เราเริ่มปั่นจักรยานตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้วค่ะ
ที่เริ่มปั่นเพราะน้ำหนักขึ้นเยอะมาก
ตอนเริ่มปั่นน้ำหนักประมาณ87ค่ะ
ก็เริ่มจากรถทัวร์ริ่งเก่าๆคันนึง
ปั่นวันละ10-15กิโล
ปั่นเบาๆรอบๆเมืองพอได้เหงื่อประมาณวันละ1ชั่วโมงแค่นั้นค่ะ
พอปลายๆปีเริ่มไปกับกลุ่มพี่ๆเสือภูเขา
เค้าก็เริ่มพาลากไปไกลขึ้นค่ะ
20-30กิโล ความเร็วก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
หลังๆเริ่มมั่นใจ
ถ้าไม่ไปกับกลุ่มก็ไปคนเดียวตลอด
จนหลังๆเริ่มไม่ง้อไม่รอกลุ่มเค้าชวนแล้ว
ออกคนเดียวก็ได้
ทีนี้เริ่มสนุกกับการปั่นแล้ว
ตอนต้นปีนี้เลยเปลี่ยนจากทัวร์ริ่งแก่ๆคันนั้นเป็นเสือหมอบค่ะ
หลังจากที่ใช้ไมล์แบบวัดรอบล้อธรรมดาๆ
ก็เปลี่ยนเป็นไมล์แบบGPS
พอsyncกับแอปแล้วมีกราฟนู่นนี่นั่นมันเท่สุดๆ!
ยิ่งเห็นความเร็วเฉลี่ย25+แล้วมันภาคภูมิใจจัง
ก็ปั่นๆๆจนAVสูงสุดขึ้นไปถึง27+เลยค่ะ
อยู่มาวันนึง
รู้สึกว่าหลังปั่นทำไมมันเหนื่อยนานจัง
เหมือนหัวใจมันเต้นแรงตลอด
ทั้งที่ปั่นเสร็จ อาบน้ำ กินข้าว นอนเล่นเป็นชั่วโมงแล้ว
หัวใจยังเต้น100นิดๆอยู่เลย
แถมเป็นอย่างนี้อยู่หลายวันเลย
จะว่าเป็นเพราะน้ำหนักลดลงด้วยก็ไม่น่าจะเป็นขนาดนี้
ก็เลยไปเซิร์ชหาเรื่องHeart Rateดูค่ะ
พออ่านแล้วก็...
เออหว่ะ...ที่ผ่านมามองแต่ความเร็วอย่างเดียว
มีแรงเท่าไหร่ก็ใส่ไปจนหมดทุกวัน
มันถึงได้มีอาการแบบนี้แน่ๆ
ก็เลยลองซื้อHRแบบคาดอกมาใช้ค่ะ
วันแรกที่ใส่ เราลองไม่ตั้งค่าให้ไมล์มันโชว์HR
เพื่อจะดูว่าเวลาปั่นแบบเต็มแรงที่ปั่นอยู่เนี่ยHRมันวิ่งไปเท่าไหร่
วันนั้นปั่นไป36กิโลค่ะ AV25.9 HRเฉลี่ย153!!!
ปั่นทุกวันโดยที่HRมันกระฉูดขนาดนี้นี่เองมันก็เลยเหนื่อยสะสมขนาดนั้น
หลังจากวันนั้นก็เลยพยายามคุมให้อยู่ในโซน2ค่ะ
ช่วงแรกๆมันช่างขัดใจนัก
จากที่เคยปั่นAV25+ก็ลงมาเหลือแค่21-22
จากที่เคยขึ้นเนินเดิมๆที่ความเร็ว15-16kmh...โดยที่HRพุ่งไป175-180
พอเริ่มคุมโซนแล้วตอนขึ้นเนินนี้ก็พยายามคุมHRให้ไม่เกิน160
ความเร็วก็เหลือแค่7-8kmhแค่นั้นเอง...แทบจะกระดื๊บขึ้นเลยค่ะ
พี่ๆน้าๆลุงๆที่เคยเห็นเราปั่นเร็วๆก็คงจะงงๆแล้วคงคิดว่า
เมื่อก่อนคนนี้มันปั่นแซงเราเดี๋ยวนี้ทำไมมันกระดื๊บแบบนี้วะ??
จนกระทั่งตอนนี้...เราคุมHRให้อยู่ในโซน2มาได้4เดือนแล้วค่ะ
ตอนนี้AVขึ้นมาอยู่ที่23-24กว่าๆแล้ว
ส่วนHRก็อยู่ประมาณ135-140ค่ะ
ตอนขึ้นเนินความเร็วอยู่ที่11-12
ส่วนHRตอนขึ้นเนินประมาณ150-155ค่ะ
แถมเดี๋ยวนี้ขยับขึ้นไปปั่นได้40-45กิโล
แล้วก็ไม่รู้สึกเหนื่อยสะสมเหมือนเมื่อก่อนด้วย
น้ำหนักตัวค้างอยู่ที่74มา3เดือนแล้วค่ะ
แต่เสื้อกับกางเกงจักรยานที่เคยใส่ไซส์XL
ตอนนี้ต้องลดลงเป็นLแล้วค่ะ
เหมือนตัวเลขน้ำหนักมันไม่ลด แต่ร่างกายมันกระชับขึ้นค่ะ
พี่ๆกลุ่มเสือภูเขาที่เคยไปปั่นด้วยกัน
เค้าก็ถามว่าทำไมเปลี่ยนเป็นเสือหมอบแล้วปั่นช้ากว่าเก่า
เราก็บอกว่าเราปั่นคุมโซนหัวใจอยู่
พี่เค้าก็ขำๆกันค่ะ...เหมือนเค้าปั่นเอามันๆเอาเร็วๆเหมือนเราเมื่อก่อน
ตอนช่วงที่เพิ่งคุมโซน2ได้ประมาณเดือนนึง
เราเคยไปกับพี่กลุ่มเสือหมอบอีกกลุ่มนึง
พอดีไปเจอกันกลางทางตอนติดไฟแดงแล้วเค้าก็ชวนไปด้วยกัน
โอ้โห~พวกพี่ลุ่มนี้เค้าแอดวานซ์มาก
พี่เค้าปั่นกัน28-30 เราลองถามเค้าว่าHRพี่เค้าเท่าไหร่
เค้าบอกว่า120กว่าเอง...
ซึ่งHRของเราตอนนั้นซัดไป160แล้ว
เลยต้องขอออกจากกลุ่มกลางทาง
เพื่อกลับไปคุมโซนของเราต่อ
กลายเป็นว่ากลัวการขึ้นเกินโซน2ไปเลยค่ะ555~
ตอนนี้ก็พอใจกับHRประมาณนี้แล้วนะคะ
เรื่องความเร็วก็ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ
ใครจะมองว่ายัยเสือหมอบคันนี้ทำไมปั่นช้าจังเราก็ไม่สนใจแล้วค่ะ
เพราะเราก็ไม่ได้ซ้อมไปแข่งที่ไหน
ตั้งใจจะปั่นลดน้ำหนัก...ปั่นออกกำลังกกายอยู่แล้วด้วย
ก็คงจะปั่นกินลมชมวิวที่โซน2ไปตลอดนี่แหล่ะค่ะ
สุดท้ายนี้ออกกำลังกายอย่าหักโหมกันนะคะ
ออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพกันดีว่าค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
ผลจาการปั่นคุมโซน2ค่ะ^^
ที่เริ่มปั่นเพราะน้ำหนักขึ้นเยอะมาก
ตอนเริ่มปั่นน้ำหนักประมาณ87ค่ะ
ก็เริ่มจากรถทัวร์ริ่งเก่าๆคันนึง
ปั่นวันละ10-15กิโล
ปั่นเบาๆรอบๆเมืองพอได้เหงื่อประมาณวันละ1ชั่วโมงแค่นั้นค่ะ
พอปลายๆปีเริ่มไปกับกลุ่มพี่ๆเสือภูเขา
เค้าก็เริ่มพาลากไปไกลขึ้นค่ะ
20-30กิโล ความเร็วก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
หลังๆเริ่มมั่นใจ
ถ้าไม่ไปกับกลุ่มก็ไปคนเดียวตลอด
จนหลังๆเริ่มไม่ง้อไม่รอกลุ่มเค้าชวนแล้ว
ออกคนเดียวก็ได้
ทีนี้เริ่มสนุกกับการปั่นแล้ว
ตอนต้นปีนี้เลยเปลี่ยนจากทัวร์ริ่งแก่ๆคันนั้นเป็นเสือหมอบค่ะ
หลังจากที่ใช้ไมล์แบบวัดรอบล้อธรรมดาๆ
ก็เปลี่ยนเป็นไมล์แบบGPS
พอsyncกับแอปแล้วมีกราฟนู่นนี่นั่นมันเท่สุดๆ!
ยิ่งเห็นความเร็วเฉลี่ย25+แล้วมันภาคภูมิใจจัง
ก็ปั่นๆๆจนAVสูงสุดขึ้นไปถึง27+เลยค่ะ
อยู่มาวันนึง
รู้สึกว่าหลังปั่นทำไมมันเหนื่อยนานจัง
เหมือนหัวใจมันเต้นแรงตลอด
ทั้งที่ปั่นเสร็จ อาบน้ำ กินข้าว นอนเล่นเป็นชั่วโมงแล้ว
หัวใจยังเต้น100นิดๆอยู่เลย
แถมเป็นอย่างนี้อยู่หลายวันเลย
จะว่าเป็นเพราะน้ำหนักลดลงด้วยก็ไม่น่าจะเป็นขนาดนี้
ก็เลยไปเซิร์ชหาเรื่องHeart Rateดูค่ะ
พออ่านแล้วก็...
เออหว่ะ...ที่ผ่านมามองแต่ความเร็วอย่างเดียว
มีแรงเท่าไหร่ก็ใส่ไปจนหมดทุกวัน
มันถึงได้มีอาการแบบนี้แน่ๆ
ก็เลยลองซื้อHRแบบคาดอกมาใช้ค่ะ
วันแรกที่ใส่ เราลองไม่ตั้งค่าให้ไมล์มันโชว์HR
เพื่อจะดูว่าเวลาปั่นแบบเต็มแรงที่ปั่นอยู่เนี่ยHRมันวิ่งไปเท่าไหร่
วันนั้นปั่นไป36กิโลค่ะ AV25.9 HRเฉลี่ย153!!!
ปั่นทุกวันโดยที่HRมันกระฉูดขนาดนี้นี่เองมันก็เลยเหนื่อยสะสมขนาดนั้น
หลังจากวันนั้นก็เลยพยายามคุมให้อยู่ในโซน2ค่ะ
ช่วงแรกๆมันช่างขัดใจนัก
จากที่เคยปั่นAV25+ก็ลงมาเหลือแค่21-22
จากที่เคยขึ้นเนินเดิมๆที่ความเร็ว15-16kmh...โดยที่HRพุ่งไป175-180
พอเริ่มคุมโซนแล้วตอนขึ้นเนินนี้ก็พยายามคุมHRให้ไม่เกิน160
ความเร็วก็เหลือแค่7-8kmhแค่นั้นเอง...แทบจะกระดื๊บขึ้นเลยค่ะ
พี่ๆน้าๆลุงๆที่เคยเห็นเราปั่นเร็วๆก็คงจะงงๆแล้วคงคิดว่า
เมื่อก่อนคนนี้มันปั่นแซงเราเดี๋ยวนี้ทำไมมันกระดื๊บแบบนี้วะ??
จนกระทั่งตอนนี้...เราคุมHRให้อยู่ในโซน2มาได้4เดือนแล้วค่ะ
ตอนนี้AVขึ้นมาอยู่ที่23-24กว่าๆแล้ว
ส่วนHRก็อยู่ประมาณ135-140ค่ะ
ตอนขึ้นเนินความเร็วอยู่ที่11-12
ส่วนHRตอนขึ้นเนินประมาณ150-155ค่ะ
แถมเดี๋ยวนี้ขยับขึ้นไปปั่นได้40-45กิโล
แล้วก็ไม่รู้สึกเหนื่อยสะสมเหมือนเมื่อก่อนด้วย
น้ำหนักตัวค้างอยู่ที่74มา3เดือนแล้วค่ะ
แต่เสื้อกับกางเกงจักรยานที่เคยใส่ไซส์XL
ตอนนี้ต้องลดลงเป็นLแล้วค่ะ
เหมือนตัวเลขน้ำหนักมันไม่ลด แต่ร่างกายมันกระชับขึ้นค่ะ
พี่ๆกลุ่มเสือภูเขาที่เคยไปปั่นด้วยกัน
เค้าก็ถามว่าทำไมเปลี่ยนเป็นเสือหมอบแล้วปั่นช้ากว่าเก่า
เราก็บอกว่าเราปั่นคุมโซนหัวใจอยู่
พี่เค้าก็ขำๆกันค่ะ...เหมือนเค้าปั่นเอามันๆเอาเร็วๆเหมือนเราเมื่อก่อน
ตอนช่วงที่เพิ่งคุมโซน2ได้ประมาณเดือนนึง
เราเคยไปกับพี่กลุ่มเสือหมอบอีกกลุ่มนึง
พอดีไปเจอกันกลางทางตอนติดไฟแดงแล้วเค้าก็ชวนไปด้วยกัน
โอ้โห~พวกพี่ลุ่มนี้เค้าแอดวานซ์มาก
พี่เค้าปั่นกัน28-30 เราลองถามเค้าว่าHRพี่เค้าเท่าไหร่
เค้าบอกว่า120กว่าเอง...
ซึ่งHRของเราตอนนั้นซัดไป160แล้ว
เลยต้องขอออกจากกลุ่มกลางทาง
เพื่อกลับไปคุมโซนของเราต่อ
กลายเป็นว่ากลัวการขึ้นเกินโซน2ไปเลยค่ะ555~
ตอนนี้ก็พอใจกับHRประมาณนี้แล้วนะคะ
เรื่องความเร็วก็ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ
ใครจะมองว่ายัยเสือหมอบคันนี้ทำไมปั่นช้าจังเราก็ไม่สนใจแล้วค่ะ
เพราะเราก็ไม่ได้ซ้อมไปแข่งที่ไหน
ตั้งใจจะปั่นลดน้ำหนัก...ปั่นออกกำลังกกายอยู่แล้วด้วย
ก็คงจะปั่นกินลมชมวิวที่โซน2ไปตลอดนี่แหล่ะค่ะ
สุดท้ายนี้ออกกำลังกายอย่าหักโหมกันนะคะ
ออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพกันดีว่าค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ