ซีรีย์เรื่อง Legend of the Dragon Pearl หรือ 《龙珠传奇之无间道》
สมเด็จพระจักรพรรดิชิงเซิ่งจู่ (清圣祖) รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์ชิง ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อ (顺治皇帝) และสมเด็จพระมเหสีเซี่ยวคังจาง ตระกูลถงเจีย (孝康章皇后佟佳氏) ประสูติเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ.1654 พระนามเดิมว่า “อ้ายซินเจวี๋ยหลัว เสวียนเย่” (爱新觉罗•玄烨) ขึ้นครองราชย์เมื่อปี ค.ศ.1661 ชื่อรัชสมัยว่า “คังซี” (康熙) จึงออกพระนามรัชกาลตามชื่อรัชสมัยว่า จักรพรรดิคังซี
จักรพรรดิคังซีขึ้นครองราชย์ตั้งแต่พระชนมพรรษาได้เพียง 8 พรรษา (นับอายุตามธรรมเนียมจีน) ออกว่าราชการเองเมื่อพระชนม์ได้ 14 พรรษา นับเป็นจักรพรรดิที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เมื่อแรกครองราชย์ อำนาจทั้งมวลอยู่ในเงื้อมมือของเอ๋าไป้ (鳌拜) ขุนนางจากตระกูลกวาเอ่อร์เจีย (瓜尔佳氏) พระองค์ได้วางอุบายร่วมกับเหล่าขันที กลุ้มรุมสังหารเอ๋าไป้แล้วจึงได้ว่าราชการเอง
วันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ.1722 จักรพรรดิคังซีสวรรคต ณ ช่างชุนหยวน ได้รับขนานพระนามว่า เซิ่งจู่ (圣祖) พระนามเต็ม “สมเด็จพระจักรพรรดิเหอเทียนหงยวิ่นเหวินอู่รุ่ยเจ๋อกงเจี่ยนควานอวี้เซี่ยวจิ้งเฉิงซิ่นกงเต๋อต้าเฉิงเหริน” (合天弘运文武睿哲恭俭宽裕孝敬诚信功德大成仁皇帝)
ราชสำนักฝ่ายใน
ภาพจากซีรีย์เรื่อง 《大清江山之龙胆花》
สมเด็จพระอัยยิกาเจาเซิ่ง ตระกูลป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ (昭圣太皇太后博尔济吉特氏) พระมเหสีในจักรพรรดิหวางไท่จี๋และเป็นพระราชมารดาในจักรพรรดิซุ่นจื้อ ทั้งนี้จึงมีศักดิ์เป็นพระอัยยิกา (ย่า) ของจักรพรรดิคังซีนั่นเอง
พระอัยยิกาเจาเซิ่ง ประสูติเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ.1613 เป็นพระธิดาของป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ ปู้เหอ (博尔济吉特•布和) องค์ชายเป้ยเล่อแห่งเคอเอ่อร์ชิ่น อาณาจักรมองโกล พระนางมีพระนามว่า “ปู้มู่ปู้ไท่” (布木布泰) เสกสมรสกับหวางไท่จี๋ องค์รัชทายาทอาณาจักรโฮ่วจิน เป็นพระชายารอง เมื่อพระสวามีขึ้นครองราชย์ จึงได้รับสถาปนาเป็น พระชายาแห่งตำหนักตะวันตก (西宫福晋) โดยพระชายาเอกเดิม ขึ้นเป็นสมเด็จพระชายาแห่งตำหนักกลาง (正宫大福晋)
เมื่อหวางไท่จี๋ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งแผ่นดินจีน จึงได้สถาปนาพระราชวงศ์ฝ่ายในขึ้น เรียกกันว่า “ห้าตำหนักฝ่ายใน” ประกอบด้วย
- สมเด็จพระมเหสีตำหนักชิงหนิง (清宁宫皇后) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ เจ๋อเจ๋อ ที่แต่เดิมเป็นสมเด็จพระชายาแห่งตำหนักกลาง
- พระนางเฉินเฟยแห่งตำหนักกวานจวี (关雎宫宸妃) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ ไห่หลานจู
- พระนางกุ้ยเฟยแห่งตำหนักหลินจื่อ (麟趾宫贵妃) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ น่ามู่จง
- พระนางซูเฟยแห่งตำหนักเหยี่ยนชิ่ง (衍庆宫淑妃) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ ปาเท่อหม่าเจ่า
- พระนางจวงเฟยแห่งตำหนักหย่งฝู (永福宫庄妃) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ ปู้มู่ปู้ไท่
ภาพจากซีรีย์เรื่อง Legend of the Dragon Pearl หรือ 《龙珠传奇之无间道》
รัชศกฉงเต๋อ ปีที่ 3 พระนางจวงเฟยมีพระประสูติกาลพระราชโอรสองค์ที่ 9 ในจักรพรรดิหวางไท่จี๋ พระนามว่า อ้ายซินเจวี๋ยหลัว ฝูหลิน (爱新觉罗•福临)
เมื่อจักรพรรดิหวางไท่จี๋สวรรคต องค์ชายฝูหลินขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิซุ่นจื้อ จึงได้สถาปนาพระราชมารดาขึ้นเป็น “สมเด็จพระราชชนนีพันปี” (圣母皇太后) รัชศกซุ่นจื้อปีที่ 8 จึงสถาปนาพระนามว่า “สมเด็จพระพันปีเจาเซิ่งฉือโซ่ว” (昭圣慈寿皇太后) ออกพระนามแต่โดยย่อว่า พระพันปีเจาเซิ่ง
เมื่อเข้าสู่รัชกาลจักรพรรดิคังซี พระราชนัดดา พระนางก็ยังทรงมีพระนฃชนม์ชีพอยู่ และได้รับสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระอัยยิกา (太皇太后) จวบกระทั่งวันที่ ค.ศ.1688 จึงสิ้นพระชนม์โดยพระอาการประชวร สิริพระชันษาได้ 75 ชันษา จารึกพระนามว่า “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวจวงเหวิน” หรือ “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวจวงเหรินเซวียนเฉิงเซี่ยนกงอี้จื้อเต๋อฉุนฮุยอี้เทียนฉี่เซิ่งเหวิน” (孝庄仁宣诚宪恭懿至德纯徽翊天启圣文皇后)
ภาพจากซีรีย์เรื่อง 《寂寞空庭春欲晚》
สมเด็จพระพันปีหลวงเหรินเซี่ยน ตระกูลป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ (仁宪皇太后博尔济吉特氏) พระมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อ พระธิดาในฉั้วเอ่อร์จี้ (绰尔济) องค์ชายเจิ้นกั๋วกงแห่งเคอเอ่อร์ชิ่น อาณาจักรมองโกล เป็นหลานน้าสมเด็จพระอัยยิกาเจาเซิ่ง
พระนางเข้าวังในรัชศกซุ่นจื้อปีที่ 11 และได้รับสถาปนาเป็นพระมเหสีในวัยเพียง 13 ปี โดยการสนับสนุนของพระพันปีเจาเซิ่ง (พระยศในขณะนั้น) แต่ไม่เป็นที่โปรดปรานเท่าใดนัก และไม่มีพระโอรสธิดาแม้สักพระองค์เดียว
เมื่อสิ้นรัชกาลซุ่นจื้อ จักรพรรดิคังซีขึ้นครองราชย์ จึงได้รับสถาปนาเป็น “สมเด็จพระพันปีหลวง” (嫡母皇太后) ออกพระนามว่า พระพันปีเหรินเซี่ยน คู่กันกับ “สมเด็จพระราชชนนีพันปี” (圣母皇太后) พระราชมารดาของจักรพรรดิคังซี
ในรัชสมัยจักรพรรดิคังซี นอกจากพระอัยยิกาเจาเซิ่งและพระราชมารดาแท้ๆ ของพระองค์แล้ว ก็มีพระพันปีเหรินเซี่ยนอีกองค์ที่พระองค์ให้ความเคารพรักเป็นอย่างยิ่ง พระนางสิ้นพระชนม์เมื่อรัชศกคังซีปีที่ 56 (ค.ศ.1718) สิริพระชันษาได้ 77 ปี ได้รับสถาปนาเป็น “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวฮุ่ยจาง” หรือ “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวฮุ่ยเหรินเซี่ยนตวนอี้ฉือซูกงอันฉุนเต๋อซุ่นเทียนอี้เซิ่งจาง” (孝惠仁宪端懿慈淑恭安纯德顺天翼圣章皇后)
ภาพจากซีรีย์เรื่อง 《多情江山》
สมเด็จพระพันปีฉือเหอ ตระกูลถงเจีย (慈和皇太后佟佳氏) เป็นธิดาของถงถูไล่ (佟图赖) ขุนนางราชสำนักชิง เชื้อสายชาวฮั่น เดิมแซ่ถง (佟氏) ภายหลังจักรพรรดิคังซีได้พระราชทานแซ่ใหม่ให้ว่า ถงเจีย
พระนางประสูติเมื่อปี ค.ศ.1640 เข้าวังถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาในปี ค.ศ.1653 และปีถัดมาก็มีประสูติกาลองค์ชายเสวียนหวา ด้วยวัยเพียง 15 ชันษา จวบกระทั่งปี ค.ศ.1661 องค์ชายเสวียนหวาขึ้นครองราชย์แทนจักรพรรดิซุ่นจื้อ พระนาม จักรพรรดิคังซี จึงสถาปนาพระนางขึ้นเป็น “สมเด็จพระราชชนนีพันปี” (圣母皇太后) ออกพระนามว่า พระพันปีฉือเหอ
แต่ในรัชศกคังซีปีที่ 2 (ค.ศ.1663) พระนางก็สิ้นพระชนม์ด้วยพระชันษาเพียง 24 ปี ได้รับสถาปนาขึ้นเป็น “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวคังจาง” หรือ “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวคังฉือเหอจวงอี้กงฮุ่ยเวินมู่ตวนจิ้งฉงเทียนอวี้เซิ่งจาง” (孝康慈和庄懿恭惠温穆端靖崇天育圣章皇后)
[ประวัติศาสตร์จีน] ราชสำนักฝ่ายในสมัยจักรพรรดิคังซี
สมเด็จพระจักรพรรดิชิงเซิ่งจู่ (清圣祖) รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์ชิง ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อ (顺治皇帝) และสมเด็จพระมเหสีเซี่ยวคังจาง ตระกูลถงเจีย (孝康章皇后佟佳氏) ประสูติเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ.1654 พระนามเดิมว่า “อ้ายซินเจวี๋ยหลัว เสวียนเย่” (爱新觉罗•玄烨) ขึ้นครองราชย์เมื่อปี ค.ศ.1661 ชื่อรัชสมัยว่า “คังซี” (康熙) จึงออกพระนามรัชกาลตามชื่อรัชสมัยว่า จักรพรรดิคังซี
จักรพรรดิคังซีขึ้นครองราชย์ตั้งแต่พระชนมพรรษาได้เพียง 8 พรรษา (นับอายุตามธรรมเนียมจีน) ออกว่าราชการเองเมื่อพระชนม์ได้ 14 พรรษา นับเป็นจักรพรรดิที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เมื่อแรกครองราชย์ อำนาจทั้งมวลอยู่ในเงื้อมมือของเอ๋าไป้ (鳌拜) ขุนนางจากตระกูลกวาเอ่อร์เจีย (瓜尔佳氏) พระองค์ได้วางอุบายร่วมกับเหล่าขันที กลุ้มรุมสังหารเอ๋าไป้แล้วจึงได้ว่าราชการเอง
วันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ.1722 จักรพรรดิคังซีสวรรคต ณ ช่างชุนหยวน ได้รับขนานพระนามว่า เซิ่งจู่ (圣祖) พระนามเต็ม “สมเด็จพระจักรพรรดิเหอเทียนหงยวิ่นเหวินอู่รุ่ยเจ๋อกงเจี่ยนควานอวี้เซี่ยวจิ้งเฉิงซิ่นกงเต๋อต้าเฉิงเหริน” (合天弘运文武睿哲恭俭宽裕孝敬诚信功德大成仁皇帝)
สมเด็จพระอัยยิกาเจาเซิ่ง ตระกูลป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ (昭圣太皇太后博尔济吉特氏) พระมเหสีในจักรพรรดิหวางไท่จี๋และเป็นพระราชมารดาในจักรพรรดิซุ่นจื้อ ทั้งนี้จึงมีศักดิ์เป็นพระอัยยิกา (ย่า) ของจักรพรรดิคังซีนั่นเอง
พระอัยยิกาเจาเซิ่ง ประสูติเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ.1613 เป็นพระธิดาของป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ ปู้เหอ (博尔济吉特•布和) องค์ชายเป้ยเล่อแห่งเคอเอ่อร์ชิ่น อาณาจักรมองโกล พระนางมีพระนามว่า “ปู้มู่ปู้ไท่” (布木布泰) เสกสมรสกับหวางไท่จี๋ องค์รัชทายาทอาณาจักรโฮ่วจิน เป็นพระชายารอง เมื่อพระสวามีขึ้นครองราชย์ จึงได้รับสถาปนาเป็น พระชายาแห่งตำหนักตะวันตก (西宫福晋) โดยพระชายาเอกเดิม ขึ้นเป็นสมเด็จพระชายาแห่งตำหนักกลาง (正宫大福晋)
เมื่อหวางไท่จี๋ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งแผ่นดินจีน จึงได้สถาปนาพระราชวงศ์ฝ่ายในขึ้น เรียกกันว่า “ห้าตำหนักฝ่ายใน” ประกอบด้วย
- สมเด็จพระมเหสีตำหนักชิงหนิง (清宁宫皇后) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ เจ๋อเจ๋อ ที่แต่เดิมเป็นสมเด็จพระชายาแห่งตำหนักกลาง
- พระนางเฉินเฟยแห่งตำหนักกวานจวี (关雎宫宸妃) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ ไห่หลานจู
- พระนางกุ้ยเฟยแห่งตำหนักหลินจื่อ (麟趾宫贵妃) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ น่ามู่จง
- พระนางซูเฟยแห่งตำหนักเหยี่ยนชิ่ง (衍庆宫淑妃) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ ปาเท่อหม่าเจ่า
- พระนางจวงเฟยแห่งตำหนักหย่งฝู (永福宫庄妃) ป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ ปู้มู่ปู้ไท่
รัชศกฉงเต๋อ ปีที่ 3 พระนางจวงเฟยมีพระประสูติกาลพระราชโอรสองค์ที่ 9 ในจักรพรรดิหวางไท่จี๋ พระนามว่า อ้ายซินเจวี๋ยหลัว ฝูหลิน (爱新觉罗•福临)
เมื่อจักรพรรดิหวางไท่จี๋สวรรคต องค์ชายฝูหลินขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิซุ่นจื้อ จึงได้สถาปนาพระราชมารดาขึ้นเป็น “สมเด็จพระราชชนนีพันปี” (圣母皇太后) รัชศกซุ่นจื้อปีที่ 8 จึงสถาปนาพระนามว่า “สมเด็จพระพันปีเจาเซิ่งฉือโซ่ว” (昭圣慈寿皇太后) ออกพระนามแต่โดยย่อว่า พระพันปีเจาเซิ่ง
เมื่อเข้าสู่รัชกาลจักรพรรดิคังซี พระราชนัดดา พระนางก็ยังทรงมีพระนฃชนม์ชีพอยู่ และได้รับสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระอัยยิกา (太皇太后) จวบกระทั่งวันที่ ค.ศ.1688 จึงสิ้นพระชนม์โดยพระอาการประชวร สิริพระชันษาได้ 75 ชันษา จารึกพระนามว่า “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวจวงเหวิน” หรือ “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวจวงเหรินเซวียนเฉิงเซี่ยนกงอี้จื้อเต๋อฉุนฮุยอี้เทียนฉี่เซิ่งเหวิน” (孝庄仁宣诚宪恭懿至德纯徽翊天启圣文皇后)
สมเด็จพระพันปีหลวงเหรินเซี่ยน ตระกูลป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ (仁宪皇太后博尔济吉特氏) พระมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อ พระธิดาในฉั้วเอ่อร์จี้ (绰尔济) องค์ชายเจิ้นกั๋วกงแห่งเคอเอ่อร์ชิ่น อาณาจักรมองโกล เป็นหลานน้าสมเด็จพระอัยยิกาเจาเซิ่ง
พระนางเข้าวังในรัชศกซุ่นจื้อปีที่ 11 และได้รับสถาปนาเป็นพระมเหสีในวัยเพียง 13 ปี โดยการสนับสนุนของพระพันปีเจาเซิ่ง (พระยศในขณะนั้น) แต่ไม่เป็นที่โปรดปรานเท่าใดนัก และไม่มีพระโอรสธิดาแม้สักพระองค์เดียว
เมื่อสิ้นรัชกาลซุ่นจื้อ จักรพรรดิคังซีขึ้นครองราชย์ จึงได้รับสถาปนาเป็น “สมเด็จพระพันปีหลวง” (嫡母皇太后) ออกพระนามว่า พระพันปีเหรินเซี่ยน คู่กันกับ “สมเด็จพระราชชนนีพันปี” (圣母皇太后) พระราชมารดาของจักรพรรดิคังซี
ในรัชสมัยจักรพรรดิคังซี นอกจากพระอัยยิกาเจาเซิ่งและพระราชมารดาแท้ๆ ของพระองค์แล้ว ก็มีพระพันปีเหรินเซี่ยนอีกองค์ที่พระองค์ให้ความเคารพรักเป็นอย่างยิ่ง พระนางสิ้นพระชนม์เมื่อรัชศกคังซีปีที่ 56 (ค.ศ.1718) สิริพระชันษาได้ 77 ปี ได้รับสถาปนาเป็น “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวฮุ่ยจาง” หรือ “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวฮุ่ยเหรินเซี่ยนตวนอี้ฉือซูกงอันฉุนเต๋อซุ่นเทียนอี้เซิ่งจาง” (孝惠仁宪端懿慈淑恭安纯德顺天翼圣章皇后)
สมเด็จพระพันปีฉือเหอ ตระกูลถงเจีย (慈和皇太后佟佳氏) เป็นธิดาของถงถูไล่ (佟图赖) ขุนนางราชสำนักชิง เชื้อสายชาวฮั่น เดิมแซ่ถง (佟氏) ภายหลังจักรพรรดิคังซีได้พระราชทานแซ่ใหม่ให้ว่า ถงเจีย
พระนางประสูติเมื่อปี ค.ศ.1640 เข้าวังถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาในปี ค.ศ.1653 และปีถัดมาก็มีประสูติกาลองค์ชายเสวียนหวา ด้วยวัยเพียง 15 ชันษา จวบกระทั่งปี ค.ศ.1661 องค์ชายเสวียนหวาขึ้นครองราชย์แทนจักรพรรดิซุ่นจื้อ พระนาม จักรพรรดิคังซี จึงสถาปนาพระนางขึ้นเป็น “สมเด็จพระราชชนนีพันปี” (圣母皇太后) ออกพระนามว่า พระพันปีฉือเหอ
แต่ในรัชศกคังซีปีที่ 2 (ค.ศ.1663) พระนางก็สิ้นพระชนม์ด้วยพระชันษาเพียง 24 ปี ได้รับสถาปนาขึ้นเป็น “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวคังจาง” หรือ “สมเด็จพระมเหสีเซี่ยวคังฉือเหอจวงอี้กงฮุ่ยเวินมู่ตวนจิ้งฉงเทียนอวี้เซิ่งจาง” (孝康慈和庄懿恭惠温穆端靖崇天育圣章皇后)