HYBE ระส่ำต่อเนื่อง! หลังพบดีลลับเรื่องหุ้นกับกองทุนเอกชน ก่อนเข้า IPO

โจ จิน-ฮยอง, ชา จุน-โฮ, และ ชเว ซอก-ชอล ผู้สื่อข่าวจาก Hankyung รายงานว่า บัง ชี-ฮยอก ผู้ก่อตั้งและประธานของ HYBE ถูกตรวจพบในภายหลังว่า ได้รับเงินประมาณ 4 แสนล้านวอนจากการเข้า IPO ของ HYBE เมื่อ 4 ปีก่อน อันเนื่องมาจากข้อตกลงกับกองทุน Private Equity Fund (PEF) ที่ถือหุ้นใน HYBE โดยได้รับผลกำไรจากการลงทุนประมาณ 30% เพื่อแลกกับการสนับสนุนให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตาม เนื้อหาของข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นดังกล่าวไม่ได้ถูกเปิดเผยในกระบวนการการเข้า IPO ของ HYBE แต่อย่างใด

ซึ่ง HYBE เปิดตัวในตลาดหลักทรัพย์ด้วยราคาหุ้นที่สูงถึง 150% จากราคาที่เสนอขาย แต่ในวันแรกของการซื้อขาย กองทุน PEF เหล่านี้ก็เริ่มเทขายหุ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงอย่างหนัก และภายในระยะเพียงสัปดาห์เดียว ราคาหุ้นก็ลดลงถึงครึ่งหนึ่งจากราคาสูงสุดที่เคยทำได้แทบจะทันที

ตามรายงานจากอุตสาหกรรมการลงทุนและการเงินเมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา บัง ชี-ฮยอก ประธานของ HYBE ได้ทำข้อตกลงผู้ถือหุ้นร่วมกับ Stick Investment, Eastone Equity Partners (Eastone PE) และ NewMain Equity ก่อนที่ HYBE (หรือชื่อเดิมคือ Big Hit Entertainment) จะเข้า IPO ในปี 2020 โดย Stick Investment จะถือหุ้น HYBE ที่ 12.2% ในขณะที่ Eastone PE และ NewMain Equity ต่างถือหุ้น HYBE ที่ 11.4% เท่าๆ กัน ซึ่งตามข้อตกลงดังกล่าว บัง ชี-ฮยอกจะได้รับผลกำไรประมาณ 30% ในการขายหุ้นของกองทุน PEF เหล่านี้ หลังจากการเข้า IPO และในกรณีที่การเข้า IPO ไม่สำเร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด เขาจะต้องทำการซื้อหุ้นกลับคืน

HYBE ประสบความสำเร็จในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนตุลาคม 2020 ส่งผลให้ทั้งกองทุน PEF และประธานบัง ชี-ฮยอกได้รับกำไรเป็นจำนวนมาก โดยทาง Stick Investment ลงทุนไป 103.9 พันล้านวอน (103,900,000,000 วอน) และได้รับผลตอบแทน 961.1 พันล้านวอน (961,100,000,000 วอน) ในขณะที่ Eastone PE และ NewMain Equity ลงทุนไป 125 พันล้านวอน (125,000,000,000 วอน) และได้ผลตอบแทนในระดับที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งมีการประเมินว่า บัง ชี-ฮยอกอาจได้รับเงินจากกองทุน PEF เหล่านี้ประมาณ 4 แสนล้านวอนเลยทีเดียว

ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติเป็นอย่างมากที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะทำข้อตกลงกับกองทุน PEF ก่อนการเข้า IPO และรับผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งข้อตกลงนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยในระหว่างการตรวจสอบการจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์เกาหลี (Korea Exchange) หรือแม้กระทั่งในเอกสารการจดทะเบียนหลักทรัพย์ที่ยื่นต่อสำนักงานกำกับดูแลบริการทางการเงิน (Financial Supervisory Service: FSS) ซึ่งจากหุ้นที่ถือโดยกองทุน PEF ในสัดส่วน 23.6% นั้น มีถึง 15.1% ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดการห้ามขายหุ้น (Lock-up Period) โดยกองทุน PEF ได้เริ่มขายหุ้นในสัดส่วน 4.99% (ตามจำนวนหุ้นหลังการเข้า IPO) ตั้งแต่วันแรกที่มีการซื้อขาย และทำกำไรได้ 425.8 พันล้านวอน (425,800,000,000 วอน) ส่งผลให้ราคาหุ้นของ HYBE ที่เคยพุ่งสูงขึ้นจนแตะเพดานสูงสุดที่ 351,000 วอน ในวันเปิดตัว กลับลดลงมากถึง 60% ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น





โพสต์ภาษาอังกฤษที่นำมาแปล:
https://x.com/CakeDegg/status/1862345454559604879?t=OYtjavcHqXKuSTT8_ooGZw&s=19

แหล่งข่าวอ้างอิงฉบับภาษาเกาหลี:
https://n.news.naver.com/mnews/article/015/0005063065?sid=101&lfrom=twitter

Fun Fact:
IPO ย่อมาจาก Initial Public Offering แปลว่า การเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน ซึ่งเป็นหุ้นสามัญที่เปิดขายในตลาดครั้งแรกให้แก่นักลงทุน ซึ่งเป็นหุ้นที่บริษัทเอกชนเป็นผู้เปิดขาย เพื่อระดมทุนไปใช้ในเป้าหมายที่บริษัทได้ตั้งเป้าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกำลังการผลิต การขยายสาขา การขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยนักลงทุนที่ซื้อหุ้น IPO จะมีสถานะเป็นเจ้าของกิจการคนหนึ่งตามสัดส่วนที่ได้ซื้อหุ้นเอาไว้

อ้างอิงข้อมูลจาก: https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/investsnack/easyfinance/start-your-first-investment/what-is-ipo
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่