงแม้นักบินจะงี่เง่าหรือ ตั้งข้อแม้มาไม่งั้นไม่บิน คุณก็ควรแก้ปัญหาให้ได้เร็วกว่านี้ แล้วค่อยทำรายงานตามหลัง
ทีนี้พอเครื่องบินดีเลย์นานเข้า ผู้จัดการสถานีซูริก กลายเป็นกดดันแทนเพราะถ้าดีเลย์2ชั่วโมงมันก็จะมีค่าเสียหาย และถ้าเกินเวลาทำงานกัปตันจะยกเลิกเที่ยวบินได้ เนื่องจากกฏสากลเกี่ยวกับเวลาการทำงาน
สุดท้าย ผู้จัดการสถานีซูริกต้อง โทรไปคุยกับกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น กัปตันผู้มีอำนาจแปลกใจ เนื่องจากตอนสรุปก่อนทำงาน ว่า มีผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ที่ได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาส เพียง 3 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่งตามลำดับเวลา และไม่แน่ใจว่า มีรายการจองผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่ได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาสเพิ่มเข้ามา หรืออัพเกรดผู้โดยสาร หรือมีเหตุผลอื่นใดที่ผู้จัดการสถานีซูริกไม่ได้อธิบายให้เข้าใจ
เวลาผ่านไป 15 นาที เจ้าหน้าที่ภาคพื้นเข้ามาแจ้งว่า ทุกอย่างเรียบร้อย (ให้คนไปขอให้ทั้ง2ท่านที่อัพเกรดเป็นบริการพิเศษกลับไปนั่งที่เดิม)จึงเริ่มทำการนำผู้โดยสารขึ้นเครื่อง แล้วเสร็จภายใน 20 นาที จึงดำเนินการขออนุญาตทำการบินต่อไป เครื่องบินจอดที่กรุงเทพฯ เวลา 00.06 น. ตามเวลาประเทศไทย
*ทั้ง2ท่านไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย เป็นผู้เสียหายเช่นกัน
.