รายละเอียดคือ ในตอนแรกเป็นเพื่อนกันได้ตกลงจัดสรรปันส่วนรับเงินจากเพื่อนคนนี้มาร่วมลงทุนและรับปันผลต่อเดือนไปโดยผมเซ็นสัญญาเงินกู้เพื่อให้เพื่อนสบายใจและส่งเป็นเอกสารตามไปให้ส่วนเพื่อนโอนเป็นจำนวนเงินเข้าบัญชีผม

              แต่ในระหว่างนั้นธุรกิจมีปัญหา เพื่อนผมเรียกร้องจะเอาเงินคืนทันที แต่ในทางผมยังไม่มีให้ ต้องรอ และมีการโทรคุย จนเข้าใจแต่ผ่านไปอีกสองเดือนก็มีการเจรจาในแชทผมบอกนะว่าจะเอาสามวันเจ็ดวันไม่มีจริงๆเพราะเงินมันลงทุนไปแล้ว แต่ผมจะชดใช้แต่ถ้าจะเอาๆก็ยังไม่มี เขาก็ยังทวงมาเรื่อยๆผมก็เลยไม่คุยจนล่าสุดก็มีตอบไปว่าอยู่ในช่วงเคลียปัญหาจัดการ แต่ก็ยังโทรหาคนรอบตัวผมเลยบอกว่าคุยไปหมดแล้วคุยอีกก็เหมือนเดิม เขาเลยให้พ่อแม่เขามาคุยคือ ตัวผมคิดว่ามันเป็นข้อตกลงระหว่างผมกับเขา ทำไมพ่อแม่ต้องมายุ่งเกี่ยว ไม่พอ ไปบอกถึงผู้ใหญ่บ้าน

              และทางเพื่อนผมจะไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมเรื่องมูลหนี้ในสัญญา เห็นฝากคนมาบอกว่า ในสัญญาเพื่อนผมเขาเขียนจำนวนเพิ่มเข้าไปเองอีกห้าหมื่น ทั้งที่ตอนกู้ ไม่ได้จำนวนเท่าที่เพื่อนผมลง มันน้อยกว่านั้นเพราะตอนที่ผมเซ็นไปให้ ผมไม่ได้ลงจำนวนเงินหรือป่าวไม่แน่ใจ มันนานแล้วผมจำไม่ได้ ผ่านมาประมานหนึ่งปีแล้ว

               ผมจะรบกวนถามว่า ในสัญญาเงินกู้เจ้าหนี้เขียนจำนวนเกินจริงไม่ใช่แบบที่เอาเงินมาได้ด้วยหรอครับ ถ้าแบบนี้ พ่อผมก็มีคนมายืมเซ็นสัญญาเงินไว้ขาดส่งดอกเบี้ยเกินหกเดือนไม่ได้ลงจำนวนเงินไว้เช่นกัน แบบนี้ลงเพิ่มสักสี่ห้าหมื่นคงได้ดอกเบี้ยเพิ่มตอนฟ้องก็ดีเลยสิ

                 ผมรบกวนผู้รู้มาตอบหน่อยครับเพิ่มเติม แม่ของเพื่อนมีการเรียกชาวบ้านไปฟังเอาเรื่องผมไปพูดบอกว่าผมไม่ยอมไปไกล่เกลี่ย ผมไม่ไปเพราะมันเป็นเรื่องผมกับเพื่อน  แม่เพื่อนผมบอกว่า ได้รับอำนาจจากลูกก็เลยมาแทนไปถึงบ้านผู้ใหญ่บ้านกัน ผมรู้สึกว่า มันทำเกินกว่าเหตุครับ เอาชาวบ้านไปรับรู้ด้วย แบบนี้ก็ได้หรอ