เมตาบอลิซึม (metabolism) ก็เป็นกระบวนการเมตตานี่เอง
เมตาบอลิซึม (metabolism) คือ กระบวนการสร้างและสลาย กระบวนการที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ ในเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในเซลล์สิ่งมีชีวิตเพื่อค้ำจุนชีวิต ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
๑. กระบวนการสร้างหรืออะนาบอลิซึม (anabolism) คือ เป็นกระบวนการปฏิกิริยาทางเคมี คือ เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไปแล้ว กระบวนการนี้จะไปเปลี่ยนแปลงสภาพโมเลกุลเล็ก ให้เป็นสารที่มีโมเลกุลที่ใหญ่ขึ้น สารที่สังเคราะห์ขึ้นในร่างกาย ได้แก่ โปรตีน ไขมัน ไกลโคเจน ฮอร์โมน เอนไซม์ รวมทั้งแป้งที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชด้วย และจะไปเก็บสำรองไว้ตามที่ต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อเป็นต้น
๒. กระบวนการทำสลายหรือคะตาบอลิซึม (catabolism) คือ เปลี่ยนสภาพจากสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ให้มีโมเลกุลขนาดเล็กลง จากการสลายนี้ก็จะได้พลังงานออกมา พลังงานนี้เราก็จะเอาไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางรูปการยืน เดิน นั่ง นอน ใช้ทางนาม คือการคิด เป็นต้น
และอีกอย่างหนึ่งก็จะขับของเสีย เช่น กระบวนการขับถ่าย (excretion) เป็นกระบวนการกำจัดของเสียที่เกิดจากปฏิกิริยาชีวเคมีในร่างกาย เช่น ขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขับเหงื่อ ขับอุจจาระ เป็นต้น
เมตาบอลิซึม เปรียบเทียบทางธรรม ตรงกับคำว่า เมตตานี่เอง เรามีความเมตตาก็คืออยากให้หาย อยากช่วยเหลือ อย่างเช่น เรากินแล้วเราต้องถ่ายอุจจาระ นี่แหละ เป็นเมตตา ถ้าเราไม่ถ่ายอุจจาระเราก็จะปวดท้องอยู่นั่นแหละ
การเมตตาต้องเมตตาต่อตนเองก่อน คนเราถ้าขาดเมตตาต่อตนเองข้างในก็จะเริ่มตาย พวกเซลล์ไม่ทำงาน ก็จะเบื่อชีวิต เบื่อเหตุการณ์กับชีวิต ก็จะไม่ค่อยหลับ กินก็ไม่ค่อยลง นี่แหละเป็นบ่อนทำลายชีวิตเราเพราะอะไร ก็เพราะว่าขาดเมตตา
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เมตาบอลิซึม (metabolism) ก็เป็นกระบวนการเมตตานี่เอง
เมตาบอลิซึม (metabolism) คือ กระบวนการสร้างและสลาย กระบวนการที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ ในเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในเซลล์สิ่งมีชีวิตเพื่อค้ำจุนชีวิต ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
๑. กระบวนการสร้างหรืออะนาบอลิซึม (anabolism) คือ เป็นกระบวนการปฏิกิริยาทางเคมี คือ เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไปแล้ว กระบวนการนี้จะไปเปลี่ยนแปลงสภาพโมเลกุลเล็ก ให้เป็นสารที่มีโมเลกุลที่ใหญ่ขึ้น สารที่สังเคราะห์ขึ้นในร่างกาย ได้แก่ โปรตีน ไขมัน ไกลโคเจน ฮอร์โมน เอนไซม์ รวมทั้งแป้งที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชด้วย และจะไปเก็บสำรองไว้ตามที่ต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อเป็นต้น
๒. กระบวนการทำสลายหรือคะตาบอลิซึม (catabolism) คือ เปลี่ยนสภาพจากสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ให้มีโมเลกุลขนาดเล็กลง จากการสลายนี้ก็จะได้พลังงานออกมา พลังงานนี้เราก็จะเอาไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางรูปการยืน เดิน นั่ง นอน ใช้ทางนาม คือการคิด เป็นต้น
และอีกอย่างหนึ่งก็จะขับของเสีย เช่น กระบวนการขับถ่าย (excretion) เป็นกระบวนการกำจัดของเสียที่เกิดจากปฏิกิริยาชีวเคมีในร่างกาย เช่น ขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขับเหงื่อ ขับอุจจาระ เป็นต้น
เมตาบอลิซึม เปรียบเทียบทางธรรม ตรงกับคำว่า เมตตานี่เอง เรามีความเมตตาก็คืออยากให้หาย อยากช่วยเหลือ อย่างเช่น เรากินแล้วเราต้องถ่ายอุจจาระ นี่แหละ เป็นเมตตา ถ้าเราไม่ถ่ายอุจจาระเราก็จะปวดท้องอยู่นั่นแหละ
การเมตตาต้องเมตตาต่อตนเองก่อน คนเราถ้าขาดเมตตาต่อตนเองข้างในก็จะเริ่มตาย พวกเซลล์ไม่ทำงาน ก็จะเบื่อชีวิต เบื่อเหตุการณ์กับชีวิต ก็จะไม่ค่อยหลับ กินก็ไม่ค่อยลง นี่แหละเป็นบ่อนทำลายชีวิตเราเพราะอะไร ก็เพราะว่าขาดเมตตา
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์