การลดน้ำหนักจริงๆแล้วเราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร ซึ่งแต่ก่อนผมจะชอบดื่มทานอะไรที่เยอะกว่าชาวบ้านเขา แก้วใหญ่ จุเยอะ ขอมากไว้ก่อนอิ่มอร่อย  แต่มาวันนี้ผมตั้งใจลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพร่างกาย เลยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงปริมาณการทานอาหาร และนิสัยการกิน ให้ร่างกายเข้าใจว่าเราต้องการทานอาหารมากน้อยแค่ไหน

ที่ผ่านมาจะเป็นแบบนี้ครับ
1.เคยงดข้าวเย็นแต่พฤติกรรมการกินเดิม งดยังไงก็ไม่ลง
2.เคยหาตัวช่วยลดความอ้วน แต่สุดท้ายก็อ้วนเหมือนเดิม

ปัจจุบัน ลดลง ประมาณ 20-22 โล
กะว่าจะเอาอีก 5 โล แต่คนรอบข้างบอกพอแล้ว

วิธีการลดน้ำหนักของผม คือ การลดปริมาณ อาหาร งดน้ำหวาน แป้ง ของสำเร็จรูป ผลไม้หวาน

โดยทยอยลดลง+ควบคุมจิตใจ

1.เริ่มจาก งด ข้าวเย็น เพราะด้วยนิสัยตัวเองถ้าได้กินแล้วคือ กินได้ตลอด เลยตัดข้าวเย็น ใช้เวลา 10 วัน ร่างกายปรับสภาพรับรู้ว่าช่วงเย็นไม่ใช่เวลาอาหาร

2.งดข้าวเย็นแล้วแต่ตัวเองยังคงกินน้ำหวานแก้วใหญ่มาตลอดเลยลดเป็นแก้วเล็กและนานๆที

3.น้ำหนัก ลดมาได้พอสมควร 5-6 kg. แรก เริ่ม ลดปริมาณอาหารเช้าและกลางวัน สั่งมาก็แบ่งครึ่งกินครึ่งเดียว
------------------------------------------
4.ลง 6-10 kg. แรก ระหว่างนี้ได้กินโยเกิตร์ช่วงเช้า ทุกวัน อิ่มดี ปริมาณเมล็ดข้าวเหลือ 1-3 ช้อนโต๊ะ นอกนั้น ผักลวก ไข่ต้ม ปลากรอบ แครอท มะเขือเปรอะ กุ้งบ้าง ไก่บ้าง และที่กินประจำ คือ กิมจิ
------------------------------------------
5.ลง 10-15 kg. แรก ใน 3 เดือน เริ่มออกกำลังกายร่วมด้วยท่ากักลมอัสมิตา + ดัมเบล

6.ลง19-22 Kg. แรก เริ่มออกกำลังกายช่วงบนและช่วงล่าง รวมกัน 400-600 ครั้ง ด้วยท่า situp ด้านข้าง สบายกว่า situp ปกติที่เขาทำกัน จำนวนครั้งมากกว่าดีกว่า ได้ช่วงเอว

ปัจจุบัน จาก size 3xl เหลือ xl และกำลังลงไปที่ "L"

ปริมาณเมล็ดข้าวสำคัญมากแต่ไม่กินเลยไม่ได้ เพราะคือ แหล่งพลังงาน

ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน กับน้ำหนัก 20-22 kg. ใกล้จะจบเป้าหมายแรก
ลองมาเปลี่ยนพฤติกรรมกันนะครับ



#ไม่หิว ไม่สั่น เพราะร่างกายปรับสภาพ ตามปริมาณอาหารที่ลดลง

# เป้าหมายต่อไปกล้ามหน้าท้อง

มาพูดคุยกันที่เฟสผมได้นะครับ
https://www.facebook.com/hiching

#สรุปสั้นกว่าเดิม