ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมเป็นคนที่รักครอบครัวมากแต่ไม่ได้ลงรอยกับพกวเขา คือเป็นห่วงเป็นใยขั้นสุดแต่คุยกันไม่ได้เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันแต่เด็ก
ตอนนี้อยู่ ม.5 แล้วครับ โดนบ่นตลอดว่าเป็นเด็กไม่ดี ขนาดผมแค่ไปเข้าร้านเกมตามปกติเขาก็ดุผมจนผมน้ำตาคลอเลย ผมร้องไห้ยากกับทึกอย่างแต่หวั่นไหวง่ายเฉพาะกับคนในครอบครัวนี่แหละครับ
คนที่บ้านโดยเฉพาะยายจะชอบเอาเรื่องผมสมัยเด็กมาพูด ส่วนแม่ก็เข้มงวดมาก ผมต้องนอนก่อน 3 ทุ่ม!! จนเพื่อนที่ รร. ล้อผมว่าผมคือพละจากซีรีส์วัยรุ่นเรื่องฮอร์โมน (ตัวละครที่ชื่อพละก็มีคนในครอบครัวดูแลอย่างเข้มงวดเหมือนกันครับ) และเรื่องเก็บรองเท้านี่โดนประจำ! คือบางทีผมก็สงสัยนะว่ารองเท้าเนี่ยมันจะพังเหรอถ้าอยู่ข้างนอก? ถ้าฝนตกจนมันเปียกก็ใส่ไปทั้งแบบนั้นแหละ แล้วค่อยถอดไปตากที่ระเบียงอาคารเรียนแล้วเดินเท้าเปล่าก็ได้ คือผมเป็นสายซกมกเถอะเอาง่ายๆ แต่บ้านรักสะอาดมาก และอีกหลายๆอย่างทำให้ไม่ลงรอยกัน
แต่ไอ้ตัวผมตอนเด็กก็น่าจะเป็นสาเหตุที่ผมไม่ลงรอยกับเขานี่แหละครับ เพราะผมดื้อมาก จะอยู่แต่กับพ่อ (พ่อกับแม่หย่ากันและแยกกันอยู่) เวลาพ่อมาหาแล้วขับรถกลับบ้านปู่กับย่า ผมก็จะวิ่งตามรถพ่อแบบไม่หยุดความพยายามจนพ่อต้องเอาผมกลับมาส่ง โดนพ่อตีตูดช้ำเลย 555 และอีกเหตุการณ์คือผมความอดทนต่ำแต่เด็ก หัวร้อนง่าย เวลาไปงานศพ งานแต่งงาน ถ้าต้องรอนานผมจะเริ่มทำการคว่ำเก้าอี้ที่ไม่มีคนนั่งด้วยสีหน้ากวนบาทา จนญาติของผมบอกว่าถ้าผมเป็นลูกเขาจะตีให้ตาย ผมก็ไปทำหน้ากวนส้นใส่เขาอีก! ขำตัวเอง ตอนเด็กน่าตีจริงๆ! 😂 แต่เดี๋ยวนี้เลิกดื้อแบบนั้นแล้วครับ
ที่บ้านแทบไม่ตามใจทางด้านรสนิยมหรือความชอบอะไรผมเลยครับ จนผมเครียดจนร้องไห้นั้นแหละ ตามใจกันใหญ่ แต่ถามว่ายังแอบเข้มไหม เข้มข้นนนนน! (ยังไม่มั่นใจนะว่าเขายอมรับที่ผมเป็นไบรึเปล่า ก่อนหน้านี้ผมบอกว่าผมชอบทุกเพศ เขาเบ้ะปากด้วย)
ผมก็คิดว่าเขาคงจะเป็นแบบนี้กับเด็กทุกคน ที่ไหนได้! โว๊ะ! ถ้าไม่เลวจริงเขาไม่ด่าเลย ขนาดคนมาขโมยมือถือผมหรือมีคนมาตีผมจนเข้า รพ. เขาก็ไม่เอาเรื่อง คือไม่เอาเรื่องไม่เท่าไหร่ แต่ไม่ช่วยเคลียนี่อะไร? แถมไม่ว่าอะไรคนทำร้ายผมเลย ไม่พูดว่าเด็กคนนั้นแย่สักนิดเลยรึ? และมันชัดเจนมากสุดๆตอนที่น้าผมมีลูกชาย ซึ่งมันแบบว่า...เป็นผมตอนเด็กแบบโคลนนิ่งอะ ต่างกันแค่ร่าเริงกว่า แต่ระดับความเสียงดังและขี้โวยวายมันพอกันเลย
ผมนั่งในรถข้างเด็กคนนั้น มันก็เคี้ยวขนมหมับๆแล้วปาถุงขยะทิ้งลงพื้น ซึ่งสำหรับผมมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ผมอยากจะบอกว่า...ลูก~ ไม่ดีนะครับ อย่าทิ้งขยะไม่เป็นที่ แต่ไม่กล้าพูด แล้วเด็กคนนี้เสียงดังขั้นสุด ทีผมเสียงดังตอนเด็กนี่โดนด่ายับ ทีกับเด็กคนนี้ดันชม 555 แถมมันแผลงฤทธิ์ได้น่ากลัวมาก ตอนน้าของผมอีกคนตาแดงๆมาเพราะเพิ่งตื่น(สภาพน่ากลัวสำหรับเด็ก) เด็กชายผู้นั้นมันก็กรี๊ดโวยวาย บอกให้ยายตีมัน หึหึ ร้ายกาจ แสดงว่าที่บ้านเลี้ยงมาแบบใครทำอะไรให้หนูก็จะตีให้ใช่ไหม?
และเด็กคนนั้นร้องเพลง ยายกับแม่ผมก็อวยมากว่ากล้าแสดงออก ตอนผมอยากไปประกวดร้องเพลงดันมาหัวเราะเยาะผม เอ้า! เต็มที่ครับ! ผมแอบร้องไห้อยู่เยาะหลังรถตอนเดินทางไปต่างจังหวัดเพราะเขาหัวเราะน่ะเจายังไม่รู้เลย (ผมเก่ง ผมร้องไม่มีเสียง น้ำตาไหลอย่างเดียว ตาไม่บวมไม่แดงด้วย แค่ก้มหน้าไว้ก็ยากจะมีใครรู้)
ขนาดเด็กหรือเพื่อนผมบางคนที่ไม่ใช่ญาติยังอวยเลย เช่น เพื่อนสนิทผมเป็นสาย เ สื อ ก มันก็รู้เยอะรู้มาก ยายกับแม่ผมก็อวยว่าเขารู้เยอะต่างจากผมที่เอาแต่นั่งๆนอนๆในบ้าน หรือเด็กข้างบ้านกินข้าวเยอะ เขาก็จะอวยว่าเด็กคนนั้นกินเก่งไม่เหมือนผมที่เลือกกินเฉพาะของชอบ ซึ่งมันทำให้ผมเถียงเขาไปตรงๆ พอเขาโต้ผมกลับไม่ได้ก็จะใช้คำพูดเดิมว่า "ลูกก็เป็นคนแบบนี้ไง" เอ้า?! ก็เป็นแบบนี้ไง บนโลกนี้มีผมแค่คนเดียว! ผมจะไปเหมือนใครได้ยังไง?
ขนาดน้องชายต่างแม่ เขาก็เอาผมไปเปรียบเทียบ ดูน้องซิ น้องเรียนสายภาษาอังกฤษโปรแกรมยังได้เกรดดีกว่าแกเลย แกเรียนสายวิทย์คณิตยังไงให้โง่แบบนี้เนี่ย...โว้ย!!! อยากจะบ้า!
ถามว่าทั้งหมดนี้เพราะอิจฉาคนอื่นใช่หรือไม่ ขอบอกไว้ตรงนี้ให้ชัดเจนเลยนะครับว่า "ใช่" ... 💔
แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ดีกับผมเลยนะครับ...อ๋อ ล่าสุดเขาจะลากผมไปเที่ยวกับเด็กร้ายกาจด้วยแหละ ทั้งที่ผมนัดกับพ่อไว้แล้ว เขาก็มาบอกให้ยกเลิกเฉย! แน่นอนว่าผมไม่ยอมครับ น้องชายผม 3 คนที่ว่าดื้อก็ไม่ได้เสียงดังนะ ผมทนได้กับสไตล์การกวนส้นของน้องชายต่างแม่ของผม มันดีกว่าการไปทนเรียนกับคอร์สสายวิทย์-คณิตแต่เช้ายันเย็น ไม่เย็นสิ ดึกเลย 09:00-20:00 ไม่มีเบรกมื้อเที่ยง พอผมไม่กินก็ด่าอีก ใครจะไปมีเวลากินวะ ตารางแน่นโคตรๆ จนผมสนิทกับครูสอนคณิตเพราะไปนั่งกินข้าวด้วยท่าทางตายอดตายอยากจนครูเขามานั่งคุยด้วยเนี้ยแหละว่าเจออะไรมา แต่ไม่เคยเล่าว่าผมเครียดจนผมเกือบฆ่าตัวตายด้วยยาพารา ที่ไม่ฆ่าตัวตายเพราะเสิร์ชเน็ตไปเจอว่ามันไม่ตายง่ายๆนี่แหละครับ อ่านแล้วทรมานโคตร ไม่ตายก็ได้วะ
หรือถ้าผมตายนะ ไม่แน่ เขาอาจจะเปรียบเทียบศพผมกับศพคนอื่นก็ได้ว่าผมตายได้น่าสมเพชมากๆ
ขนาดพวกแว๊นสก๊อยตลาดล่าง เขายังเอาข้อดีมาจนได้ ว่าพวกมันชอบออกไปข้างนอกบ้านและรู้จักหาเพื่อนมากกว่าผม คือผมรักบ้าน รักบ้าน! รักสัตว์เลี้ยง! รักครอบครัว! ผมไม่ต้องมีเพื่อนก็ได้! แถมยายผมยังชอบบอกเพื่อนผมด้วยว่าผมเป็นคนที่คบคนไปงั้นๆ ไม่ได้รักหรือห่วงใยอะไร ช่วยทำให้เขามีเพื่อนจริงๆหน่อย ขอพูดตรงๆเลยว่าสำหรับเพื่อนแล้ว ผมไม่สนพวกมันเท่าไหร่ สมมติว่าต่อยากนี้จะไม่เจอกันอีกแล้ว ผมก็ไม่สะทกสะท้าน อาจเป็ยเพราะที่บ้านเข้มงวดกับผมมาก ตอนเด็กผมไม่ได้ออกจากบ้าน ไม่ค่อยมีเพื่อน (เพราะพอเพื่อนมาบ้านก็จะโดนยายผมดุว่าทำห้องรก ผมเลยตัดปัญหาแบบดาดๆแต่เด็กคือไม่เล่นกับเพื่อน โตมาก็ตัดปัญหาแบบนี้เหมือนกันครับ นิสัยนี้แก้ยากจริงๆ 😂) พอไม่มีเพื่อนมาแต่เด็ก ผมก็เลยไม่ค่อยสนคนที่ผมไม่ได้ชอบหรือรักจริงๆสักเท่าไหร่ และผมกับเพื่อนก็ไม่ได้ลงรอยกันทุกคน ผมมีเพื่อนสนิทแค่ 2 คน อันที่จริงอาจจะ 1 เพราะผมเป็นคนตัดปัญหาแบบหน้าด้าน เช่น
- ถ้าต้องต่อคิวซื้อข้าวนานเกินไป ผมก็จะไม่กินเลย
- ถ้าส่งใบสมัครไม่ทัน ผมก็จะไม่ไปร้องขอโอกาสรอบ 2 หรืออะไรจากใครทั้งนั้น
- ถ้าต้องเก็บรองเท้าทุกวัน ผมก็จะไม่ใส่เลย (แต่อันนี้ทำไม่ได้เสมอไปเพราะคนที่บ้านจับได้)
- ถ้าผมโดนดุว่าทำให้เสื้อเรียบๆต้องยับ ผมก็จะไม่รีดเสื้อเลย (จะรีดต่อเมื่อมีงานใหญ่จริงๆ)
ผมมองว่ามันก็ออกจะดีนะ ตัดปัญหาแบบคนหน้าด้านน่ะเรื่องจบโคตรเร็ว
แต่บางทีเขาก็มาทำอะไรสักอย่างที่ผมไม่ชอบและมันทำให้ผมตีตัวออกห่างจากเขาเองครับ เช่น ตอนกำลังกินข้าวกับญาติ แม่ผมก็เล่าให้ตนอื่นฟังเฉยว่าผมอยากจะเรียนสาขา digital art ซึ่งผมอยากจะคว่ำโต๊ะโคตรๆ บอกทำไม?! เพราะมันทำให้ญาติเริ่มหันมาสนใจผม จ้องมาที่ผม และเปิดประเด็นคำถามว่า "จบไปจะทำงานอะไร?" ซึ่งแม้แต่ยายผมเองก็ถาม ทำเอาผมอยากล้วงคออ้วกไม่ก็เอาตีนไก่ในจานมาตบหน้าตัวเอง คืออาชีพมันเยอะแต่คนเฒ่าคนแก่แถมไม่รู้จักสักอาชีพที่ผมจะพูด ผมเลยเลือกจะยัดข้าวเหนียวเข้าปากไว้เพื่อให้ตัวเองไม่มีโอกาสตอบ แล้วคนรอบโต๊ะก็เริ่มออกความคิดเห็นที่น่าปากระติบจ้าวเหนียวใส่หัวมากๆ
จบไปออกแบบเว็บไซต์รึเปล่านะ? จะมีงานทำเหรอ? เรียนใน กทม. ด้วยจะรอดเหรอ? กราฟฟิคดีไซน์เนอร์? ออกแบบเสื้อผ้ารึเปล่านะ?
ไม่รู้ก็หยุดพูดมั่วเดาสิวะ! มันไม่ใช่แนวทางผมเลยเว้ย!! ผมอยากเป็นคนวาดภาพประกอบ!! แต่ถ้าพูดออกไป ญาติก็จะถามอีกว่ามันคืออะไร... โคตรMotherง!!! เพราะผมเอาแต่ฝจแบบนี้รึเปล่าก็ไม่รู้เขาเลยไม่อวยผมเท่าไหร่ เพราะผมชอบตีตัวออกห่าง แต่ยังไงก็ไม่เดือดเท่าไอ้นิสัยชอบแอบถ่ายรูปผมหรอก ทั้งตอนป่วย ตอนวาดภาพ ก็เอาภาพผมไปลงเฟสแบบไม่ขอสักคำ และสภาพน่าเกลียดโคตร ป่วยก็คือตาบวม ผิวซีด ปากแห้งแบบคนจะตาย ตอนวาดก็ถ่างขาแล้วค่อมตัวเพื่อวาด ท่าทางเหมือนพยายามจะดม หรรม ตัวเอง แล้วก็มาเม้นท์ภาพวาดผมอีกว่า "อยากเรียน digital art พะนะ" จะเม้นท์ทำไม?! ถ้าญาติรู้ก็จะตาม เ สื อ ก อีกว่ามันคืออะไร!! แล้วก็จะโเนเปรียบเทียบอีกชัวร์ๆ!!
แล้วคุณคิดยังไงครับ? เคยรู้สึกเหมือนผมรึเปล่า? แค่ลูกคนอื่นกระดิกเท้าเขาก็เป็นคนดีกว่าลูกตัวเองแล้ว
ครอบครัวผมอวยทุกคนที่ไม่ใช่ผมรึเปล่า?
ตอนนี้อยู่ ม.5 แล้วครับ โดนบ่นตลอดว่าเป็นเด็กไม่ดี ขนาดผมแค่ไปเข้าร้านเกมตามปกติเขาก็ดุผมจนผมน้ำตาคลอเลย ผมร้องไห้ยากกับทึกอย่างแต่หวั่นไหวง่ายเฉพาะกับคนในครอบครัวนี่แหละครับ
คนที่บ้านโดยเฉพาะยายจะชอบเอาเรื่องผมสมัยเด็กมาพูด ส่วนแม่ก็เข้มงวดมาก ผมต้องนอนก่อน 3 ทุ่ม!! จนเพื่อนที่ รร. ล้อผมว่าผมคือพละจากซีรีส์วัยรุ่นเรื่องฮอร์โมน (ตัวละครที่ชื่อพละก็มีคนในครอบครัวดูแลอย่างเข้มงวดเหมือนกันครับ) และเรื่องเก็บรองเท้านี่โดนประจำ! คือบางทีผมก็สงสัยนะว่ารองเท้าเนี่ยมันจะพังเหรอถ้าอยู่ข้างนอก? ถ้าฝนตกจนมันเปียกก็ใส่ไปทั้งแบบนั้นแหละ แล้วค่อยถอดไปตากที่ระเบียงอาคารเรียนแล้วเดินเท้าเปล่าก็ได้ คือผมเป็นสายซกมกเถอะเอาง่ายๆ แต่บ้านรักสะอาดมาก และอีกหลายๆอย่างทำให้ไม่ลงรอยกัน
แต่ไอ้ตัวผมตอนเด็กก็น่าจะเป็นสาเหตุที่ผมไม่ลงรอยกับเขานี่แหละครับ เพราะผมดื้อมาก จะอยู่แต่กับพ่อ (พ่อกับแม่หย่ากันและแยกกันอยู่) เวลาพ่อมาหาแล้วขับรถกลับบ้านปู่กับย่า ผมก็จะวิ่งตามรถพ่อแบบไม่หยุดความพยายามจนพ่อต้องเอาผมกลับมาส่ง โดนพ่อตีตูดช้ำเลย 555 และอีกเหตุการณ์คือผมความอดทนต่ำแต่เด็ก หัวร้อนง่าย เวลาไปงานศพ งานแต่งงาน ถ้าต้องรอนานผมจะเริ่มทำการคว่ำเก้าอี้ที่ไม่มีคนนั่งด้วยสีหน้ากวนบาทา จนญาติของผมบอกว่าถ้าผมเป็นลูกเขาจะตีให้ตาย ผมก็ไปทำหน้ากวนส้นใส่เขาอีก! ขำตัวเอง ตอนเด็กน่าตีจริงๆ! 😂 แต่เดี๋ยวนี้เลิกดื้อแบบนั้นแล้วครับ
ที่บ้านแทบไม่ตามใจทางด้านรสนิยมหรือความชอบอะไรผมเลยครับ จนผมเครียดจนร้องไห้นั้นแหละ ตามใจกันใหญ่ แต่ถามว่ายังแอบเข้มไหม เข้มข้นนนนน! (ยังไม่มั่นใจนะว่าเขายอมรับที่ผมเป็นไบรึเปล่า ก่อนหน้านี้ผมบอกว่าผมชอบทุกเพศ เขาเบ้ะปากด้วย)
ผมก็คิดว่าเขาคงจะเป็นแบบนี้กับเด็กทุกคน ที่ไหนได้! โว๊ะ! ถ้าไม่เลวจริงเขาไม่ด่าเลย ขนาดคนมาขโมยมือถือผมหรือมีคนมาตีผมจนเข้า รพ. เขาก็ไม่เอาเรื่อง คือไม่เอาเรื่องไม่เท่าไหร่ แต่ไม่ช่วยเคลียนี่อะไร? แถมไม่ว่าอะไรคนทำร้ายผมเลย ไม่พูดว่าเด็กคนนั้นแย่สักนิดเลยรึ? และมันชัดเจนมากสุดๆตอนที่น้าผมมีลูกชาย ซึ่งมันแบบว่า...เป็นผมตอนเด็กแบบโคลนนิ่งอะ ต่างกันแค่ร่าเริงกว่า แต่ระดับความเสียงดังและขี้โวยวายมันพอกันเลย
ผมนั่งในรถข้างเด็กคนนั้น มันก็เคี้ยวขนมหมับๆแล้วปาถุงขยะทิ้งลงพื้น ซึ่งสำหรับผมมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ผมอยากจะบอกว่า...ลูก~ ไม่ดีนะครับ อย่าทิ้งขยะไม่เป็นที่ แต่ไม่กล้าพูด แล้วเด็กคนนี้เสียงดังขั้นสุด ทีผมเสียงดังตอนเด็กนี่โดนด่ายับ ทีกับเด็กคนนี้ดันชม 555 แถมมันแผลงฤทธิ์ได้น่ากลัวมาก ตอนน้าของผมอีกคนตาแดงๆมาเพราะเพิ่งตื่น(สภาพน่ากลัวสำหรับเด็ก) เด็กชายผู้นั้นมันก็กรี๊ดโวยวาย บอกให้ยายตีมัน หึหึ ร้ายกาจ แสดงว่าที่บ้านเลี้ยงมาแบบใครทำอะไรให้หนูก็จะตีให้ใช่ไหม?
และเด็กคนนั้นร้องเพลง ยายกับแม่ผมก็อวยมากว่ากล้าแสดงออก ตอนผมอยากไปประกวดร้องเพลงดันมาหัวเราะเยาะผม เอ้า! เต็มที่ครับ! ผมแอบร้องไห้อยู่เยาะหลังรถตอนเดินทางไปต่างจังหวัดเพราะเขาหัวเราะน่ะเจายังไม่รู้เลย (ผมเก่ง ผมร้องไม่มีเสียง น้ำตาไหลอย่างเดียว ตาไม่บวมไม่แดงด้วย แค่ก้มหน้าไว้ก็ยากจะมีใครรู้)
ขนาดเด็กหรือเพื่อนผมบางคนที่ไม่ใช่ญาติยังอวยเลย เช่น เพื่อนสนิทผมเป็นสาย เ สื อ ก มันก็รู้เยอะรู้มาก ยายกับแม่ผมก็อวยว่าเขารู้เยอะต่างจากผมที่เอาแต่นั่งๆนอนๆในบ้าน หรือเด็กข้างบ้านกินข้าวเยอะ เขาก็จะอวยว่าเด็กคนนั้นกินเก่งไม่เหมือนผมที่เลือกกินเฉพาะของชอบ ซึ่งมันทำให้ผมเถียงเขาไปตรงๆ พอเขาโต้ผมกลับไม่ได้ก็จะใช้คำพูดเดิมว่า "ลูกก็เป็นคนแบบนี้ไง" เอ้า?! ก็เป็นแบบนี้ไง บนโลกนี้มีผมแค่คนเดียว! ผมจะไปเหมือนใครได้ยังไง?
ขนาดน้องชายต่างแม่ เขาก็เอาผมไปเปรียบเทียบ ดูน้องซิ น้องเรียนสายภาษาอังกฤษโปรแกรมยังได้เกรดดีกว่าแกเลย แกเรียนสายวิทย์คณิตยังไงให้โง่แบบนี้เนี่ย...โว้ย!!! อยากจะบ้า!
ถามว่าทั้งหมดนี้เพราะอิจฉาคนอื่นใช่หรือไม่ ขอบอกไว้ตรงนี้ให้ชัดเจนเลยนะครับว่า "ใช่" ... 💔
แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ดีกับผมเลยนะครับ...อ๋อ ล่าสุดเขาจะลากผมไปเที่ยวกับเด็กร้ายกาจด้วยแหละ ทั้งที่ผมนัดกับพ่อไว้แล้ว เขาก็มาบอกให้ยกเลิกเฉย! แน่นอนว่าผมไม่ยอมครับ น้องชายผม 3 คนที่ว่าดื้อก็ไม่ได้เสียงดังนะ ผมทนได้กับสไตล์การกวนส้นของน้องชายต่างแม่ของผม มันดีกว่าการไปทนเรียนกับคอร์สสายวิทย์-คณิตแต่เช้ายันเย็น ไม่เย็นสิ ดึกเลย 09:00-20:00 ไม่มีเบรกมื้อเที่ยง พอผมไม่กินก็ด่าอีก ใครจะไปมีเวลากินวะ ตารางแน่นโคตรๆ จนผมสนิทกับครูสอนคณิตเพราะไปนั่งกินข้าวด้วยท่าทางตายอดตายอยากจนครูเขามานั่งคุยด้วยเนี้ยแหละว่าเจออะไรมา แต่ไม่เคยเล่าว่าผมเครียดจนผมเกือบฆ่าตัวตายด้วยยาพารา ที่ไม่ฆ่าตัวตายเพราะเสิร์ชเน็ตไปเจอว่ามันไม่ตายง่ายๆนี่แหละครับ อ่านแล้วทรมานโคตร ไม่ตายก็ได้วะ
หรือถ้าผมตายนะ ไม่แน่ เขาอาจจะเปรียบเทียบศพผมกับศพคนอื่นก็ได้ว่าผมตายได้น่าสมเพชมากๆ
ขนาดพวกแว๊นสก๊อยตลาดล่าง เขายังเอาข้อดีมาจนได้ ว่าพวกมันชอบออกไปข้างนอกบ้านและรู้จักหาเพื่อนมากกว่าผม คือผมรักบ้าน รักบ้าน! รักสัตว์เลี้ยง! รักครอบครัว! ผมไม่ต้องมีเพื่อนก็ได้! แถมยายผมยังชอบบอกเพื่อนผมด้วยว่าผมเป็นคนที่คบคนไปงั้นๆ ไม่ได้รักหรือห่วงใยอะไร ช่วยทำให้เขามีเพื่อนจริงๆหน่อย ขอพูดตรงๆเลยว่าสำหรับเพื่อนแล้ว ผมไม่สนพวกมันเท่าไหร่ สมมติว่าต่อยากนี้จะไม่เจอกันอีกแล้ว ผมก็ไม่สะทกสะท้าน อาจเป็ยเพราะที่บ้านเข้มงวดกับผมมาก ตอนเด็กผมไม่ได้ออกจากบ้าน ไม่ค่อยมีเพื่อน (เพราะพอเพื่อนมาบ้านก็จะโดนยายผมดุว่าทำห้องรก ผมเลยตัดปัญหาแบบดาดๆแต่เด็กคือไม่เล่นกับเพื่อน โตมาก็ตัดปัญหาแบบนี้เหมือนกันครับ นิสัยนี้แก้ยากจริงๆ 😂) พอไม่มีเพื่อนมาแต่เด็ก ผมก็เลยไม่ค่อยสนคนที่ผมไม่ได้ชอบหรือรักจริงๆสักเท่าไหร่ และผมกับเพื่อนก็ไม่ได้ลงรอยกันทุกคน ผมมีเพื่อนสนิทแค่ 2 คน อันที่จริงอาจจะ 1 เพราะผมเป็นคนตัดปัญหาแบบหน้าด้าน เช่น
- ถ้าต้องต่อคิวซื้อข้าวนานเกินไป ผมก็จะไม่กินเลย
- ถ้าส่งใบสมัครไม่ทัน ผมก็จะไม่ไปร้องขอโอกาสรอบ 2 หรืออะไรจากใครทั้งนั้น
- ถ้าต้องเก็บรองเท้าทุกวัน ผมก็จะไม่ใส่เลย (แต่อันนี้ทำไม่ได้เสมอไปเพราะคนที่บ้านจับได้)
- ถ้าผมโดนดุว่าทำให้เสื้อเรียบๆต้องยับ ผมก็จะไม่รีดเสื้อเลย (จะรีดต่อเมื่อมีงานใหญ่จริงๆ)
ผมมองว่ามันก็ออกจะดีนะ ตัดปัญหาแบบคนหน้าด้านน่ะเรื่องจบโคตรเร็ว
แต่บางทีเขาก็มาทำอะไรสักอย่างที่ผมไม่ชอบและมันทำให้ผมตีตัวออกห่างจากเขาเองครับ เช่น ตอนกำลังกินข้าวกับญาติ แม่ผมก็เล่าให้ตนอื่นฟังเฉยว่าผมอยากจะเรียนสาขา digital art ซึ่งผมอยากจะคว่ำโต๊ะโคตรๆ บอกทำไม?! เพราะมันทำให้ญาติเริ่มหันมาสนใจผม จ้องมาที่ผม และเปิดประเด็นคำถามว่า "จบไปจะทำงานอะไร?" ซึ่งแม้แต่ยายผมเองก็ถาม ทำเอาผมอยากล้วงคออ้วกไม่ก็เอาตีนไก่ในจานมาตบหน้าตัวเอง คืออาชีพมันเยอะแต่คนเฒ่าคนแก่แถมไม่รู้จักสักอาชีพที่ผมจะพูด ผมเลยเลือกจะยัดข้าวเหนียวเข้าปากไว้เพื่อให้ตัวเองไม่มีโอกาสตอบ แล้วคนรอบโต๊ะก็เริ่มออกความคิดเห็นที่น่าปากระติบจ้าวเหนียวใส่หัวมากๆ
จบไปออกแบบเว็บไซต์รึเปล่านะ? จะมีงานทำเหรอ? เรียนใน กทม. ด้วยจะรอดเหรอ? กราฟฟิคดีไซน์เนอร์? ออกแบบเสื้อผ้ารึเปล่านะ?
ไม่รู้ก็หยุดพูดมั่วเดาสิวะ! มันไม่ใช่แนวทางผมเลยเว้ย!! ผมอยากเป็นคนวาดภาพประกอบ!! แต่ถ้าพูดออกไป ญาติก็จะถามอีกว่ามันคืออะไร... โคตรMotherง!!! เพราะผมเอาแต่ฝจแบบนี้รึเปล่าก็ไม่รู้เขาเลยไม่อวยผมเท่าไหร่ เพราะผมชอบตีตัวออกห่าง แต่ยังไงก็ไม่เดือดเท่าไอ้นิสัยชอบแอบถ่ายรูปผมหรอก ทั้งตอนป่วย ตอนวาดภาพ ก็เอาภาพผมไปลงเฟสแบบไม่ขอสักคำ และสภาพน่าเกลียดโคตร ป่วยก็คือตาบวม ผิวซีด ปากแห้งแบบคนจะตาย ตอนวาดก็ถ่างขาแล้วค่อมตัวเพื่อวาด ท่าทางเหมือนพยายามจะดม หรรม ตัวเอง แล้วก็มาเม้นท์ภาพวาดผมอีกว่า "อยากเรียน digital art พะนะ" จะเม้นท์ทำไม?! ถ้าญาติรู้ก็จะตาม เ สื อ ก อีกว่ามันคืออะไร!! แล้วก็จะโเนเปรียบเทียบอีกชัวร์ๆ!!
แล้วคุณคิดยังไงครับ? เคยรู้สึกเหมือนผมรึเปล่า? แค่ลูกคนอื่นกระดิกเท้าเขาก็เป็นคนดีกว่าลูกตัวเองแล้ว