..
บางที คุณอาจจะไม่เชื่อว่า
ศัตรูแท้จริง ของเรา คือความคิดของเรา นั่นเอง
จาก
วาทะของ GTW/Psycho man
ฤดีมือไม้สั่นในขณพยายามกดมือถือ เรียกให้ใครก็ได้ ที่ ที่มีสติปัญญารับรู้ความจำเป็นของเธอ ให้รีบมาช่วยเหลือโดยด่วนที่สุด เพราะคนที่พยายามจะฆ่าเธอ อยู่หน้าห้องในขณะนี้ ไม่ว่ามันผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม มันสามารถใช้กุญแจผี เปิดกุญแจบ้านเข้ามาได้อย่างเงียบกริบ ยิ่งกว่าปีศาจร้าย เคราะห์ดีว่าฤดีหันมามองเห็นเสียก่อน ขณะเธอกำลังจะลุกจากโซฟาตัวโปรดห้องนั่งเล่น โดยไม่ทันตั้งตัว
คนผู้นั้นมีผ้าคลุมแบบไอ้โม่งปิดบังใบหน้า แต่งชุดรัดกุมกลมกลีนความมืดด้านนอก กำลังย่างสามขุมเข้ามาด้านหลังอย่างมุ่งร้าย เธอรู้ด้วยสัญชาตญาณทันทีว่าภัยมาถึงตัวอย่างแน่นอน คนประสงค์ดีไม่มีทางบุกเข้าบ้านคนอื่น พร้อมด้วยมีดเล่มยาวในมือ อย่างที่เห็น ในขณะนี้แน่นอน
เธอแก้วกาแฟถืออยู่ในมือ ขว้างออกไปสุดแรงด้วยความตกใจ มากกว่าจะเป็นเพราะสมองสั่งการ คนลึกลับเองก็คงไม่คาดคิดและไม่ทันตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน แก้วกาแฟกระทบใบหน้าอย่างจัง จนเศษกระเบื้องแตกกระจัดกระจาย แน่นอนว่าไม่ใช่การทำให้เกิดอันตรายมากมาย แต่ก็พอหยุดผู้บุกรุกได้ชั่วขณะ มีเวลามากพอให้ฤดีวิ่งหนีขึ้นห้องนอน ปิดประตูแน่นหนาพร้อมกับควานหาโทรศัพท์จากหัวเตียง ชนิดแทบหายใจหายคอไม่ทัน
191... ตัวเลขสามตัวมีความหมายมากกว่าเลขท้ายสามตัว แต่มีความสำคัญระดับชีวิต พอกดเรียกไปปลายสาย เหมือนมีสัญญาณตอบรับ แต่ปราศจากเสียงสิ่งมีชีวิตโต้ตอบอย่างเป็นทางการ
กรุณารอสักครู่นะคะ
กรุณารอสักครู่นะคะ
กรุณารอสักครู่นะคะ
คนจะตายอยู่แล้ว.....หญิงสาวทั้งกลัวทั้งโมโห ทำไมเวลาแห่งความเป็นตาย ถึงมีปัญหากับเรื่องเวลา เธอกดเรียกไปอีกหลายครั้ง แต่มีเพียงเสียงหวิดหวิวแหลมสูงตอบกลับมา
กดผิดหรือเปล่า... เธอยังไม่ทันมีเวลาตรวจสอบให้แน่ใจ สายตาพลันมองเห็นลูกบิดประตูขยับไปมา เหมือนมีคนพยายามออกแรงหมุนจากภายนอก มีใครบางคนกำลังพยายามเข้ามาหาเธอ ถึงจะกดล็อกประตูแล้ว แต่กุญแจแบบลูกบิด ใครก็รู้ว่าความมั่นคงน้อยกว่ากุญแจแบบโบราณแบบลั่นดาน อย่างแน่นอน ประสบการณ์จากการดูหนัง เป็นงานอดิเรก
ฤดีปราดไปยังเก้าอี้คอมพิวเตอร์ ยกไปใช้พนักพิงดันลูกบิดประตูไว้เป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง
ประโยชน์จากการดูหนังมากก็พอมีประโยชน์เหมือนกัน ออกแรงกดเก้าอี้ดันไว้เต็มกำลัง เมื่อเห็นลูกบิดหมุนไปหมุนมา ในขณะความตื่นกลัววิ่งเข้ามาเต็มความรู้สึก เธอกำลังจะถูกฆ่าตาย!
ใครกันต้องการเอาชีวิตของเธอ ฤดีพยายามขบคิดอย่างรวดเร็ว
ในชีวิตราบเรียบของเธอ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีศัตรู นอกจากผู้หญิงคนนั้น ... ผู้หญิงที่ธเนศ สามีของเธอไปตัดพันอยู่ แน่นอนว่าเขาปฏิเสธเสียงแข็งเมื่อเธอซักถาม และก็แน่นอนว่าเธอไม่แปลกใจกับเขาตอบ เรื่องแบบนี้มีใครยอมรับดี ๆ กันบ้างล่ะ... ใช่ครับ... ผมนอกใจคุณจริง ๆ สองเราแอบไปมาหาสู่กันนานมาแล้วครับ พวกเรามีความสุขกันมาก ดีกว่าอยู่กับภรรยาอารมณ์ร้ายกาจอย่างคุณ.....ใครจะยอมรับ..นรก!
ดังนั้น....เป็นฝีมือของเธอเองในการสืบหาความจริง ฤดีค้นหานักสืบเอกชนจากอินเตอร์เน็ต จนได้รู้จักกับบริษัทนักสืบเอกชนแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากมายนัก แต่ผลงานและความสำเร็จของพวกเขา ที่สืบค้นมาได้ ก็นับว่าเป็นที่พอใจพอใจ บริษัทเอกชนส่งผู้หญิงชื่อ ‘เพียงใจ’ เป็นคนติดต่อประสานงาน
“ผู้หญิงของธเนศ ชื่อ โสภา”
เพียงใจ ยื่นข้อมูลสำคัญทั้งภาพถ่ายทั้งเอกสารให้เธอในร้านกาแฟใกล้บ้าน นักสืบสาวคนนี้สวมแว่นดำขนาดใหญ่ แต่งหน้าจัดจ้าน เส้นผมสีน้ำตาลเข้ม ก็คงเป็นผมปลอม เหมือนต้องการปิดอำพรางรูปโฉมแท้จริง ช่างเถอะ...อาชีพของเธอ...แต่ไม่สำคัญเท่าข้อมูลที่ได้มา ยืนยันชัดถึงความสัมพันล้ำลึก ของธเนศและโสภา
โสภา...............
มิน่า...สามีของเธอหายตัวไปสามวันแล้ว สอบถามที่ทำงานก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน ที่แท้พากันไปอยู่กันเพียงลำพังในรีสอร์ท แถวชายหาดชื่อดังแห่งหนึ่ง ธเนศปิดโทรศัพท์มือถือ ปิดบังร่องรอย แต่ไม่สามารถหลบรอดการทำงานของพวกนักสืบเอกชนไปได้
ความคับแค้น ความเสียใจ ทำให้ฤดีเริ่มมีความคิดบางอย่างขึ้นมาทันที
ตาย
ตาย
ตาย
“คุณฤดีจะทำอย่างไรต่อไปคะ” นักสืบสาวเอ่ยถามเหมือนรู้ว่าลูกค้ากำลังคิดอะไร พร้อมทั้งยื่นนามบัตรให้หนึ่งใบ “ ถ้าคุณฤดีต้องการขจัดปัญหา ติดต่อได้ตามที่อยู่นามบัตรนี้นะคะ”
นามบัตรนั้นมีเพียงหมายเลขโทรศัพท์ และข้อความเพียงข้อความเดียว
“บริษัทขจัดปัญหา”
...
หญิงสาวใช้เวลาไม่นานนักกับการตัดสินใจ เพราะไฟนรกในหัวใจนับวันจะลุกโชนมากขึ้นจนรุ่มร้อนกายใจสุดทน ไม่มีวันเสียหรอก จะจากกันด้วยดี มันต้องตายไปข้างหนึ่ง....แหลกกันไปข้างหนึ่ง.... และบริษัทขจัดปัญหาคือสี่งที่อยู่ต้องกลางระหว่างมารหัวใจกับตัวเธอ
คำตอบไม่ได้มากมายจนหาไม่ได้ ง่ายเหลือเกินกับคำถามง่าย ๆ ...ฤดีตัดสินใจตกลงทันที เมื่อพูดคุยรายละเอียดเรียบร้อย โสภาต้องตาย ! โดยไม่มีร่องรอยให้สืบสาวมาหาตัวเธอได้ พวกมืออาชีพไม่มีวันพลาดกับเรื่องแบบนี้
ส่วนธเนศล่ะ เขาจะเป็นรายสุดท้าย เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา เธออยากเห็นสีหน้าท่าทางเจ็บปวดรวดร้าวของเขา อยากหัวเราะให้หน้าให้สาแก่ใจ สะใจ... คงเป็นผลตอบแทนแสนหวานชื่นใจ กับความเจ็บปวดที่เธอต้องจ่ายไป นั่นละ สิ่งที่ต้องการ เมื่อสาสมใจแล้วเงินก้อนสุดท้ายจึงจะยอมจ่ายไปเพื่อปิดฉาก
เรื่องราวเงินประกันชีวิตของธเนศจะไปไหนเสีย ได้ทั้งกำจัดสิ่งแปลกปลอมทางหัวใจอย่างหมดจดสะอาด แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยเงินประกัน
โทรศัพท์บนเตียงส่งเสียงดัง น่ารำคาญและน่าสนใจ ใครบางคนกำลังติดต่อเข้ามา นั่นเป็นความหวังเล็กๆ ฤดีผวาไปรับสายทันที
“คุณฤดีคะ นี่เพียงใจนะคะ” คนของบริษัทนักสืบเอกชนนั่นเอง “ เรามีข่าวด่วนจะบอกคุณค่ะ ฟังให้ดีนะคะ โสภาได้จ้างบริษัทขจัดปัญหา มาจัดการกับคุณ มีทางเดียวคุณจะรอด คุณต้องจ่ายค่าจ้างให้เรากำจัดนักฆ่าคนนั้น”
นักสืบสาวบอกตัวเลขของจำนวนเงินค่าจ้าง เป็นจำนวนมากพอสมควร แต่ฤดีไม่มีเวลาคิด เพราะประตูถูกทุบโครมครามดังมากขึ้นทุกที ใครบางคนอยู่ข้างนอก และต้องเป็นคนอันตราย
“มันอยู่นอกห้องนอนฉันนี่เอง“ เธอละล่ำละลักตอบ มองดูประตูสั่นไหวอย่างหวาดกลัว คนธรรมดาจะสู้กับนักฆ่ามืออาชีพได้อย่างไร
“ไม่ต้องกลัว คุณตอบตกลง เราจะจัดการทันที”
“ตกลงค่ะ รีบไปช่วยฉันด่วนเลย”
“ยินดีที่ได้ร่วมธุรกิจกับคุณค่ะ”
เสียงจากโทรศัพท์เงียบหายไป พร้อมกับเสียงเขย่าประตูอันแสนระทึกใจหายไปด้วย หญิงสาวจ้องมองประตูอย่างไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ทางด้านนอก
ทุกอย่างเงียบสงบลง จนในที่สุดมีเสียงเคาะประตู แต่เป็นการเคาะอย่างสุภาพแตกต่างจากครั้งแรก
“คุณฤดี เพียงใจเองค่ะ”
เพียงใจ....ทำไมเธอมารวดเร็วเหลือเชื่อ เพิ่งคุยโทรศัพท์กันอยู่เมื่อครู่นี้เอง แล้วนักฆ่าหายไปไหน
“นักฆ่าถูกจัดการไปแล้วค่ะ” เสียงของนักสืบสาวบอกมาอีก “เราจับตาเธอมาตั้งแต่แรก สะกดรอยตามเธอมา จนถึงบ้านคุณฤดีทันเวลาพอดี....เธอ...นักฆ่าคนนั้นเป็นผู้หญิงค่ะ”
ฤดีรู้สึกโล่งอก แต่ก็ยังไม่ไว้ใจเสียเลยทีเดียว เพราะประสบการณ์ชีวิตสอนให้รู้ว่า ทุกคนรอบตัวล้วนไม่น่าไว้วางใจ นึกได้ว่าในลิ้นชักโต๊ะในห้องมีมีดพับขนาดเล็ก จึงรีบเปิดลิ้นชักหยิบมีดออกมาเปิดคม เก็บไว้ในกระเป๋าของกางเกงขาสั้น อย่างน้อยพออุ่นใจได้บ้างถ้ามีอะไรเกิดขึ้น
หญิงสาวเปิดประตูออกอย่างระมัดระวัง
ฟุ่บ!
เสียงดังเบา ๆ คล้ายเสียงปืนเก็บเสียง หญิงยืนยืนตะลึง มองดูผู้หญิงยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง ไม่ใช่เพียงใจ แต่เป็นโสภา มือขวากำด้ามปืนเก็บเสียง ที่ใช้ส่งกระสุนเข้ามาบริเวณอกด้านซ้ายของเธอ
“ความจริงฉันตั้งใจจะใช้มีด” โสภาใช้ปากเป่าปลายกระบอกปืนอย่างใจเย็น “แต่คิดไปคิดมาแล้ว ใช้ปืนดีกว่า เรียบง่ายดี ศพสวยด้วย”
“ทำไมเป็นเธอ...” ฤดีค่อยทรุดตัวลงอย่างเชื่องช้า กระสุนนัดนั้นคงมีความพิเศษบางอย่าง ทำให้คนถูกยิงไม่ตายในทันที
มีเพียงความเจ็บร้าวกำลังขยายตัวออกมาจากบาดแผลที่มีเลือดไหลซึมออกมาทีละน้อย และเริ่มมากขึ้นทุกทีกับลมหายใจเริ่มขาดห้วง แต่ยังพอส่งเสียงถามได้
“ทำไม..เป็นเธอ”
“เธอเป็นคนสั่งฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ คุณฤดี...สั่งฆ่าฉันโดยที่ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร เธอเป็นคนสั่งการ”
“ไม่...ไม่ใช่ฉัน แค่เธอ รู้ได้ยังไง”
“โง่จริง....” โสภานั่งคุกเข่าลงเบื้องหน้าเหยื่อ จ้องมองเข้าไปในสายตาของอีกฝ่าย” “ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ ในเมื่อเพียงใจเป็นคนบอกฉันเอง เราสองคนรู้ใจกันเข้าใจกันมากกว่าเธอจะรู้ อ้อ นักฆ่า ก็เป็นพวกเราเอง เราสามคนรู้จักคุ้นเคยกันมากกว่าที่เธอรู้นะจ๊ะ”
“ไอ้พวกขี้โกง....” ฤดีพูดได้เพียงแค่นั้น เพราะความรู้สึกเจ็บปวดสาหัส เริ่มเปลี่ยนเป็นความมึนชาเลือนรา งสิ่งที่พยายามไขว่คว้าแย่งชิงกำลังจะกลับกลายเป็นความว่างเปล่า แล้วความรู้สึกดับวูบลง ความพยายามที่ผ่านมาคืออะไรกันแน่
โสภาจ้องมองเหยื่อเคราะห์ร้ายอยู่อึกครู่หนึ่งด้ วยสายตาเย็นชา....ใช่.... ก็สมควรตายแล้ว กับโทษฐานบงการสั่งฆ่าคนอื่น ทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย
ฤดี...ยัยผู้หญิงน่าโง่... เป็นเพียงผู้หญิงที่แอบมีอะไรกับธเนศ สามีของเธอ ทั้งสองได้นอกใจเธอด้วยหลายเดือนแล้ว โดยที่โสภาไม่ได้ระแคะระคาย จนกระทั่งเธอเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของสามี
ในชีวิตราบเรียบของเธอ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีศัตรู นอกจากผู้หญิงคนนั้น ... ผู้หญิงที่ธเนศ สามีของเธอไปติดพันอยู่ แน่นอนว่าเขาปฏิเสธเสียงแข็งเมื่อเธอซักถาม และก็แน่นอนว่าเธอไม่แปลกใจกับเขาตอบ เรื่องแบบนี้มีใครยอมรับดี ๆ กันบ้างล่ะ.... ใช่ครับ... ผมนอกใจคุณจริง ๆ...... สองเราแอบไปมาหาสู่กันนานมาแล้วครับ .....พวกเรามีความสุขกันมาก ดีกว่าอยู่กับภรรยาอารมณ์ร้ายกาจอย่างคุณ.....ใครจะยอมรับ
โสภาลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ ห้องหอห้องรักระหว่างเธอกับธเนศมาหลายปี ความรักกำลังจะกลายเป็นความหลังและความแค้น
ใครบางคนยังคงปรากฏตัวอยู่ในกระจกหลังโต๊ะเครื่องแป้ง เธอหันไปมองเพื่อพบรอยยิ้มสะใจและคำพูดชวนคิด
“ขอบใจนะเพียงใจ ถ้าเธอไม่บอก ฉันเองก็คงไม่รู้ ว่าฤดีจะสั่งคนมาฆ่าฉัน นังคนนี้สมควรตาย.... แย่งสามีคนอื่นยังไม่พอ ยังคิดฆ่าภรรยาของเขาอีก แล้วธเนศล่ะ จะเอายังไงดี”
“ถ้าเธออยากจัดการเขาบอกมาได้เลย นักฆ่าของเราพร้อมเสมอ ฉันไปล่ะนะ ฉันจะเป็นคนประสานงานเอง..ฉันยังมีงานต้องทำ ขอตัวนะ..” เพียงใจตอบแบบยิ้ม ๆ ขณะดึงหน้าากากไอ้โม่งออกจากกระเป๋า ออกมากวัดแกว่งโชว์ให้เห็นแล้วเลือนหายไป โสภามองอย่างไม่เข้าใจ เพียงใจหายไปแล้ว ที่เหลือในกระจกคือภาพใบหน้าของเธอเอง
หายไป
หายไป
รวมทั้งศพของฤดีบนพื้นห้องด้วย
“น่าสงสารนะครับ” จิตแพทย์วัยกลางคนหันมาพูดกับชายหนุ่มด้านข้าง ทั้งสองกำลังมองสังเกตคนไข้ทางจิตภายในห้องทาสีขาวสะอาด และ.................
.
เธอ.....เธอ.....และเธอ...!!!
บางที คุณอาจจะไม่เชื่อว่า
ศัตรูแท้จริง ของเรา คือความคิดของเรา นั่นเอง
จาก
วาทะของ GTW/Psycho man
ฤดีมือไม้สั่นในขณพยายามกดมือถือ เรียกให้ใครก็ได้ ที่ ที่มีสติปัญญารับรู้ความจำเป็นของเธอ ให้รีบมาช่วยเหลือโดยด่วนที่สุด เพราะคนที่พยายามจะฆ่าเธอ อยู่หน้าห้องในขณะนี้ ไม่ว่ามันผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม มันสามารถใช้กุญแจผี เปิดกุญแจบ้านเข้ามาได้อย่างเงียบกริบ ยิ่งกว่าปีศาจร้าย เคราะห์ดีว่าฤดีหันมามองเห็นเสียก่อน ขณะเธอกำลังจะลุกจากโซฟาตัวโปรดห้องนั่งเล่น โดยไม่ทันตั้งตัว
คนผู้นั้นมีผ้าคลุมแบบไอ้โม่งปิดบังใบหน้า แต่งชุดรัดกุมกลมกลีนความมืดด้านนอก กำลังย่างสามขุมเข้ามาด้านหลังอย่างมุ่งร้าย เธอรู้ด้วยสัญชาตญาณทันทีว่าภัยมาถึงตัวอย่างแน่นอน คนประสงค์ดีไม่มีทางบุกเข้าบ้านคนอื่น พร้อมด้วยมีดเล่มยาวในมือ อย่างที่เห็น ในขณะนี้แน่นอน
เธอแก้วกาแฟถืออยู่ในมือ ขว้างออกไปสุดแรงด้วยความตกใจ มากกว่าจะเป็นเพราะสมองสั่งการ คนลึกลับเองก็คงไม่คาดคิดและไม่ทันตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน แก้วกาแฟกระทบใบหน้าอย่างจัง จนเศษกระเบื้องแตกกระจัดกระจาย แน่นอนว่าไม่ใช่การทำให้เกิดอันตรายมากมาย แต่ก็พอหยุดผู้บุกรุกได้ชั่วขณะ มีเวลามากพอให้ฤดีวิ่งหนีขึ้นห้องนอน ปิดประตูแน่นหนาพร้อมกับควานหาโทรศัพท์จากหัวเตียง ชนิดแทบหายใจหายคอไม่ทัน
191... ตัวเลขสามตัวมีความหมายมากกว่าเลขท้ายสามตัว แต่มีความสำคัญระดับชีวิต พอกดเรียกไปปลายสาย เหมือนมีสัญญาณตอบรับ แต่ปราศจากเสียงสิ่งมีชีวิตโต้ตอบอย่างเป็นทางการ
กรุณารอสักครู่นะคะ
กรุณารอสักครู่นะคะ
กรุณารอสักครู่นะคะ
คนจะตายอยู่แล้ว.....หญิงสาวทั้งกลัวทั้งโมโห ทำไมเวลาแห่งความเป็นตาย ถึงมีปัญหากับเรื่องเวลา เธอกดเรียกไปอีกหลายครั้ง แต่มีเพียงเสียงหวิดหวิวแหลมสูงตอบกลับมา
กดผิดหรือเปล่า... เธอยังไม่ทันมีเวลาตรวจสอบให้แน่ใจ สายตาพลันมองเห็นลูกบิดประตูขยับไปมา เหมือนมีคนพยายามออกแรงหมุนจากภายนอก มีใครบางคนกำลังพยายามเข้ามาหาเธอ ถึงจะกดล็อกประตูแล้ว แต่กุญแจแบบลูกบิด ใครก็รู้ว่าความมั่นคงน้อยกว่ากุญแจแบบโบราณแบบลั่นดาน อย่างแน่นอน ประสบการณ์จากการดูหนัง เป็นงานอดิเรก
ฤดีปราดไปยังเก้าอี้คอมพิวเตอร์ ยกไปใช้พนักพิงดันลูกบิดประตูไว้เป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง
ประโยชน์จากการดูหนังมากก็พอมีประโยชน์เหมือนกัน ออกแรงกดเก้าอี้ดันไว้เต็มกำลัง เมื่อเห็นลูกบิดหมุนไปหมุนมา ในขณะความตื่นกลัววิ่งเข้ามาเต็มความรู้สึก เธอกำลังจะถูกฆ่าตาย!
ใครกันต้องการเอาชีวิตของเธอ ฤดีพยายามขบคิดอย่างรวดเร็ว
ในชีวิตราบเรียบของเธอ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีศัตรู นอกจากผู้หญิงคนนั้น ... ผู้หญิงที่ธเนศ สามีของเธอไปตัดพันอยู่ แน่นอนว่าเขาปฏิเสธเสียงแข็งเมื่อเธอซักถาม และก็แน่นอนว่าเธอไม่แปลกใจกับเขาตอบ เรื่องแบบนี้มีใครยอมรับดี ๆ กันบ้างล่ะ... ใช่ครับ... ผมนอกใจคุณจริง ๆ สองเราแอบไปมาหาสู่กันนานมาแล้วครับ พวกเรามีความสุขกันมาก ดีกว่าอยู่กับภรรยาอารมณ์ร้ายกาจอย่างคุณ.....ใครจะยอมรับ..นรก!
ดังนั้น....เป็นฝีมือของเธอเองในการสืบหาความจริง ฤดีค้นหานักสืบเอกชนจากอินเตอร์เน็ต จนได้รู้จักกับบริษัทนักสืบเอกชนแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากมายนัก แต่ผลงานและความสำเร็จของพวกเขา ที่สืบค้นมาได้ ก็นับว่าเป็นที่พอใจพอใจ บริษัทเอกชนส่งผู้หญิงชื่อ ‘เพียงใจ’ เป็นคนติดต่อประสานงาน
“ผู้หญิงของธเนศ ชื่อ โสภา”
เพียงใจ ยื่นข้อมูลสำคัญทั้งภาพถ่ายทั้งเอกสารให้เธอในร้านกาแฟใกล้บ้าน นักสืบสาวคนนี้สวมแว่นดำขนาดใหญ่ แต่งหน้าจัดจ้าน เส้นผมสีน้ำตาลเข้ม ก็คงเป็นผมปลอม เหมือนต้องการปิดอำพรางรูปโฉมแท้จริง ช่างเถอะ...อาชีพของเธอ...แต่ไม่สำคัญเท่าข้อมูลที่ได้มา ยืนยันชัดถึงความสัมพันล้ำลึก ของธเนศและโสภา
โสภา...............
มิน่า...สามีของเธอหายตัวไปสามวันแล้ว สอบถามที่ทำงานก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน ที่แท้พากันไปอยู่กันเพียงลำพังในรีสอร์ท แถวชายหาดชื่อดังแห่งหนึ่ง ธเนศปิดโทรศัพท์มือถือ ปิดบังร่องรอย แต่ไม่สามารถหลบรอดการทำงานของพวกนักสืบเอกชนไปได้
ความคับแค้น ความเสียใจ ทำให้ฤดีเริ่มมีความคิดบางอย่างขึ้นมาทันที
ตาย
ตาย
ตาย
“คุณฤดีจะทำอย่างไรต่อไปคะ” นักสืบสาวเอ่ยถามเหมือนรู้ว่าลูกค้ากำลังคิดอะไร พร้อมทั้งยื่นนามบัตรให้หนึ่งใบ “ ถ้าคุณฤดีต้องการขจัดปัญหา ติดต่อได้ตามที่อยู่นามบัตรนี้นะคะ”
นามบัตรนั้นมีเพียงหมายเลขโทรศัพท์ และข้อความเพียงข้อความเดียว
“บริษัทขจัดปัญหา”
...
หญิงสาวใช้เวลาไม่นานนักกับการตัดสินใจ เพราะไฟนรกในหัวใจนับวันจะลุกโชนมากขึ้นจนรุ่มร้อนกายใจสุดทน ไม่มีวันเสียหรอก จะจากกันด้วยดี มันต้องตายไปข้างหนึ่ง....แหลกกันไปข้างหนึ่ง.... และบริษัทขจัดปัญหาคือสี่งที่อยู่ต้องกลางระหว่างมารหัวใจกับตัวเธอ
คำตอบไม่ได้มากมายจนหาไม่ได้ ง่ายเหลือเกินกับคำถามง่าย ๆ ...ฤดีตัดสินใจตกลงทันที เมื่อพูดคุยรายละเอียดเรียบร้อย โสภาต้องตาย ! โดยไม่มีร่องรอยให้สืบสาวมาหาตัวเธอได้ พวกมืออาชีพไม่มีวันพลาดกับเรื่องแบบนี้
ส่วนธเนศล่ะ เขาจะเป็นรายสุดท้าย เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา เธออยากเห็นสีหน้าท่าทางเจ็บปวดรวดร้าวของเขา อยากหัวเราะให้หน้าให้สาแก่ใจ สะใจ... คงเป็นผลตอบแทนแสนหวานชื่นใจ กับความเจ็บปวดที่เธอต้องจ่ายไป นั่นละ สิ่งที่ต้องการ เมื่อสาสมใจแล้วเงินก้อนสุดท้ายจึงจะยอมจ่ายไปเพื่อปิดฉาก
เรื่องราวเงินประกันชีวิตของธเนศจะไปไหนเสีย ได้ทั้งกำจัดสิ่งแปลกปลอมทางหัวใจอย่างหมดจดสะอาด แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยเงินประกัน
โทรศัพท์บนเตียงส่งเสียงดัง น่ารำคาญและน่าสนใจ ใครบางคนกำลังติดต่อเข้ามา นั่นเป็นความหวังเล็กๆ ฤดีผวาไปรับสายทันที
“คุณฤดีคะ นี่เพียงใจนะคะ” คนของบริษัทนักสืบเอกชนนั่นเอง “ เรามีข่าวด่วนจะบอกคุณค่ะ ฟังให้ดีนะคะ โสภาได้จ้างบริษัทขจัดปัญหา มาจัดการกับคุณ มีทางเดียวคุณจะรอด คุณต้องจ่ายค่าจ้างให้เรากำจัดนักฆ่าคนนั้น”
นักสืบสาวบอกตัวเลขของจำนวนเงินค่าจ้าง เป็นจำนวนมากพอสมควร แต่ฤดีไม่มีเวลาคิด เพราะประตูถูกทุบโครมครามดังมากขึ้นทุกที ใครบางคนอยู่ข้างนอก และต้องเป็นคนอันตราย
“มันอยู่นอกห้องนอนฉันนี่เอง“ เธอละล่ำละลักตอบ มองดูประตูสั่นไหวอย่างหวาดกลัว คนธรรมดาจะสู้กับนักฆ่ามืออาชีพได้อย่างไร
“ไม่ต้องกลัว คุณตอบตกลง เราจะจัดการทันที”
“ตกลงค่ะ รีบไปช่วยฉันด่วนเลย”
“ยินดีที่ได้ร่วมธุรกิจกับคุณค่ะ”
เสียงจากโทรศัพท์เงียบหายไป พร้อมกับเสียงเขย่าประตูอันแสนระทึกใจหายไปด้วย หญิงสาวจ้องมองประตูอย่างไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ทางด้านนอก
ทุกอย่างเงียบสงบลง จนในที่สุดมีเสียงเคาะประตู แต่เป็นการเคาะอย่างสุภาพแตกต่างจากครั้งแรก
“คุณฤดี เพียงใจเองค่ะ”
เพียงใจ....ทำไมเธอมารวดเร็วเหลือเชื่อ เพิ่งคุยโทรศัพท์กันอยู่เมื่อครู่นี้เอง แล้วนักฆ่าหายไปไหน
“นักฆ่าถูกจัดการไปแล้วค่ะ” เสียงของนักสืบสาวบอกมาอีก “เราจับตาเธอมาตั้งแต่แรก สะกดรอยตามเธอมา จนถึงบ้านคุณฤดีทันเวลาพอดี....เธอ...นักฆ่าคนนั้นเป็นผู้หญิงค่ะ”
ฤดีรู้สึกโล่งอก แต่ก็ยังไม่ไว้ใจเสียเลยทีเดียว เพราะประสบการณ์ชีวิตสอนให้รู้ว่า ทุกคนรอบตัวล้วนไม่น่าไว้วางใจ นึกได้ว่าในลิ้นชักโต๊ะในห้องมีมีดพับขนาดเล็ก จึงรีบเปิดลิ้นชักหยิบมีดออกมาเปิดคม เก็บไว้ในกระเป๋าของกางเกงขาสั้น อย่างน้อยพออุ่นใจได้บ้างถ้ามีอะไรเกิดขึ้น
หญิงสาวเปิดประตูออกอย่างระมัดระวัง
ฟุ่บ!
เสียงดังเบา ๆ คล้ายเสียงปืนเก็บเสียง หญิงยืนยืนตะลึง มองดูผู้หญิงยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง ไม่ใช่เพียงใจ แต่เป็นโสภา มือขวากำด้ามปืนเก็บเสียง ที่ใช้ส่งกระสุนเข้ามาบริเวณอกด้านซ้ายของเธอ
“ความจริงฉันตั้งใจจะใช้มีด” โสภาใช้ปากเป่าปลายกระบอกปืนอย่างใจเย็น “แต่คิดไปคิดมาแล้ว ใช้ปืนดีกว่า เรียบง่ายดี ศพสวยด้วย”
“ทำไมเป็นเธอ...” ฤดีค่อยทรุดตัวลงอย่างเชื่องช้า กระสุนนัดนั้นคงมีความพิเศษบางอย่าง ทำให้คนถูกยิงไม่ตายในทันที
มีเพียงความเจ็บร้าวกำลังขยายตัวออกมาจากบาดแผลที่มีเลือดไหลซึมออกมาทีละน้อย และเริ่มมากขึ้นทุกทีกับลมหายใจเริ่มขาดห้วง แต่ยังพอส่งเสียงถามได้
“ทำไม..เป็นเธอ”
“เธอเป็นคนสั่งฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ คุณฤดี...สั่งฆ่าฉันโดยที่ฉันไม่ได้ทำผิดอะไร เธอเป็นคนสั่งการ”
“ไม่...ไม่ใช่ฉัน แค่เธอ รู้ได้ยังไง”
“โง่จริง....” โสภานั่งคุกเข่าลงเบื้องหน้าเหยื่อ จ้องมองเข้าไปในสายตาของอีกฝ่าย” “ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ ในเมื่อเพียงใจเป็นคนบอกฉันเอง เราสองคนรู้ใจกันเข้าใจกันมากกว่าเธอจะรู้ อ้อ นักฆ่า ก็เป็นพวกเราเอง เราสามคนรู้จักคุ้นเคยกันมากกว่าที่เธอรู้นะจ๊ะ”
“ไอ้พวกขี้โกง....” ฤดีพูดได้เพียงแค่นั้น เพราะความรู้สึกเจ็บปวดสาหัส เริ่มเปลี่ยนเป็นความมึนชาเลือนรา งสิ่งที่พยายามไขว่คว้าแย่งชิงกำลังจะกลับกลายเป็นความว่างเปล่า แล้วความรู้สึกดับวูบลง ความพยายามที่ผ่านมาคืออะไรกันแน่
โสภาจ้องมองเหยื่อเคราะห์ร้ายอยู่อึกครู่หนึ่งด้ วยสายตาเย็นชา....ใช่.... ก็สมควรตายแล้ว กับโทษฐานบงการสั่งฆ่าคนอื่น ทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย
ฤดี...ยัยผู้หญิงน่าโง่... เป็นเพียงผู้หญิงที่แอบมีอะไรกับธเนศ สามีของเธอ ทั้งสองได้นอกใจเธอด้วยหลายเดือนแล้ว โดยที่โสภาไม่ได้ระแคะระคาย จนกระทั่งเธอเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของสามี
ในชีวิตราบเรียบของเธอ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีศัตรู นอกจากผู้หญิงคนนั้น ... ผู้หญิงที่ธเนศ สามีของเธอไปติดพันอยู่ แน่นอนว่าเขาปฏิเสธเสียงแข็งเมื่อเธอซักถาม และก็แน่นอนว่าเธอไม่แปลกใจกับเขาตอบ เรื่องแบบนี้มีใครยอมรับดี ๆ กันบ้างล่ะ.... ใช่ครับ... ผมนอกใจคุณจริง ๆ...... สองเราแอบไปมาหาสู่กันนานมาแล้วครับ .....พวกเรามีความสุขกันมาก ดีกว่าอยู่กับภรรยาอารมณ์ร้ายกาจอย่างคุณ.....ใครจะยอมรับ
โสภาลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ ห้องหอห้องรักระหว่างเธอกับธเนศมาหลายปี ความรักกำลังจะกลายเป็นความหลังและความแค้น
ใครบางคนยังคงปรากฏตัวอยู่ในกระจกหลังโต๊ะเครื่องแป้ง เธอหันไปมองเพื่อพบรอยยิ้มสะใจและคำพูดชวนคิด
“ขอบใจนะเพียงใจ ถ้าเธอไม่บอก ฉันเองก็คงไม่รู้ ว่าฤดีจะสั่งคนมาฆ่าฉัน นังคนนี้สมควรตาย.... แย่งสามีคนอื่นยังไม่พอ ยังคิดฆ่าภรรยาของเขาอีก แล้วธเนศล่ะ จะเอายังไงดี”
“ถ้าเธออยากจัดการเขาบอกมาได้เลย นักฆ่าของเราพร้อมเสมอ ฉันไปล่ะนะ ฉันจะเป็นคนประสานงานเอง..ฉันยังมีงานต้องทำ ขอตัวนะ..” เพียงใจตอบแบบยิ้ม ๆ ขณะดึงหน้าากากไอ้โม่งออกจากกระเป๋า ออกมากวัดแกว่งโชว์ให้เห็นแล้วเลือนหายไป โสภามองอย่างไม่เข้าใจ เพียงใจหายไปแล้ว ที่เหลือในกระจกคือภาพใบหน้าของเธอเอง
หายไป
หายไป
รวมทั้งศพของฤดีบนพื้นห้องด้วย
“น่าสงสารนะครับ” จิตแพทย์วัยกลางคนหันมาพูดกับชายหนุ่มด้านข้าง ทั้งสองกำลังมองสังเกตคนไข้ทางจิตภายในห้องทาสีขาวสะอาด และ.................
.